[ณ ตอนนี้ จขกท.ยังไม่ได้เงินคืนเข้ามาในบัญชีนะคะ]
สวัสดีค่ะ เหตุเกิดวันนี้ (30/11/60) เวลาประมาณ 18.20 น. ที่ธนาคารกรุงไทย (KTB) สาขาสยามพารากอน ชั้น 4 ค่ะ จขกท.กับคุณแม่มากดเงินที่ตู้ ATM ของ KTB โดยใช้บัตร ATM ของธนาคารไทยพาณิชย์ (ต่อจากนี้ขอเรียกว่า SCB นะคะ) เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาทค่ะ สาเหตุที่จะถอนเงินต่างธนาคารเพราะเราต้องนำเงินที่ถอนออกมา ไปจ่ายค่าเทอมให้น้องที่ KTB อยู่แล้ว จึงคิดว่าถอนและจ่ายที่เดียวให้จบเลยจะสะดวกค่ะ
- 18.23 น. (30/11/60) จขกท.เป็นคนกดเงินที่ตู้ของ KTB เอง ตู้ KTB ก็เริ่มมีอาการค้างๆตั้งแต่เริ่มกดรหัสเลยค่ะ แต่เราก็คิดว่าน่าจะปกติ เพราะเคยเจอตู้เก่าๆที่มีอาการค้างลักษณะนี้เหมือนกัน เราจึงทำการเช็คยอดเงินก่อน โดยที่อาการค้างก็ยังคงมีอยู่ และกว่าจะดูยอดเงินได้ก็นานมากๆ เรากดปุ่ม 'ยกเลิก' แล้วแต่ตู้ก็ไม่ได้คืนบัตรให้เรา พอดูยอดเงินได้ เราจึงกดตัวเลขเพื่อถอนเงินจำนวน 20,000 บาท แต่แทนที่ตู้จะมีเงินออกมาให้เรา กลายเป็นว่าหน้าจอของตู้ก็ค้างอยู่ที่จอฟ้าๆที่เขียนว่า 'กรุณารอทำรายการสักครู่' เราก็รอจนกระทั่งหน้าจอขึ้นข้อความว่า 'เกิดข้อผิดพลาด โปรดตรวจสอบยอดเงินของท่านอีกครั้ง' พร้อมกับที่ตู้คืนบัตรให้เรา แต่ไม่มีเงินออกมาจากตู้ให้เราซักบาท เราก็เริ่มเอะใจกลัวว่าจะมีการหักเงินในบัญชีโดยที่เราไม่ได้เงิน เราเลยเสียบบัตรเข้าไปใหม่เพื่อเช็คยอดเงิน แล้วมันก็เป็นอย่างที่เรากลัวค่ะ คือยอดเงินในบัญชีเราถูกหักไป 20,000 บาท + ค่าธรรมเนียมอีก 30 บาท เรา Recheck อีกครั้งที่แอพของ SCB ก็พบว่ายอดเงินถูกหักไปในจำนวนเงินเดียวกัน
**เราแนบรูปยอดเงินที่ถูกหักไม่ได้ ฝากไว้กับลิ้งค์นี้นะคะ**
https://www.img.in.th/image/PWg3q
เราจึงเข้าไปแจ้งพนง.ที่ KTB ค่ะ ว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ว่าตู้ KTB มีปัญหา ไม่มีเงินออกมาให้เรา แล้วเราก็โชว์หน้าจอในแอพว่าโดนหักเงินไปจริงๆ พนง.ก็หายเข้าไปโทรศัพท์หลังเคาน์เตอร์ เรากับคุณแม่ก็นั่งรอนานมาก โดยที่พนง. KTB ไม่ได้เข้ามาชี้แจงอะไรเลยค่ะ จากนั้นพนง. KTB ก็ส่งสายให้เราคุยกับ CC ของ SCB เราก็แจ้งเรื่องไป ถาม CC ของ SCB ว่า "ถ้าเกิดเหตุอย่างนี้ ใครที่ต้องรับผิดชอบ" เพราะเราต้องรีบนำเงินไปจ่ายค่าเทอมให้น้องวันนี้จริงๆ ทาง CC ของ SCB "เป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบทั้ง 2 ธนาคาร" และก็แจ้งว่าต้องใช้เวลาถึง 10 วันทำการ ทางเราก็แจ้งว่าขอให้เป็นเคสเร่งด่วนไปค่ะ จนกระทั่งประมาณ 19.15 น. คุณแม่เดินเข้าไปถาม พนง. KTB คนนั้นก็แจ้งว่า ตู้ KTB ของเขาไม่ได้มีปัญหาอะไร ปัญหาเกิดจากบัญชีของ SCB ให้เราไปติดต่อธนาคาร SCB เอง ที่พารากอนชั้น 3 ซึ่งตอนนั้นก็เหลือเวลาอีกแค่ 15 นาทีก่อนธนาคารจะปิด พนง. KTB ก็เร่งเร้าให้รีบไป SCB ซึ่งเรากับคุณแม่มองว่ามันเหมือนเป็นการปัดความรับผิดชอบของ KTB น่ะค่ะ ที่ให้ลูกค้าที่กดเงินกับตู้ของคุณ วิ่งไปหาธนาคารต้นสังกัดเอง ทั้งๆที่เรามีเรื่องด่วนต้องใช้เงิน แล้วก็ไม่ได้มีเงินสำรองไว้ด้วยค่ะ
เรากับคุณแม่ก็รีบไปธนาคาร SCB ที่ชั้น 3 ก่อนจะปิดค่ะ แจ้งให้พนง. SCB ทราบ ซึ่ง SCB แจ้งว่าจะต้องรอให้ทาง KTB ทำบาลานซ์ตู้ แล้วส่งเรื่องมาให้ SCB เพื่อทำเรื่องคืนเงินให้เราอีกที ซึ่งพนง. KTB ก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะมีคนมาบาลานซ์ตู้เมื่อไหร่
สิ่งที่เรากังวล คือ
1. เรากังวลว่าจะไม่ได้เงินคืนค่ะ เพราะทาง KTB สาขานั้นก็ไม่ได้บอกรับผิดชอบอะไร แล้วก็บอกอีกว่าตู้เขาไม่ผิด ผิดที่บัญชี SCB ของเราเอง อีกอย่างคือเราไม่ได้ถ่ายรูปขณะที่กดเงินด้วยค่ะ ก็กลัวว่าจะไม่มีหลักฐานว่าเราไม่ได้เงินจากตู้ KTB เขาจริงๆ
2. พนง. KTB ไม่ได้รับเรื่องที่ว่าตู้ของเขามีปัญหาเลยค่ะ นั่นยิ่งทำให้การได้เงินคืนของเรายิ่งล่าช้าไปอีก
เตือนภัย จะถอนเงินสดที่ตู้ ATM ของ KTB สาขาพารากอน แต่ไม่มีเงินออกมา
สวัสดีค่ะ เหตุเกิดวันนี้ (30/11/60) เวลาประมาณ 18.20 น. ที่ธนาคารกรุงไทย (KTB) สาขาสยามพารากอน ชั้น 4 ค่ะ จขกท.กับคุณแม่มากดเงินที่ตู้ ATM ของ KTB โดยใช้บัตร ATM ของธนาคารไทยพาณิชย์ (ต่อจากนี้ขอเรียกว่า SCB นะคะ) เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาทค่ะ สาเหตุที่จะถอนเงินต่างธนาคารเพราะเราต้องนำเงินที่ถอนออกมา ไปจ่ายค่าเทอมให้น้องที่ KTB อยู่แล้ว จึงคิดว่าถอนและจ่ายที่เดียวให้จบเลยจะสะดวกค่ะ
- 18.23 น. (30/11/60) จขกท.เป็นคนกดเงินที่ตู้ของ KTB เอง ตู้ KTB ก็เริ่มมีอาการค้างๆตั้งแต่เริ่มกดรหัสเลยค่ะ แต่เราก็คิดว่าน่าจะปกติ เพราะเคยเจอตู้เก่าๆที่มีอาการค้างลักษณะนี้เหมือนกัน เราจึงทำการเช็คยอดเงินก่อน โดยที่อาการค้างก็ยังคงมีอยู่ และกว่าจะดูยอดเงินได้ก็นานมากๆ เรากดปุ่ม 'ยกเลิก' แล้วแต่ตู้ก็ไม่ได้คืนบัตรให้เรา พอดูยอดเงินได้ เราจึงกดตัวเลขเพื่อถอนเงินจำนวน 20,000 บาท แต่แทนที่ตู้จะมีเงินออกมาให้เรา กลายเป็นว่าหน้าจอของตู้ก็ค้างอยู่ที่จอฟ้าๆที่เขียนว่า 'กรุณารอทำรายการสักครู่' เราก็รอจนกระทั่งหน้าจอขึ้นข้อความว่า 'เกิดข้อผิดพลาด โปรดตรวจสอบยอดเงินของท่านอีกครั้ง' พร้อมกับที่ตู้คืนบัตรให้เรา แต่ไม่มีเงินออกมาจากตู้ให้เราซักบาท เราก็เริ่มเอะใจกลัวว่าจะมีการหักเงินในบัญชีโดยที่เราไม่ได้เงิน เราเลยเสียบบัตรเข้าไปใหม่เพื่อเช็คยอดเงิน แล้วมันก็เป็นอย่างที่เรากลัวค่ะ คือยอดเงินในบัญชีเราถูกหักไป 20,000 บาท + ค่าธรรมเนียมอีก 30 บาท เรา Recheck อีกครั้งที่แอพของ SCB ก็พบว่ายอดเงินถูกหักไปในจำนวนเงินเดียวกัน
**เราแนบรูปยอดเงินที่ถูกหักไม่ได้ ฝากไว้กับลิ้งค์นี้นะคะ**
https://www.img.in.th/image/PWg3q
เราจึงเข้าไปแจ้งพนง.ที่ KTB ค่ะ ว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ว่าตู้ KTB มีปัญหา ไม่มีเงินออกมาให้เรา แล้วเราก็โชว์หน้าจอในแอพว่าโดนหักเงินไปจริงๆ พนง.ก็หายเข้าไปโทรศัพท์หลังเคาน์เตอร์ เรากับคุณแม่ก็นั่งรอนานมาก โดยที่พนง. KTB ไม่ได้เข้ามาชี้แจงอะไรเลยค่ะ จากนั้นพนง. KTB ก็ส่งสายให้เราคุยกับ CC ของ SCB เราก็แจ้งเรื่องไป ถาม CC ของ SCB ว่า "ถ้าเกิดเหตุอย่างนี้ ใครที่ต้องรับผิดชอบ" เพราะเราต้องรีบนำเงินไปจ่ายค่าเทอมให้น้องวันนี้จริงๆ ทาง CC ของ SCB "เป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบทั้ง 2 ธนาคาร" และก็แจ้งว่าต้องใช้เวลาถึง 10 วันทำการ ทางเราก็แจ้งว่าขอให้เป็นเคสเร่งด่วนไปค่ะ จนกระทั่งประมาณ 19.15 น. คุณแม่เดินเข้าไปถาม พนง. KTB คนนั้นก็แจ้งว่า ตู้ KTB ของเขาไม่ได้มีปัญหาอะไร ปัญหาเกิดจากบัญชีของ SCB ให้เราไปติดต่อธนาคาร SCB เอง ที่พารากอนชั้น 3 ซึ่งตอนนั้นก็เหลือเวลาอีกแค่ 15 นาทีก่อนธนาคารจะปิด พนง. KTB ก็เร่งเร้าให้รีบไป SCB ซึ่งเรากับคุณแม่มองว่ามันเหมือนเป็นการปัดความรับผิดชอบของ KTB น่ะค่ะ ที่ให้ลูกค้าที่กดเงินกับตู้ของคุณ วิ่งไปหาธนาคารต้นสังกัดเอง ทั้งๆที่เรามีเรื่องด่วนต้องใช้เงิน แล้วก็ไม่ได้มีเงินสำรองไว้ด้วยค่ะ
เรากับคุณแม่ก็รีบไปธนาคาร SCB ที่ชั้น 3 ก่อนจะปิดค่ะ แจ้งให้พนง. SCB ทราบ ซึ่ง SCB แจ้งว่าจะต้องรอให้ทาง KTB ทำบาลานซ์ตู้ แล้วส่งเรื่องมาให้ SCB เพื่อทำเรื่องคืนเงินให้เราอีกที ซึ่งพนง. KTB ก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะมีคนมาบาลานซ์ตู้เมื่อไหร่
สิ่งที่เรากังวล คือ
1. เรากังวลว่าจะไม่ได้เงินคืนค่ะ เพราะทาง KTB สาขานั้นก็ไม่ได้บอกรับผิดชอบอะไร แล้วก็บอกอีกว่าตู้เขาไม่ผิด ผิดที่บัญชี SCB ของเราเอง อีกอย่างคือเราไม่ได้ถ่ายรูปขณะที่กดเงินด้วยค่ะ ก็กลัวว่าจะไม่มีหลักฐานว่าเราไม่ได้เงินจากตู้ KTB เขาจริงๆ
2. พนง. KTB ไม่ได้รับเรื่องที่ว่าตู้ของเขามีปัญหาเลยค่ะ นั่นยิ่งทำให้การได้เงินคืนของเรายิ่งล่าช้าไปอีก