เมื่อปีคริสต์ศักราช 1977 ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งนาม "Star Wars-สตาร์วอร์ส" หรือแปลตรงตัวว่า "สงครามดวงดาว" ได้ออกฉายและสร้างความสำเร็จระดับปรากฏการณ์ขึ้นแก่วงการภาพยนตร์ จนมีภาคต่อตามออกมาเรื่อย ๆ พร้อมขยายความทั้งตัวละครและเรื่องราวของตนในสื่ออื่นมานาน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือการ์ตูน (คอมิค) ,นิยาย ,เกม หรือซีรีส์ทางโทรทัศน์ จนถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ชุดแรก ๆของโลกที่มีเรื่องราวและตัวละครของตัวเองมากมายระดับ มีจักรวาลของตนเอง เพียงแต่นอกจากหนังแล้วพวกเนื้อหาขยายความต่าง ๆคนในประเทศอื่นนอกจากอเมริกา (และไม่ใช่แฟนของสตาร์วอร์ส) คงไม่ค่อยรับรู้กันเท่าไหร่
แม้ปกติแล้วภาพยนตร์สตาร์วอร์สจะทำรายได้ในประเทศไทยดีตามแบบฉบับหนังฟอร์มใหญ่ฮอลลีวู้ดทั่วไป แต่ผมเคยได้ยินหลาย ๆคนบ่นว่าดูไม่รู้เรื่อง ,ไม่เข้าใจ หรือถามว่าสนุกตรงไหน ? ซึ่งไม่แปลกอะไรเพราะสมัยที่ผมเคยดูภาคเก่า ๆครั้งแรกก็ไม่รู้เรื่อง (เชื่อว่าหากไม่ได้หาข้อมูล หรือเตรียมทำความรู้จักหนังก่อนดูคงเป็นกันแทบทุกคน
)
ทว่าไม่ใช่ดูไม่รู้เรื่องมันจะไม่สนุกเสียทีเดียว แค่ได้เห็นการขับยานอวกาศสู้กัน ,ยิงกันด้วยปืนลำแสง ,ทหารลูกกระจ๊อกออกมาโดนตัวเอกสอยเก็บแต้ม ,มีสัตว์แปลก ๆหรือมนุษย์ต่างดาวแปลก ๆโผล่มาเยอะแยะ และที่สำคัญสุดคือ การฟาดฟัน "Light Saber-กระบี่แสง" ต่อสู้กันอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ก็ทำให้เพลิดเพลินกับหนังได้ไม่ยากแล้ว
แต่ถ้าดูหนังรู้เรื่องมันน่าจะสนุกกว่า ดังนั้นผมจึงลองเรียบเรียงบทความเพื่อการ
ทำความเข้าใจโลกของสตาร์วอร์ส ขึ้นมา ซึ่งจะเน้นทำความรู้จักโลกของสตาร์วอร์ส และกล่าวถึงเรื่องราวก่อนหนังสตาร์วอร์สภาคใหม่
"The Last Jedi-ปัจฉิมบทแห่งเจได" คร่าวๆ
โดยหวังให้ผู้ชมหน้าใหม่ไม่เคยดูสตาร์วอร์สสักภาค
กับผู้เคยดูสตาร์วอร์สภาคอื่นมาก่อนทว่าไม่เข้าใจโลกของหนัง เข้าใจโลกของสตาร์วอร์ส และรับชม The Last Jedi อย่างเข้าถึงมากยิ่งขึ้น
นานมาแล้ว ในจักรวาลที่ไกลแสนไกล
เริ่มจากคำโปรยก่อนดูหนังสตาร์วอร์ส "A long time ago in a galaxy far, far away-นานมาแล้ว ในจักรวาลที่ไกลแสนไกล" กันก่อน ความหมายของคำโปรยนี้คือ
เรื่องราวของสตาร์วอร์สนั้น
--- เกิดขึ้นในยุคโบราณนานมากแล้ว และเกิดในกาแล็คซี่อันห่างไกลกลางห้วงอวกาศกว้างใหญ่ไพศาล ---
แปลว่าแนวเรื่องของสตาร์วอร์สแท้จริงคือ
[ไซไฟ-แฟนตาซีย้อนยุค] ครับ (คนมักเข้าใจผิดว่าสตาร์วอร์สเป็นโลกยุคอนาคตแบบหนังไซไฟทั่วไปเรื่องอื่น) นั่นคือถึงจะเห็นปืนลำแสง ,ยานอวกาศ ,กระบี่แสงหรือตึกรามบ้านช่องกับเทคโนโลยีดูไฮโซโก้หรูแค่ไหน ก็ไม่ได้เป็นของจากอนาคตแต่ประการใด แต่มาจากอารยธรรมต่างดาวล้ำยุคสมัยโบราณที่เผลอๆ ล่มสลายนานแล้วเสียด้วยซ้ำ
ถัดจากคำโปรยจะมีแถวตัวอักษรยาวๆ ค่อยๆ ลอยจากล่างขึ้นบนให้อ่านกัน (เวลาดูสตาร์วอร์สแบบพากย์ไทยจะแปลเป็นตัวอักษรไทยให้อ่านหรือพากย์ให้คนดูฟังไปเลย) ส่วนนี้คือการ "เล่าเนื้อเรื่องก่อนหน้าเหตุการณ์ในหนัง"
อาจเป็นเหตุการณ์ในหนังภาคที่แล้ว
หรือ
ช่วงรอยต่อเหตุการณ์ระหว่างหนังภาคที่แล้วกับภาคนี้
แล้วแต่ว่าหนังแต่ละภาคข้ามเหตุการณ์ไปนอกฉากมากน้อยแค่ไหน (อย่างที่บอกว่าสตาร์วอร์สมีเนื้อหาขยายความเยอะมาก แต่เหตุการณ์สำคัญๆ อยู่ในหนังที่ฉายหมดอยู่แล้วครับ)
ระบบดวงดาว
เรื่องราวของสตาร์วอร์สดำเนินไปบนกาแล็คซี่ (กลุ่มดาวจำนวนมากที่รวมตัวกัน โลกก็อยู่ในกาแล็กซี่ที่เรียกว่า ทางช้างเผือก) ไกลโพ้นแห่งหนึ่งซึ่งมีดวงดาวกว่า 4 แสนล้านดวง แต่ละดวงมีสภาพแวดล้อมของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นดาวที่มีป่าทึบเป็นหลัก, ดาวน้ำแข็ง, ดาวที่เต็มไปด้วยลาวาและภูเขาไฟ หรือดาวทะเลทรายที่มีพระอาทิตย์สองดวง ฯลฯ
บางดวงดาวไม่มีสิ่งมีชีวิต, บางดวงดาวมีแต่พวกสัตว์, บางดวงดาวมีสิ่งมีชีวิตทรงปัญญา-มีอารยธรรมเฉพาะตัว
และดาวหลายดวงจะมีสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาหลากหลายแบบอาศัยอยู่ร่วมกัน สืบเนื่องจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีเดินทางข้ามดวงดาวจึงเกิดการไปมาหาสู่กัน-สร้างสังคมร่วมกันขึ้นมา
[ลองจินตนาการว่าดาวแต่ละดวงเป็นเมืองหรือประเทศเล็กๆ บางเมืองมีแต่คนท้องถิ่นอาศัย, บางเมืองมีคนหลากหลายเชื้อชาติอาศัยร่วมกัน
กาแล็กซี่คือดาวโลกทั้งดวงอาจเข้าใจง่ายขึ้น]
การเดินทางข้ามดวงดาว
ระยะทางจากปลายกาแล็คซี่ด้านหนึ่งถึงอีกด้านหนึ่งของกาแล็คซี่ในจักรวาลสตาร์วอร์สยาวไกลถึงกว่า 100,000 ปีแสง (แสงซึ่งเป็นสิ่งที่มีความเร็วสูงสุดในจักรวาลตามธรรมชาติ ใช้เวลาเดินทางกว่าหนึ่งแสนปี) หากเดินทางด้วยวิธีปกติคงใช้ระยะเวลายาวนานเกินกว่า
สิ่งมีชีวิตใดๆ จากอีกฟากกาแล็คซี่จะพานพบกันได้
แต่ในจักรวาลสตาร์วอร์สทำได้โดยการใช้เทคโนโลยี "Hyperdrive-ไฮเปอร์ไดร์ฟ" ติดตั้งบนยานอวกาศ การเดินทางจะใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์จนถึงไม่กี่เดือนเท่านั้น ขึ้นอยู่กับไฮเปอร์ไดร์ฟของยานว่าเป็นของดีแค่ไหน
ไฮเปอร์ไดร์ฟจะควบคุมอนุภาค "hypermatter-ไฮเปอร์แมทเทอร์" ให้เร่งเครื่องยานอวกาศจนเร็ว
เทียบเท่าหรือเร็วกว่าความเร็วแสง
เข้าสู่มิติที่เรียกว่า "Hyperspace-ไฮเปอร์สเปซ"
เพื่อกระโดด(jump) ข้ามระยะทางห่างไกลระหว่างดวงดาวอย่างรวดเร็ว ทว่าต้องผ่านการคำนวณเส้นทางก่อนว่าไม่มีดวงดาวหรือมวลขนาดใหญ่อยู่บนเส้นทาง มิเช่นนั้นอาจเกิดการชนกลางทางได้ (คือถ้าไม่ระวังก็ชนอะไรเข้าแล้วระเบิดตายกลางอวกาศ)
ไฮเปอร์สเปซ
[เผื่อใครยังงง ยานในสตาร์วอร์สมีวิธีทำให้ยานเร็วกว่าแสง แถมโดดข้ามระยะทางด้วยการเดินทางในอีกมิตินึงเลยไวเว่อร์
]
มนุษย์ต่างดาวในสตาร์วอร์ส
จำนวนดาวมาก จำนวนสิ่งมีชีวิตก็มากตาม จักรวาลสตาร์วอร์สเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตทั้งระดับสัตว์ทั่วไปและสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาหน้าตาหลากหลาย แต่ละสายพันธ์ุก็มีอายุขัยของตัวเอง บางสายพันธุ์อยู่ได้หลายร้อยปี (ปรมาจารย์เจได "Yoda-โยดา" ตัวละครนึงในสตาร์วอร์ส
อายุร่วม 800 ปี)
แต่มนุษย์ที่เห็นกันในสตาร์วอร์สถึงจะดูเหมือนมนุษย์โลกและมีอายุขัยพอๆ กัน ทว่าที่จริงแล้ว เป็น
มนุษย์ต่างดาว(เอเลี่ยน) รูปร่างหน้าตาแบบเดียวกับมนุษย์โลกเท่านั้น (บอกแล้วไง เรื่องนี้เกิดนานมาแล้วในจักรวาลที่ไกลแสนไกล
)
ต่อให้บางคนบอกว่าชาวโลกอาจเป็นลูกหลานหรือถูกสร้างขึ้นจากพวกเอเลี่ยนในสตาร์วอร์ส ก็มีความเป็นไปได้น้อยมาก(การเดินทางระหว่างกาแล็คซี่หนึ่ง ไปสู่อีกกาแล็คซี่หนึ่งที่อยู่ข้างเคียงกันในสตาร์วอร์สก็ยังถือว่าไกล
ยิ่งบอกไว้ว่ากาแล็คซี่ในหนังสตาร์วอร์สอยู่ไกลมากยิ่งยากเข้าไปใหญ่)
และต่อให้ผู้สร้างหนังบอกว่าใช่ขึ้นมา อย่างน้อยที่สุดเอเลี่ยนพวกนี้คงไม่ถือเป็นสายพันธุ์มนุษย์โลกปัจจุบัน "Homo sapiens-โฮโมเซเปี้ยนส์" หรอก
[สรุปสั้นๆ คนในสตาร์วอร์สถือเป็นเอเลี่ยนหมด แค่หน้าเหมือนคนเท่านั้น]
พลัง
"The Force-พลัง" คือสนามพลังที่มองไม่เห็นซึ่งเกิดจากสิ่งมีชีวิตทุกชนิด แพร่กระจายอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งรอบกาแล็คซี่
เหล่าเอเลี่ยนในกาแล็คซี่สตาร์วอร์สบางส่วนสามารถสัมผัสถึงพลังได้ผ่าน "Midi-chlorian(มิดิคลอเรี่ยน)" เพื่อใช้พลังทำเรื่องเหนือธรรมชาติต่างๆ
* มิดิคลอเรี่ยน คือสิ่งมีชีวิตสุดเล็กจิ๋วที่อาศัยอยู่ในเซลล์สิ่งมีชีวิตอื่น
มิดิคลอเรี่ยนอยู่ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิดและเป็นสื่อกลางการสื่อสารระหว่างสิ่งมีชีวิตต่างๆ กับพลัง
เจได
"Jedi-เจได" คือเหล่าผู้ใช้พลังผ่านการตั้งสมาธิสงบจิตใจ สื่อสารกับมิดิคลอเรี่ยน แล้วนำพลังมาทำเรื่องเหนือธรรมชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สัมผัสที่หกมองอนาคต, เพิ่มศักยภาพในการเคลื่อนไหว, ผลักหรือยกสิ่งต่างๆ โดยไม่ต้องออกแรง รวมถึงควบคุมจิตใจผู้อื่น
กลุ่มผู้ใช้พลังรวมตัวกันก่อตั้ง "Jedi Order-นิกายเจได" ตั้งแต่ก่อนหน้าเหตุการณ์ในหนังเป็นพันปี เจไดจะเน้นหลักการรับใช้พลัง(เวลาทำอะไรด้วยพลังเจไดทำด้วยความคิดว่าตน "หยิบยืม" พลังมา), เน้นทำสมาธิสงบจิตใจ, ใช้ชีวิตปล่อยวาง ไม่มีครอบครัว(เหมือนพวกนักบวช) ยามต่อสู้จะใช้อาวุธกระบี่แสง(Light Saber) ร่วมกับพลังพิทักษ์รักษาสันติของกาแล็คซี่ เป็นการใช้พลัง
ด้านสว่าง (Light side)
ซิธ
"Sith-ซิธ" คือกลุ่มเจไดในนิกายที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางดั้งเดิม แยกตัวออกมาตั้ง "Sith Order-นิกายซิธ" ซึ่งเน้นหลักควบคุม-สั่งการพลัง ใช้อารมณ์ด้านลบพวกความกลัว, ความโกรธ หรือความเจ็บปวดเพื่อใช้พลัง
ด้านมืด (Dark side) นอกจากการใช้พลังแบบที่เจไดทำตามปกติ พวกซิธจะมีการใช้พลังในแบบมุ่งเน้นทำร้ายผู้อื่นอย่างการ
สร้างสายฟ้า เพิ่มขึ้นมาด้วย (สมกับบทผู้ร้ายประจำหนังสตาร์วอร์ส
)
[ปล.1] ใครถูกใจเนื้อหา ฝากกดโหวตกระทู้ด้วยครับ เพราะทุกวันนี้กระทู้ไหลเร็วเหลือเกิน
[ปล.2] หลังหนังภาคใหม่ฉายถ้าใครดูแล้วอยากสปอยหรือคุยเนื้อหา รบกวนเว้นระยะหรือครอบสปอยล์ไว้ด้วยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สมัยก่อนเวลาผมจะอ่านบทความหรือข้อมูลข่าวสารบันเทิงต่างประเทศต้องไปตามซื้อนิตยสารบนแผงหนังสือเป็นหลัก รองลงมาคือบทความตามกระทู้เกี่ยวกับหนังต่าง ๆในเว็บไซต์พันทิพซึ่งหลายครั้งเนื้อหาบทความดีเทียบเท่าหรือมากกว่าบทความตามนิตยสารที่วางแผงขายกันเสียอีก
จนกระทั่งมาถึงยุคอินเตอร์เน็ตที่ข่าวสารบทความบันเทิงต่างประเทศหาอ่านได้ง่ายขึ้น การซื้อนิตยสาร (ที่มักออกรายเดือนหรือรายปักษ์) เริ่มไม่ทันกับความรวดเร็วทันใจแบบวันต่อวันของอินเตอร์เน็ต และอีกหลาย ๆข้อเสียเปรียบจึงเข้าสู่ยุคถดถอยของนิตยสาร ส่วนการตามอ่านบทความในพันทิพนั้น หลังจากเข้าสู่ช่วงเปิดกว้างให้ใคร ๆก็ตั้งกระทู้สร้างบทความแสดงความเห็นของตัวเองได้ ผมพบว่าแม้มันจะคึกคักขึ้น แต่กลับหาบทความถูกใจยากขึ้น เพราะกระทู้เกิดใหม่ตลอดเวลา
ด้วยความที่หาอะไรตรงใจอ่านยาก ผมเลยเริ่มเขียนบทความเกี่ยวกับหนังตามใจชอบออกมาเรื่อย ๆและได้รับเสียงตอบรับในทางที่ดีมาบ้าง
จึงเริ่มเขียนบล็อกรวบรวมบทความทั้งเก่าและใหม่ของตัวเอง https://filmaneo.blogspot.com/
รวมถึงเปิดเพจเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/Filmaneo/
เพื่อเป็นช่องทางให้คนติดตามการอัพเดตงานของผมครับ
# เตรียมพร้อมก่อนดู The Last Jedi # ทำความรู้จักโลกของ Star Wars (by Filmaneo)
แม้ปกติแล้วภาพยนตร์สตาร์วอร์สจะทำรายได้ในประเทศไทยดีตามแบบฉบับหนังฟอร์มใหญ่ฮอลลีวู้ดทั่วไป แต่ผมเคยได้ยินหลาย ๆคนบ่นว่าดูไม่รู้เรื่อง ,ไม่เข้าใจ หรือถามว่าสนุกตรงไหน ? ซึ่งไม่แปลกอะไรเพราะสมัยที่ผมเคยดูภาคเก่า ๆครั้งแรกก็ไม่รู้เรื่อง (เชื่อว่าหากไม่ได้หาข้อมูล หรือเตรียมทำความรู้จักหนังก่อนดูคงเป็นกันแทบทุกคน )
ทว่าไม่ใช่ดูไม่รู้เรื่องมันจะไม่สนุกเสียทีเดียว แค่ได้เห็นการขับยานอวกาศสู้กัน ,ยิงกันด้วยปืนลำแสง ,ทหารลูกกระจ๊อกออกมาโดนตัวเอกสอยเก็บแต้ม ,มีสัตว์แปลก ๆหรือมนุษย์ต่างดาวแปลก ๆโผล่มาเยอะแยะ และที่สำคัญสุดคือ การฟาดฟัน "Light Saber-กระบี่แสง" ต่อสู้กันอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ก็ทำให้เพลิดเพลินกับหนังได้ไม่ยากแล้ว
แต่ถ้าดูหนังรู้เรื่องมันน่าจะสนุกกว่า ดังนั้นผมจึงลองเรียบเรียงบทความเพื่อการ ทำความเข้าใจโลกของสตาร์วอร์ส ขึ้นมา ซึ่งจะเน้นทำความรู้จักโลกของสตาร์วอร์ส และกล่าวถึงเรื่องราวก่อนหนังสตาร์วอร์สภาคใหม่
"The Last Jedi-ปัจฉิมบทแห่งเจได" คร่าวๆ
โดยหวังให้ผู้ชมหน้าใหม่ไม่เคยดูสตาร์วอร์สสักภาค
กับผู้เคยดูสตาร์วอร์สภาคอื่นมาก่อนทว่าไม่เข้าใจโลกของหนัง เข้าใจโลกของสตาร์วอร์ส และรับชม The Last Jedi อย่างเข้าถึงมากยิ่งขึ้น
เริ่มจากคำโปรยก่อนดูหนังสตาร์วอร์ส "A long time ago in a galaxy far, far away-นานมาแล้ว ในจักรวาลที่ไกลแสนไกล" กันก่อน ความหมายของคำโปรยนี้คือ
เรื่องราวของสตาร์วอร์สนั้น
--- เกิดขึ้นในยุคโบราณนานมากแล้ว และเกิดในกาแล็คซี่อันห่างไกลกลางห้วงอวกาศกว้างใหญ่ไพศาล ---
แปลว่าแนวเรื่องของสตาร์วอร์สแท้จริงคือ [ไซไฟ-แฟนตาซีย้อนยุค] ครับ (คนมักเข้าใจผิดว่าสตาร์วอร์สเป็นโลกยุคอนาคตแบบหนังไซไฟทั่วไปเรื่องอื่น) นั่นคือถึงจะเห็นปืนลำแสง ,ยานอวกาศ ,กระบี่แสงหรือตึกรามบ้านช่องกับเทคโนโลยีดูไฮโซโก้หรูแค่ไหน ก็ไม่ได้เป็นของจากอนาคตแต่ประการใด แต่มาจากอารยธรรมต่างดาวล้ำยุคสมัยโบราณที่เผลอๆ ล่มสลายนานแล้วเสียด้วยซ้ำ
ถัดจากคำโปรยจะมีแถวตัวอักษรยาวๆ ค่อยๆ ลอยจากล่างขึ้นบนให้อ่านกัน (เวลาดูสตาร์วอร์สแบบพากย์ไทยจะแปลเป็นตัวอักษรไทยให้อ่านหรือพากย์ให้คนดูฟังไปเลย) ส่วนนี้คือการ "เล่าเนื้อเรื่องก่อนหน้าเหตุการณ์ในหนัง"
อาจเป็นเหตุการณ์ในหนังภาคที่แล้ว
หรือ ช่วงรอยต่อเหตุการณ์ระหว่างหนังภาคที่แล้วกับภาคนี้
แล้วแต่ว่าหนังแต่ละภาคข้ามเหตุการณ์ไปนอกฉากมากน้อยแค่ไหน (อย่างที่บอกว่าสตาร์วอร์สมีเนื้อหาขยายความเยอะมาก แต่เหตุการณ์สำคัญๆ อยู่ในหนังที่ฉายหมดอยู่แล้วครับ)
เรื่องราวของสตาร์วอร์สดำเนินไปบนกาแล็คซี่ (กลุ่มดาวจำนวนมากที่รวมตัวกัน โลกก็อยู่ในกาแล็กซี่ที่เรียกว่า ทางช้างเผือก) ไกลโพ้นแห่งหนึ่งซึ่งมีดวงดาวกว่า 4 แสนล้านดวง แต่ละดวงมีสภาพแวดล้อมของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นดาวที่มีป่าทึบเป็นหลัก, ดาวน้ำแข็ง, ดาวที่เต็มไปด้วยลาวาและภูเขาไฟ หรือดาวทะเลทรายที่มีพระอาทิตย์สองดวง ฯลฯ
บางดวงดาวไม่มีสิ่งมีชีวิต, บางดวงดาวมีแต่พวกสัตว์, บางดวงดาวมีสิ่งมีชีวิตทรงปัญญา-มีอารยธรรมเฉพาะตัว
และดาวหลายดวงจะมีสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาหลากหลายแบบอาศัยอยู่ร่วมกัน สืบเนื่องจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีเดินทางข้ามดวงดาวจึงเกิดการไปมาหาสู่กัน-สร้างสังคมร่วมกันขึ้นมา
[ลองจินตนาการว่าดาวแต่ละดวงเป็นเมืองหรือประเทศเล็กๆ บางเมืองมีแต่คนท้องถิ่นอาศัย, บางเมืองมีคนหลากหลายเชื้อชาติอาศัยร่วมกัน
กาแล็กซี่คือดาวโลกทั้งดวงอาจเข้าใจง่ายขึ้น]
ที่มา : http://mapsontheweb.zoom-maps.com/post/136615228993/star-wars-galaxy-map-more-star-wars-maps
ระยะทางจากปลายกาแล็คซี่ด้านหนึ่งถึงอีกด้านหนึ่งของกาแล็คซี่ในจักรวาลสตาร์วอร์สยาวไกลถึงกว่า 100,000 ปีแสง (แสงซึ่งเป็นสิ่งที่มีความเร็วสูงสุดในจักรวาลตามธรรมชาติ ใช้เวลาเดินทางกว่าหนึ่งแสนปี) หากเดินทางด้วยวิธีปกติคงใช้ระยะเวลายาวนานเกินกว่า
สิ่งมีชีวิตใดๆ จากอีกฟากกาแล็คซี่จะพานพบกันได้
แต่ในจักรวาลสตาร์วอร์สทำได้โดยการใช้เทคโนโลยี "Hyperdrive-ไฮเปอร์ไดร์ฟ" ติดตั้งบนยานอวกาศ การเดินทางจะใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์จนถึงไม่กี่เดือนเท่านั้น ขึ้นอยู่กับไฮเปอร์ไดร์ฟของยานว่าเป็นของดีแค่ไหน
ไฮเปอร์ไดร์ฟจะควบคุมอนุภาค "hypermatter-ไฮเปอร์แมทเทอร์" ให้เร่งเครื่องยานอวกาศจนเร็วเทียบเท่าหรือเร็วกว่าความเร็วแสง
เข้าสู่มิติที่เรียกว่า "Hyperspace-ไฮเปอร์สเปซ"
เพื่อกระโดด(jump) ข้ามระยะทางห่างไกลระหว่างดวงดาวอย่างรวดเร็ว ทว่าต้องผ่านการคำนวณเส้นทางก่อนว่าไม่มีดวงดาวหรือมวลขนาดใหญ่อยู่บนเส้นทาง มิเช่นนั้นอาจเกิดการชนกลางทางได้ (คือถ้าไม่ระวังก็ชนอะไรเข้าแล้วระเบิดตายกลางอวกาศ)
[เผื่อใครยังงง ยานในสตาร์วอร์สมีวิธีทำให้ยานเร็วกว่าแสง แถมโดดข้ามระยะทางด้วยการเดินทางในอีกมิตินึงเลยไวเว่อร์ ]
จำนวนดาวมาก จำนวนสิ่งมีชีวิตก็มากตาม จักรวาลสตาร์วอร์สเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตทั้งระดับสัตว์ทั่วไปและสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาหน้าตาหลากหลาย แต่ละสายพันธ์ุก็มีอายุขัยของตัวเอง บางสายพันธุ์อยู่ได้หลายร้อยปี (ปรมาจารย์เจได "Yoda-โยดา" ตัวละครนึงในสตาร์วอร์ส
อายุร่วม 800 ปี)
แต่มนุษย์ที่เห็นกันในสตาร์วอร์สถึงจะดูเหมือนมนุษย์โลกและมีอายุขัยพอๆ กัน ทว่าที่จริงแล้ว เป็นมนุษย์ต่างดาว(เอเลี่ยน) รูปร่างหน้าตาแบบเดียวกับมนุษย์โลกเท่านั้น (บอกแล้วไง เรื่องนี้เกิดนานมาแล้วในจักรวาลที่ไกลแสนไกล )
ต่อให้บางคนบอกว่าชาวโลกอาจเป็นลูกหลานหรือถูกสร้างขึ้นจากพวกเอเลี่ยนในสตาร์วอร์ส ก็มีความเป็นไปได้น้อยมาก(การเดินทางระหว่างกาแล็คซี่หนึ่ง ไปสู่อีกกาแล็คซี่หนึ่งที่อยู่ข้างเคียงกันในสตาร์วอร์สก็ยังถือว่าไกล
ยิ่งบอกไว้ว่ากาแล็คซี่ในหนังสตาร์วอร์สอยู่ไกลมากยิ่งยากเข้าไปใหญ่)
และต่อให้ผู้สร้างหนังบอกว่าใช่ขึ้นมา อย่างน้อยที่สุดเอเลี่ยนพวกนี้คงไม่ถือเป็นสายพันธุ์มนุษย์โลกปัจจุบัน "Homo sapiens-โฮโมเซเปี้ยนส์" หรอก
[สรุปสั้นๆ คนในสตาร์วอร์สถือเป็นเอเลี่ยนหมด แค่หน้าเหมือนคนเท่านั้น]
"The Force-พลัง" คือสนามพลังที่มองไม่เห็นซึ่งเกิดจากสิ่งมีชีวิตทุกชนิด แพร่กระจายอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งรอบกาแล็คซี่
เหล่าเอเลี่ยนในกาแล็คซี่สตาร์วอร์สบางส่วนสามารถสัมผัสถึงพลังได้ผ่าน "Midi-chlorian(มิดิคลอเรี่ยน)" เพื่อใช้พลังทำเรื่องเหนือธรรมชาติต่างๆ
* มิดิคลอเรี่ยน คือสิ่งมีชีวิตสุดเล็กจิ๋วที่อาศัยอยู่ในเซลล์สิ่งมีชีวิตอื่น
มิดิคลอเรี่ยนอยู่ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิดและเป็นสื่อกลางการสื่อสารระหว่างสิ่งมีชีวิตต่างๆ กับพลัง
"Jedi-เจได" คือเหล่าผู้ใช้พลังผ่านการตั้งสมาธิสงบจิตใจ สื่อสารกับมิดิคลอเรี่ยน แล้วนำพลังมาทำเรื่องเหนือธรรมชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สัมผัสที่หกมองอนาคต, เพิ่มศักยภาพในการเคลื่อนไหว, ผลักหรือยกสิ่งต่างๆ โดยไม่ต้องออกแรง รวมถึงควบคุมจิตใจผู้อื่น
กลุ่มผู้ใช้พลังรวมตัวกันก่อตั้ง "Jedi Order-นิกายเจได" ตั้งแต่ก่อนหน้าเหตุการณ์ในหนังเป็นพันปี เจไดจะเน้นหลักการรับใช้พลัง(เวลาทำอะไรด้วยพลังเจไดทำด้วยความคิดว่าตน "หยิบยืม" พลังมา), เน้นทำสมาธิสงบจิตใจ, ใช้ชีวิตปล่อยวาง ไม่มีครอบครัว(เหมือนพวกนักบวช) ยามต่อสู้จะใช้อาวุธกระบี่แสง(Light Saber) ร่วมกับพลังพิทักษ์รักษาสันติของกาแล็คซี่ เป็นการใช้พลังด้านสว่าง (Light side)
"Sith-ซิธ" คือกลุ่มเจไดในนิกายที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางดั้งเดิม แยกตัวออกมาตั้ง "Sith Order-นิกายซิธ" ซึ่งเน้นหลักควบคุม-สั่งการพลัง ใช้อารมณ์ด้านลบพวกความกลัว, ความโกรธ หรือความเจ็บปวดเพื่อใช้พลังด้านมืด (Dark side) นอกจากการใช้พลังแบบที่เจไดทำตามปกติ พวกซิธจะมีการใช้พลังในแบบมุ่งเน้นทำร้ายผู้อื่นอย่างการสร้างสายฟ้า เพิ่มขึ้นมาด้วย (สมกับบทผู้ร้ายประจำหนังสตาร์วอร์ส )
[ปล.1] ใครถูกใจเนื้อหา ฝากกดโหวตกระทู้ด้วยครับ เพราะทุกวันนี้กระทู้ไหลเร็วเหลือเกิน
[ปล.2] หลังหนังภาคใหม่ฉายถ้าใครดูแล้วอยากสปอยหรือคุยเนื้อหา รบกวนเว้นระยะหรือครอบสปอยล์ไว้ด้วยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้