Leh - Ladakh เชื่อว่าหลายๆคนคงได้ยินกันมาบ่อยแล้ว แต่จอยก็ยังอยาก review ยังอยากให้ชมภาพกันอี๊กกกกก ก็จอยเพิ่งไปมาครั้งแรกนี่ค่ะ อิอิ
เริ่มต้นแนะนำตัวกันก่อนน่ะค่ะ ชื่อ จอย หรือบางคนก็เรียกนู๋จอย ค่ะ จริงๆ ถ่ายภาพมาสักระยะล่ะ จะ 3 ปีได้ แต่นี่ก็ยังเป็นกระทู้แรกใน pantip
จริงๆจอย ไม่ค่อยจริงจังกะการถ่ายรูปหรอก แต่ออกทริปทีเหมือนยกบ้านไปโด้ยยยยย ก็แค่นั้นนนน ><" จอยใช้ nikon D750 น่ะค่ะ ทริปนี้ก็ใช้เลนส์หลักๆคือ normal+tele ปีนึงก็ไม่ได้เที่ยวมากมายอะไร เที่ยวต่างประเทศแค่ปีละครั้งเอง(เสียงสูงงงงงง) ก็วันลามันมีน้อย ใช้สอยต้องประหยัด (มนุษย์ office ค่ะ ) แต่สำหรับเที่ยวในไทยน้านนนนน อย่าไปนับเนอะ 5555 เอาละๆเข้าเรื่องๆ
.
สำหรับทริป Leh - Ladakh ของจอย ตั้งใจนานมากกกก อุตสาห์เผื่อวันลา ทั้งๆที่ปกติใช้หมดเกลี้ยงตั้งแต่ต้นปี คือ Leh เราก็เคยดูรูปคนอื่นๆโนะ คือสวยมากกกกกกก คือตั้งใจว่าครั้งนึงในชีวิต ต้องไปให้ได้ เป็นตายร้ายดี ช้านต้องไปว่ะ+++ และแล้วฟ้าก็ประทานพร รุ่นพี่ชวนไปเลห์ อีนี่รอไรล่ะค่ะ ตอบตกลง ซิ!!!!
ทริปเลห์ของจอยก็เดือนตุลาคมที่ผ่านมานี่เองค่ะ ไปทั้งหมด 9 วัน อ๋อ ลืมบอก จอยไปเป็นช่วง Autumn น่ะค่ะ ใบไม้เปลี่ยนสีน่ะค๊าาาา และที่ทราบกันดีว่า อากาศค่อนข้างหนาว ต่ำสุด - 2 ถึง -5 เลยค่ะ ดังนั้นเสื้อผ้าต้องเตรียมให้พร้อมน่ะค่ะ เงินทอง อุปกรณ์กล้องต่างๆ และยารักษาตัวเนอะ ใจอ่ะไม่ต้องเตรียม พร้อมเสมอๆ จากนั้นก็ลุยโลดดดดดด
ตารางการเดินทางก็ประมาณนี้น่ะ
วันแรก - Arrive at Leh
วันที่ 2 Leh
วันที่ 3 Leh-Nubra
วันที่ 4 Nubra-Pangong Tso
วันที่ 5 Pangong - Leh
วันที่ 6 Leh - Moriri Tso
วันที่ 7 Moriri Tso-Gar-Tso-Leh
วันที่ 8 Leh -Lamayaru
วันที่ 9 Leh - Delhi End of trip
แต่ถ้าจะถามว่าเดินทางยังไง จอยว่าคนอื่นๆน่าจะเขียนไว้เยอะแล้วน่ะ หาเองตาม google or pantip ท่านอื่นๆ เอาเองน๊าาาาาาค่ะ สำหรับจอยขอเน้นภาพถ่ายละกัน
ถ้าใครยังไม่เคยเห็นแผนที่ Leh ก็ประมาณนี้น่ะค่ะ
อ่ะๆ รำมาเยอะแล้ว ไปดูรูปกันดีกว่าเนอะ
เริ่มแรก มาเลห์ เราก็ต้องนั่งซ้ายน่ะค่ะ วิวดีงามค่ะ
จอยมาถึงเลห์ตอนเช้าตรู่ เย็นหนักมากกกกก ทั้งลม ทั้งความกดอากาศที่ต่ำ แนะนำว่าควรกินยาป้องกันการแพ้ความสูงมาก่อนน่ะค่ะ สัก 1-2 วัน แล้วตอนอยู่ทีนี่ก็ให้กินทุกวัน เพราะอากาศที่นี่ไม่เหมือนเมืองไทยน่ะ อย่าซ่าๆ วันแรกที่มา ก็ให้พักร่างก่อน นอนให้เต็มที่กินอะไรให้อิ่ม และเที่ยวในตัวเมืองเลห์ก่อนน่ะค่ะ ร่างกายเราจะได้ปรับตัวกับอากาศสูงได้
แค่วิวในตัวเมืองใกล้ๆเลห์ก็เว่อวัง งามอลังการงานสร้างแล้วค่ะ
งามมมมป่ะค่ะ อิอิ เล่าประวัติเลห์คร่าวๆก่อนน่ะค่ะ อันนี้จอยก็อ่านมาจาก google อีกทีน่ะค่ะ ผิดถูกประการใด ต้องขอโทษด้วย เค้าเชื่อกันว่า Leh เกิดจากลามะ ท่านหนึ่งชื่อว่า Dha Chomb Nomegung ท่านเดินทางมาจากดินแดนอันไกลโพ้นชื่อว่า Kashmir ซึ่งในปัจจุบันคือทางตอนเหนือของเลห์น่ะค่ะ พอมาถึงเลห์ ท่านเลยตั้งจิตอฐิษฐาน ขอให้พื้นที่ตรงนี้ เป็นดินแดนที่เหมาะให้ผู้คนอาศัยอยู่ได้ จากนั้นแม่น้ำที่เคยไหลเชียวกรากกกก ก็แยกเป็น 2 ส่วน และบางพื้นที่ก็เป็นที่ลุ่ม เป็นภูเขา และแบ่งแยกผู้คนของที่นี่ออกเป็น 3 ชนชั้นได้แก่ Nam, Brokpa และ Tibatans
บางคนก็อาจเรียกที่นี่ว่าทิเบตน้อยน่ะค่ะ
ลามะตัวน้อยๆ น่ารักมากๆค่ะ ที่เลห์น่ะ ถ้าบวชเป็นลามะ ก็ต้องบวชไปตลอดชีวิตน่ะ ห้ามสึกเด็ดขาด และก็เป็นความสมัครใจของเด็กน่ะ พ่อแม่ไม่ได้บังคับหรอกค่ะ ลามะสามารถดำเนินชีวิตได้เหมือนคนปกติ แค่ห้ามมีครอบครัวหรือแตะต้องตัวสตรีน่ะค่ะ แต่หากเกิดสึกกลางคัน เท่าที่จอยฟังไกด์มาก็โดนสังคมประณามอยู่น่ะ
วัดที่นี้มีเยอะมากกกก ที่คนรู้จักกันเยอะหน่อยก็คงเป็น Thiksey Temple กับ Hemis Temple ซึ่งวัดหลังนี่จะมีเทศกาลระบำหน้ากาก ด้วยค่ะ ทุกปีราวๆเดือน ก.ค.น่ะค่ะ ซึงจอยก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเหมือนกัน
เห็นรถคันเล็กๆมั้ยค่ะ เวลาไปเที่ยวธรรมชาติ ความยิ่งใหญ่ของมันนี่แหละค่ะ ที่ทำให้จอยชอบมากที่สุด
ที่นี่ไม่ได้มีแค่ใบไม้เปลี่ยนสีน่ะค่ะ วิวภูเขา สัตว์น้อยใหญ่แปลกตาก็เยอะค่ะ
ผู้ชายชื่ออูฐน่ะจ๊ะนายจ้า อูฐที่ Hunder Sanddune ตั้งอยู๋ที่ Nubra ค่ะ
รูปนี้พี่อูฐ เหนื่อยค่ะ ^^
ตัวนี้ชื่อ dongkey ค่ะ เอาง่ายๆ ก็เจ้าลา ของคนไทยนี่หล่ะ ลักษณะเหมือนม้าทุกอย่าง โดยรวมน่ะ แค่ตัวเล็กกว่า
วิวบริเวณเส้นทางไป Nubra valley ค่ะ
จาก Nubra มา Pangkong lake หรือ Tso Pangkong (TSO คือทะเลสาปหรือแม่น้ำ) กันบ้าง แม่น้ำหรือทะเลที่สวยใสราวกระจก ส่วนหนึ่ง 70% อยู่ที่จีน เหลืออีก 30% ตั้งอยู่ที่พื้นที่ของประเทศอินเดีย การเดินทางสามารถเดินทางจาก Leh-Pangkong หรือ Nubra มา Pangkong ก็ได้ค่ะ
และนอกจาก Pangkong Lake ยังมีอีก Lake นึงที่สวยงามไม่แพ้กันน่ะค่ะ ถ้าถามคนท้องถิ่นเค้าจะบอกว่า Tso moriri สวยกว่า Pangkong น่ะ แต่จอยว่าก็แล้วแต่คนชอบบบบ สำหรับจอย Pangkong สวยแบบโรแมนติก ละมุนๆ ส่วน Tso moriri จะสวยหวานๆ โดยTso moriri จะเล็กกว่า Pangkong น่ะค่ะแต่วิวข้างทางสวยมากกกกกกกก ไม่เชื่อไปชมกันค่ะ
ระหว่างทางไป Tso moriri ค่ะ
ม้าเหมือนในเทพนิยายเลยเนอะ ถ้ามีเจ้าชายด้วย คือใช่!!!
มาพูดถึงผู้คนและอาหารการกินบ้างเนอะ
อาหารที่นี่ ก็คืออาหารอินเดียนั่นแหละค่ะ มีนานมีแกง บางคนกินได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็แล้วแต่รสชาดถูกปากใครเนอะ อาหารไม่ได้ลำบาก หากินง่าย มีให้เลือกเยอะ ผลไม้นี่ก็ราคาโคตรถูก
พ่อค้าแซ่บ ที่ตลาด Main Square
เด็กๆอิสลาม หน้าตาน่าร๊ากกกกก
ถ้าคุณคิดว่าเพราะ Leh - Ladakh เป็นส่วนหนึ่งของอินเดีย แล้วผู้คนจะหน้าตาเหมือนอินเดีย คือผิดค่ะ
เพราะคนที่นี่แนวๆแขกขาว อาจมีเชื้อสายมาจากพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ทีมาขยายพื้นที่ทางแถบอินเดียเหนือน่ะ หรือไม่บางส่วนก็มีเชื้อสาย Tibatan หน้าตาก็ออกแนวตี๋อินเตอร์นิดๆ ผู้คนใจดีค่ะ เด็กๆน่ารัก หนุ่มๆก็หล่อ ถูกใจจอยยิ่งนัก 5555
อ่ะๆ กลับๆมา หยุดเพ้อ มาดูวิวกันต่อเนอะ
วิวข้างทางไป Lamuyuru ค่ะ
ลามะน้อยที่นี่ก็มี ขี้เล่นมากๆ
วิวใบไม้เปลี่ยนสีก็มีให้เห็นตลอดๆค่ะ
ณ จุดนี้ เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติน่ะค่ะ จะเป็นพื้นที่ๆ แม่น้ำ 2 สายตัดกัน เห็นม่ะๆ มีฟ้าเข็ม กะฟ้าเทอควอยส์ตัดกัน ด้านบนคือส่วนคือ zanskar river ซึ่งไหลมาจากดินแดนตอนเหนือ แถบแคชเมียร์ ไหลมารวมกับ แม่น้ำสินธุ ซึ่งมาจากอินเดียตอนกลาง
มา ถึงตอนนี้ เบื่อจอยโม้ยังค่ะ 555 เบื่อรูปวิวแล้วป่าวๆ รูปคนจอยก็มีน่ะๆ มาๆ
เจ้าหญิงหิม่ะ ถ่ายที่ Chanla pass ค่ะ
ระหว่างทางจาก Gar lake กลับมา Leh ค่ะ
ส่วนหนุ่มน้อยคนนี้ชื่อ Lucky driver & my guide ค่ะ เค้าพูดภาษาไทยได้ ฟังไทยได้นิดหน่อย แต่ถ้า Eng คือนางคุยป้อ เก่งกว่าจอยอีกค่ะ 5555
เอาล่ะ โม้ยาวมากกก หิวข้าวแล้วด้วย 555 ถ้าใครมีโอกาสมีวันว่าง อยากให้ไปน่ะค่ะ คือทีนี่สวยมากกก สวยจริงๆค่ะ อยากให้ไปน่ะๆ เจอคนทีนี้คำแรกเลย Julley รับรองคนที่นี่ยิ้มให้แน่นอน เพราะใช้ได้หมดจิแปลว่าสวัสดีตอนเช้า ตอนบ่าย ตอนเย็นหรือ ขอบคุณค่ะ คือใช้ได้โม้ดดดดดด อิอิ
รูปในนี้มีแค่บางส่วนน่ะค่ะ ถ้าให้จอยโม้หมด จอยคงเขียนกันเมื่อยอ่ะ ติดตามรูปและพูดคุยกะจอยได้น่ะค่ะที่นี่เลย
https://www.facebook.com/kanyapak.katsang
ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบน่ะคะ ทุกคน
ปล. *** แต่ถ้าใครอยากถามเกี่ยวกะทริปเลห์ ก็ถามไกด์ Lucky โดยตรงก็ได้น่ะค่ะ >>>
https://www.facebook.com/jigmat.norphel?fref=ts หรือ Line id : luckyladakh
Leh- Dadakh สวยเหมือนอยู่ในฝัน บนโลเกชั่นที่มีอยู่จริง
เริ่มต้นแนะนำตัวกันก่อนน่ะค่ะ ชื่อ จอย หรือบางคนก็เรียกนู๋จอย ค่ะ จริงๆ ถ่ายภาพมาสักระยะล่ะ จะ 3 ปีได้ แต่นี่ก็ยังเป็นกระทู้แรกใน pantip
จริงๆจอย ไม่ค่อยจริงจังกะการถ่ายรูปหรอก แต่ออกทริปทีเหมือนยกบ้านไปโด้ยยยยย ก็แค่นั้นนนน ><" จอยใช้ nikon D750 น่ะค่ะ ทริปนี้ก็ใช้เลนส์หลักๆคือ normal+tele ปีนึงก็ไม่ได้เที่ยวมากมายอะไร เที่ยวต่างประเทศแค่ปีละครั้งเอง(เสียงสูงงงงงง) ก็วันลามันมีน้อย ใช้สอยต้องประหยัด (มนุษย์ office ค่ะ ) แต่สำหรับเที่ยวในไทยน้านนนนน อย่าไปนับเนอะ 5555 เอาละๆเข้าเรื่องๆ
.
สำหรับทริป Leh - Ladakh ของจอย ตั้งใจนานมากกกก อุตสาห์เผื่อวันลา ทั้งๆที่ปกติใช้หมดเกลี้ยงตั้งแต่ต้นปี คือ Leh เราก็เคยดูรูปคนอื่นๆโนะ คือสวยมากกกกกกก คือตั้งใจว่าครั้งนึงในชีวิต ต้องไปให้ได้ เป็นตายร้ายดี ช้านต้องไปว่ะ+++ และแล้วฟ้าก็ประทานพร รุ่นพี่ชวนไปเลห์ อีนี่รอไรล่ะค่ะ ตอบตกลง ซิ!!!!
ทริปเลห์ของจอยก็เดือนตุลาคมที่ผ่านมานี่เองค่ะ ไปทั้งหมด 9 วัน อ๋อ ลืมบอก จอยไปเป็นช่วง Autumn น่ะค่ะ ใบไม้เปลี่ยนสีน่ะค๊าาาา และที่ทราบกันดีว่า อากาศค่อนข้างหนาว ต่ำสุด - 2 ถึง -5 เลยค่ะ ดังนั้นเสื้อผ้าต้องเตรียมให้พร้อมน่ะค่ะ เงินทอง อุปกรณ์กล้องต่างๆ และยารักษาตัวเนอะ ใจอ่ะไม่ต้องเตรียม พร้อมเสมอๆ จากนั้นก็ลุยโลดดดดดด
ตารางการเดินทางก็ประมาณนี้น่ะ
วันแรก - Arrive at Leh
วันที่ 2 Leh
วันที่ 3 Leh-Nubra
วันที่ 4 Nubra-Pangong Tso
วันที่ 5 Pangong - Leh
วันที่ 6 Leh - Moriri Tso
วันที่ 7 Moriri Tso-Gar-Tso-Leh
วันที่ 8 Leh -Lamayaru
วันที่ 9 Leh - Delhi End of trip
แต่ถ้าจะถามว่าเดินทางยังไง จอยว่าคนอื่นๆน่าจะเขียนไว้เยอะแล้วน่ะ หาเองตาม google or pantip ท่านอื่นๆ เอาเองน๊าาาาาาค่ะ สำหรับจอยขอเน้นภาพถ่ายละกัน
ถ้าใครยังไม่เคยเห็นแผนที่ Leh ก็ประมาณนี้น่ะค่ะ
อ่ะๆ รำมาเยอะแล้ว ไปดูรูปกันดีกว่าเนอะ
เริ่มแรก มาเลห์ เราก็ต้องนั่งซ้ายน่ะค่ะ วิวดีงามค่ะ
จอยมาถึงเลห์ตอนเช้าตรู่ เย็นหนักมากกกกก ทั้งลม ทั้งความกดอากาศที่ต่ำ แนะนำว่าควรกินยาป้องกันการแพ้ความสูงมาก่อนน่ะค่ะ สัก 1-2 วัน แล้วตอนอยู่ทีนี่ก็ให้กินทุกวัน เพราะอากาศที่นี่ไม่เหมือนเมืองไทยน่ะ อย่าซ่าๆ วันแรกที่มา ก็ให้พักร่างก่อน นอนให้เต็มที่กินอะไรให้อิ่ม และเที่ยวในตัวเมืองเลห์ก่อนน่ะค่ะ ร่างกายเราจะได้ปรับตัวกับอากาศสูงได้
แค่วิวในตัวเมืองใกล้ๆเลห์ก็เว่อวัง งามอลังการงานสร้างแล้วค่ะ
งามมมมป่ะค่ะ อิอิ เล่าประวัติเลห์คร่าวๆก่อนน่ะค่ะ อันนี้จอยก็อ่านมาจาก google อีกทีน่ะค่ะ ผิดถูกประการใด ต้องขอโทษด้วย เค้าเชื่อกันว่า Leh เกิดจากลามะ ท่านหนึ่งชื่อว่า Dha Chomb Nomegung ท่านเดินทางมาจากดินแดนอันไกลโพ้นชื่อว่า Kashmir ซึ่งในปัจจุบันคือทางตอนเหนือของเลห์น่ะค่ะ พอมาถึงเลห์ ท่านเลยตั้งจิตอฐิษฐาน ขอให้พื้นที่ตรงนี้ เป็นดินแดนที่เหมาะให้ผู้คนอาศัยอยู่ได้ จากนั้นแม่น้ำที่เคยไหลเชียวกรากกกก ก็แยกเป็น 2 ส่วน และบางพื้นที่ก็เป็นที่ลุ่ม เป็นภูเขา และแบ่งแยกผู้คนของที่นี่ออกเป็น 3 ชนชั้นได้แก่ Nam, Brokpa และ Tibatans
บางคนก็อาจเรียกที่นี่ว่าทิเบตน้อยน่ะค่ะ
ลามะตัวน้อยๆ น่ารักมากๆค่ะ ที่เลห์น่ะ ถ้าบวชเป็นลามะ ก็ต้องบวชไปตลอดชีวิตน่ะ ห้ามสึกเด็ดขาด และก็เป็นความสมัครใจของเด็กน่ะ พ่อแม่ไม่ได้บังคับหรอกค่ะ ลามะสามารถดำเนินชีวิตได้เหมือนคนปกติ แค่ห้ามมีครอบครัวหรือแตะต้องตัวสตรีน่ะค่ะ แต่หากเกิดสึกกลางคัน เท่าที่จอยฟังไกด์มาก็โดนสังคมประณามอยู่น่ะ
วัดที่นี้มีเยอะมากกกก ที่คนรู้จักกันเยอะหน่อยก็คงเป็น Thiksey Temple กับ Hemis Temple ซึ่งวัดหลังนี่จะมีเทศกาลระบำหน้ากาก ด้วยค่ะ ทุกปีราวๆเดือน ก.ค.น่ะค่ะ ซึงจอยก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเหมือนกัน
เห็นรถคันเล็กๆมั้ยค่ะ เวลาไปเที่ยวธรรมชาติ ความยิ่งใหญ่ของมันนี่แหละค่ะ ที่ทำให้จอยชอบมากที่สุด
ที่นี่ไม่ได้มีแค่ใบไม้เปลี่ยนสีน่ะค่ะ วิวภูเขา สัตว์น้อยใหญ่แปลกตาก็เยอะค่ะ
ผู้ชายชื่ออูฐน่ะจ๊ะนายจ้า อูฐที่ Hunder Sanddune ตั้งอยู๋ที่ Nubra ค่ะ
รูปนี้พี่อูฐ เหนื่อยค่ะ ^^
ตัวนี้ชื่อ dongkey ค่ะ เอาง่ายๆ ก็เจ้าลา ของคนไทยนี่หล่ะ ลักษณะเหมือนม้าทุกอย่าง โดยรวมน่ะ แค่ตัวเล็กกว่า
วิวบริเวณเส้นทางไป Nubra valley ค่ะ
จาก Nubra มา Pangkong lake หรือ Tso Pangkong (TSO คือทะเลสาปหรือแม่น้ำ) กันบ้าง แม่น้ำหรือทะเลที่สวยใสราวกระจก ส่วนหนึ่ง 70% อยู่ที่จีน เหลืออีก 30% ตั้งอยู่ที่พื้นที่ของประเทศอินเดีย การเดินทางสามารถเดินทางจาก Leh-Pangkong หรือ Nubra มา Pangkong ก็ได้ค่ะ
และนอกจาก Pangkong Lake ยังมีอีก Lake นึงที่สวยงามไม่แพ้กันน่ะค่ะ ถ้าถามคนท้องถิ่นเค้าจะบอกว่า Tso moriri สวยกว่า Pangkong น่ะ แต่จอยว่าก็แล้วแต่คนชอบบบบ สำหรับจอย Pangkong สวยแบบโรแมนติก ละมุนๆ ส่วน Tso moriri จะสวยหวานๆ โดยTso moriri จะเล็กกว่า Pangkong น่ะค่ะแต่วิวข้างทางสวยมากกกกกกกก ไม่เชื่อไปชมกันค่ะ
ระหว่างทางไป Tso moriri ค่ะ
ม้าเหมือนในเทพนิยายเลยเนอะ ถ้ามีเจ้าชายด้วย คือใช่!!!
มาพูดถึงผู้คนและอาหารการกินบ้างเนอะ
อาหารที่นี่ ก็คืออาหารอินเดียนั่นแหละค่ะ มีนานมีแกง บางคนกินได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็แล้วแต่รสชาดถูกปากใครเนอะ อาหารไม่ได้ลำบาก หากินง่าย มีให้เลือกเยอะ ผลไม้นี่ก็ราคาโคตรถูก
พ่อค้าแซ่บ ที่ตลาด Main Square
เด็กๆอิสลาม หน้าตาน่าร๊ากกกกก
ถ้าคุณคิดว่าเพราะ Leh - Ladakh เป็นส่วนหนึ่งของอินเดีย แล้วผู้คนจะหน้าตาเหมือนอินเดีย คือผิดค่ะ เพราะคนที่นี่แนวๆแขกขาว อาจมีเชื้อสายมาจากพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ทีมาขยายพื้นที่ทางแถบอินเดียเหนือน่ะ หรือไม่บางส่วนก็มีเชื้อสาย Tibatan หน้าตาก็ออกแนวตี๋อินเตอร์นิดๆ ผู้คนใจดีค่ะ เด็กๆน่ารัก หนุ่มๆก็หล่อ ถูกใจจอยยิ่งนัก 5555
อ่ะๆ กลับๆมา หยุดเพ้อ มาดูวิวกันต่อเนอะ
วิวข้างทางไป Lamuyuru ค่ะ
ลามะน้อยที่นี่ก็มี ขี้เล่นมากๆ
วิวใบไม้เปลี่ยนสีก็มีให้เห็นตลอดๆค่ะ
ณ จุดนี้ เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติน่ะค่ะ จะเป็นพื้นที่ๆ แม่น้ำ 2 สายตัดกัน เห็นม่ะๆ มีฟ้าเข็ม กะฟ้าเทอควอยส์ตัดกัน ด้านบนคือส่วนคือ zanskar river ซึ่งไหลมาจากดินแดนตอนเหนือ แถบแคชเมียร์ ไหลมารวมกับ แม่น้ำสินธุ ซึ่งมาจากอินเดียตอนกลาง
มา ถึงตอนนี้ เบื่อจอยโม้ยังค่ะ 555 เบื่อรูปวิวแล้วป่าวๆ รูปคนจอยก็มีน่ะๆ มาๆ
เจ้าหญิงหิม่ะ ถ่ายที่ Chanla pass ค่ะ
ระหว่างทางจาก Gar lake กลับมา Leh ค่ะ
ส่วนหนุ่มน้อยคนนี้ชื่อ Lucky driver & my guide ค่ะ เค้าพูดภาษาไทยได้ ฟังไทยได้นิดหน่อย แต่ถ้า Eng คือนางคุยป้อ เก่งกว่าจอยอีกค่ะ 5555
เอาล่ะ โม้ยาวมากกก หิวข้าวแล้วด้วย 555 ถ้าใครมีโอกาสมีวันว่าง อยากให้ไปน่ะค่ะ คือทีนี่สวยมากกก สวยจริงๆค่ะ อยากให้ไปน่ะๆ เจอคนทีนี้คำแรกเลย Julley รับรองคนที่นี่ยิ้มให้แน่นอน เพราะใช้ได้หมดจิแปลว่าสวัสดีตอนเช้า ตอนบ่าย ตอนเย็นหรือ ขอบคุณค่ะ คือใช้ได้โม้ดดดดดด อิอิ
รูปในนี้มีแค่บางส่วนน่ะค่ะ ถ้าให้จอยโม้หมด จอยคงเขียนกันเมื่อยอ่ะ ติดตามรูปและพูดคุยกะจอยได้น่ะค่ะที่นี่เลย
https://www.facebook.com/kanyapak.katsang
ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบน่ะคะ ทุกคน
ปล. *** แต่ถ้าใครอยากถามเกี่ยวกะทริปเลห์ ก็ถามไกด์ Lucky โดยตรงก็ได้น่ะค่ะ >>>
https://www.facebook.com/jigmat.norphel?fref=ts หรือ Line id : luckyladakh