SQ & ITD กับผลการประมูล MM9

กระทู้สนทนา
ในฐานะที่ผมอยู่วงการรับเหมาก่อสร้างมานาน พอจะเข้าใจธรรมชาติของบริษัทรับเหมาก่อสร้างแบบหลับตาเห็นภาพในไซท์งานก่อสร้าง และได้ลงทุนหุ้นตัวนี้มาตั้งแต่แรก IPO แบบเจาะจงเป็นการลงทุนในหุ้นตัวเดียวแทบจะเกือบ 100 % มากว่า 1 ปี ผ่านการ Company Visit ผ่านการประชุมผู้ถือหุ้น ได้มีโอกาสซักถามพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองกับคุณศาศวัต และในฐานะที่เขาเป็นรุ่นพี่ผมที่จุฬาด้วยกัน จากการสัมผัสพูดคุย ผมรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนทำงานจริงจัง วันที่เจอหลายครั้งมาแบบรู้เลยว่าออกไซท์บ่อย ตัวดำ ดูอิดโรยบ้างแต่ก็มุ่งมั่น แฟรงค์ๆ และมีจุดยืนหลายอย่างที่น่าสนใจ หากมองภาพรวมถือเป็นผู้บริหารติดดิน ทำงานจริง ผมเคยได้ยินแกพูดถึงโครงการแม่เมาะ9 ว่าหากได้งานจำเป็นต้องเพิ่มทุนและอาจต้องเพิ่มทุนไม่น้อยกว่า 5000 ล้าน จึงจะสามารถกู้เงินเพิ่มได้อีก 5-8000 พันล้าน ซึ่งจะเพียงพอในการทำงานแม่เมาะ 9 แบบสบายตัว และแกเองก็พูดเป็นนัยๆว่า งานผมก็อยากได้ แต่ผมคงไม่ไปแข่งทำจนขาดทุน ถ้า ITD ต้องการงานนี้จริงๆก็ให้เขาทำไปแต่จะต้องขาดทุน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตบอกอนาคตได้

แม่เมาะ7 ที่ผ่านมา SQ บริหารงานได้ดี มีแต่คำชม ทาง EGAT ก็พอใจ ไม่ต้องโดนปรับ และงานยังมีกำไร NET แล้ว 10 % ตลอดโครงการ ส่วนแม่เมาะ8 ที่ SQ ประมูลเอาชนะ ITD ไปได้แบบเฉียดฉิวเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทาง SQ เองการันตีว่าจะสร้างผลตอบแทนที่หักค่าเสื่อมแล้วเกิน 12 % อย่างแน่นอน นั่นคือโครงการแม่เมาะ8 มูลค่างาน 2 หมื่นล้าน จะสร้างผลตอบแทนสุทธิปีละ 240 ล้านไม่รวมโครงการอื่นๆ และก็พิสูจน์คำพูดแล้วว่าขนาดเมื่อปีที่แล้วโครงการยังไม่ได้เริ่มตินจริงจังก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นไปอย่างที่รับปากไว้ และนอกจากนั้นคุณศาศวัต ยังเอ่ยปากว่าหากไม่ได้งานแม่เมาะ 9 ทาง SQ ก็ยังมี BackLog รองรับไปอีก 10 ปีสบายๆโดยไม่ต้องเพิ่มทุนอีกเลย เพราะในอีกปีกว่าก็จะมีงานประมูลโครงการหงสา เฟส G มูลค่างาน 12,000 ล้านบาทรองรับ ซึ่งคู่แข่งก็มีเพียงรายเดียวคือ ITD แต่เมื่อ ITD พึ่งประมูลงานแม่เมาะ9 ได้ไป ความอยากได้งานหงสาย่อมลดน้อยลงไป เพราะ ITD ตอนนี้ภาระการเงินก็หนักมาก ปัจจุบัน D/E 5-6 เท่า ขณะที่ SQ D/E แค่ 2.5-2.7 เท่า และหากลงทุนแม่เมาะ 8 เต็มโครงการก็จะมี D/E เพียง 3 เท่าเศษเท่านั้น จัดว่ากำลังดี ซึ่งด้วยเหตุผลนี้ ITD มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเพิ่มทุนเพื่อต้องหาเงินมาลงทุนเครื่องจักรหนักจำนวนมาก รวมถึงรถใหญ่ตามสเปกใหม่ของ EGAT ซึ่งปัจจุบัน ITD ไม่มีเครื่องจักรนี้อยู่เลย ต้องซื้อใหม่หมด แถมสายพานที่ทาง EGAT กำหนดสเปกมา แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาโครงการ 7 มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพได้ ทำให้ ITD จำเป็นต้องเพิ่มทุนอย่างมหาศาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นสองพันล้าน เพราะฐานะการเงินปัจจุบันไม่ดีพอที่จะขอกู้ธนาคารหรือแม้แต่ออกหุ้นกู้ ซึ่งหากออกมา ITD คงได้เรตติ้งต่ำติดดิน บีบให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยอัตราสูงอีกเช่นกัน หากหันมามองตัวเลขทุนปัจจุบันของ ITD มีส่วนผู้ถือหุ้นอยู่ หมื่นสามพันล้าน และ D/E 5.45 เท่า หากเพิ่มทุนอีกเท่าตัว เป็น 2.6 หมื่นล้าน จะทำให้ D/E ลดลงเหลือเพียง 2.7 เท่าใกล้เคียงกับ SQ และจะทำให้หายใจคล่องขึ้นเยอะ แต่ถามว่านักลงทุนจะเต็มใจไหม เพราะจะทำให้เกิด Dilution Effect อย่างรุนแรง และที่ผ่านมาโครงการต่างๆที่ ITD ได้มาไม่เคยสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนได้เลย แต่หาก ITD ฝืนไม่ยอมเพิ่มทุน ปัญหาคืออีก 2 ปีต้องเตรียมเงินสดในการลงทุนทันที 1.2หมื่นล้านจากที่ไหน ถ้าผมเป็นผู้บริหาร ITD ผมคงขบคิดปัญหานี้ล่วงหน้าจนความดันขึ้นล่ะครับ เพราะไหนจะโครงการทวาย โปรแตสที่ลงทุนไปมากแล้วยังไม่ก่อดอกออกผล และจำเป็นต้องใส่เงินเพิ่มไปอีกนับหมื่นล้านบาท

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพอ ITD ได้งานนี้แทบไม่มีผลอะไรกับราคาหุ้นเลย เพราะจริงอยู่ที่ Backlog อาจดูสูง แต่งานที่ได้มาและราคาที่ฟันไป ไม่ได้ส่งผลต่อผลประกอบการของ ITD แบบมีนัยยะอะไรเลยซ้ำร้ายเป็นเหตุสำคัญที่ต้องเพิ่มทุนอีกก้อนใหญ่ ข้อดีของการได้งานนี้ ITD อาจเอาเป็นข้ออ้างต่อนักลงทุนในการขอเพิ่มทุนได้ทันที ซึ่งนี่อาจเป็นสอดคล้องว่าทำไมถึงมีข่าวก่อนผลประมูลออกมาว่า ผู้บริหาร ITD ทุบโต๊ะเปรี้ยงที่จะเอางานแม่เมาะ9ให้ได้ ถึงขาดทุนก็ยอม

หันกลับมาดูฟากของ SQ กันบ้าง แน่นอนล่ะความเสียใจผิดหวังมี แต่อย่าผิดหวังนาน เพราะเมื่อสติกลับคืนมา บริษัทนี้แม้ว่าจะมีรายได้น้อยกว่า 10 เท่า แต่ก็เล็กพริกขี้หนูกว่ามาก เพราะกำไรปีนี้ผ่านไป 3 ไตรมาสกลับสูงกว่า ITD ซะอีก และฐานะการเงินนับจากนี้ไปก็จะดีขึ้นเรื่อยๆโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนอีก เพราะสัญญาเงินกู้ 5000 ล้านที่ทำไว้กับ SCB เมื่อ 2 ปีก่อนที่ทยอยเอาออกมาซื้อเครื่องจักรในปีนี้ก็เพียงพอและเหลือเงินในการหมุนเวียนในธุรกิจ มีสภาพคล่องอย่างพอเพียงในการบริหารงานต่อไปอีกสบายๆ ซึ่งหาก SQ ได้ MM9 สภาพก็ไม่ต่างจาก ITD ตอนนี้มากเท่าไหร่ อาจต้องเพิ่มทุน 2500-5000 ล้าน และกู้อีก 5000-10,000 ล้าน ซึ่งจะทำให้ฐานะการเงินดูแย่ไปในทันที แถมราคาหุ้นก็จะเกิด Dilution อย่างมากเช่นกัน กลับกันงานต่อไปข้างหน้าที่มีปริมาณใหญ่อย่าง หงสาเฟสG ที่จะประมูลปลายปีหน้าหรือต้นปี 62มูลค่าเกินหมื่นล้าน หาก SQ ประมูลได้ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนแม้แต่บาทเดียว เพราะ เหมืองที่นั่นไม่ได้ไกลจากโรงไฟฟ้า สามารถใช้รถขนได้ตลอดโครงการ และจะเพิ่มการเติบโตของรายได้และกำไรได้อีก 20-30% ซึ่ง SQ ก็เป็นตัวเต็งที่จะคว้างานนี้ไปแบบแทบไร้คู่แข่ง เพราะ ITD คงต้องทุ่มสรรพกำลังมาลุย MM9 มากกว่าอย่างแน่นอน

สุดท้าย ฟ้าหลังฝน คนถือหุ้นเปลี่ยนมือ ผมเชื่อว่าอนาคตข้างหน้าของ SQ กลับดูดีกว่าหากประมูล MM9 เสียอีก เป็นการเติบโตตามสเตปไม่ฝืนธรรมชาติ ไม่ถูกบังคับให้โต ไม่เป็นเด็กถูกแบกของหนักหลังแอ่น แต่จะเป็นเด็กที่โตตามวัยต่อไปได้อย่างธรรมชาติ

Credit : Thaizeza จากเวบ ThaiVI
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่