รีวิวพาลูกเที่ยวต่างแดนครั้งแรก


เมื่ออยากกระเตงลูกเที่ยวต่างแดนบ้าง ทริปนี้จึงเกิดขึ้น.... กะพริบตา
ทริปนี้เป็นครั้งแรกของการไปต่างประเทศ ครั้งแรกของการขึ้นเครื่องบิน ครั้งแรกกับอากาศหนาวๆแบบเลขตัวเดียวของเด็กน้อย

โดยรีวิวนี้ตาลจะมาบอกขั้นตอน และวิธีการเตรียมตัวต่างๆในการพาลูกไปเที่ยวต่างแดน รวมทั้งประสบการณ์ที่เจอตอนเที่ยวด้วยค่ะ

💙ข้อมูลเด็กน้อย💙
ชื่อ : น้องอิมเมจ
อายุ : 10 เดือนกว่า
น้ำหนัก : 7 โลกว่า

มาเริ่มกันเลย
อันดับแรกคือ...
ไปทำพาสปอร์ตก่อนจ้า
ตาลพาลูกไปทำที่สายใต้ใหม่
👉 เด็ก 8 เดือน เตรียมเอกสารดังนี้
. ใบสูติบัตรฉบับจริง
. บัตรประชาชนพ่อและแม่
👉 ขั้นตอนการทำ. เมื่อไปถึงก็เข้าแถวรับบัตรคิว ยื่นเอกสารสูติบัตรลูก และบัตรประชาชนพ่อและแม่ จะได้รับบัตรคิว และเอกสารให้มากรอก
. กรอกเอกสารให้เรียบร้อย
. วัดส่วนสูง เด็กน้อยไม่ได้วัดส่วนสูงมาเกือบสองเดือน พี่จนท.เลยใช้สายวัดวัดใหม่ ก็กะๆเอาค่ะ ไม่ได้ตรงเป๊ะๆ
. หลังจากนั้นไปที่เคาน์เตอร์ ยื่นเอกสารที่กรอก ใบสูติบัตร บัตรประชาชนพ่อและแม่
ถ่ายรูปเด็กน้อย 👶 โดยให้นั่งเก้าอี้หลังพิงพนัก พ่อแม่จับด้านข้าง ให้ลูกนั่งตัวตรง หน้าตรง พี่จนท.มีของเล่นมาหลอกล่อเด็กน้อยด้วย ถ่ายไม่ยากเลยค่ะ หลังจากนั้นปั๊มลายนิ้วมือ เด็กน้อยจะใช้วิธีปั๊มค่ะ ไม่ได้แสกน (ให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมแอลกอฮอล์ล้างมือมาด้วยก็ดีนะคะ หมึกติดมือเช็ดออกยากมากจ้า) จนท.ให้ตรวจดูชื่อนามสกุลภาษาอังกฤษว่าถูกต้อง และเซ็นเอกสารยืนยัน และเซ็นยิมยอมให้ใช้รูป หลังจากนั้นก็ได้เอกสารมาชำระเงิน 1000 บาท ส่งไปรษณีย์ 40 บาท เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วค่า จองตั๋วเครื่องบินได้
. เวลาจองตั๋วก็กรอกชื่อ นามสกุลให้ตรงกับพาสปอร์ตนะคะ ส่วนเลขที่ได้วันทำ จนท.แจ้งว่ายังไม่แน่นอน ให้รอพาสปอร์ตตัวจริงก่อน
ขั้นตอนต่างๆ รวดเร็วทันใจมากค่ะ ตาลไปถึงเที่ยง คนเยอะ แต่เร็วมาก จนท.น่ารัก ยิ้มแย้ม บริการดีมากๆ 😊  ไ

ตั๋วเครื่องบิน เราเลือกเดินทางกับสายการบิน ANA  จองของพ่อแม่ก่อนทางเวปไซต์ และโทรไปจองกับสายการบินทีหลัง ค่าใช้จ่าย 1770 บาท ชำระผ่านบัตรเครดิต แจ้งว่าขออาหาร และขอ Bassinet เจ้าหน้าที่จะทำการจองที่นั่งให้เราเลยค่ะ คือจะเป็นที่นั่งแถวกลาง ที่สามารถวาง Bassinet ได้ ซึ่งตาลได้ที่นั่ง 20D 20F ถูกใจกับเนื้อที่ด้านหน้ามากๆ

การเลือกเวลาเดินทาง เราเลือกช่วงเวลาที่ลูกจะหลับได้ยาวนาน ซึ่งก็คือไฟท์ดึกนั่นเอง ที่เด็กจะหลับได้นานที่สุด การนอนของน้องอิมเมจปกติที่บ้านคือ ทุ่มสองทุ่มก็ง่วงแล้ว นอนยาวตื่นเช้า กลางคืนมีตื่นกินนมบ้าง เราจึงคิดว่าไฟท์ดึกลูกน่าจะหลับสนิทและรบกวนผู้โดยสารคนอื่นน้อยที่สุด

ประกันการเดินทาง
เนื่องจากเด็กอายุยังไม่ถึง 1 ปี ประกันการเดินทางจึงค่อนข้างแพง และมีให้เลือกน้อย
ส่วนตาลนั้นเลือกใช้ของบูพา ซื้อกรมธรรม์ที่คุ้มครองสูงที่สุดค่ะ เก้าร้อยกว่าบาท

เสื้อผ้า ช่วงที่ไปอากาศค่อนข้างเย็น เพราะเดินทางไปฟุคุชิมะ ภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปจากโตเกียว และประกอบกับสถานที่เที่ยวเป็นภูเขา ทำให้อากาศหนาว
ยูนิโคล่ >> ฮีทเทค เสื้อฮูดพาร์กาวอร์มแพด ชุดนอนแขนขายาว
H&M >> ชุดแกะกันหนาวหุ้มเท้า มีหมวก ถุงมือถอดใส่ได้ และถุงเท้า
นอกจากนั้นก็มีเสื้อแจ็คเกจหนา กางเกงเลกกิ้ง

ทริปนี้เน้นใส่ชุดแกะอย่างเดียวเลยค่ะ ด้านในใส่ฮีทเทค ใส่ถุงเท้า และก็ใส่ชุดแกะทับอีกที

ถ้าไม่หนาวมากก็จะใส่ฮีทเทคและก็ใส่เลกกิ้ง กับเสื้อแจ็คเกจหนา
เสื้อฮูดพาร์กาวอร์มแพดใส่วันที่ฝนตก ใส่น้อยมาก เพราะเสื้อตัวใหญ่กว่าลูก หลวมไปหน่อย

อาหาร
ตุนอาหารสำเร็จรูปไปทุกมื้อเลยค่ะ 7 วัน วันละ 3 มื้อ น้องอิมเมจกินของ Picnic Baby อายุ 10 เดือน

ของใช้
- แพมเพิส คำนวนไปตกวันละ 5 แผ่น สามารถไปซื้อที่นู้นได้ แต่เห็นแต่แพ็คใหญ่ อย่างเมอรี่นี่ถูกกว่าไทยมากๆค่ะ อยากซื้อกลับมาก แต่เป๋าเต็ม
- ทิชชู่เปียก ตาลใช้ทิชชูเปียกเยอะมากค่ะ แนะนำให้ซื้อห่อเล็กๆ จะได้แบ่งใส่ได้หลายกระเป๋า ต้องการใช้เมื่อไหร่จะได้หยิบมาได้สะดวก
- ทิชชู่ เอาไปทั้งแบบม้วน และแบบซอง แบบซองใส่กระเป๋า หยิบใช้สะดวก
- กระบอกน้ำ
- แอลกอฮอล์ล้างมือ
- ครีมทาผิว
- ครีมทาแมลงกัด
- ยาสระผมและครีมอาบน้ำ เลือกแบบ 2 in 1
- คัตตอนบัด
- เป้อุ้ม Punita เราไม่ใช้รถเข็น เนื่องจากอิมเมจตัวไม่ใหญ่ สามารถใส่เป้อุ้มไหว
- เตรียมของเล่นไปให้พร้อมด้วยนะคะ ไว้หลอกล่อในสถานการณ์ต่างๆได้ดีที่เดียว
- ผ้าคลุมให้นม

ยา
เนื่องจากอิมเมจป่วยก่อนเดินทาง 1 อาทิตย์ แต่คุณหมอแจ้งว่าเดินทางได้ ยานี้ส่วนหนึ่งจึงเป็นยาที่คุณหมอจัดให้ไว้สำหรับเดินทางไปญี่ปุ่นด้วยค่ะ
- ยาแก้หวัด คัดจมูก หูอื้อ
- ยาแก้ไอและละลายเสมหะ
- ยาแก้ปวดลดไข้
- ยาแก้ปวดลดไข้สูง
- ยาแก้คลื่นไส้
- เกลือแร่
- เขากุย ยาน้ำแก้ร้อนใน (ให้กินระหว่างวันบ่อยมากค่ะ)
- น้ำเกลือ ขวดเล็กแบบที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเลย
- ไซริง


เมื่อถึงวันเดินทาง
ช่วงสาย กับบ่าย ลูกหลับพักผ่อนปกติ พอตอนเย็นไปสนามบิน ก็ชวนเค้าเล่นตลอด ซึ่งการไปในที่แปลกๆ เค้าจะตื่นตาตื่นใจมาก ทำให้แม้จะเล่นหนัก แต่เมื่อขึ้นเครื่องไปก็ไม่หลับ ดีที่ไม่ร้อง หลับตอนประมาณเที่ยงคืน ไม่มีการเล่นส่งเสียงกวนผู้โดยสารอื่นๆ

ครั้งนี้เราเดินทางกับสายการบิน All Nippon Airline  ขาไปจากไทย เครื่องออก 22:05 เรามีเด็ก ซึ่งไม่สามารถเช็คอินออนไลน์ได้ เมื่อถึงเวลาก็เข้าเช็คอินช่องปกติ ไม่ต้องเขียนใบ ต.ม. แล้ว ตรงขั้นตอนสแกนสัมภาระ จนท.เห็นว่ามีเด็ก ให้เข้าช่องพิเศษได้ หลังจากนั้นผ่าน ต.ม. ตรงจุดนี้จะมีปัญหานิดหน่อยคือ ตาลเป็นคนอุ้มลูก ซึ่งลูกนามสกุลเดียวกับพ่อเค้า ทางจนท. ก็ถาม แต่เนื่องจาก แฟนตาลเข้าช่องตรวจใกล้ๆกัน จึงไม่มีปัญหาอะไร จนท. น่ารัก พูดคุยดีมากค่ะ ก็เดินไปทานอาหารที่ King power lounge และไปรอที่เกท ช่วงนี้ลูกก็จะเล่นปกติ ไม่มีทีท่าง่วง
เมื่อถึงเวลา จนท.เรียกขึ้นเครื่องก่อน ที่นั่งของเราเป็นที่นั่งที่ด้านหน้าสามารถวาง Bassinet ได้ โดยได้จองที่นั่งตั้งแต่โทรไปซื้อตั๋ว จนท.จัดการให้เรียบร้อย รวมทั้งอาหารของเด็กด้วย

ตอนเครื่องขึ้น ทุกคนแนะนำให้กินนม ซึ่งกะเวลาไม่ถูก ตื่นเต้น กังวลมาก กลัวลูกร้องเพราะหูอื้อ ให้จุ๊บเต้าก่อนเครื่องขึ้นนานมาก ทำให้เวลาเครื่องขึ้นจริงๆ ไม่มีนมให้จุ๊บแล้ว แต่ลูกก็ดูดปกติ ไม่ร้อง ไม่งอแง หากใครกินนมขวด นมชง สามารถขอน้ำอุ่นกับแอร์ฯ สำหรับชงนมได้ค่ะ

พอเครื่องขึ้นเรียบร้อย น้องอิมเมจก็เล่นสักพัก นั่งเล่นดึงที่เท้าแขนขึ้นลง เล่นของเล่นที่เตรียมมา ไม่งอแง พอง่วงก็ให้จุ๊บเต้า แล้วก็หลับ มีตื่นบ้าง และก็มีส่งเสียงบ้างตอนตื่นเปลี่ยนท่า แต่แปบเดียวมากๆลูกตื่นน้อย ทำให้ตาลเองก็ได้หลับพักเยอะเลย มีทั้งนอนพาดบ่า นอนบนตัก เมื่อยบ้างแต่ไหวอยู่ ส่วน Bassinet ที่แจ้งไปนั้น ลูกไม่นอนค่ะ วางแล้วร้อง

เมื่อถึงเวลาเสิร์ฟอาหาร จะค่อนข้างทุลักทุเลนิดหน่อย เพราะเราต้องอุ้มลูก ก็กินมือนึงอุ้มมือนึงค่ะ ส่วนอาหารลูก กินไปนิดหน่อย ที่เหลือนำลงไปกินต่อด้านล่าง อาหารเด็กทำน่ารัก น่าทานสุดๆ

เมื่อถึงญี่ปุ่น ตอนผ่าน ต.ม. ตาลเดินเข้าช่องตรวจพร้อมกันทั้งสามคน และยื่นพาสปอร์ตให้พร้อมกันทั้ง 3 เล่ม ไม่มีปัญหาใดๆ

ทริปนี้ตาลมีบางวันที่ขับรถเที่ยว 🚗 สิ่งสำคัญคือคาร์ซีท ปกติที่บ้านให้นั่งตลอด ให้นั่งตั้งแต่ออกจากร.พ.วันแรก แต่เชื่อไหมว่า ก็ยังมีร้องบ้างอยู่ทุกวันนี้ 555 แต่ที่ญี่ปุ่น เค้ากำหนดเป็นกฎหมายออกมาว่าเด็กต้องนั่งคาร์ซีท มีร้องบ้าง หลับบ้าง หรือร้องตลอดทางเลยก็มี อดทนๆๆๆ - -!

ที่พัก
เด็กขนาดนี้ไม่เสียค่าใช้จ่าย เราจองที่พักแบบไม่แพงมาก เตียงก็จะแคบหน่อย แต่เนื่องจากครอบครัวเราตัวไม่ใหญ่ นอนพอค่ะ หากใครไม่อยากอึดอัดก็จ่ายเพิ่มอีกหน่อย

ร้านอาหาร
ลูกจะกินข้าวพร้อมตาล บางมื้อก็มีเลทบ้าง ก็จะให้กินนมแทน โดยกินที่ร้าน ตาลจะให้แฟนกินก่อนค่ะ ระหว่างนั้นตาลก็จะป้อนข้าวลูก ส่วนตัวเองกินได้บ้างไม่ได้บ้าง พอแฟนกินเสร็จ รับช่วงต่อ ซึ่งระยะเวลาในการกินข้าวจะนานกว่าปกติ และที่ร้านอาหารบางร้าน ก็จะมีช้อน และชามของเด็กมาให้ด้วย ร้านที่เรากินเป็นร้านธรรมดานะคะ ไม่ได้หรูหรา มื้อนึงไม่เกินหนึ่งพันเยน หรือเกินนิดหน่อย ต่อคน

นั่งรถไฟ / นั่งรถแท็กซี่
เอาของเล่นให้เล่น ร้องก็ให้กินนม ไม่มีปัญหาใดๆ ในการนั่งเลย

ให้นม
สามารถให้นมได้ทุกที่เลยค่ะ เพียงแค่มีผ้าคลุมให้นม ตาลให้นมลูกทุกที่เลยจริงๆ ทั้งบนรถไฟธรรมดา ชินคันเซน แท็กซี่ ร้านอาหาร ห้าง ... 😊
สำหรับคุณแม่ที่ลูกยังจุ๊บเต้า เตรียมผ้าคลุมไปให้พร้อม เลือกผืนที่หยิบ และใส่สะดวกจะดีมากๆค่ะ

ห้องเปลี่ยนผ้าอ้อม
ส่วนใหญ่ตาลเปลี่ยนที่ห้องน้ำสำหรับคนแก่ และคนท้องค่ะ กว้างสะดวก และที่ญี่ปุ่นหาห้องน้ำง่ายมากๆ สะดวกสุดๆ

รถเข็น
ที่ห้างที่ตาลไปเดินมีบริการ มีหลายคันและสะอาด น่าใช้มากๆ รวมทั้งที่สนามบินญี่ปุ่นก็มีค่ะ ส่วนรถเข็นจากไทย ไม่ได้นำไป เพราะใส่เป้อุ้มสะดวกกว่ามากๆ แต่ทริปหน้าคงใส่เป้ไม่ไหวแล้วค่ะ รถเข็นจะเป็นตัวช่วยที่ดีทีเดียว (ถ้าลูกยอมนั่งนะคะ)

ส่วนขากลับ ไฟท์เวลา 00:30 เข้าเช็คอินช่องพิเศษ ตรวจสัมภาระช่องปกติ ผ่าน ต.ม.ช่องเดียวกัน
ก่อนขึ้นเครื่องก็ให้เล่นให้เหนื่อย เมื่อถึงเวลา ขึ้นเครื่องก่อนตามที่พนักงานเรียก นั่งที่เดิมตามที่จนท.ได้จองให้ไว้เรียบร้อยแล้ว คราวนี้เริ่มรู้แล้วว่าจะให้ลูกจุ๊บเต้าตอนไหน ก็ไม่มีปัญหาอะไรตอนเครื่องขึ้น แถมหลับไปเลย ไม่ตื่นเล่นอีกด้วยค่ะ มีร้องแอะๆบ้างตอนเปลี่ยนท่า แต่ถือว่าไม่รบกวนผู้โดยสารท่านอื่นมาก ขากลับลูกไม่ได้กินข้าว และไม่ได้นำอาหารลงไปด้านล่าง จริงๆคิดว่าขอเค้าได้ค่ะ แต่ก็เพลียๆ มึนๆเลยไม่ได้ขอ ทั้งไปและกลับมีแจกของเล่นด้วยจ้า

ตอนผ่าน ต.ม. ไทย เราเข้าช่องเดียวกันทั้งสามคน เนื่องจากไม่ต้องเขียนใบ ต.ม. แล้ว จนท.จะถามไฟท์บินนะคะ เตรียมตัวตอบด้วยจ้า

😍 ทริปนี้เป็นการเดินทางเที่ยวต่างแดนครั้งแรกของลูกชายที่ราบรื่นมากๆค่ะ ราบรื่นจนอยากจะจองตั๋วแล้วพาไปอีกมากๆ ราคาตั๋วก็ถู๊ก ถูก ไม่รู้จะอดใจไม่ให้เกิดทริปหน้าไหวมั้ยนะคะ ^^ หากมีโอกาสไปอีก ก็จะกลับมาเขียนรีวิวให้อ่านกันอีกจ้า

อมยิ้ม29 ขอบคุณที่อ่านกันจนจบน้า ยาวมากๆเลย หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะกระเตงลูกเที่ยวต่างแดนค่า...


หากต้องการข้อมูลตรงจุดไหนเพิ่มเติม สอบถามได้ตลอดเลยค่ะ หรือจะเข้ามาพูดคุยกันที่เพจก็ได้จ้า https://www.facebook.com/sabaisabaijapan
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่