1) Captain America The Winter Soldier
- เป็นหนังฮีโร่ภาคต่อที่กลายเป็นหนังสายลับชิงไหวชิงพริบกัน ฉากบู๊ที่ดุดันและสมจริงกว่าภาคแรก ตัวละครที่เพิ่มเข้ามาในภาคนี้ ที่ดูมีเสน่ห์และน่าสนใจกว่าภาคแรก เนื้อเรื่องไม่ออกหนังฮีโร่มาก ฉากสู้เหมือนหนังบู๊ทั่วไปไม่มีการโชว์พลังเหนือธรรมชาติ หลายซีนกัปตันแกสู้แบบคนทั่วไปเลย มีอาวุธเป็นโล่ ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมในภาคนี้ แถมมีตัวละครเพิ่มมาในภาคนี้ที่น่าสนใจ และตัวร้ายปริศนา the winter soldier ที่ออกมาบู๊แต่ละซีนกับกัปตันแบบหยุดลมหายใจไปชั่วครู่
2) Logan
- ภาคปิดฉากลุง โลแกน Wolverine 3 สุดดาร์กของ Mavel ที่โคตรจะเหมือน The Dark Knight หนังดูดิบระห่ำดี ไม่ออกการ์ตูนคอมมิคมาก หนังมีดราม่า ซึ้ง และแอ็คชั่นที่ดุเดือด เรต 18+ เลือดนี่มีเยอะ เวลาะพี่วูลฟ์แกใช้กรงเล็บฟันศูตรนี่เลือดสาดกระจาย แถมภาคนี้จุดขายอีกอย่างคือ เจ้าหนูออล่า วูลฟ์เวอร์วีนน้อย กรงเล็บข้างละสอง ที่มีสกิลการบู๊ที่ทำเอาพี่วูลฟ์กับพวกตัวร้าย งง ไปตามๆกัน ฟันเป็นฟัน แทงเป็นแทง และโทนหนังในภาคนี้ถือทำออกมาได้ยอดเยี่ยมกว่าทุกภาคที่ผ่านมา ลุงวูลฟ์ในภาคนี้แต่งหน้าให้ดูแก่เอามากๆ สกิลในการ Heal ตัวเองเสื่อมลง กลายเป็นไอ้ขี้เมารอวันตาย เป็นภาคที่แกไม่ฟิตเหมือนภาคก่อนๆ กับตอนจบที่ทำเอาซึ้งมาก
3) The Dark Knight
- หนังฮีโร่สายดาร์กที่โคตรสมจริง ที่ไม่เหมือนหนังฮีโร่ มันคือหนัง ทริลเลอร์/อาชญากรรมที่เข้มข้นเอามากๆ เนื้อเรื่องที่แยบยล นักแสดงที่แสดงได้ยอดเยี่ยมทุกคนโดยเฉพาะ Heath Ledger ในบท Joker คู่ปรับตัวฉกาจของแบทแมนที่แกโผล่มาแย่งซีนพี่แบทไปเยอะ บทหนังที่ดราม่า แฝงปรัชญาลงไป แถมฉากบู๊ที่อลังและมันมากขึ้นกว่าภาคแรก ตัวร้ายที่เก่ง ฉลาด แถมบ้าอีก กว่าจะโค่นลงได้ทำเอาพี่แบทเหนื่อยไปมาก กับตอนจบที่ทำให้รู้ว่า "ฮีโร่ที่แท้จริงใน
ก็อตแธม คือใคร" กับประโยคเด็ดในหนัง "คุณจะยอมตายในฐานะฮีโร่ หรือ จะอยู่ต่อจนเป็นวายร้าย"
4) The Bourne Supremacy
- จากหนังภาคแรกที่สมจริงแล้ว ภาคนี้จะเพิ่มความสมจริงเพิ่มมากขึ้นไปอีก ดราม่า แอ็คชั่น ทริลเลอร์จัดเต็ม การถ่ายภาพที่โคตรจะสมจริงของผกก. Paul Greenglass และการแสดงที่โคตรเท่ในบท เจสัน บอร์น ของพี่ Matt Damon
เป็นภาคต่อที่เนื้อเรื่องเข้มข้นกว่าภาคแรกคูณสอง ดิบระห่ำกว่า เน้นสืบสวนสอบสวน ไล่ล่าชิงไหวพริบแบบจารชน ฉากแอ็คชั่นดวลกันตัวต่อตัว ไร้เสียงเพลงประกอบ ที่โคตรสมจริงและดุเดือดมากๆ ฉากซิ่งรถไล่ล่าที่ดูรุนแรงและชนกันแหลกถล่มรัสเซีย โทนหนังที่ตึงเครียดขึ้นและปมปริศนาในเรื่องนี้ที่ทำให้ภาคนี้น่าประทับใจเพิ่มขึ้นไปอีก
5) Furious 4
- หนังภาคต่อที่กลับมาในเวอร์ชั่น แอ็คชั่น/อาชญากรรม ได้อย่างน่าสนใจและทำได้ดีเยี่ยม การคืนฟอร์มแฟรนไซส์ชุดนี้มาผงาดอีกครั้ง ด้วยฝีมือของผู้กำกับ Justin Lin และคนเขียนบท Chris Morgan ที่ทำได้ดีมาก หนังเปลี่ยนแนวจากหนังรถซิ่งกลายมาเป็นหนังอาชญากรรม สืบสวนสอบสวนหาความจริง มีการขับรถไล่ล่าที่ดุเดือดมากขึ้น การวางปมต่างๆให้หนังน่าติดตามมากขึ้น ความดิบระห่ำเพิ่มเข้ามาในภาคนี้ ตัวร้ายที่ร้ายกว่าทุกภาคและกวนประสาทพระเอกทั้งสองเอามากๆ แถมตอนจบยังทิ้งปมปูต่อไปภาคต่ออย่างเยี่ยมที่สุด ถือเป็นการกลับมาโคจรเจอกันระหว่าง Vin Diesel & Paul Walker ในบท ดอม & ไบรอัน ที่โคตรคลู
6) Casino Royale
- ดิบระห่ำ สมจริงสมจัง ดราม่า จัดหนักจัดเต็มกว่าทุกภาคที่ผ่านมาในแฟรนไชส์ 007 James Bond ก็ว่าได้ จากเวอร์ชั่นก่อนๆ เป็นหนังสายลับมาดเท่โชว์สกิลหรี่สาวไปซั่ม อุปกรณ์ล้ำๆสุดเว่อร์วัง รถสวยๆกับสกิลในรถที่โคตรไฮเทค ภาคเหล่านั้นถูกลบออกเกือบหมด ในฉบับรีบูทนี้ ที่พระเอกไม่ต้องหล่อสำอางค์ บุกเดี่ยว บ้าเลือด โหด แถมแกยังเป็นบอนด์ที่กัดไม่ปล่อย ไม่เน้นอุปกรณ์ อะไรหยิบจับได้แกใช้เป็นอาวุธได้หมด ไม่เน้นผู้หญิงมากมาย ตัวร้ายดูน่ากลัวและจิตขึ้นกว่าเวอร์ชั่นก่อนๆ แถมฉากทรมานตีไข่ในตำนานที่ทำเอาหลายๆคนกุมไข่ตัวเองมาแล้ว แถมพีคสุดตรงคนที่บอนด์รักที่สุดกลับร้ายที่สุดและทำเอาบอนด์อึ้งไปเลย กับตอนจบที่ทิ้งปมไว้อย่างน่าติดตามต่อ... ถือว่าเป็นการเปิดตัว เจมส์ ลอนด์ Daniel Craig ได้ดีมากๆ ฉากแต่ละฉาก สถานที่ที่ไปถ่ายทำ ดูดี ดูสวยมากๆ ฉากบู๊ที่ดุดันมากๆ ฉาก Parkour สุดหวาดเสียว ไหนจะฉากพระเอกวิ่งไล่รถติดระเบิดของตัวร้ายในสนามบินอีก และอีกฉากซีนที่น่าประทับใจ
7) Terminator 2
- เรื่องนี้มันเปลี่ยนแนวจากภาคแรก จากหนังทริลเลอร์/ไซไฟ ทุนต่ำ กลายเป็นหนังแอ็คชั่น/ไซไฟ ฟอร์มยักษ์ที่ดีที่สุดในยุคนั้นก็ว่าได้ ผกก. James Cameron แกสานต่อหนังชุดนี้ได้ดีมากในภาคนี้ แอ็คชั่นจัดเต็ม CG ที่โคตรเนียนโคตรดีในยุคนั้น ตัวร้ายหุ่นโลหะเหลว T-1000 ที่ดูเก่งและเจ๋งกว่าภาคแรกเยอะ ไหนจะป๋าอาร์โนล์ดคนเหล็กของเราที่เท่มากๆใส่แว่นดำ เสื้อผ้าร็อคเกอร์ ควบมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ เท่สุดๆ แม่ของจอห์น คอนเนอร์ ที่แกร่งและสกิลเก่งกว่าภาคแรกมาก ซาร่าห์ คอนเนอร์ เธอกลายเป็นอีกหนึ่งตัวละครหญิงสายบู๊ในตำนานเลยก็ว่าได้ หนังเนื้อเรื่องเข้มข้นกว่าภาคแรก มีการหยิบประเด็นเรื่อง สกายเน็ต มาเปิดขว้างขึ้น ว่าใครเป็นคนสร้าง ? จากอะไร ? วันพิพากษา เกิดขึ้นจากใครจู่โจม ? ภาคนี้จะบอกคุณอย่างละเอียด พร้อมเสิร์ฟฉากแอ็คชั่นแบบไม่ยั้ง
8) Mission Impossible Ghost Protocol
- มันคือหนังภาคต่อที่สมกับการรอคอย และทำได้เป็นสไตล์ของตัวเองเอามากๆเรื่องนึง สามภาคแรกหนังออกดูจริงจังและเครียดอยู่ พอมาภาคนี้ โทนหนังเป็นองค์ประกอบภาคหนึ่งที่ชิงไหวชิงพริบตามฉบับจารชน มีการวางแผน ทำงานเป็นทีม ทุกคนในทีมมีส่วนประกอบที่สำคัญในการทำภารกิจให้สำเร็จ และใส่มุขตลกเล็กๆน้อยๆลงไปให้หนังไม่ตึงเครียดจนเกินไป และการแสดงบทบู๊ผาดโลนของ Tom Cruise ที่แกเล่นเองทุกฉาก จัดเต็มทุกท่า ทั้งปีนตึก เหวี่ยงตัวข้ามตึก ไหนจะกระโดดเกาะนู้นนี่นั้น แกสตั้นเองหมด และเป็นการกำกับการแสดงของ ผกก. Brad Bird ที่ทำหนังคนแสดงจริงๆเรื่องแรกได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าประทับใจ
9) Angels & Demons
- หนังภาคต่อ สุดแสนจะลึกลับและมีปมปริศนาที่ทิ้งไว้มากมายที่ทำให้เราคิดตามกัน ภาคแรกก็ถือว่าสนุกใช้ได้ แต่ผมว่าภาคนี้ดีกว่าภาคแรก มันกลายเป็นหนังแนว Mystery/Action/Thriller ที่ผสมผสานอย่างลงตัว หนังวางปมไว้น่าสนใจกว่าและมีการสืบหาปริศนาที่เข้มข้นมากขึ้น ดูลึกลับมากขึ้น และฉากไล่ล่าที่ตื่นเต้นมากขึ้น การโยงหนังเข้ากับประเด็นศาสนาและหลักคำสอนทางศาสนา ความลับและปมต่างๆในอดีตมาโยงถึงปัจจุบัน การแสดงไม่ต้องพูดถึง ระดับป๋า Tom Hanks ดีเลิศทุกเรื่องอยู่แล้ว
มาคุยหนังที่เปลี่ยนแนวจนน่าทึ่งเหล่านี้กันเถอะ
- เป็นหนังฮีโร่ภาคต่อที่กลายเป็นหนังสายลับชิงไหวชิงพริบกัน ฉากบู๊ที่ดุดันและสมจริงกว่าภาคแรก ตัวละครที่เพิ่มเข้ามาในภาคนี้ ที่ดูมีเสน่ห์และน่าสนใจกว่าภาคแรก เนื้อเรื่องไม่ออกหนังฮีโร่มาก ฉากสู้เหมือนหนังบู๊ทั่วไปไม่มีการโชว์พลังเหนือธรรมชาติ หลายซีนกัปตันแกสู้แบบคนทั่วไปเลย มีอาวุธเป็นโล่ ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมในภาคนี้ แถมมีตัวละครเพิ่มมาในภาคนี้ที่น่าสนใจ และตัวร้ายปริศนา the winter soldier ที่ออกมาบู๊แต่ละซีนกับกัปตันแบบหยุดลมหายใจไปชั่วครู่
2) Logan
- ภาคปิดฉากลุง โลแกน Wolverine 3 สุดดาร์กของ Mavel ที่โคตรจะเหมือน The Dark Knight หนังดูดิบระห่ำดี ไม่ออกการ์ตูนคอมมิคมาก หนังมีดราม่า ซึ้ง และแอ็คชั่นที่ดุเดือด เรต 18+ เลือดนี่มีเยอะ เวลาะพี่วูลฟ์แกใช้กรงเล็บฟันศูตรนี่เลือดสาดกระจาย แถมภาคนี้จุดขายอีกอย่างคือ เจ้าหนูออล่า วูลฟ์เวอร์วีนน้อย กรงเล็บข้างละสอง ที่มีสกิลการบู๊ที่ทำเอาพี่วูลฟ์กับพวกตัวร้าย งง ไปตามๆกัน ฟันเป็นฟัน แทงเป็นแทง และโทนหนังในภาคนี้ถือทำออกมาได้ยอดเยี่ยมกว่าทุกภาคที่ผ่านมา ลุงวูลฟ์ในภาคนี้แต่งหน้าให้ดูแก่เอามากๆ สกิลในการ Heal ตัวเองเสื่อมลง กลายเป็นไอ้ขี้เมารอวันตาย เป็นภาคที่แกไม่ฟิตเหมือนภาคก่อนๆ กับตอนจบที่ทำเอาซึ้งมาก
3) The Dark Knight
- หนังฮีโร่สายดาร์กที่โคตรสมจริง ที่ไม่เหมือนหนังฮีโร่ มันคือหนัง ทริลเลอร์/อาชญากรรมที่เข้มข้นเอามากๆ เนื้อเรื่องที่แยบยล นักแสดงที่แสดงได้ยอดเยี่ยมทุกคนโดยเฉพาะ Heath Ledger ในบท Joker คู่ปรับตัวฉกาจของแบทแมนที่แกโผล่มาแย่งซีนพี่แบทไปเยอะ บทหนังที่ดราม่า แฝงปรัชญาลงไป แถมฉากบู๊ที่อลังและมันมากขึ้นกว่าภาคแรก ตัวร้ายที่เก่ง ฉลาด แถมบ้าอีก กว่าจะโค่นลงได้ทำเอาพี่แบทเหนื่อยไปมาก กับตอนจบที่ทำให้รู้ว่า "ฮีโร่ที่แท้จริงใน
ก็อตแธม คือใคร" กับประโยคเด็ดในหนัง "คุณจะยอมตายในฐานะฮีโร่ หรือ จะอยู่ต่อจนเป็นวายร้าย"
4) The Bourne Supremacy
- จากหนังภาคแรกที่สมจริงแล้ว ภาคนี้จะเพิ่มความสมจริงเพิ่มมากขึ้นไปอีก ดราม่า แอ็คชั่น ทริลเลอร์จัดเต็ม การถ่ายภาพที่โคตรจะสมจริงของผกก. Paul Greenglass และการแสดงที่โคตรเท่ในบท เจสัน บอร์น ของพี่ Matt Damon
เป็นภาคต่อที่เนื้อเรื่องเข้มข้นกว่าภาคแรกคูณสอง ดิบระห่ำกว่า เน้นสืบสวนสอบสวน ไล่ล่าชิงไหวพริบแบบจารชน ฉากแอ็คชั่นดวลกันตัวต่อตัว ไร้เสียงเพลงประกอบ ที่โคตรสมจริงและดุเดือดมากๆ ฉากซิ่งรถไล่ล่าที่ดูรุนแรงและชนกันแหลกถล่มรัสเซีย โทนหนังที่ตึงเครียดขึ้นและปมปริศนาในเรื่องนี้ที่ทำให้ภาคนี้น่าประทับใจเพิ่มขึ้นไปอีก
5) Furious 4
- หนังภาคต่อที่กลับมาในเวอร์ชั่น แอ็คชั่น/อาชญากรรม ได้อย่างน่าสนใจและทำได้ดีเยี่ยม การคืนฟอร์มแฟรนไซส์ชุดนี้มาผงาดอีกครั้ง ด้วยฝีมือของผู้กำกับ Justin Lin และคนเขียนบท Chris Morgan ที่ทำได้ดีมาก หนังเปลี่ยนแนวจากหนังรถซิ่งกลายมาเป็นหนังอาชญากรรม สืบสวนสอบสวนหาความจริง มีการขับรถไล่ล่าที่ดุเดือดมากขึ้น การวางปมต่างๆให้หนังน่าติดตามมากขึ้น ความดิบระห่ำเพิ่มเข้ามาในภาคนี้ ตัวร้ายที่ร้ายกว่าทุกภาคและกวนประสาทพระเอกทั้งสองเอามากๆ แถมตอนจบยังทิ้งปมปูต่อไปภาคต่ออย่างเยี่ยมที่สุด ถือเป็นการกลับมาโคจรเจอกันระหว่าง Vin Diesel & Paul Walker ในบท ดอม & ไบรอัน ที่โคตรคลู
6) Casino Royale
- ดิบระห่ำ สมจริงสมจัง ดราม่า จัดหนักจัดเต็มกว่าทุกภาคที่ผ่านมาในแฟรนไชส์ 007 James Bond ก็ว่าได้ จากเวอร์ชั่นก่อนๆ เป็นหนังสายลับมาดเท่โชว์สกิลหรี่สาวไปซั่ม อุปกรณ์ล้ำๆสุดเว่อร์วัง รถสวยๆกับสกิลในรถที่โคตรไฮเทค ภาคเหล่านั้นถูกลบออกเกือบหมด ในฉบับรีบูทนี้ ที่พระเอกไม่ต้องหล่อสำอางค์ บุกเดี่ยว บ้าเลือด โหด แถมแกยังเป็นบอนด์ที่กัดไม่ปล่อย ไม่เน้นอุปกรณ์ อะไรหยิบจับได้แกใช้เป็นอาวุธได้หมด ไม่เน้นผู้หญิงมากมาย ตัวร้ายดูน่ากลัวและจิตขึ้นกว่าเวอร์ชั่นก่อนๆ แถมฉากทรมานตีไข่ในตำนานที่ทำเอาหลายๆคนกุมไข่ตัวเองมาแล้ว แถมพีคสุดตรงคนที่บอนด์รักที่สุดกลับร้ายที่สุดและทำเอาบอนด์อึ้งไปเลย กับตอนจบที่ทิ้งปมไว้อย่างน่าติดตามต่อ... ถือว่าเป็นการเปิดตัว เจมส์ ลอนด์ Daniel Craig ได้ดีมากๆ ฉากแต่ละฉาก สถานที่ที่ไปถ่ายทำ ดูดี ดูสวยมากๆ ฉากบู๊ที่ดุดันมากๆ ฉาก Parkour สุดหวาดเสียว ไหนจะฉากพระเอกวิ่งไล่รถติดระเบิดของตัวร้ายในสนามบินอีก และอีกฉากซีนที่น่าประทับใจ
7) Terminator 2
- เรื่องนี้มันเปลี่ยนแนวจากภาคแรก จากหนังทริลเลอร์/ไซไฟ ทุนต่ำ กลายเป็นหนังแอ็คชั่น/ไซไฟ ฟอร์มยักษ์ที่ดีที่สุดในยุคนั้นก็ว่าได้ ผกก. James Cameron แกสานต่อหนังชุดนี้ได้ดีมากในภาคนี้ แอ็คชั่นจัดเต็ม CG ที่โคตรเนียนโคตรดีในยุคนั้น ตัวร้ายหุ่นโลหะเหลว T-1000 ที่ดูเก่งและเจ๋งกว่าภาคแรกเยอะ ไหนจะป๋าอาร์โนล์ดคนเหล็กของเราที่เท่มากๆใส่แว่นดำ เสื้อผ้าร็อคเกอร์ ควบมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ เท่สุดๆ แม่ของจอห์น คอนเนอร์ ที่แกร่งและสกิลเก่งกว่าภาคแรกมาก ซาร่าห์ คอนเนอร์ เธอกลายเป็นอีกหนึ่งตัวละครหญิงสายบู๊ในตำนานเลยก็ว่าได้ หนังเนื้อเรื่องเข้มข้นกว่าภาคแรก มีการหยิบประเด็นเรื่อง สกายเน็ต มาเปิดขว้างขึ้น ว่าใครเป็นคนสร้าง ? จากอะไร ? วันพิพากษา เกิดขึ้นจากใครจู่โจม ? ภาคนี้จะบอกคุณอย่างละเอียด พร้อมเสิร์ฟฉากแอ็คชั่นแบบไม่ยั้ง
8) Mission Impossible Ghost Protocol
- มันคือหนังภาคต่อที่สมกับการรอคอย และทำได้เป็นสไตล์ของตัวเองเอามากๆเรื่องนึง สามภาคแรกหนังออกดูจริงจังและเครียดอยู่ พอมาภาคนี้ โทนหนังเป็นองค์ประกอบภาคหนึ่งที่ชิงไหวชิงพริบตามฉบับจารชน มีการวางแผน ทำงานเป็นทีม ทุกคนในทีมมีส่วนประกอบที่สำคัญในการทำภารกิจให้สำเร็จ และใส่มุขตลกเล็กๆน้อยๆลงไปให้หนังไม่ตึงเครียดจนเกินไป และการแสดงบทบู๊ผาดโลนของ Tom Cruise ที่แกเล่นเองทุกฉาก จัดเต็มทุกท่า ทั้งปีนตึก เหวี่ยงตัวข้ามตึก ไหนจะกระโดดเกาะนู้นนี่นั้น แกสตั้นเองหมด และเป็นการกำกับการแสดงของ ผกก. Brad Bird ที่ทำหนังคนแสดงจริงๆเรื่องแรกได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าประทับใจ
9) Angels & Demons
- หนังภาคต่อ สุดแสนจะลึกลับและมีปมปริศนาที่ทิ้งไว้มากมายที่ทำให้เราคิดตามกัน ภาคแรกก็ถือว่าสนุกใช้ได้ แต่ผมว่าภาคนี้ดีกว่าภาคแรก มันกลายเป็นหนังแนว Mystery/Action/Thriller ที่ผสมผสานอย่างลงตัว หนังวางปมไว้น่าสนใจกว่าและมีการสืบหาปริศนาที่เข้มข้นมากขึ้น ดูลึกลับมากขึ้น และฉากไล่ล่าที่ตื่นเต้นมากขึ้น การโยงหนังเข้ากับประเด็นศาสนาและหลักคำสอนทางศาสนา ความลับและปมต่างๆในอดีตมาโยงถึงปัจจุบัน การแสดงไม่ต้องพูดถึง ระดับป๋า Tom Hanks ดีเลิศทุกเรื่องอยู่แล้ว