สามปีที่เวลาผ่านไป และ การเปลี่ยนแปลงย่างก้าวเข้ามา จากน้องใหม่หัวขบถกลายเป็นรุ่นพี่ในรั้วมหาวิทยาลัย และ จากพี่ว้ากที่ดุดันมาดเข้มกลายเป็นน้องใหม่ในที่ทำงาน Welcome to the real world ขอต้อนรับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ด้านหนึ่งก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้า เฮดว้าก ... อย่างที่คนเป็นพี่บอกสิ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และ การก้าวสู่โลกคนทำงาน .... แม้แต่จะเคยเป็นพี่และทำกิจกรรมมาแล้ว .... นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน
สำหรับก้องภพ ... ในตำแหน่งเฮดว้าก มีความแตกต่างจากพี่อาทิตย์ในหลายจุด ลีลาและท่าทางการเข้าถึงตัวน้องนั้น ก็เป็นอย่างที่ก้องภพเป็น ไม่ดุดันน่าเกรงขามแบบพี่อาทิตย์ อ่อนโยนแต่ก็ไม่ใช่ว่าน้องจะก้าวข้ามผ่านมาตรฐานของพี่ก้องโดยง่ายดาย "ชื่อพี่มีตัวอักษร 5 ตัว" กุศโลบายนั้นแยบยลหากก็นุ่มนวล ไม่ใช้การบังคับ แต่ก็ยังมีคนที่มีปัญหาเช่นกัน เป็นต้นว่า เดย์ เดชาวุฒิ
เดย์ หลานรหัสของทิว ในรุ่นก็จะมีซักคนที่เป็นแบบนี้ คนที่เพื่อนจะมองว่าดูแปลก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาผิด สิ่งที่พี่อาทิตย์บอกว่าการเป็น "หัวหน้า" นั้นไม่ง่ายก็คงเป็นเรื่องนี้ แม้ก้องภพจะเป็นคนที่ระงับอารมณ์ได้ดี และมีไหวพริบปฏิภาณในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่หากวัดกันกับ "เดย์" ก็ไม่แน่ว่าใครจะอยู่ใครจะไป คำถามของเดย์เองค่อนข้างเป็นคำถามที่ลึกซึ้ง และ เป็นคำถามที่เพื่อนวัยเดียวกันงุนงงและไม่เข้าใจ
แค่สนุกกัน .... แค่ไปเต้น จะต้องคิดอะไรมาก หากคนอย่างเดย์ต้องการคำตอบมากกว่านั้น ทำไมต้องเต้น ทำไมต้องขอลายเซ็น และ ทำไมต้องทำเช่นนั้นเพื่อคนที่เราไม่ได้อยากรู้จักด้วย คำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบและคำอธิบายที่ชัดแจ้ง เป็นโจทย์อยากอย่างหนึ่ง อาจจะคล้ายกับก้องภพโดนย้อนศรเสียเองแต่ส่วนตัวคิดว่าก็ไม่เชิง เพราะในรุ่นของพี่อาทิตย์นั้น .... การปะทะระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องค่อนข้างรุนแรง เหล่าพี่ว้ากเลือกจะวางตัวค่อนไปในทางที่ดุดันและเข้มงวด ในขณะที่พี่ว้ากในปีของก้องภพดูเข้าถึงและจับต้องได้ง่ายกว่า ก้องภพเข้าใจจุดประสงค์หากท้าทายขนบและธรรมเนียม ว่ามันมีทางอื่นที่ดีกว่านี้หรือไม่ในการที่จะทำความรู้จักกัน หากเวลานั้นมันแฝงไปด้วยการเอาชนะ ก้องภพในเวลานั้นจึงเล่นตามเกมส์เพื่อยั่วโมโหไปด้วย
หากคำถามของเดย์กลายเป็นคำถามเชิงปรัชญา ... ว่าที่เราทำอยู่ทั้งหมดนี่ มีสารัตถะอย่างไรกับชีวิตในมหาวิทยาลัย ขอลายเซ็นแล้ว ... แล้วอย่างไรต่อ เราทำเพื่อต้องการรู้จักเขาอย่างแท้จริง หรือ ทำเพื่อตามกระแสกันไปไม่ให้ตัวเองเดือดร้อน หรือ ทำไปโดยไม่ได้คิดอะไรนอกจากเล่นสนุกเท่านั้น สีหน้าสงสัยของเดย์ดูจริงจังมากกว่าเป็นการกระทำเพื่อต่อต้านสังคม หรือ ต้องการที่จะโดดเด่นเป็นที่สนใจเหมือนที่วัยรุ่นจะเป็น เขากำลังขบคิดถึงความหมาย ขบคิดถึงวัตถุประสงค์ ข้าวฟ่าง ... เด็กน้อยปีหนึ่งบอกว่าเพื่อนคิดเยอะไปรึเปล่า ? แต่ในหัวของเดย์ .... และ เอาเข้าจริงสำหรับคนที่ผ่านชีวิตมาบ้างแล้วจะมีคำถามสวนมาเช่นกันว่า หรือเป็นเธอที่คิดน้อยไป ? ข้อนี้ก็คงต้องดูกันภายหลังว่าคำตอบที่จะออกมาจะทำให้เดย์เข้าใจหรือฉุกคิดขึ้นมาได้อย่างไร
ด้านพี่อาทิตย์ก็กำลังเผชิญโลกความจริงในฐานะ "เด็กใหม่" และกำลังโดนรับน้องอย่างชีวิตจริง ชีวิตจริงที่ไม่ได้มีเพียงการว้าก การตะโกน หรือ การซ่อมวิดพื้น ฯลฯ แต่มันคืองาน คือส่วนได้เสีย คือความเป็นความตายของแผนก ของบริษัท และ ของตัวเองด้วย ... ตอนนี้อาทิตย์คือคนใหม่ที่แปลกแยก วัยทำงานที่จดจ่ออยู่กับภารกิจตรงหน้า ข้อนี้พูดในฐานะคนที่ทำงานแล้ว ..... เข้าใจทั้งพี่อาทิตย์ และ เข้าใจทั้งสภาพในที่ทำงาน คนที่ก้าวเข้ามาใหม่ ใหม่หมาด ๆ จากรั้วมหาวิทยาลัย การเข้าไปทำงานก็เหมือนเริ่มเข้าสู่โลกใบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ความหวั่นไหวไม่แน่ใจมันต้องมี มือไม้ไม่รู้จะวางไว้ที่ไหน วัน ๆ หนึ่งมีงานอะไรต้องทำอะไรบ้าง แล้วยังคนในที่ทำงาน ใครเป็นยังไงไม่รู้เลย ไม่แปลกที่คราบของพี่ว้ากจะถูกสลัดทิ้งไปในจุดนี้ ส่วนคนในที่ทำงาน .... มันคือความเคยชินแล้ว มันคือวัฒนธรรมองค์กร ต่างคนก็ต่างดำเนินชีวิตไปโดยมีงานอยู่ในมือ แรก ๆ มันก็จะอึดอัดเหมือนปลาผิดน้ำ และ แน่นอน .... กาลเวลาผ่านไปก็ยังต้องมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะ
แต่ก็ยังดีอยู่อย่าง ... ในชีวิตการเป็นเฮดและการเป็นคนทำงานแม้มั่นจะลุ่ม ๆ ดอน ๆ หากความสัมพันธ์ ... ระหว่างคนสองคนเรียกได้ว่าแนบแน่นเอาการ บัดนี้ไม่มีอาทิตย์พี่ว้าก ไม่มี 0062 จอมพยศ แต่มีคนที่เข้าใจกันดูแลกันเป็นกำลังใจให้กันและอยู่เคียงข้างกัน ยืนยงถึงขวบปีที่สามก็นับว่ามั่นคงและหวานชื่นไม่เบา การก้าวสู่โลกแห่งความจริง ... ถึงแม้จะมีปัญหาและอุปสรรคเข้ามาบ้าง แต่มันก็ไม่แย่เท่าไหร่นัก เมื่อรู้ว่าการเดินทางแต่ละก้าวจะมีกองหนุนอยู่ข้างหลังเสมอ
"Welcome to the real world", she said to me
Condescendingly
Take a seat
Take your life
ยินดีต้อนรับสูโลกแห่งความเป็นจริงนะ ... ก้องภพ อาทิตย์
Sotus S the Series (กึ่งรีวิว) : Welcome to the real world ... she said to me
สำหรับก้องภพ ... ในตำแหน่งเฮดว้าก มีความแตกต่างจากพี่อาทิตย์ในหลายจุด ลีลาและท่าทางการเข้าถึงตัวน้องนั้น ก็เป็นอย่างที่ก้องภพเป็น ไม่ดุดันน่าเกรงขามแบบพี่อาทิตย์ อ่อนโยนแต่ก็ไม่ใช่ว่าน้องจะก้าวข้ามผ่านมาตรฐานของพี่ก้องโดยง่ายดาย "ชื่อพี่มีตัวอักษร 5 ตัว" กุศโลบายนั้นแยบยลหากก็นุ่มนวล ไม่ใช้การบังคับ แต่ก็ยังมีคนที่มีปัญหาเช่นกัน เป็นต้นว่า เดย์ เดชาวุฒิ
เดย์ หลานรหัสของทิว ในรุ่นก็จะมีซักคนที่เป็นแบบนี้ คนที่เพื่อนจะมองว่าดูแปลก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาผิด สิ่งที่พี่อาทิตย์บอกว่าการเป็น "หัวหน้า" นั้นไม่ง่ายก็คงเป็นเรื่องนี้ แม้ก้องภพจะเป็นคนที่ระงับอารมณ์ได้ดี และมีไหวพริบปฏิภาณในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่หากวัดกันกับ "เดย์" ก็ไม่แน่ว่าใครจะอยู่ใครจะไป คำถามของเดย์เองค่อนข้างเป็นคำถามที่ลึกซึ้ง และ เป็นคำถามที่เพื่อนวัยเดียวกันงุนงงและไม่เข้าใจ
แค่สนุกกัน .... แค่ไปเต้น จะต้องคิดอะไรมาก หากคนอย่างเดย์ต้องการคำตอบมากกว่านั้น ทำไมต้องเต้น ทำไมต้องขอลายเซ็น และ ทำไมต้องทำเช่นนั้นเพื่อคนที่เราไม่ได้อยากรู้จักด้วย คำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบและคำอธิบายที่ชัดแจ้ง เป็นโจทย์อยากอย่างหนึ่ง อาจจะคล้ายกับก้องภพโดนย้อนศรเสียเองแต่ส่วนตัวคิดว่าก็ไม่เชิง เพราะในรุ่นของพี่อาทิตย์นั้น .... การปะทะระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องค่อนข้างรุนแรง เหล่าพี่ว้ากเลือกจะวางตัวค่อนไปในทางที่ดุดันและเข้มงวด ในขณะที่พี่ว้ากในปีของก้องภพดูเข้าถึงและจับต้องได้ง่ายกว่า ก้องภพเข้าใจจุดประสงค์หากท้าทายขนบและธรรมเนียม ว่ามันมีทางอื่นที่ดีกว่านี้หรือไม่ในการที่จะทำความรู้จักกัน หากเวลานั้นมันแฝงไปด้วยการเอาชนะ ก้องภพในเวลานั้นจึงเล่นตามเกมส์เพื่อยั่วโมโหไปด้วย
หากคำถามของเดย์กลายเป็นคำถามเชิงปรัชญา ... ว่าที่เราทำอยู่ทั้งหมดนี่ มีสารัตถะอย่างไรกับชีวิตในมหาวิทยาลัย ขอลายเซ็นแล้ว ... แล้วอย่างไรต่อ เราทำเพื่อต้องการรู้จักเขาอย่างแท้จริง หรือ ทำเพื่อตามกระแสกันไปไม่ให้ตัวเองเดือดร้อน หรือ ทำไปโดยไม่ได้คิดอะไรนอกจากเล่นสนุกเท่านั้น สีหน้าสงสัยของเดย์ดูจริงจังมากกว่าเป็นการกระทำเพื่อต่อต้านสังคม หรือ ต้องการที่จะโดดเด่นเป็นที่สนใจเหมือนที่วัยรุ่นจะเป็น เขากำลังขบคิดถึงความหมาย ขบคิดถึงวัตถุประสงค์ ข้าวฟ่าง ... เด็กน้อยปีหนึ่งบอกว่าเพื่อนคิดเยอะไปรึเปล่า ? แต่ในหัวของเดย์ .... และ เอาเข้าจริงสำหรับคนที่ผ่านชีวิตมาบ้างแล้วจะมีคำถามสวนมาเช่นกันว่า หรือเป็นเธอที่คิดน้อยไป ? ข้อนี้ก็คงต้องดูกันภายหลังว่าคำตอบที่จะออกมาจะทำให้เดย์เข้าใจหรือฉุกคิดขึ้นมาได้อย่างไร
ด้านพี่อาทิตย์ก็กำลังเผชิญโลกความจริงในฐานะ "เด็กใหม่" และกำลังโดนรับน้องอย่างชีวิตจริง ชีวิตจริงที่ไม่ได้มีเพียงการว้าก การตะโกน หรือ การซ่อมวิดพื้น ฯลฯ แต่มันคืองาน คือส่วนได้เสีย คือความเป็นความตายของแผนก ของบริษัท และ ของตัวเองด้วย ... ตอนนี้อาทิตย์คือคนใหม่ที่แปลกแยก วัยทำงานที่จดจ่ออยู่กับภารกิจตรงหน้า ข้อนี้พูดในฐานะคนที่ทำงานแล้ว ..... เข้าใจทั้งพี่อาทิตย์ และ เข้าใจทั้งสภาพในที่ทำงาน คนที่ก้าวเข้ามาใหม่ ใหม่หมาด ๆ จากรั้วมหาวิทยาลัย การเข้าไปทำงานก็เหมือนเริ่มเข้าสู่โลกใบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ความหวั่นไหวไม่แน่ใจมันต้องมี มือไม้ไม่รู้จะวางไว้ที่ไหน วัน ๆ หนึ่งมีงานอะไรต้องทำอะไรบ้าง แล้วยังคนในที่ทำงาน ใครเป็นยังไงไม่รู้เลย ไม่แปลกที่คราบของพี่ว้ากจะถูกสลัดทิ้งไปในจุดนี้ ส่วนคนในที่ทำงาน .... มันคือความเคยชินแล้ว มันคือวัฒนธรรมองค์กร ต่างคนก็ต่างดำเนินชีวิตไปโดยมีงานอยู่ในมือ แรก ๆ มันก็จะอึดอัดเหมือนปลาผิดน้ำ และ แน่นอน .... กาลเวลาผ่านไปก็ยังต้องมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะ
แต่ก็ยังดีอยู่อย่าง ... ในชีวิตการเป็นเฮดและการเป็นคนทำงานแม้มั่นจะลุ่ม ๆ ดอน ๆ หากความสัมพันธ์ ... ระหว่างคนสองคนเรียกได้ว่าแนบแน่นเอาการ บัดนี้ไม่มีอาทิตย์พี่ว้าก ไม่มี 0062 จอมพยศ แต่มีคนที่เข้าใจกันดูแลกันเป็นกำลังใจให้กันและอยู่เคียงข้างกัน ยืนยงถึงขวบปีที่สามก็นับว่ามั่นคงและหวานชื่นไม่เบา การก้าวสู่โลกแห่งความจริง ... ถึงแม้จะมีปัญหาและอุปสรรคเข้ามาบ้าง แต่มันก็ไม่แย่เท่าไหร่นัก เมื่อรู้ว่าการเดินทางแต่ละก้าวจะมีกองหนุนอยู่ข้างหลังเสมอ
Condescendingly
Take a seat
Take your life