*** ครั้งแรกของเรากับการไป Europe โดยทริปนี้ เราไปด้วยกันสามประเทศคือ เนเธอแลนด์ ฝรั่งเศส และ ปิดท้ายที่สวิสเซอร์แลนด์ *****
ช่วงที่ไปคือ ระหว่างวันที่ 4 พย. - 15 พย. ซึ่งถือเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูจากฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูหนาวพอดี
###############
ตอนที่ 1 : เดินเลียบคลองที่อัมสเตอร์ดัม แล้วไปขับเรือที่ Giethoorn ปิดท้ายด้วยหมู่บ้านกังหันลม
https://ppantip.com/topic/37143126
ตอนที่ 2 : ปารีสต้องมนต์ หลงไปในพิพิธภัณฑ์ Louvre
https://ppantip.com/topic/37148324/
ตอนที่ 3: ล่องเรือที่ Lucernce แล้วไปขึ้น Rigi กัน
https://ppantip.com/topic/37207676/
###############
สิ่งที่เราเตรียมไว้ล่วงหน้าก่อนไปคือ
1. จองตั๋วเครื่องบินก่อนล่วงหน้า 8 เดือน โดยบินจาก กรุงเทพ ไปลง อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ และ บินจาก ซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ กลับ กรุงเทพ ราคาค่าตั๋ว ประมาณสองหมื่นบาท
2. จองตั๋วรถไฟ จาก อัมสเตอร์ดัม ไป ปารีส โดยจองล่วงหน้าก่อนเดินทาง 4 เดือน ราคา 35.5 Euro
3. จองตั๋วรถไฟ จาก ปารีส ไป เมือง Basel ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ล่วงหน้าก่อนเดินทาง 4 เดือน ราคา 29 Euro
4. ขอเชงเก้นวีซ่าที่กับ VFS โดยเลือกประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เพราะเป็นประเทศที่อยู่นานที่สุด
5. ทำบัตรสมาชิก YHA เพื่อไปใช้เป็นส่วนลดของที่พักที่อัมสเตอร์ดัม และ บ้านพักเยาวชนที่เมือง Interlaken และ Zermatt
6. จองโรงแรมที่อัมสเตอร์ดัม 2 คืน (Stayokay Amsterdam Vondelpark) ผ่านทาง
https://www.hihostels.com/
7. จองโรงแรมที่ปารีส 3 คืน (Hotel Du Lion d'Or Louvre) ผ่านทาง booking.com (เราเลือกแบบยกเลิกได้และไปจ่ายตังที่โน่นทั้งหมด)
8. จองโรงแรมที่ลูเซิน 1 คืน (ibis budget Hotel Luzern City) ผ่านทาง booking.com
9. จองโรงแรมที่อินเทอร์ลาเค่น 3 คืน (Hotel Swiss Interlaken YHA) ผ่านทาง
http://www.youthhostel.ch
10. จองโรงแรมที่แซร์มัท 1 คืน (Hotel Swiss Zermatt YHA) ผ่านทาง
http://www.youthhostel.ch
11. จองโรงแรมที่ซูริค 1 คืน (ibis budget Hotel Zurich Airport) ผ่านทาง booking.com
12. จองตั๋วล่องเรือแม่น้ำ Seine ที่ปารีสกับ Vedettes du Pont Neuf ราคา 12 ยูโร ใช้เวลาล่อง 1 ชั่วโมง
13. จองเรือเพื่อขับรอบๆหมู่บ้าน Giethoorn ผ่าน website www.giethoornboeking.nl โดยเราจอง 2 ชั่วโมง ราคา 37.50 Euro
14. ซื้อ swiss pass แบบ 8 day จาก STA Travel ตรงจามจุรีแสควร์ ราคาคนละ 13,090 บาท
15. ซื้อ Sim2Fly ราคา 899
@ 04/11/2017 เวลา 01:35 am เราออกเดินทางจากกรุงเทพ ไปยัง กรุงอัมสเตอร์ดัมประเทศเนเธอร์แลนด์ ถึง Amsterdam Airport Schiphol ราวๆ เที่ยง เราพกกระเป๋าลากขนาด 24 นิ้ว, เป้ backpack ใส่ไว้ในกระเป๋าลาก อีกใบนึง แล้วก็เป้ Kanken เพราะพับเก็บได้ ส่วนเพื่อนเราพกกระเป๋า 28 นิ้วไป ทุลักทุเลพอดูตอนขึ้นรถไฟที่ฝรั่งเศส
ออกจากสนามบินโอ้โห หนาววมากกกก กระเหรี่ยงเมืองร้อนไม่ชินกับอากาศหนาวซักที หนาวก็หนาว มองหาป้ายรถบัส สาย 197 ก็หาไม่เจอซักที แล้วพอดี มีเจ้าหน้าที่คนนึงยืนสูบบุหรี่อยู่แถวนั้น เดินเข้ามาถามเราสองคนว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย ได้เจ้าหน้าที่ช่วยบอกทางจนเราเจอป้าย 197 และขึ้นรถได้ในที่สุด ราคาค่ารถบัส 5 Euro เรานั่งจากสนามบินไปลงป้าย Leidseplein โดยจอ monitor ในรถบัสจะบอกตลอดว่าถึงป้ายไหนแล้ว เพื่อความชัวร์ ก่อนลงเราเลยยก address โรงแรมให้คนขับรถบัสดูอีกรอบเพื่อความชัวร์
ลงจากรถบัสมาได้ ก็ข้ามถนนมาฝั่งโรงแรม Marriott หันหน้าเข้าโรงแรมแล้วเลี้ยวซ้าย เดินไปทาง park พอถึงซอย Zandpad ก็เลี้ยวเข้าซอย เดินไปจนสุดซอย จะเจอโรงแรมทางขวามือ
เราจองที่พัก ที่นี่ 2 คืน โดยเราจองห้องแบบสองคนและมีห้องน้ำในตัว
[Review Stayokay Amsterdam Vondelpark]
เป็น hostel ที่อยู่ในเครือ Youth hostel หรือบ้านพักเยาวชน ดังนั้นถ้ามีบัตรจะได้ลดราคาอีก ก่อนมาเราทำบัตรจากที่ไทยมาก่อน เป็นรายปีในราคา 350 บาท ซึ่งบัตรนี้เราเอาไปใช้ที่ interlaken และ zermatt ด้วย
Location : เดินทางสะดวก ใกล้รถราง รถเมล์ ใกล้ Rijksmuseum (พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ) หรือ แลนด์มาร์ก i am amsterdam และใกล้ๆ กัน ก็เป็น พิพิธภัณฑ์แวนโกะ ส่วนการเดินทางไปในเมืองก็สะดวก ด้วย tram หรือเดินก็ได้
Room : เราเลือกพักห้องเตียงสองชั้นที่มีห้องน้ำในตัว สะดวกสบายดี โดยห้องชักโครก กับห้องอาบน้ำจะแยกกัน ข้อเสียคือ ที่นี่ไม่มีผ้าเช็ดตัวให้ เลยต้องพกมาเอง ส่วนฮีทเตอร์และผ้าห่มอุ่นดี อีกอย่างห้ามกินอาหารในห้อง เลยอดต้มมาม่าเลย 555
Checkin-checkout : เชคอินเป็นอะไรที่ตรงเวลามากๆ ถึงแม้ห้องจะพร้อมแล้วก็ต้องรอบ่ายสองถึงจะเข้าห้องได้ โชคดีที่เราไปถึงตอนใกล้ๆจะบ่ายสองเลยรอไม่นาน อ้อที่นี้ต้องปูผ้าปูที่นอนกับใส่ปลอกผ้านวมเองด้วยนะ พอจะ check out ก็ให้ถอดออกแล้วกองวางไว้ที่มุมห้อง
คะแนนโดยรวม ให้ 8.5 (ตัดที่ไม่มีผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์อาบน้ำ)
เราเก็บกระเป๋า ล้างหน้าล้างตา เรียบร้อย เตรียมตัวจะออกไปตะลุยข้างนอก แต่เพื่อนเราก็แพ้พ่ายไปแล้ว ด้วยการเวียนหัว เมารถ เราเลยออกไปคนเดียว เดินออกจากที่พัก ไปเรื่อยๆ จนเจอ Rijksmuseum ถ่ายรูปแถวๆ นั้น สองสามแชะ
แล้วเดินต่อไปยัง landmark I am Amsterdam คนเยอะมาก (แทรกเข้าไปถ่ายไม่ไหวจริงๆ) ฝนก็ตกพรำ ลืมพกร่มมาอีก เปียกๆ หนาวๆ
แถวๆ นั้นจะมี Rijksmuseum , สัญลักษณ์ I am Amsterdam , พิพิธภัณธ์แวนโก๊ะ จากนั้นเราก็เดินไปเรื่อยๆ เพื่อไปยัง Centraal station อากาศหนาวเย็นๆ เดินไปสั่นไป แต่วิวตึกรามบ้านช่อง สวยมาก จากที่พักเดินไป Centraal station ราวๆ 2 กิโล แต่เดินไปเรื่อยๆ ดูวิวเพลินมากกกก
Amsterdam เมืองที่เต็มไปด้วยคลอง เรือ และจักรยาน ท่ามกลางฝนที่ตกปรอยๆ ตึกสวยๆ และกลิ่นกัญชาที่ฟุ้งไปทั้งเมือง เราไม่ได้มีแพลนว่าจะเดินไปที่ไหน กะว่าจะเดินไปเรื่อยๆ จนเหนื่อยแล้วค่อยเดินย้อนกลับมา รู้สึกเหมือนตามหาขุมทรัพย์ เพราะระหว่างทางก็เจอพิพิธภัณท์หลายแห่ง ร้านขนมร้านดัง
เนื่องจากเรามาในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูจากใบไม้ร่วงไปสู่หน้าหนาว ดังนั้นจึงเห็นต้นไม้ที่ใบร่วงหล่นไปแล้วบ้าง บางต้นกำลังร่วง ส่วนบ้างต้นก็กำลังเปลี่ยนใบเป็นสีแดง และด้วยช่วงคาบเกี่ยวฤดูแบบนี้เราจึงเจอฝนบ้างปรอยๆ รวมทั้งอากาศที่เริ่มต่ำกว่า 15 องศา อีกอย่าง 5 โมงก็เริ่มมืดแล้ว แต่อัมสเตอร์ดัมยามค่ำคืนก็สวยไปอีกแบบ
เราเดินเล่นเรื่อยๆ จนมืด จากนั้นเลยแวะซื้อของใน supermarket ไปกินเป็นมื้อค่ำ เราชอบ supermarket ที่นี่มากโดยเฉพาะ Albert Heijn มีอะไรให้เลือกให้ซื้อมากมายแบบตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะโยเกิต ที่ชอบเป็นพิเศษ มีหลายแบบมาก จากที่ไปมา Albert Heijn สาขาที่อยู่ใกล้พิพิธภัณฑ์แวนโกะจะไม่รับบัตรเครดิต ส่วนสาขาที่เป็น Albert Heijn to go ใน centraal station จะไม่มีแคชเชียร์คิดเงิน ต้องหยิบสินค้ามาแสกนบาร์โค๊ดแล้วเสียบบัตรเครดิต เพื่อจ่ายตังเอง อ้อแล้วอีกอย่าง Albert Heijn สาขาใหญ่ๆ กับพวกที่เป็น to go สินค้าจะราคาไม่เท่ากัน สาขาใหญ่จะราคาถูกกว่า
อันนี้เป็นรูป yogurt ที่เราชอบกินมากซื้อมาตุนไว้ ถึงขั้นซื้อตุนขึ้นรถไฟไปฝรั่งเศสเลยทีเดียว = =
ด้วยความที่ยังงงๆ กับเวลากลับถึงห้อง กินสลัดกับโยเกิตอาบน้ำแล้วก็หลับยาวเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เตรียมตัวไปขับเรือที่หมู่บ้าน Giethoorn กันค่ะ
[Europe 12 วัน 3 ประเทศ] ตอนที่ 1 : เดินเลียบคลองที่อัมสเตอร์ดัม แล้วไปขับเรือที่ Giethoorn ปิดท้ายด้วยหมู่บ้านกังหันลม
###############
ตอนที่ 1 : เดินเลียบคลองที่อัมสเตอร์ดัม แล้วไปขับเรือที่ Giethoorn ปิดท้ายด้วยหมู่บ้านกังหันลม https://ppantip.com/topic/37143126
ตอนที่ 2 : ปารีสต้องมนต์ หลงไปในพิพิธภัณฑ์ Louvre https://ppantip.com/topic/37148324/
ตอนที่ 3: ล่องเรือที่ Lucernce แล้วไปขึ้น Rigi กัน https://ppantip.com/topic/37207676/
###############
สิ่งที่เราเตรียมไว้ล่วงหน้าก่อนไปคือ
1. จองตั๋วเครื่องบินก่อนล่วงหน้า 8 เดือน โดยบินจาก กรุงเทพ ไปลง อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ และ บินจาก ซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ กลับ กรุงเทพ ราคาค่าตั๋ว ประมาณสองหมื่นบาท
2. จองตั๋วรถไฟ จาก อัมสเตอร์ดัม ไป ปารีส โดยจองล่วงหน้าก่อนเดินทาง 4 เดือน ราคา 35.5 Euro
3. จองตั๋วรถไฟ จาก ปารีส ไป เมือง Basel ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ล่วงหน้าก่อนเดินทาง 4 เดือน ราคา 29 Euro
4. ขอเชงเก้นวีซ่าที่กับ VFS โดยเลือกประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เพราะเป็นประเทศที่อยู่นานที่สุด
5. ทำบัตรสมาชิก YHA เพื่อไปใช้เป็นส่วนลดของที่พักที่อัมสเตอร์ดัม และ บ้านพักเยาวชนที่เมือง Interlaken และ Zermatt
6. จองโรงแรมที่อัมสเตอร์ดัม 2 คืน (Stayokay Amsterdam Vondelpark) ผ่านทาง https://www.hihostels.com/
7. จองโรงแรมที่ปารีส 3 คืน (Hotel Du Lion d'Or Louvre) ผ่านทาง booking.com (เราเลือกแบบยกเลิกได้และไปจ่ายตังที่โน่นทั้งหมด)
8. จองโรงแรมที่ลูเซิน 1 คืน (ibis budget Hotel Luzern City) ผ่านทาง booking.com
9. จองโรงแรมที่อินเทอร์ลาเค่น 3 คืน (Hotel Swiss Interlaken YHA) ผ่านทาง http://www.youthhostel.ch
10. จองโรงแรมที่แซร์มัท 1 คืน (Hotel Swiss Zermatt YHA) ผ่านทาง http://www.youthhostel.ch
11. จองโรงแรมที่ซูริค 1 คืน (ibis budget Hotel Zurich Airport) ผ่านทาง booking.com
12. จองตั๋วล่องเรือแม่น้ำ Seine ที่ปารีสกับ Vedettes du Pont Neuf ราคา 12 ยูโร ใช้เวลาล่อง 1 ชั่วโมง
13. จองเรือเพื่อขับรอบๆหมู่บ้าน Giethoorn ผ่าน website www.giethoornboeking.nl โดยเราจอง 2 ชั่วโมง ราคา 37.50 Euro
14. ซื้อ swiss pass แบบ 8 day จาก STA Travel ตรงจามจุรีแสควร์ ราคาคนละ 13,090 บาท
15. ซื้อ Sim2Fly ราคา 899
@ 04/11/2017 เวลา 01:35 am เราออกเดินทางจากกรุงเทพ ไปยัง กรุงอัมสเตอร์ดัมประเทศเนเธอร์แลนด์ ถึง Amsterdam Airport Schiphol ราวๆ เที่ยง เราพกกระเป๋าลากขนาด 24 นิ้ว, เป้ backpack ใส่ไว้ในกระเป๋าลาก อีกใบนึง แล้วก็เป้ Kanken เพราะพับเก็บได้ ส่วนเพื่อนเราพกกระเป๋า 28 นิ้วไป ทุลักทุเลพอดูตอนขึ้นรถไฟที่ฝรั่งเศส
ออกจากสนามบินโอ้โห หนาววมากกกก กระเหรี่ยงเมืองร้อนไม่ชินกับอากาศหนาวซักที หนาวก็หนาว มองหาป้ายรถบัส สาย 197 ก็หาไม่เจอซักที แล้วพอดี มีเจ้าหน้าที่คนนึงยืนสูบบุหรี่อยู่แถวนั้น เดินเข้ามาถามเราสองคนว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย ได้เจ้าหน้าที่ช่วยบอกทางจนเราเจอป้าย 197 และขึ้นรถได้ในที่สุด ราคาค่ารถบัส 5 Euro เรานั่งจากสนามบินไปลงป้าย Leidseplein โดยจอ monitor ในรถบัสจะบอกตลอดว่าถึงป้ายไหนแล้ว เพื่อความชัวร์ ก่อนลงเราเลยยก address โรงแรมให้คนขับรถบัสดูอีกรอบเพื่อความชัวร์
ลงจากรถบัสมาได้ ก็ข้ามถนนมาฝั่งโรงแรม Marriott หันหน้าเข้าโรงแรมแล้วเลี้ยวซ้าย เดินไปทาง park พอถึงซอย Zandpad ก็เลี้ยวเข้าซอย เดินไปจนสุดซอย จะเจอโรงแรมทางขวามือ
เราจองที่พัก ที่นี่ 2 คืน โดยเราจองห้องแบบสองคนและมีห้องน้ำในตัว
[Review Stayokay Amsterdam Vondelpark]
เป็น hostel ที่อยู่ในเครือ Youth hostel หรือบ้านพักเยาวชน ดังนั้นถ้ามีบัตรจะได้ลดราคาอีก ก่อนมาเราทำบัตรจากที่ไทยมาก่อน เป็นรายปีในราคา 350 บาท ซึ่งบัตรนี้เราเอาไปใช้ที่ interlaken และ zermatt ด้วย
Location : เดินทางสะดวก ใกล้รถราง รถเมล์ ใกล้ Rijksmuseum (พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ) หรือ แลนด์มาร์ก i am amsterdam และใกล้ๆ กัน ก็เป็น พิพิธภัณฑ์แวนโกะ ส่วนการเดินทางไปในเมืองก็สะดวก ด้วย tram หรือเดินก็ได้
Room : เราเลือกพักห้องเตียงสองชั้นที่มีห้องน้ำในตัว สะดวกสบายดี โดยห้องชักโครก กับห้องอาบน้ำจะแยกกัน ข้อเสียคือ ที่นี่ไม่มีผ้าเช็ดตัวให้ เลยต้องพกมาเอง ส่วนฮีทเตอร์และผ้าห่มอุ่นดี อีกอย่างห้ามกินอาหารในห้อง เลยอดต้มมาม่าเลย 555
Checkin-checkout : เชคอินเป็นอะไรที่ตรงเวลามากๆ ถึงแม้ห้องจะพร้อมแล้วก็ต้องรอบ่ายสองถึงจะเข้าห้องได้ โชคดีที่เราไปถึงตอนใกล้ๆจะบ่ายสองเลยรอไม่นาน อ้อที่นี้ต้องปูผ้าปูที่นอนกับใส่ปลอกผ้านวมเองด้วยนะ พอจะ check out ก็ให้ถอดออกแล้วกองวางไว้ที่มุมห้อง
คะแนนโดยรวม ให้ 8.5 (ตัดที่ไม่มีผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์อาบน้ำ)
เราเก็บกระเป๋า ล้างหน้าล้างตา เรียบร้อย เตรียมตัวจะออกไปตะลุยข้างนอก แต่เพื่อนเราก็แพ้พ่ายไปแล้ว ด้วยการเวียนหัว เมารถ เราเลยออกไปคนเดียว เดินออกจากที่พัก ไปเรื่อยๆ จนเจอ Rijksmuseum ถ่ายรูปแถวๆ นั้น สองสามแชะ
แล้วเดินต่อไปยัง landmark I am Amsterdam คนเยอะมาก (แทรกเข้าไปถ่ายไม่ไหวจริงๆ) ฝนก็ตกพรำ ลืมพกร่มมาอีก เปียกๆ หนาวๆ
แถวๆ นั้นจะมี Rijksmuseum , สัญลักษณ์ I am Amsterdam , พิพิธภัณธ์แวนโก๊ะ จากนั้นเราก็เดินไปเรื่อยๆ เพื่อไปยัง Centraal station อากาศหนาวเย็นๆ เดินไปสั่นไป แต่วิวตึกรามบ้านช่อง สวยมาก จากที่พักเดินไป Centraal station ราวๆ 2 กิโล แต่เดินไปเรื่อยๆ ดูวิวเพลินมากกกก
Amsterdam เมืองที่เต็มไปด้วยคลอง เรือ และจักรยาน ท่ามกลางฝนที่ตกปรอยๆ ตึกสวยๆ และกลิ่นกัญชาที่ฟุ้งไปทั้งเมือง เราไม่ได้มีแพลนว่าจะเดินไปที่ไหน กะว่าจะเดินไปเรื่อยๆ จนเหนื่อยแล้วค่อยเดินย้อนกลับมา รู้สึกเหมือนตามหาขุมทรัพย์ เพราะระหว่างทางก็เจอพิพิธภัณท์หลายแห่ง ร้านขนมร้านดัง
เนื่องจากเรามาในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูจากใบไม้ร่วงไปสู่หน้าหนาว ดังนั้นจึงเห็นต้นไม้ที่ใบร่วงหล่นไปแล้วบ้าง บางต้นกำลังร่วง ส่วนบ้างต้นก็กำลังเปลี่ยนใบเป็นสีแดง และด้วยช่วงคาบเกี่ยวฤดูแบบนี้เราจึงเจอฝนบ้างปรอยๆ รวมทั้งอากาศที่เริ่มต่ำกว่า 15 องศา อีกอย่าง 5 โมงก็เริ่มมืดแล้ว แต่อัมสเตอร์ดัมยามค่ำคืนก็สวยไปอีกแบบ
เราเดินเล่นเรื่อยๆ จนมืด จากนั้นเลยแวะซื้อของใน supermarket ไปกินเป็นมื้อค่ำ เราชอบ supermarket ที่นี่มากโดยเฉพาะ Albert Heijn มีอะไรให้เลือกให้ซื้อมากมายแบบตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะโยเกิต ที่ชอบเป็นพิเศษ มีหลายแบบมาก จากที่ไปมา Albert Heijn สาขาที่อยู่ใกล้พิพิธภัณฑ์แวนโกะจะไม่รับบัตรเครดิต ส่วนสาขาที่เป็น Albert Heijn to go ใน centraal station จะไม่มีแคชเชียร์คิดเงิน ต้องหยิบสินค้ามาแสกนบาร์โค๊ดแล้วเสียบบัตรเครดิต เพื่อจ่ายตังเอง อ้อแล้วอีกอย่าง Albert Heijn สาขาใหญ่ๆ กับพวกที่เป็น to go สินค้าจะราคาไม่เท่ากัน สาขาใหญ่จะราคาถูกกว่า
อันนี้เป็นรูป yogurt ที่เราชอบกินมากซื้อมาตุนไว้ ถึงขั้นซื้อตุนขึ้นรถไฟไปฝรั่งเศสเลยทีเดียว = =
ด้วยความที่ยังงงๆ กับเวลากลับถึงห้อง กินสลัดกับโยเกิตอาบน้ำแล้วก็หลับยาวเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เตรียมตัวไปขับเรือที่หมู่บ้าน Giethoorn กันค่ะ