ขอเริ่มที่ข้อมูลส่วนตัวของจขกท.นะคะ
ครอบครัวเรามี 4คน พ่อแม่ลูก2 คน คนโตประถม คนเล็กอนุบาล
แต่งงานมาได้ 8 ปีแล้ว เป็นมนุษย์เงินเดือนทั้งคู่ รายได้หลักจากคุณสามีค่ะ
นิสัยการใช้เงินก่อนแต่ง ใช้เงินเก่งทั้งคู่ค่ะ แต่ไม่เคยเป็นหนี้และไม่มีเงินเก็บเลย
ตอนแต่งงานใหม่ๆ เราเอากระเป๋าตังส์มารวมกัน และช่วยกันใช้ ผล...พังค่ะ เก็บเพิ่มไม่ได้เลย...
แต่งมาได้ 1 ปี ลูกคนแรกคลอด เงินเก็บมีแค่สินสอดที่แม่ยกให้กับอาคารพาณิชย์ที่แม่ซื้อให้ (แต่เราใช้อยู่อาศัยด้วย) ไม่มีเพิ่มเลยซักบาท
ตอนนั้นชีวิตมีปัญหามาก แม่อยู่อาคารหลายชั้นก็ปวดเข่า ลูกก็ไม่มีที่จะเลี้ยง คิดว่าคงต้องย้ายบ้านแล้ว เอาไงดี ไม่มีตังค์ ไม่อยากเอาเงินสินสอดมาใช้
มาคุยกันสองคนค่ะ เราขอสามีว่าให้เอาเงินมาให้เราทั้งหมด หักไว้ใช้ส่วนตัว 5,000 พอ
แล้วเราจะเก็บให้ ....สามีลังเลเลยค่ะ
เราเลยบอกขอลอง 3 เดือน จะทำ excel รายรับจ่ายให้ทุกเดือน
ค่าน้ำมันรถ กินข้าวนอกบ้าน กาแฟ บัตรเครดิตเราจะจ่ายให้ (แต่ขอเช็ครายการที่ใช้ก่อนว่าไม่ใช่ค่า entertainment ส่วนตัว)
เราสัญญา จะทำให้มีเงินเก็บให้ได้
ในที่สุดสามีก็ยอมค่ะ จากนั้นเราก็เริ่มทำบัญชีรับจ่ายผ่าน app number ใน ipad แล้วส่งสามีทุกเดือน
เหลือเชื่อเลยว่า พอเอาเงินมารวมกัน+ทำบัญชี เดือนแรกเราเก็บเงินได้ 50% ของรายรับทั้งหมด!
3 เดือนผ่านไป สามีก็คงแอบทึ่งค่ะ ว่าเราก็เก็บเงินได้ โดยที่เราแทบไม่ได้ประหยัดเพิ่มขึ้นเลย
กินใช้ปกติ แค่ทำบัญชีเอง .. ที่ผ่านมานี่แข่งกันใช้เงินสินะ กลัวเสียเปรียบกัน
จากนั้นเราเริ่มสนุกกับการวางแผนการเงินค่ะ เริ่มอ่านหนังสือ และสนใจหุ้นและการลงทุนมากขึ้น
จากเดิมซื้อหุ้น/กองทุนนิดหน่อย(เพราะความรู้น้อย) เริ่มซื้อเยอะขึ้น
และเริ่มแบ่งเงินเป็นส่วนๆชัดเจน ตอนนั้น ใช้ 50% ออม 50%
6 เดือนผ่านไปเริ่มมีเงินก้อนเล็กๆ จึงเริ่มขยับขยายสร้างบ้าน โดยการกู้แบงค์ เริ่มเป็นหนี้
ระหว่างสร้างบ้านเราออมเงินได้แค่ 10-20% เองค่ะ เอาไปลงบ้านหมด
พยายามออมไปด้วย เพราะมันเหมือนติดไปแล้วค่ะ เดือนไหนไม่ได้ออมเงิน จะขาดใจ
บ้านสร้างเสร็จตอนลูกคนที่ 2 คลอดพอดี ประกอบกับสามีย้ายงาน ได้เงินเดือนเยอะขึ้น
เลยกู้เงินเพิ่มมาซื้อบ้านให้เช่า (กล้ามาก หนี้บ้านที่อยู่ยังไม่หมด) โชคดีบ้านทำเลดี ค่าเช่าดีมาก
เงินเลยแบ่งเป็น 3 ส่วนเท่าๆกันค่ะ ใช้จ่าย: ชำระหนี้ : ออม (dca กองทุน) จนปัจจุบัน
ทุกวันนี้สามีได้เงินเดือนมาก็โอนให้เราหมดค่ะ เหลือไว้ใช้ส่วนตัว 7,000 บาท (เพิ่มให้ละ 555)
แต่เราจ่ายให้เค้าหมดนะคะ มือถือใหม่ เกมส์ใหม่(สามีติดเกมส์) คอมใหม่ เราจ่ายหมด
บัตรเครดิตให้เค้ารูดตามสบาย เราจะจ่ายให้แต่ค่ามือถือรายเดือนและค่ากิน เว้นค่าไอเทมเกม เราไม่จ่ายให้
เราวางแผนการเงิน แต่การใช้เงินบ้านเราก็ปกติ กินเที่ยวตามควร ประหยัดเกินชีวิตไม่มีความสุข
เราคิดว่า สามีเค้าคงรู้ว่าเงินที่เค้าให้เรา เราไม่เอาไปซื้ออะไรไร้สาระ
ถ้าเราอยากได้ของราคาแพง เช่นกระเป๋าใหม่ เราจะขอเค้าก่อนซื้อ
สรุป : การบริหารเงินครอบครัวแบบกระเป๋าเดียวกัน จะดีได้ต้องเชื่อใจกัน
และคนที่ได้รับความเชื่อใจต้องมีความรู้เรื่องเงินเพียงพอและละเอียดถี่ถ้วน
แต่เมื่อต้องมีการตัดสินใจในเป้าหมายหลัก(หรือซื้อของแพง 555) ควรเป็นการตัดสินใจร่วมกัน
การที่เราทำบัญชีรับจ่ายด้วย app number ดีมากเลยนะคะ มันคอยเตือนเราได้เลยว่า เรากำลังฟุ่มเฟือยไปไหม
ร่วมกับการศึกษาการวางแผนการเงิน วางแผนเกษียณ เราเอาความรู้ตรงนี้มาทำ excel ไว้หมด
หนี้ ค่างวดบ้านเช่นกัน เราโปะบ้านอย่างมีหลักเกณฑ์
ช่วงที่ดอกเบี้ยถูกก็เอาเงินไปฝากสหกรณ์ก่อน ถ้าดอกแพงก็ถอนมาโปะโลด
ได้ปันผล/เงินเหลือก็ซื้อความสุขบ้าง เที่ยวต่างประเทศ กระเป๋าใหม่ มือถือใหม่ 555
การใช้เงินเป็นความสุขของชีวิตคู่ค่ะ อย่าพลาดออมมากเกิน
ถ้าเราวางแผนดี ทำบัญชีตลอดจะรู้ค่ะ ว่าฟุ่มเฟือยได้แค่ไหน
สุดท้าย ขอฝากเคล็ดลับให้คุณภรรยานะคะ
เรามองว่าการที่จะให้สามีเชื่อใจจนมอบเงินให้เราดูแล ขึ้นกับเราว่ามีวินัยแค่ไหนค่ะ
วินัยและความสม่ำเสมอซื้อความไว้ใจจากสามีได้ค่ะ
ข้อดีอีกอันคือ สามีจะไม่มีเงินไปล่อใจสาวอื่นค่ะ ผู้ชายวัยกลางคนไม่มีตังส์ เสน่ห์ลดลง 90%เลยค่ะ 555
แชร์เทคนิค ทำยังไงให้สามีให้เงินเดือนเกือบทั้งหมดไว้ที่ภรรยา และการบริหารเงินครอบครัวแบบกระเป๋าเดียวกัน
ครอบครัวเรามี 4คน พ่อแม่ลูก2 คน คนโตประถม คนเล็กอนุบาล
แต่งงานมาได้ 8 ปีแล้ว เป็นมนุษย์เงินเดือนทั้งคู่ รายได้หลักจากคุณสามีค่ะ
นิสัยการใช้เงินก่อนแต่ง ใช้เงินเก่งทั้งคู่ค่ะ แต่ไม่เคยเป็นหนี้และไม่มีเงินเก็บเลย
ตอนแต่งงานใหม่ๆ เราเอากระเป๋าตังส์มารวมกัน และช่วยกันใช้ ผล...พังค่ะ เก็บเพิ่มไม่ได้เลย...
แต่งมาได้ 1 ปี ลูกคนแรกคลอด เงินเก็บมีแค่สินสอดที่แม่ยกให้กับอาคารพาณิชย์ที่แม่ซื้อให้ (แต่เราใช้อยู่อาศัยด้วย) ไม่มีเพิ่มเลยซักบาท
ตอนนั้นชีวิตมีปัญหามาก แม่อยู่อาคารหลายชั้นก็ปวดเข่า ลูกก็ไม่มีที่จะเลี้ยง คิดว่าคงต้องย้ายบ้านแล้ว เอาไงดี ไม่มีตังค์ ไม่อยากเอาเงินสินสอดมาใช้
มาคุยกันสองคนค่ะ เราขอสามีว่าให้เอาเงินมาให้เราทั้งหมด หักไว้ใช้ส่วนตัว 5,000 พอ
แล้วเราจะเก็บให้ ....สามีลังเลเลยค่ะ
เราเลยบอกขอลอง 3 เดือน จะทำ excel รายรับจ่ายให้ทุกเดือน
ค่าน้ำมันรถ กินข้าวนอกบ้าน กาแฟ บัตรเครดิตเราจะจ่ายให้ (แต่ขอเช็ครายการที่ใช้ก่อนว่าไม่ใช่ค่า entertainment ส่วนตัว)
เราสัญญา จะทำให้มีเงินเก็บให้ได้
ในที่สุดสามีก็ยอมค่ะ จากนั้นเราก็เริ่มทำบัญชีรับจ่ายผ่าน app number ใน ipad แล้วส่งสามีทุกเดือน
เหลือเชื่อเลยว่า พอเอาเงินมารวมกัน+ทำบัญชี เดือนแรกเราเก็บเงินได้ 50% ของรายรับทั้งหมด!
3 เดือนผ่านไป สามีก็คงแอบทึ่งค่ะ ว่าเราก็เก็บเงินได้ โดยที่เราแทบไม่ได้ประหยัดเพิ่มขึ้นเลย
กินใช้ปกติ แค่ทำบัญชีเอง .. ที่ผ่านมานี่แข่งกันใช้เงินสินะ กลัวเสียเปรียบกัน
จากนั้นเราเริ่มสนุกกับการวางแผนการเงินค่ะ เริ่มอ่านหนังสือ และสนใจหุ้นและการลงทุนมากขึ้น
จากเดิมซื้อหุ้น/กองทุนนิดหน่อย(เพราะความรู้น้อย) เริ่มซื้อเยอะขึ้น
และเริ่มแบ่งเงินเป็นส่วนๆชัดเจน ตอนนั้น ใช้ 50% ออม 50%
6 เดือนผ่านไปเริ่มมีเงินก้อนเล็กๆ จึงเริ่มขยับขยายสร้างบ้าน โดยการกู้แบงค์ เริ่มเป็นหนี้
ระหว่างสร้างบ้านเราออมเงินได้แค่ 10-20% เองค่ะ เอาไปลงบ้านหมด
พยายามออมไปด้วย เพราะมันเหมือนติดไปแล้วค่ะ เดือนไหนไม่ได้ออมเงิน จะขาดใจ
บ้านสร้างเสร็จตอนลูกคนที่ 2 คลอดพอดี ประกอบกับสามีย้ายงาน ได้เงินเดือนเยอะขึ้น
เลยกู้เงินเพิ่มมาซื้อบ้านให้เช่า (กล้ามาก หนี้บ้านที่อยู่ยังไม่หมด) โชคดีบ้านทำเลดี ค่าเช่าดีมาก
เงินเลยแบ่งเป็น 3 ส่วนเท่าๆกันค่ะ ใช้จ่าย: ชำระหนี้ : ออม (dca กองทุน) จนปัจจุบัน
ทุกวันนี้สามีได้เงินเดือนมาก็โอนให้เราหมดค่ะ เหลือไว้ใช้ส่วนตัว 7,000 บาท (เพิ่มให้ละ 555)
แต่เราจ่ายให้เค้าหมดนะคะ มือถือใหม่ เกมส์ใหม่(สามีติดเกมส์) คอมใหม่ เราจ่ายหมด
บัตรเครดิตให้เค้ารูดตามสบาย เราจะจ่ายให้แต่ค่ามือถือรายเดือนและค่ากิน เว้นค่าไอเทมเกม เราไม่จ่ายให้
เราวางแผนการเงิน แต่การใช้เงินบ้านเราก็ปกติ กินเที่ยวตามควร ประหยัดเกินชีวิตไม่มีความสุข
เราคิดว่า สามีเค้าคงรู้ว่าเงินที่เค้าให้เรา เราไม่เอาไปซื้ออะไรไร้สาระ
ถ้าเราอยากได้ของราคาแพง เช่นกระเป๋าใหม่ เราจะขอเค้าก่อนซื้อ
สรุป : การบริหารเงินครอบครัวแบบกระเป๋าเดียวกัน จะดีได้ต้องเชื่อใจกัน
และคนที่ได้รับความเชื่อใจต้องมีความรู้เรื่องเงินเพียงพอและละเอียดถี่ถ้วน
แต่เมื่อต้องมีการตัดสินใจในเป้าหมายหลัก(หรือซื้อของแพง 555) ควรเป็นการตัดสินใจร่วมกัน
การที่เราทำบัญชีรับจ่ายด้วย app number ดีมากเลยนะคะ มันคอยเตือนเราได้เลยว่า เรากำลังฟุ่มเฟือยไปไหม
ร่วมกับการศึกษาการวางแผนการเงิน วางแผนเกษียณ เราเอาความรู้ตรงนี้มาทำ excel ไว้หมด
หนี้ ค่างวดบ้านเช่นกัน เราโปะบ้านอย่างมีหลักเกณฑ์
ช่วงที่ดอกเบี้ยถูกก็เอาเงินไปฝากสหกรณ์ก่อน ถ้าดอกแพงก็ถอนมาโปะโลด
ได้ปันผล/เงินเหลือก็ซื้อความสุขบ้าง เที่ยวต่างประเทศ กระเป๋าใหม่ มือถือใหม่ 555
การใช้เงินเป็นความสุขของชีวิตคู่ค่ะ อย่าพลาดออมมากเกิน
ถ้าเราวางแผนดี ทำบัญชีตลอดจะรู้ค่ะ ว่าฟุ่มเฟือยได้แค่ไหน
สุดท้าย ขอฝากเคล็ดลับให้คุณภรรยานะคะ
เรามองว่าการที่จะให้สามีเชื่อใจจนมอบเงินให้เราดูแล ขึ้นกับเราว่ามีวินัยแค่ไหนค่ะ
วินัยและความสม่ำเสมอซื้อความไว้ใจจากสามีได้ค่ะ
ข้อดีอีกอันคือ สามีจะไม่มีเงินไปล่อใจสาวอื่นค่ะ ผู้ชายวัยกลางคนไม่มีตังส์ เสน่ห์ลดลง 90%เลยค่ะ 555