ตอนที่ขับรถเข้าไปจากปากทางจะเข้าวัด ด้านขวามือมีสุสานของศาสนาพุทธ และติดๆกันเป็นสุสานของศาสนาคริสต์ แค่เห็นก็รู้สึกเย็นยะเยือก ดีที่เป็นตอนกลางวัน ถ้าเป็นตอนกลางคืนจะจับไข้หัวโกร๋นไหมหนอ ...มิน่าล่ะ.. ชื่อวัดถึงมีคำว่า "วิเวก" ... นั่น..คิดฟุ้งซ่านเพ้อเจ้อเรื่อยไป
พอขับรถเข้าเขตวัด มีรั้วล้อมรอบเห็นชัดเจน มีต้นไม้ค่อนข้างทึบ ถนนทางเข้ากว้างขวางขนาดให้รถสวนกันได้ แวะจอดถามอุบาสกในชุดขาวที่กำลังตั้งใจกวาดใบไม้อย่างขะมักเขม้น "จะใช้เส้นทางไหนดี"
อุบาสกท่านนั้นตอบว่า "ถ้ามาไหว้พระก็ตรงไป ถ้ามาปฏิบัติธรรมให้เลี้ยวซ้าย มีอาคารของผู้ชาย และอาคารของผู้หญิง" ตอนหลังแอบสังเกตว่า ถนนสายเล็กที่แยกไปทางขวามุ่งไปสู่เขตสังฆาวาส ...อ๋อ.. เป็นอย่างนี้นี่เอง
ขับรถเข้าไปตามถนนสายหลัก ตั้งใจไปไหว้พระ อยู่ๆก็เกิดความรู้สึกสงบเย็นอย่างประหลาด ความขุ่นเคืองใจที่เคยมีก่อนหน้าหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ เห็นมีวิหารโดดเด่นอยู่หลังเดียว ...เอ๊ะ.. วัดนี้ยังไงกันเนี่ย ทำไมไม่สร้างอาคารหรือรูปปั้นให้ดูอลังการ... เหลียวไปรอบๆ เห็นเจดีย์อยู่ทางโน้น มีโรงอาหารอยู่ทางนั้น ห้องน้ำอยู่ทางโน้น มีอาคารห้องสมุด และที่แปลกตาคือ มีอาคารฉันน้ำร้อนด้วย เห็นพระและเณรกำลังต้มน้ำร้อนใส่กระติกอยู่ 3 รูป เตาที่ใช้ก่อไฟคล้ายเตาผิงของประเทศตะวันตก
ขณะรอจะเดินขึ้นวิหาร เห็นมีพระกำลังกวาดใบไม้อย่างเอาจริงเอาจังให้พ้นทางเดินไปรวมไว้ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ มิน่าล่ะ ถนนถึงได้สะอาดเอี่ยมอ่องจริงๆ "การกวาดใบไม้ คือ การปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง" พอนึกได้อย่างนี้แล้ว ก็มองหาไม้กวาดทางมะพร้าว บังเอิ๊ญญ..มีอยู่อันหนึ่งวางพิงกำแพงอยู่ มองดูรอบๆบริเวณนั้นเห็นใบไม้ร่วงอยู่เต็มพื้น ในใจนั้นเหมือนมีไฟลุกพลุ่งพล่านอยากกวาดใบไม้เหลือเกิน อยากปฏิบัติธรรมบ้าง มาถึงวัดนี้แล้วได้ปฏิบัติธรรมด้วย..ดีจังเลย.. ตัดสินใจหยิบไม้กวาดมากวาดจนแล้วเสร็จ
เดินขึ้นไปบนวิหาร พบครอบครัวดาราชื่อดังกำลังสนทนาธรรมกับพระสงฆ์รูปหนึ่ง ได้ยินว่าวัดนี้ดาราชอบมามาก กราบพระแล้ว
รับของขวัญปีใหม่ คือ ปฏิทินรูปหลวงพ่อเปลี่ยน ปัญญาปทีโป ขณะนี้ท่านอาพาธ กำลังรักษาตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ
วัดอรัญญวิเวกนี้ ตั้งอยู่ที่บ้านปง ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เดิมเป็นสำนักสงฆ์เก่าแก่ตั้งแต่อดีตกาล โดยหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ ตั้งชื่อว่า "สำนักสงฆ์อรัญญวิเวก" มีพระสงฆ์มาจำพรรษาหลายท่าน ต่อมาหลวงพ่อเปลี่ยน ปัญญาปทีโป ได้ธุดงค์มาพักอยู่องค์เดียว ตั้งแต่ปี พ.ศ.2509 จนถึงปัจจุบัน และมีพระสงฆ์และเณรมาจำพรรษามากขึ้น รวมถึงมีอุบาสก อุบาสิกา เข้ามาปฏิบัติธรรมจำนวนมาก
กวาดใบไม้ที่วัดอรัญญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
พอขับรถเข้าเขตวัด มีรั้วล้อมรอบเห็นชัดเจน มีต้นไม้ค่อนข้างทึบ ถนนทางเข้ากว้างขวางขนาดให้รถสวนกันได้ แวะจอดถามอุบาสกในชุดขาวที่กำลังตั้งใจกวาดใบไม้อย่างขะมักเขม้น "จะใช้เส้นทางไหนดี"
อุบาสกท่านนั้นตอบว่า "ถ้ามาไหว้พระก็ตรงไป ถ้ามาปฏิบัติธรรมให้เลี้ยวซ้าย มีอาคารของผู้ชาย และอาคารของผู้หญิง" ตอนหลังแอบสังเกตว่า ถนนสายเล็กที่แยกไปทางขวามุ่งไปสู่เขตสังฆาวาส ...อ๋อ.. เป็นอย่างนี้นี่เอง
ขับรถเข้าไปตามถนนสายหลัก ตั้งใจไปไหว้พระ อยู่ๆก็เกิดความรู้สึกสงบเย็นอย่างประหลาด ความขุ่นเคืองใจที่เคยมีก่อนหน้าหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ เห็นมีวิหารโดดเด่นอยู่หลังเดียว ...เอ๊ะ.. วัดนี้ยังไงกันเนี่ย ทำไมไม่สร้างอาคารหรือรูปปั้นให้ดูอลังการ... เหลียวไปรอบๆ เห็นเจดีย์อยู่ทางโน้น มีโรงอาหารอยู่ทางนั้น ห้องน้ำอยู่ทางโน้น มีอาคารห้องสมุด และที่แปลกตาคือ มีอาคารฉันน้ำร้อนด้วย เห็นพระและเณรกำลังต้มน้ำร้อนใส่กระติกอยู่ 3 รูป เตาที่ใช้ก่อไฟคล้ายเตาผิงของประเทศตะวันตก
ขณะรอจะเดินขึ้นวิหาร เห็นมีพระกำลังกวาดใบไม้อย่างเอาจริงเอาจังให้พ้นทางเดินไปรวมไว้ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ มิน่าล่ะ ถนนถึงได้สะอาดเอี่ยมอ่องจริงๆ "การกวาดใบไม้ คือ การปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง" พอนึกได้อย่างนี้แล้ว ก็มองหาไม้กวาดทางมะพร้าว บังเอิ๊ญญ..มีอยู่อันหนึ่งวางพิงกำแพงอยู่ มองดูรอบๆบริเวณนั้นเห็นใบไม้ร่วงอยู่เต็มพื้น ในใจนั้นเหมือนมีไฟลุกพลุ่งพล่านอยากกวาดใบไม้เหลือเกิน อยากปฏิบัติธรรมบ้าง มาถึงวัดนี้แล้วได้ปฏิบัติธรรมด้วย..ดีจังเลย.. ตัดสินใจหยิบไม้กวาดมากวาดจนแล้วเสร็จ
เดินขึ้นไปบนวิหาร พบครอบครัวดาราชื่อดังกำลังสนทนาธรรมกับพระสงฆ์รูปหนึ่ง ได้ยินว่าวัดนี้ดาราชอบมามาก กราบพระแล้วรับของขวัญปีใหม่ คือ ปฏิทินรูปหลวงพ่อเปลี่ยน ปัญญาปทีโป ขณะนี้ท่านอาพาธ กำลังรักษาตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ
วัดอรัญญวิเวกนี้ ตั้งอยู่ที่บ้านปง ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เดิมเป็นสำนักสงฆ์เก่าแก่ตั้งแต่อดีตกาล โดยหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ ตั้งชื่อว่า "สำนักสงฆ์อรัญญวิเวก" มีพระสงฆ์มาจำพรรษาหลายท่าน ต่อมาหลวงพ่อเปลี่ยน ปัญญาปทีโป ได้ธุดงค์มาพักอยู่องค์เดียว ตั้งแต่ปี พ.ศ.2509 จนถึงปัจจุบัน และมีพระสงฆ์และเณรมาจำพรรษามากขึ้น รวมถึงมีอุบาสก อุบาสิกา เข้ามาปฏิบัติธรรมจำนวนมาก