เตือนภัยเอดส์...ภัยใกล้ตัว

พูดถึงโรคเอดส์เราอาจจะคิดว่ามันคือเรื่องไกลตัว แต่วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ตรงให้ฟังค่ะ มันใกล้ตัวและน่ากลัวมาก

เพื่อนเราเป็นเภสัชกรประจำที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เป็นมาหลายปีแล้วค่ะ เพื่อนเล่าให้ฟังว่ามีผู้ป่วยมารับยาต้านไม่ซ้ำหน้าเลย มีหน้าใหม่ๆเข้ามาเรื่อยๆ รวมถึงคนที่มีชื่อเสียงที่ไม่สามารถมารับยาได้เพราะหน้าตาทางสังคม ก็จะส่งยาไปให้ที่บ้านเป็นประจำ บางคนการงานดี หน้าตาดี ฐานะดี ก็เป็นผู้ป่วย
เราไม่สามารถดูออกจากภายนอกได้เลยว่าเขาป่วยหรือเปล่า เพราะคนป่วยระยะแรกๆหรือยังไม่หนักมากก็จะดูไม่ออก

เคสที่จะมาเสนอวันนี้และอยากให้ทุกคนระวัง เรืองคือ ผู้ชายคนหนึ่งเขาไม่สะดวกเปิดตัวที่จะรับยาที่โรงพยาบาล จึงให้ส่งยาไปที่บ้าน แต่แฟนสาวดันเป็นผู้รับจดหมายแล้วแกะดูของและโทรกลับมาถามทางโรงพยาบาลว่าคือยาอะไร ทางโรงพยาบาลก็บอกได้แค่ว่ายารักษาโรคประจำตัวของคนไข้ เพราะเรื่องนี้เขาจะปิดเป็นความลับมากของคนไข้ แต่เหมือนฝ่ายภรรยาจะเสิร์ชหาชื่อยาจากอินเทอร์เน็ตมาแล้วแหล่ะ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น

ปัญหาคือเธอติดเชื้อ โดยไม่เคยรู้มาก่อนว่าผู้ชายป่วยมาเป็นปีแล้ว แต่ผู้ชายไม่ยอมบอกและก็ยังมีเพศสัมพันธ์กันปกติ ทำให้เธอต้องติดเชื้อไปด้วย

บางทีเรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นเพราะเราไว้ใจคำว่าแฟน สามี ภรรยา เพราะคิดว่าเขาคือคนรัก มีเพศสัมพันธ์กันเป็นประจำจึงไม่ได้ป้องกัน ถ้ายังไม่แต่งงานกันหรือไม่พร้อมที่จะมีลูก ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพราะเราไม่มีทางรู้หรอกว่าเขาผ่านใครมาบ้าง และเราเองเราผ่านใครมาบ้าง
เพื่อนเราบอกว่าแค่คนที่รู้ตัวและรับยาต้านก็เยอะมากๆแล้วยังมีพวกที่ไม่รู้ตัวอีกเยอะมาก หมั่นตรวจสุขภาพประจำปีและรักษาตัวเองกันนะคะ
***ปล.ที่ตั้งกระทู้คำถามเพราะไม่ได้เป็นสมาชิก***
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ภัยใกล้ตัวมากจริง ๆ เราเป็นครูอยากจะบอกว่า มีเด็กติดเชื้อมากมายที่ได้รับเชื้อตั้งแต่อยู่ในท้องแม่
เมื่อก่อนเวลาทำแผลให้นักเรียนไม่เคยระมัดระวัง แต่เดี๋ยวนี้ต้องระวังตัวเองมากขึ้น
ไม่สัมผัสเลือดโดยตรง บางครั้งเราเป็นครูรู้อยู่นะว่าเด็กติดเชื้อ แต่คือเราก็จะไม่เปิดเผยกับ
เพื่อน ๆ ในโรงเรียน ต้องช่วยเด็กปิดบังความลับ แต่ตัวเด็กเองก็จะไม่ระมัดระวัง มีแผล
เพื่อนก็จะไปทำแผลให้ บางทีใช้ช้อนร่วมกัน (ผลัดกันกินคนละคำ ไม่ได้ล้างช้อน) เราต้องคอยระวังบอกไม่ให้ทำแผลกันเอง
เดี๋ยวครูทำให้ แต่เด็กก็คือเด็กจะแอบไปทำกันเอง รักเพื่อนชอบใช้ช้อนร่วมกัน
คอยสอนคอยเตือนยังไงก็ไม่ฟัง เราเจอเด็กที่ติดเชื้อหลายเคส บางเคสผู้ปกครองปิดบัง
ดูไม่ออกเลยว่าเด็กติดเชื้อ หน้าตาดีมาก มีแฟนอีกต่างหาก
พอรู้ทีหลังครูก็เหวอไปเลย เพราะทำแผลให้หลายครั้ง ไม่ได้ระวังด้วย
         
             แต่มีเคสหนึ่งที่ฝังใจมาก เด็กคนนี้หน้าตาสะสวย ผิวพรรณดีแต่ติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในท้องแม่
เด็กมีพรสวรรค์ในการร้องเพลง และเต้น เคยพาไปประกวดชนะด้วย พอจบป.6 ไปก็ไม่เรียนต่อ ไปเป็นสาวคาราโอเกะ
ได้ข่าวอีกที ก็มีสามีไม่รู้กี่คน พวกผู้ชายพวกนั้นก็หลงดีใจว่าตัวเองได้เมียเด็ก เมียสวย หารู้ไม่ว่าติดเชื้อเอดส์เป็นของแถม
แถมเอาเชื้อไปติดลูกเมียที่บ้านอีก หลังจากนั้นมาเราสอนเด็กทุกคนทุกรุ่นโดยเล่าเคสของเด็กคนนี้ให้ฟัง
แล้วสอนว่า การที่เราติดเชื้อจากพ่อแม่เป็นกรรมของเราแล้ว แต่ถ้าเราไปแพร่เชื้อให้คนอื่น
เรากำลังสร้างกรรมให้คนอื่นไม่รู้อีกกี่คน
     
              ใครมีลูกหลานก็สอนด้วยว่าอย่าใช้ของร่วมกับเพื่อน ต่อให้ครูสอนอย่างไร
แต่ถ้าเด็กไม่ถูกปลูกฝังหรือชอบใช้ของร่วมกับคนอื่นเพราะเคยชินกับเวลาอยู่ในครอบครัวมักใช้ของร่วมกัน
เขาก็จะทำอย่างนั้นอยู่ดี ควรสอนให้เป็นนิสัยติดตัว ถึงแม้มันจะไม่ได้ติดง่ายๆ  
แต่ก็ต้องระมัดระวังตัว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่