[CR] Kyo Bar บาร์ขนมที่สวยจนไม่กล้ากิน

Kyo Bar เป็นร้านขนมในเครือเดียวกับ  Kyo Roll En
เพราะGalaxy gift มีให้กินฟรี เลยได้ไปลอง Kyo Bar บาร์ขนมหวาน Premium สไตล์ญี่ปุ่น เลยมารีวิวให้ชมกันค่ะ

ใครสนใจรีวิวอื่นๆเพิ่มเติม ช่วยกันกดไลค์ Facebook page "เอะอะกินเอะอะเที่ยว" ของเรากันด้วยนะคะ รีวิวของกินต่างๆทั้งถูกทั้งแพง รวมไปถึงขนมของกินใหม่ๆ  และที่เที่ยวต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศเลยจ้า กินเองเที่ยวเองทั้งหมด ถ่ายสวยบ้างไม่สวยบ้างเป็นรีวิวแบบบ้านๆ   งบตัวเองล้วนๆ เลยจ้า
กด --> https://www.facebook.com/anyeatanytour/

Galaxy Gift สำหรับNote8,s8,s8+ ได้สิทธิ์ set ขนมหวานที่ Kyo Bar 1 set แบบ Matsu course  คือ จะมี Appitizer + Main dish + เครื่องดื่ม ในราคา set นี้คือ 400 บาทแต่ sumsung galaxy gift ฟรีจ้าเลยจัดไป 1 set
บาร์นี้จะต้องสั่ง order ตามจำนวนคน เช่นไป 2 คนต้องสั่ง 2 order ดังนั้นที่เราไป2คนเลยต้องสั่ง Main dish เพิ่มอีก 1 ในราคา 250 บาท


ร้านจะเป็น chef's table คือสไตล์บาร์ล้อมรอบครัวขนมที่ chef จะยืนอยุ่ตรงกลางคอยทำขนมเสิร์ฟให้ และสามารถถามเกี่ยวกับวัตถุดิบวิธีทำได้เพราะ ทั้งร้านจะมีแค่ 13 ที่นั่ง เพื่อให้chefดูแลได้ทั่วถึงเพราะเค้าจะค่อยๆ เสิร์ฟทีละเมนูเรียงไปตาม course ที่เราสั่ง และจะคอยอธิบายแต่ละเมนูให้เราเข้าใจ

Bar นี้เวลาสั่งจะมีให้เลือกจะแบ่งเป็น 3 set คือ
1. Ume course : Main dish กับ Beverage ในราคา 300 บาท
2. Take course : Appetizer กับ Main dish ในราคา 350 บาท
4. Matsu course : Appetizer + Main dish และ Beverage ในราคา 400 บาท

มาเริ่มกันที่ Matsu course เมื่อเราเลือกแล้ว chef ก็จะเอา tablet ซึ่งมีเมนูมาให้เลือกโดยจะเปิดทีละรูปและอธิบายทีละชนิดว่าคืออะไรทำจากอะไร

Appitizer เมนูเรียกน้ำย่อย
เราตกลงเลือก BBQ เมนูนี้จะมีกระดาษเช็ดมืออัดเม็ดใส่ถ้วยมาแล้วเค้าจะเทน้ำลงในถ้วยให้มันพองเอาไว้เช็ดมือ เพราะเมนูนี้ต้องใช้มือหยิบกิน
เมนูนี้เลียนแบบ ก้ามปูทาราบะย่าง บนเตาถ่านไม้ไผ่
ที่เห็นเป็นกล้ามปูคือโมเดล อันที่กินได้จริงๆ คือสิ่งนี้ "ถ่านในเตา"
มันคือเมอร์แรงค์ หวานๆกรอบๆที่มีส่วนผสมของ take-sumi หรือผงถ่านไม้ไผ่ญี่ปุ่น แต่ไม่หวานมากกินป่าวๆก็ได้ หรือจะกินคู่กับครีมชีสที่เค้าให้มา 2 ถ้วย ก็ยิ่งดี
สีเทาคือ Chacoal cream chesse (มีส่วนผสมของtake-sumi หรือผงถ่านไม้ไผ่ญี่ปุ่น )
สีชมพูคือ Mix berry cream cheese
อร่อยอ่ะ มันเข้ากันมากตัวครีมชีสคือดีงาม ชอบรสเบอร์รี่มันอมเปรี้ยวกินกับเมอร์แรงค์ที่ออกหวานคือตัดกันดี

มาตัวต่อไป Main dish หรือจานหลักนั่นเอง เราไป 2 คน เลยต้องสั่ง Mainเพิ่มอีก 1 ที่
ตัวแรกเลือก Zen Garden เป็นรสชาติของ
Charcoal และ sesame(งาดำ)
ตกแต่งเป็นสวนหินแบบZen กินได้ทุกอย่างในจาน จานนี้มาพร้อมกับกรานิต้าโกมะ(รสงาดำ)(น้ำแข็งไสสไตล์อิตาเลี่ยน)
ก้อนหินสีดำคือเป็นชีสเค้กงาดำด้านในเป็นชั้นชีสกามองแบร์ (Camembert) และมาสคาโปน (Mascapone) อร่อยเป็นเหมือนชีสเค้กมีความหอมชีส

กรานิต้ารสงาดำ หอมอร่อยเย็นสดชื่นเราไม่ค่อยชอบกินงาดำ แต่พอลองกินละอร่อยเหมาหมดถ้วยเลย มันคล้ายๆไอศครีมปนเกล็ดน้ำแข็งเข้มข้นออกนมๆ หอมงาดำมาก เป็นความหอมที่อร่อย

สีส้มคือเยลลี่ส้มมิกัง ที่เป็นลายทางๆคือชีสครีมชาร์โคล(ผงถ่านไม้ไผ่ญี่ปุ่น) ที่เห็นเป็นหินแผ่นๆใบไม้สีเขียว คือมิโสะคุกกี้ ที่ทำจากมิโสะ(เต้าเจี้ยว)ของญี่ปุ่นกรอบๆรสเค็มๆ ส่วนที่เป็นหินอ่อนคือซอสจากเบอรี่ต่างๆ รสเปรี้ยวๆตัดความเลี่ยนของชีสเค้กได้เข้ากันมาก  ก้อนสีเขียวคือถั่วขาวกวน(shiroan)ผสมมัทฉะ ก้อนกรวดสีดำปั้นจากไว้ท์ช็อกโกแลตผสมราสพ์เบอร์รีและถ่านไม้ไผ่ญี่ปุ่น เม็ดสีดำเล็กๆคือถั่วดำเชื่อมเม็ดอวบ แผ่นส้มๆคือแผ่นมันกรอบๆ

อันนี้เป็นโมจิคลุกงาดำหนึบๆอร่อย
มาที่ Main dish จานต่อไป
Cacao Story นำเสนอเป็นเรื่องราวจุดกำเนิดของช้อกโกแลต เริ่มตั้งแต่การปลูกโกโก้จนเป็นเป็นต้นและได้ผลโกโก้ที่ร่วงหล่นลงมาบนพื้นดินในป่าชุ่มชื้นอันอุดมสมบูรณ์ ในรูปแบบของ Cake chocolate lava และnama chocolate


เมล็ดโกโก้ คือเค้กช็อกโกแลตลาวา เป็นเค้กโกโก้ช็อกโกแลตสอดไส้ครีมเฮเซลนัทพราลีน รสชาติช้อกโกแลตเข้มข้นมาก เหมาะกับ chocolate lovers อย่างยิ่ง
ตอนตัดแบ่งครีมเฮเซลนัทจะไหลเยิ้มๆออกมา
ตรงดินและหญ้าจะเป็นผงเค้กช้อกโกแลตผสมพราลีน กับชาเขียวที่ขูดร่วนๆ ผสมแผ่นเวเฟอร์กรอบๆ และโรยถั่วบดถั่วน่าจะเป็นเฮเซลนัท กลบบนไอศครีมรสช้อกโกแลต นามะช้อกโกแลตเป็นก้อน แล้วก็บราวนี่ช้อกโกแลตก้อน ทั้งหมดเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆพอดีคำ และตบแต่งด้วยต้นอ่อนทานตะวันกินได้ทั้งหมด

ส่วนต้นไม้จะเป็นมิโซะคุ้กกี้ กรอบๆ รสเค็มๆ ด้านเงาต้นไม้จะเป็นซอสช้อกโกแลต

เห็ดที่ขึ้นในป่าดิบชื้น ก็คือเมอร์แรงค์กรอบๆที่รสชาติหวานกำลังดีไม่มากจนบาดคอ

มาถึงอย่างสุดท้ายใน Course คือ Beverage หรือเครื่องดื่ม จะมีให้เลือก 3 อย่าง
1. กาแฟ ชา ร้อนหรือเย็น ถ้าร้อนจะเสิร์ฟเป็นกา รู้สึกจะเป็นชาของ TWG
2. ม็อกเทล เป็นน้ำแร่ผสมsyrupรสพีชสออกชมพูส้มๆสวยงาม
3. fizz โซดามีให้เลือก 2 รส คือผสม syrup ส้ม  yuzu หรือ องุ่น kyoho
เราเลือก Fizz ส้ม Yuzu รสชาติซ่าโซดาและเปรี้ยวมากๆๆๆ แต่หอมมาก เช่นกัน ใช้ตัดกันเลี่ยนขนมหวาน แต่ส่วนตัวคิดว่าชาร้อนน่าจะเวิร์คสุดนะ แต่อยากลองอะไรแปลกๆ เลยเลือกอันนี้

รวมราคาทั้งสิ้น 650 บาท ไม่มี service charge แต่มี vat ที่รวมอยู่ในค่าขนมแล้ว แต่จ่ายไปทั้งสิ้น 250 บาท ส่วนอีก 400 บาทฟรีจาก galaxy gift
สนใจก็ไปลองกันได้ที่ Kyo Bar ตั้งอยู่ที่ชั้น G สยามพารากอน (ฝั่ง North) เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น
นี่คิดว่าถ้ามีโอกาสจะไปลองแบบอื่นๆอีกเพราะอยากกินทุกอันเลย มันสวยมากทุกอัน แต่ติดที่ราคา 555

เป็นอันจบการรีวิว Kyobar แต่เพียงเท่านี้ ถ้าชอบรบกวนกดไลค์ Facebook page รีวิวของกิน และที่เที่ยวของเรากันน้า กินเองเที่ยวเองทั้งในและนอกประเทศ ถ่ายสวยบ้างไม่สวยบ้างเป็นรีวิวแบบบ้านๆ   งบตัวเองล้วนๆ เลยจ้า
https://www.facebook.com/anyeatanytour/
ชื่อสินค้า:   Kyo Bar at Paragon
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่