หนีร้อนไปนอน ตุรกี ฉบับที่ 3 เมืองโบราณเอฟฟิซุส บ้านพระแม่มารีย์

ตอนเดิม
หนีร้อนไปนอน ตุรกี ฉบับที่ 1 มุ่งสู่อีสตันบลู
หนีร้อนไปนอน ตุรกี ฉบับที่ 2 ม้าเมืองทรอย


30/12/2560

ตื่นตีห้า หกโมงทานข้าว หกสี่ห้าออกเดินทาง เป็นสิ่งที่ไกด์บอกเมื่อวาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ลำบากมากสำหรับคนอย่างผม ซึ่งเมื่อคืนเรานอนที่รีสอร์ท Grand Temizel Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมเหมือนชนบทหน่อยๆ แต่ที่สุดของเมื่อวานคืออาหาร กินแทบจะไม่ได้ คือข้าวมันแปลกๆ ไก่ก็เค็มๆ เฮ้อมาสองวันคิดถึง แต่อาหารบ้านเรา




ยุคสมัยของสงครามครูเสธเริ่มต้นที่นี่อาณาจักรของชาวเซลจุก (Seljuk) ชื่อเมืองฟูซาดาซึ หรือเรียกอีกชื่อว่าเมืองแอฟเฟซุส ไม่รู้ว่าเกี่ยวอะไรกับเทพตีแหล็ก ตามนิยายเทพกรีซเปล่านะ ในราวคริสต์ศตวรรษที่ 6 ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและทางธรรมชาติ ทำให้ชาวเติร์กอพยพออกจากเอเชียกลางไปยังดินแดนต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ชาวเติร์กเผ่าหนึ่งเรียกว่า “เซลจุก (Seljuk) ” ได้อพยพมาทางทิศตะวันตกเข้าสู่เขตทะเลสาบแคสเปียน และได้ขยับเข้ามาใกล้อานาโตเลียในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ในปี พ.ศ. 2244 (ค.ศ. 1071) สุลต่าน Alparslan ผู้นำชาวเติร์กเผ่าเซลจุกประสบชัยชนะในสงครามเหนือกองทัพของจักรพรรดิโรมานุสที่ 4 แห่งจักรวรรดิไบเซนไทน์ ณ สมรภูมิเมืองมาลัซเกิร์ต (Malazgirt) (ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตจังหวัดมุส ในภาคตะวันออกของประเทศตุรกี) ชัยชนะครั้งนี้ได้เปิดทางให้ชนเชื้อสายเติร์กจากเอเชียกลางหลั่งไหลเข้าสู่ดินแดนอานาโตเลียนั่นเอง ที่นี่จะนิยมทำเกษตรกรรมสวนส้ม สวนมะกอก แปลกนะที่ตุรกีนี่ชอบสร้างเมืองอยู่ริมเขานะ




ตอนนี้เราก็มาถึงเมืองเก่า เอฟเฟซุส ที่ถูดยึดครองโดยพวกเซลจุก ซึ่งจะอยู่บนเนินเขา ค่าเข้าก็ 45 ลีลา ซึ่งน่าจะราคาต่างชาตินะ ข้างในก็จะแบ่งเป็น 2 โซน คือพวกชนชั้นกษัตริย์ ขุนนาง และชนชั้นล่าง ซึ่งมีโรงละคร มีตลาด มีห้องสมุด แต่ก็มีแค่เค้าโครงเท่านั้น เพราะมันหลายพันปี มีพื้นที่ใหญ่ครับ บางแห่งเป็นหินอ่อน โมเสก และหินทรงโรมัน มากมาย บางทีดูเหมือนกองภูเขาหิน แต่ไม่เคยเห็นก็สวยครับ แบบเราไปเที่ยวอยุธยาแหละครับ แต่สถาปัตยกรรมมันคนละแบบเท่านั้น หลังจากที่ดูเมืองเก่าเสร็จ เราก็เดินทางไปทานอาหารที่ hitit hotel ซึ่งไม่ไกลจากเมืองเก่าเท่าไหร่และเป็นอาหารบุฟเฟ่ แต่ว่าอย่างเคย ทานไม่ค่อยจะได้ จะมีทานได้ก็ข้าวมัน กับไก่กริว ทานกับน้ำจิ้มข้าวมันไก่ของไกด์ที่เตรียมมา จึงจบกับการทานอาหารอย่างเรียบร้อย








หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเราได้เดินทางไปร้าน terkis delight ที่แปลว่าร้านขนม ตอนแรกคิดว่าเป็นชื่อขนม แต่ว่าที่จริงมันคือขนมตุรกีทั้งหมด ที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งและถั่วนานาชนิด มีหลายแบบ แต่หวานมาก ลองทานก็ดีครับ อร่อยแปลกๆ 555 เสร็จเราก็เดินทางต่อไปยังบ้านพระแม่มารีย์ ซึ่งเป็นมรดกโลก และเป็นบ้านหลังสุดท้ายที่ท่านจะกลับสวรรค์ ก็ห้ามถ่ายรูปภายในบ้านท่าน และห้ามส่งเสียงดัง มีน้ำพุไว้ขอพร สามเรื่องคือ สุขภาพ ความรัก และอนาคต ผมก็ไปขอนะ แต่เขาไม่บอกว่าเราจะได้เรื่องอะไร กลัวจะได้ไปแก้บนอีก 555




ตอนนี้เสร็จจากเมืองนี้แล้วเราต้องเดินทางไปปามุคคาเลย์ เพื่อชมปราสาทปุยฝ้าย แต่ดันเกิดเหตุขัดข้อง ทัวร์เราโดนจับ เพราะคนขับรถไม่มีข้อมูลในการขับรถ แบบเหมือนไม่มีข้อมูลใบขับขี่ ทำให้ต้องรอรถคันใหม่และคนขับคนใหม่เวรกำมากมายเราก็เลยมารอที่ ร้านอาหารเมื่อตอนกลางวัน นั่งทานชารอ ไกด์บอกไม่เคยเจอ เออแล้วมาเจอวันที่ตรูมา 555 ยังมีปราสาทปุยฝ้าย คงไปวันพรุ่งนี้เพราะหลังจากนี้ต้องขับรถใช้เวลาอีก 3 ชม. วันนี้คงรีวิวกันได้เพียงเท่านี้ วันนี้พี่จะทานเบียร์ย้อมใจ แต่ดีนะครับที่นี่เวลาโดนจับ ก็ห้ามขับรถเลยยึดรถไปตรวจสอบด้วย บ้านเราเหรอโทรแปบเดียวปล่อย ช่างต่างกันเสียจริง

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่