2018 - MI:6, The Equalizer 2
2019 - Bond 25
2020 - Furious 9, John Wick Chapter 3
เตรียมรับความสนุกสุดๆกับหนังแอ็คชั่นภาคต่อฟอร์มยักษ์ ที่จัดหนักจัดเตรียมให้คอแอ็คชั่นแบบปีต่อปี ที่ผมดีใจมากๆที่จะได้ชมหนังภาคต่อเหล่านี้ เชื่อว่าคอหนังหลายคนคงจะชอบหนึ่งในลิสหนังที่เราจะมาพูดคุยกันวันนี้ ซักเรื่องนึงที่คุณรอดู วันนี้เราจะพูดคุยภาคก่อนหน้าของหนังเหล่านี้กันว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับหนัง ชอบอะไรและไม่ชอบอะไร หรือการแสดงของนักแสดงในหนัง ฉากแอ็คชั่น และอื่นๆ
เริ่มจาก...
1) MI: Rogue Nation
จุดที่ชอบ - เนื้อเรื่องที่เข้มข้น และมีประเด็นที่น่าติดตาม ตัวร้ายดูน่ากลัวและฝีมือสูสีกับพระเอก มีการชิงไหวพริบกันทั้งเรื่อง
ฉากแอ็คชั่น เรียกว่า มันจัดเตรียม ฉากโชว์ลีลาผาดโลนของ ทอม ครูซ ที่ทำให้คนดูอึ้งและทึ่งได้อีก อายุแกตอนเล่นเรื่องนี้ ปาไป 52 แล้ว แกยังเล่นสตั้นเองทุกฉาก แบบไม่แคร์เรื่องอายุ ถือว่าแกทุ่มเทมากๆ เป็นอีกจุดที่ทำให้ผมดูฉากแอ็คชั่นเรื่องนี้สนุกขึ้น แกทั้งเกาะประตูเครื่องบิน ขณะเครื่องบินกำลังเทคออฟ, ฉากดำน้ำที่ทำเอาหลายคนกลั้นหายใจตาม อินกับหนังมาก, ฉากขับรถไล่ล่าอีก คือ เกินที่จะบรรยาย หนังดูสนุกและอินเตอร์เทรนมากๆ นางเอกภาคนี้ดูมีเสน่ห์มากๆ ออกมาแต่ละฉากทั้งสวย ทั้งเท่ แอบเซ็กซี่นิดหน่อย ออกจากนี้นางเอกภาคนี้โชว์ลีลาบู๊ที่เทพพอๆกับอีธาน ฮันท์เลย และอีกอย่างที่ผมชอบคือการนำตัวละคร ลูเธอร์ สติ๊กเคว ผู้ร่วมภารกิจลับกับอีธานตั้งแต่ภาค 1-3 กลับมาแสดงและเด่นกว่าบท แบรนท์อีก เพราะตอนภาคสี่แกออกมาเข้าฉากเพียงเศษเล็บ และต้องขอชมการเลือกสถานที่ถ่ายทำที่ดูอลังและสวยงามทุกฉาก
จุดที่ไม่ชอบ - บทของสายลับ วิลเลี่ยม แบรท์
(เจเรมี แรนเนอร์) ซึ่งบทดูน่ารำคาญและหลายฉากก็ไม่ควรเอาแกออกมาก็ได้ รู้สึกผิดหวังเพราะภาค Ghost Protocol แกออกมาโชว์ของเยอะมากและแกเด่นพอๆกับอีธานเลย แต่ภาคนี้เหมือนเอาแกมาฆ่า ให้ตายเหอะ และน่าเสียดายที่ภาคต่อนี้แกจะไม่กลับมาแสดงแล้ว
อีกอย่างที่ขัดใจ คือ ตัวร้ายในภาคนี้ โซโลม่อน เลน ผู้นำองค์กรเซนดิเคต ที่เปิดตัวอย่างโหด ยิงหัวผู้หญิงร้านแผ่นเสียงตายต่อหน้าอีธาน โคตรเลือดเย็น แถมฉากที่นางเอกโยนปืนให้ยิง พี่แกดันยิงลูกน้องแกตายแทน แบบสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึก ขนาดนางเอกในเรื่องที่โคตรจะเก่ง มาเจอพี่เลนแล้วนางเอกดูกลัวเลย แต่มาตอนจบกลายเป็น ไอ้งั่ง ถือปืนไล่ล่าอีธาน สุดท้ายโดนหลอกลงกล่องแบบง่ายๆ คือนี่คือยอดสายลับ MI6 เลยนะเฮ้ย แต่ถูกอีธานหลอกจับตัวได้กากมาก คือตอนผมนึกว่า อีธานคงได้สู้ตัวต่อตัวกับ เลนแล้ว ตามที่อีธานลั่นวาจาไปแล้วค่อยล่อแกลงกล่อง แต่ดันไม่ทันจะสู้เลย พี่แกก็โดนดักง่ายๆไปซะละ
2) 007 Spectre
จุดที่ชอบของผมมีเพียงฉาก Long Take ในเม็กซิโกที่โคตรจะอลังสมกับหนัง เจมส์ บอนด์ พี่เหี่ยวแกเปิดตัวอย่างเท่ ใส่สูทอย่างหล่อ บุกยิงพวกตัวร้าย ไล่ล่ากันตึกระเบิดระเบิ้ล ไล่ล่ากันต่อกลางฝูงชน ก็จะจบด้วยการสู้กันหมัดแลกหมัดบนฮ. และเปิดเพลง Intro ที่เพราะมาก
.... หลังจากนั้น เอาอะไรมาให้ตูดูว่ะ มันคือ 007 แดเนี่ยล เคร็กรึเปล่า กลายเป็นการโชว์อุปกรณ์ไฮเทคนู้นนี่นั้นแบบเชยๆอะ ของเคร็กมันต้องดิบเถื่อนปนดราม่าแบบสามภาคแรก ที่คืออะไรกัน กลายเป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่ทำเอาแฟนๆหนังผิดหวังตามๆกัน ฉากบู๊ก็งั้นๆ ไม่ได้แปลกใหม่อะไร ตัวร้ายภาคนี้ คือ มาแบบน่ากลัวและดูลึกลับมาก นั่งในเงามืด มีบอดี้การ์ดยืนคุ้มกัน ทำเอาพี่เหี่ยวเรากลัว ตอนแรกที่ผมดู ผมนึกในใจว่า เอาแล้ว บอนด์กูโดนไอ้นี่เล่นงานแบบจัดหนักแน่ๆ ... แต่พอดูไปจนจบ เฮ้ย ไอ้นี่มันดูกากมากๆ นอกจากจะไม่โชว์บู๊แล้วยังโง่อีก ตัวร้ายภาคก่อนๆดูมีสมองและเก่งกว่านี้ ไอ้นี่มีดีแค่ ลูกน้องเยอะมีแบ็กอัพเป็นพวกอาชญากรระดับโลก แต่ตัวหัวหน้าองค์กรใหญ่กลับไม่ได้ความเก่งครึ่งนึงของลูกน้องมันเลย
มีอีกส่วนที่ชอบอยู่นิดนึง คือ บทของบาติสต้าที่เป็นนักฆ่าขององค์กร มาโหดมากเล่นจิกลูกตาโชว์ มาซิ่งรถไล่ล่ากับบอนด์ มาอัดตัวต่อตัวกับบอนด์ในรถไฟแบบที่เรียกว่าพี่บอนด์เอาแทบไม่อยู่ ดีนะที่นางเอกเข้ามาช่วย และพี่เหี่ยวแกเลยเอาคืนได้ แต่ตายง่ายมากสำหรับบาติสต้า โดนเชือกคล้องคอกับถังหล่นออกรถไฟและหายไปเลย ตอนแรกผมก็นึกว่า เฮ้ย ไอ้นี่ไม่ตาบง่ายๆหรอก ต้องมีฉากที่บอนด์มาสู้กับบาติสต้าอีกแน่ ปรากฎว่าแกตายจริงในหนัง แบบว่า เอานักมวยปล้ำตำนานตูมาฆ่ากันชัดๆ
3) Furious 8
น่าผิดหวังสำหรับผมมากในภาคนี้ คือหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ภาค 4-6 มันสนุกและลุ้นเอามากๆ แต่ภาคนี้ไม่ต่างอะไรกับภาค 7 คือเนื้อเรื่องไม่ได้มีปมอะไรมากมาย เน้นแต่ฉากขับรถไล่ล่าเว่อร์ๆ ยิงกันยังจนกลายเป็นหนังสงคราม โชว์สกิลเทพของเหล่านักซิ่งจนโอเว่อร์เกินไป และตัวละครที่เยอะมากในหนัง ซึ่งบางคนก็ไม่จำเป็นต้องออกมาก็ได้ อย่าง มิสเตอร์โนบอดี้น้อย กับ แรมซีย์ คือไม่ได้มีส่วนทำให้หนังดูสนุกเพิ่มขึ้นเลย กับมาให้บทมันเยอะน่ารำคาญเกิน และหนังก็ยาวกว่าภาคที่แล้วมาก บางฉากก็ไม่ควรจะทำให้ยาวยืดเยื้อ ตัดลงก็ได้มันจะกระชับกว่านี้ ภาคนี้พี่ดอมเราไม่ได้โชว์ลีลาบู๊อะไรมาก เน้นดราม่าเรื่องลูกเมีย แต่ที่ชอบก็พอมีอยู่ สำหรับบทของ ฮ็ฮบบ์กับเดดคาร์ด ชอว์ที่โผล่มาแต่ละซีนบู๊มันมาก ทั้งฉากที่แหกคุก ฉากพี่ชอว์ไปช่วยลูกดอมบนเครื่องบิน และซีนพี่ฮ็ฮบบ์โชว์สกิลโหดเหวี่ยงจรวดตอร์ปิโดถล่มรถทหารรัสเซียเบิ้ม แต่ความเว่อร์วังนี่ผมยกให้ภาคเจ็ดกับแปดเลย ไปไกลเกินหนังแอ็คชั่นรถซิ่งไปเป็นหนังสงครามรถติดอาวุธไล่ยิงกันซะละ
4) John Wick Chapter 2
สำหรับผมภาคนี้ เนื้อเรื่องสนุกกว่าภาคแรก ตรงที่หนังมันเล่าขยายเรื่องราวขององค์กรนักฆ่าที่กว้างขึ้น และสถานที่ถ่ายทำที่ลงทุนมากขึ้น ฉากแอ็คชั่นโชว์โหดของพระเอกอัดแน่นกว่าภาคแรกเยอะ แถมหนังยังทิ้งปมตอนจบไว้แบบน่าสนใจมากๆ และชอบที่สุดคือการได้เห็นตัวร้ายที่สกิลสูสีกับพระเอก เวลาสู้กันมันดูดุดันดี ตอนภาคแรกไม่ค่อยมีใครสกิลใกล้เคียงพระเอกเลย นอกจากโผล่หัวมาให้พี่แกสอยเล่น มีแค่การ์ดของเจ้าพ่อภาคแรก ดูเก่งหน่อย แต่สู้กับพี่วิคไม่สุดเท่าไหร่ พอมาภาคนี้พี่วิคแกไฟ้ว์กับแคสเซี่ยนอย่างมันและดูสู้กันไม่มีท่าทีที่แกจะลง ดูแล้วรู้สึกสนุกกว่าภาคแรก
5) The Equalizer
เรื่องนี้ชอบเป็นการส่วนตัวมากๆ บู๊ดิบๆ ไม่มีทีม ไม่มีอุปกรณ์ หาอะไรได้ก็หยิบมาใช้ โชว์สกิลเทพของพระเอกที่เรียกว่า เจสัน บอร์นชิดซ้าย ไบรอัน มิลล์ ชิดขวา แจ็ค รีชเชอร์ ชิดผนังเลย แกมาทั้งโหดทั้งเก่ง คือดูแล้วไม่ต้องลุ้นเลย สุดท้ายลุงแกก็เล่นตัวร้ายตายหมดในพริบตา แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ทั้งเรื่องแกน่าเฉยมาก ทั้งตอนอยู่เฉยๆ ตอนฆ่าคนยังดูปกติ แถมนอนแรกในเรื่องแกนอนไม่หลับ พอแกบุกไปฆ่าพวกรัสเซียเสร็จ กลับบ้านมานอนหลับเฉยเลย งงเลยตู หนังเนื้อเรื่องดี มีเหตุผล ว่าทำไมพระเอกถึงช่วยเด็กสาวที่พบหน้ากันไม่นาน และผูกปมความดราม่าของพระเอกได้ดี ในหนังแฝงหลักคำสอนดีๆไว้เยอะด้วย
แล้วเพื่อนๆคิดยังไงกับหนังเหล่านี้บ้างครับ
มาพูดคุยหนังภาคก่อนของ MI: Rogue Nation, 007 Spectre, Furious 8 และเรื่องอื่นๆ ก่อนรับความมันในปีถัดๆไป
2019 - Bond 25
2020 - Furious 9, John Wick Chapter 3
เตรียมรับความสนุกสุดๆกับหนังแอ็คชั่นภาคต่อฟอร์มยักษ์ ที่จัดหนักจัดเตรียมให้คอแอ็คชั่นแบบปีต่อปี ที่ผมดีใจมากๆที่จะได้ชมหนังภาคต่อเหล่านี้ เชื่อว่าคอหนังหลายคนคงจะชอบหนึ่งในลิสหนังที่เราจะมาพูดคุยกันวันนี้ ซักเรื่องนึงที่คุณรอดู วันนี้เราจะพูดคุยภาคก่อนหน้าของหนังเหล่านี้กันว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับหนัง ชอบอะไรและไม่ชอบอะไร หรือการแสดงของนักแสดงในหนัง ฉากแอ็คชั่น และอื่นๆ
เริ่มจาก...
1) MI: Rogue Nation
จุดที่ชอบ - เนื้อเรื่องที่เข้มข้น และมีประเด็นที่น่าติดตาม ตัวร้ายดูน่ากลัวและฝีมือสูสีกับพระเอก มีการชิงไหวพริบกันทั้งเรื่อง
ฉากแอ็คชั่น เรียกว่า มันจัดเตรียม ฉากโชว์ลีลาผาดโลนของ ทอม ครูซ ที่ทำให้คนดูอึ้งและทึ่งได้อีก อายุแกตอนเล่นเรื่องนี้ ปาไป 52 แล้ว แกยังเล่นสตั้นเองทุกฉาก แบบไม่แคร์เรื่องอายุ ถือว่าแกทุ่มเทมากๆ เป็นอีกจุดที่ทำให้ผมดูฉากแอ็คชั่นเรื่องนี้สนุกขึ้น แกทั้งเกาะประตูเครื่องบิน ขณะเครื่องบินกำลังเทคออฟ, ฉากดำน้ำที่ทำเอาหลายคนกลั้นหายใจตาม อินกับหนังมาก, ฉากขับรถไล่ล่าอีก คือ เกินที่จะบรรยาย หนังดูสนุกและอินเตอร์เทรนมากๆ นางเอกภาคนี้ดูมีเสน่ห์มากๆ ออกมาแต่ละฉากทั้งสวย ทั้งเท่ แอบเซ็กซี่นิดหน่อย ออกจากนี้นางเอกภาคนี้โชว์ลีลาบู๊ที่เทพพอๆกับอีธาน ฮันท์เลย และอีกอย่างที่ผมชอบคือการนำตัวละคร ลูเธอร์ สติ๊กเคว ผู้ร่วมภารกิจลับกับอีธานตั้งแต่ภาค 1-3 กลับมาแสดงและเด่นกว่าบท แบรนท์อีก เพราะตอนภาคสี่แกออกมาเข้าฉากเพียงเศษเล็บ และต้องขอชมการเลือกสถานที่ถ่ายทำที่ดูอลังและสวยงามทุกฉาก
จุดที่ไม่ชอบ - บทของสายลับ วิลเลี่ยม แบรท์
(เจเรมี แรนเนอร์) ซึ่งบทดูน่ารำคาญและหลายฉากก็ไม่ควรเอาแกออกมาก็ได้ รู้สึกผิดหวังเพราะภาค Ghost Protocol แกออกมาโชว์ของเยอะมากและแกเด่นพอๆกับอีธานเลย แต่ภาคนี้เหมือนเอาแกมาฆ่า ให้ตายเหอะ และน่าเสียดายที่ภาคต่อนี้แกจะไม่กลับมาแสดงแล้ว
อีกอย่างที่ขัดใจ คือ ตัวร้ายในภาคนี้ โซโลม่อน เลน ผู้นำองค์กรเซนดิเคต ที่เปิดตัวอย่างโหด ยิงหัวผู้หญิงร้านแผ่นเสียงตายต่อหน้าอีธาน โคตรเลือดเย็น แถมฉากที่นางเอกโยนปืนให้ยิง พี่แกดันยิงลูกน้องแกตายแทน แบบสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึก ขนาดนางเอกในเรื่องที่โคตรจะเก่ง มาเจอพี่เลนแล้วนางเอกดูกลัวเลย แต่มาตอนจบกลายเป็น ไอ้งั่ง ถือปืนไล่ล่าอีธาน สุดท้ายโดนหลอกลงกล่องแบบง่ายๆ คือนี่คือยอดสายลับ MI6 เลยนะเฮ้ย แต่ถูกอีธานหลอกจับตัวได้กากมาก คือตอนผมนึกว่า อีธานคงได้สู้ตัวต่อตัวกับ เลนแล้ว ตามที่อีธานลั่นวาจาไปแล้วค่อยล่อแกลงกล่อง แต่ดันไม่ทันจะสู้เลย พี่แกก็โดนดักง่ายๆไปซะละ
2) 007 Spectre
จุดที่ชอบของผมมีเพียงฉาก Long Take ในเม็กซิโกที่โคตรจะอลังสมกับหนัง เจมส์ บอนด์ พี่เหี่ยวแกเปิดตัวอย่างเท่ ใส่สูทอย่างหล่อ บุกยิงพวกตัวร้าย ไล่ล่ากันตึกระเบิดระเบิ้ล ไล่ล่ากันต่อกลางฝูงชน ก็จะจบด้วยการสู้กันหมัดแลกหมัดบนฮ. และเปิดเพลง Intro ที่เพราะมาก
.... หลังจากนั้น เอาอะไรมาให้ตูดูว่ะ มันคือ 007 แดเนี่ยล เคร็กรึเปล่า กลายเป็นการโชว์อุปกรณ์ไฮเทคนู้นนี่นั้นแบบเชยๆอะ ของเคร็กมันต้องดิบเถื่อนปนดราม่าแบบสามภาคแรก ที่คืออะไรกัน กลายเป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่ทำเอาแฟนๆหนังผิดหวังตามๆกัน ฉากบู๊ก็งั้นๆ ไม่ได้แปลกใหม่อะไร ตัวร้ายภาคนี้ คือ มาแบบน่ากลัวและดูลึกลับมาก นั่งในเงามืด มีบอดี้การ์ดยืนคุ้มกัน ทำเอาพี่เหี่ยวเรากลัว ตอนแรกที่ผมดู ผมนึกในใจว่า เอาแล้ว บอนด์กูโดนไอ้นี่เล่นงานแบบจัดหนักแน่ๆ ... แต่พอดูไปจนจบ เฮ้ย ไอ้นี่มันดูกากมากๆ นอกจากจะไม่โชว์บู๊แล้วยังโง่อีก ตัวร้ายภาคก่อนๆดูมีสมองและเก่งกว่านี้ ไอ้นี่มีดีแค่ ลูกน้องเยอะมีแบ็กอัพเป็นพวกอาชญากรระดับโลก แต่ตัวหัวหน้าองค์กรใหญ่กลับไม่ได้ความเก่งครึ่งนึงของลูกน้องมันเลย
มีอีกส่วนที่ชอบอยู่นิดนึง คือ บทของบาติสต้าที่เป็นนักฆ่าขององค์กร มาโหดมากเล่นจิกลูกตาโชว์ มาซิ่งรถไล่ล่ากับบอนด์ มาอัดตัวต่อตัวกับบอนด์ในรถไฟแบบที่เรียกว่าพี่บอนด์เอาแทบไม่อยู่ ดีนะที่นางเอกเข้ามาช่วย และพี่เหี่ยวแกเลยเอาคืนได้ แต่ตายง่ายมากสำหรับบาติสต้า โดนเชือกคล้องคอกับถังหล่นออกรถไฟและหายไปเลย ตอนแรกผมก็นึกว่า เฮ้ย ไอ้นี่ไม่ตาบง่ายๆหรอก ต้องมีฉากที่บอนด์มาสู้กับบาติสต้าอีกแน่ ปรากฎว่าแกตายจริงในหนัง แบบว่า เอานักมวยปล้ำตำนานตูมาฆ่ากันชัดๆ
3) Furious 8
น่าผิดหวังสำหรับผมมากในภาคนี้ คือหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ภาค 4-6 มันสนุกและลุ้นเอามากๆ แต่ภาคนี้ไม่ต่างอะไรกับภาค 7 คือเนื้อเรื่องไม่ได้มีปมอะไรมากมาย เน้นแต่ฉากขับรถไล่ล่าเว่อร์ๆ ยิงกันยังจนกลายเป็นหนังสงคราม โชว์สกิลเทพของเหล่านักซิ่งจนโอเว่อร์เกินไป และตัวละครที่เยอะมากในหนัง ซึ่งบางคนก็ไม่จำเป็นต้องออกมาก็ได้ อย่าง มิสเตอร์โนบอดี้น้อย กับ แรมซีย์ คือไม่ได้มีส่วนทำให้หนังดูสนุกเพิ่มขึ้นเลย กับมาให้บทมันเยอะน่ารำคาญเกิน และหนังก็ยาวกว่าภาคที่แล้วมาก บางฉากก็ไม่ควรจะทำให้ยาวยืดเยื้อ ตัดลงก็ได้มันจะกระชับกว่านี้ ภาคนี้พี่ดอมเราไม่ได้โชว์ลีลาบู๊อะไรมาก เน้นดราม่าเรื่องลูกเมีย แต่ที่ชอบก็พอมีอยู่ สำหรับบทของ ฮ็ฮบบ์กับเดดคาร์ด ชอว์ที่โผล่มาแต่ละซีนบู๊มันมาก ทั้งฉากที่แหกคุก ฉากพี่ชอว์ไปช่วยลูกดอมบนเครื่องบิน และซีนพี่ฮ็ฮบบ์โชว์สกิลโหดเหวี่ยงจรวดตอร์ปิโดถล่มรถทหารรัสเซียเบิ้ม แต่ความเว่อร์วังนี่ผมยกให้ภาคเจ็ดกับแปดเลย ไปไกลเกินหนังแอ็คชั่นรถซิ่งไปเป็นหนังสงครามรถติดอาวุธไล่ยิงกันซะละ
4) John Wick Chapter 2
สำหรับผมภาคนี้ เนื้อเรื่องสนุกกว่าภาคแรก ตรงที่หนังมันเล่าขยายเรื่องราวขององค์กรนักฆ่าที่กว้างขึ้น และสถานที่ถ่ายทำที่ลงทุนมากขึ้น ฉากแอ็คชั่นโชว์โหดของพระเอกอัดแน่นกว่าภาคแรกเยอะ แถมหนังยังทิ้งปมตอนจบไว้แบบน่าสนใจมากๆ และชอบที่สุดคือการได้เห็นตัวร้ายที่สกิลสูสีกับพระเอก เวลาสู้กันมันดูดุดันดี ตอนภาคแรกไม่ค่อยมีใครสกิลใกล้เคียงพระเอกเลย นอกจากโผล่หัวมาให้พี่แกสอยเล่น มีแค่การ์ดของเจ้าพ่อภาคแรก ดูเก่งหน่อย แต่สู้กับพี่วิคไม่สุดเท่าไหร่ พอมาภาคนี้พี่วิคแกไฟ้ว์กับแคสเซี่ยนอย่างมันและดูสู้กันไม่มีท่าทีที่แกจะลง ดูแล้วรู้สึกสนุกกว่าภาคแรก
5) The Equalizer
เรื่องนี้ชอบเป็นการส่วนตัวมากๆ บู๊ดิบๆ ไม่มีทีม ไม่มีอุปกรณ์ หาอะไรได้ก็หยิบมาใช้ โชว์สกิลเทพของพระเอกที่เรียกว่า เจสัน บอร์นชิดซ้าย ไบรอัน มิลล์ ชิดขวา แจ็ค รีชเชอร์ ชิดผนังเลย แกมาทั้งโหดทั้งเก่ง คือดูแล้วไม่ต้องลุ้นเลย สุดท้ายลุงแกก็เล่นตัวร้ายตายหมดในพริบตา แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ทั้งเรื่องแกน่าเฉยมาก ทั้งตอนอยู่เฉยๆ ตอนฆ่าคนยังดูปกติ แถมนอนแรกในเรื่องแกนอนไม่หลับ พอแกบุกไปฆ่าพวกรัสเซียเสร็จ กลับบ้านมานอนหลับเฉยเลย งงเลยตู หนังเนื้อเรื่องดี มีเหตุผล ว่าทำไมพระเอกถึงช่วยเด็กสาวที่พบหน้ากันไม่นาน และผูกปมความดราม่าของพระเอกได้ดี ในหนังแฝงหลักคำสอนดีๆไว้เยอะด้วย
แล้วเพื่อนๆคิดยังไงกับหนังเหล่านี้บ้างครับ