คุณจะเลือกคนใหม่ที่"คิดว่า"เข้ากันได้ หรือคนปัจจุบันแต่มีปัญหากันตลอด????

ถ้าอ่านยากหรือพิมพ์ผิดก็ขออภัยนะคะพอดีเราพิมพ์ในไอแพดค่ะ
ยาวหน่อยนะคะ. พอดีว่าเครียดมาอยากระบายและขอคำปรึกษาค่ะ

ปัจจุบัน แต่งงานมาได้ ปีกว่าๆกับคนจีนอเมริกัน ตอนแรกๆมีปัญหากันเรื่องเงิน คือ ถ้าเค้าให้เราย้ายมาอยู่ที่อเมริกากับเค้า เค้าขอให้เราทำงานและช่วยออกค่าใช้จ่าย ซึ่งเราก็รับปากเพราะว่าอยากมาอยู่ที่อเมริกาด้วย แต่พอมาจริงๆเราก็ไม่ได้ทำงานและเค้าออกค่าใช้จ่ายต่างๆและให้เงินเราใช้ทุกเดือน ซึ่งเราก็คาดหวังว่าอยากเป็นแม่บ้านอยู่บ้านทำงานบ้านให้เค้า. แต่เค้าอยากให้เราทำงานและช่วยเค้าออกค่าใช้จ่าย(สามีเราเป็นเจ้าของกิจการอสังหา มีโรงแรม และmobile home parkให้เช่าประมาณ100หลัง)เราเลยทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ตลอด

ตอนที่ทะเลาะกัน เค้าบอกว่าชีวิตคู่มันต้องช่วยกันเสียสละ ช่วยกันหาเงินมาสร้างครอบครัว แต่ในความรู้สึกของเราคือ เราเสียสละทิ้งทุกอย่างเพื่อมาอยู่กับเค้า. ทิ้งครอบครัวทิ้งเพื่อน ทิ้งหน้าที่การงานที่ไทย ทิ้งผู้ชายตัวเลือกดีๆที่จีบเรา. และเรามาอเมริกาตัวคนเดียวเพื่อมาอยู่กับเค้า มันคือการเสียสละมากๆแล้ว และถ้าเราไม่ทำแบบนี้เราคงไปแต่งงานกับคนอื่น ซึ่งเราทำงานบ้าน ทำกับข้าว คอยเก็บกวาดเวลาเค้าทำรก ช่วยทำงานบริษัทเค้านิดๆหน่อยๆ(เราอยู่ด้วยกันตลอด24ชม.ค่ะเพราะเค้าแค่โทรเชคงาน ไม่ต้องไปทำงานนอกบ้าน)ในสายตาเราคือการทำงานอย่างหนึ่ง แต่สำหรับเค้าคิดว่าอยู่บ้านทำงานบ้านไม่นับว่าเป็นการทำงาน

เวลาทะเลาะกัน เราก็จะระบายทุกอย่างที่เก็บกดมานาน เช่น sex เราเข้ากันไม่ได้ เค้าเป็นคนเซ็กเสื่อมและทำไม่เป็น เราพยายามสอนเค้าแต่สุดท้ายเค้าก็ทำไม่เก่งอยู่ดี และเราต้อง ชตอ ทุกวันทั้งๆที่มีสามี ถ้าเป็นคนอื่นคงนอกใจสามีไปแล้ว แต่เรายังทนและไม่นอกใจ ซึ่งเค้าก็ไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่(สามีอายุเกือบ40ปี) มีหลายๆครั้งที่ทะเลาะกัน เราชอบไปข้างนอกคนเดียวและมีหนุ่มๆมาจีบพอสมควรแต่เราไม่เล่นด้วย บางทีเวลาไปถ่ายแบบก็มีช่างภาพมาสนใจ(งานพาร์ทไทมถ่ายแบบที่เราหาตามเวป model mayhem)เราก็บอกสามีตลอดและคอยย้ำตลอดว่าเราดีขนาดไหนทั้งๆที่มีโอกาสนอกใจมากแต่เราไม่ทำ ซึ่งเค้าก็เฉยๆไม่มีท่าทีอะไร

ล่าสุดที่ทะเลาะกันและถือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายของเรา คือ เราจะกลับไทยแต่ไม่มีเงิน เพราะเราต้องเอาเงินไปให้ที่บ้าน150,000บาท เราเลยขอยืมเงินจากสามี แต่สามีให้เราเซ็นสัญญาว่าเราจะจ่ายคืนภายในเวลาที่กำหนด ถ้าจ่ายช้าจะชาร์ทเงินเพิ่ม ซึ่งเราปรี้ดแตกมากและเอ่ยปากขอหย่า เราทนไม่ได้กับความประหยัดของเค้า ก่อนแต่งงานเค้าให้เราเซ็นสัญญาก่อนแต่งว่าเราจะไม่ได้ทรัพย์สินอะไรของเค้าถ้าหากหย่า มาตัวเปล่าก็ไปตัวเปล่า   ซึ่งเราก็เซ็นเพราะถ้าไม่เซ็นต์เค้าก็จะไม่แต่งงานด้วย และก่อนหน้านั้นเราขอเงินเค้า250,000บาทเพื่อทำศัลยกรรมแต่เค้าให้เรายืมเงิน รวมหนี้ที่เรายืมเค้าทั้งหมดคือ10,000USD. และเราต้องจ่ายเงินจำนวนนี้ถ้าเราจะหย่ากับเค้า. ความรู้สึกเราคือเราเสียเวลาไปปีกว่าและมีหนี้ ซึ่งเรารู้สึกเสียเปรียบมากๆ ค่าสินสอดก็ไม่ได้ งานแต่งก็ไม่มี แถมต้องเป็นหนี้กับสามีตัวเองอีก เราทนไม่ได้เลยขอแยกกันอยู่ค่ะ

ตอนที่แยกกันอยู่ เราเจอผู้ชายอีกคนแต่เค้าอยู่ที่นิวซีแลนด์เป็นคนจีนอายุ30กลางๆไม่ได้รวยมากเหมือนคนแรกแค่มีบ้านมีรถแต่ดูเหมือนเค้าแคร์เรามาก   เราสองคนคุยกันเข้ากันได้ทุกเรื่องเราวีดีโอคอลกันทุกวันอย่างน้อยวันละ5ชั่วโมง บางวันเค้าอดนอนและคุยวีดีโอคอลกับเราตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึง7โมงเช้า. เค้าส่งของมาเซอไพรส์เรา. เรากับเค้าใจตรงกันบ่อยมากๆเวลาคุยวีดีโอคอลกัน ทุกครั้งจะต้องมีเวลาที่เราพูดประโยคเดียวกันออกมาพร้อมๆกันตลอดมันเป็นแบบนี้บ่อยมากจนเราขนลุกเพราะไม่เคยพูดอะไรพร้อมๆกันกับใครได้บ่อยขนาดนี้มาก่อน แม้แต่อาหารสุนัขยังใช้ยี่ห้อเดียวกัน ยี่ห้ออื่นมีเยอะแยะทำไมต้องมาเป็นแบบเดียวกัน  ซึ่งเค้าก็รู้ว่าเรามีสามีแต่แยกกันอยู่แต่เค้าก็บอกจะรอเราซึ่งเราไม่อยากให้เค้ารอเพราะเราอาจจะไม่หย่ากับสามี

ก่อนเราจะไปอยู่อเมริกา เรามีผู้ชายที่ขอเราเป็นแฟนอีกคนนึงแต่เราไม่ได้เลือกเค้าเพราะเราเลือกสามีเรา  มีหลายๆครั้งที่เราคิดว่าเราตัดสินใจผิดและรู้สึกเสียใจเพราะถ้าเราเลือกอีกคนเราอาจจะมีความสุขมากกว่านี้

และตอนนี้เรารู้สึกว่าเราอยู่ในจุดที่ต้องเลือกอีกครั้ง กับคนที่รู้จักกันมา7ปีและแต่งงานกัน1ปีกว่า กับอีกคนที่รู้จักกันแค่เดือนเดียวแต่มีความรู้สึกว่ารู้จักกันมานาน ใจตรงกันพูดประโยคเดียวกันพร้อมกันออกมาบ่อยมาก ทั้งๆที่เรามีแฟนมา6คนและมีคนมาจีบเยอะมาตลอดแต่ไม่มีใครทำให้เรารู้สึกแบบนี้มาก่อน
เราสับสนและไม่รู้จะทำยังไงดี เราไม่อยากหย่าเพราะเรายังหวังว่าสามีเราจะทำให้เรามีความสุขขึ้น ไม่ทรีตเราเหมือนกับเราเป็นbusiness partnerทุกวันนี้เรารู้สึกว่าเค้าไม่ได้ทรีตเราเหมือนภรรยา อะไรๆก็ต้องทำสัญญาทุกอย่าง และอีกคนที่เพิ่งรู้จัก เค้าอาจจะโกหกเพื่อที่จะให้เราตายใจ บางทีก็คิดนะว่าอยากจะอยู่แบบโสดๆไปสักพักเพราะเหนื่อยกับความรักเหลือเกิน

เป็นคุณๆจะทำอย่างไรกันคะ
ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยเหลือเกินค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเรา....

เราจะยังไม่เลือกใครสักคนค่ะ

กับสามี
_เราจะมานั่งทบทวนจริงจังว่าทำไมเราถึงเลือกผู้ชายคนนี้มาเป็นสามีตั้งแต่ต้น... เราพลาดตรงไหน ?
อะไรที่ทำให้เราดูเขาไม่ออก  /  อะไรที่ทำให้เขาปฏิบัติกับเราอย่างไร้การทะนุถนอม ...

เพราะถ้าเราคิดจะมีสามี เรื่องนี้คือเรื่องสำคัญที่สุด
การให้เกียรติ และ เห็นคุณค่า จะเป็นสิ่งที่ผูกพันเราไว้ได้ "ยิ่งกว่าความรักด้วยซ้ำ"

เมื่อเราได้คำตอบ ... หากเป็นเพราะเราใจเร็วด่วนได้ ไม่ดูให้ดี
จะนำไปสู่คำตอบเรื่องคนถัดมา ...

ผู้ชายคนใหม่
_เรากำลังอยู่ในสภาวะรู้สึกว่าตนไร้ค่า (เพราะสามีทำให้รู้สึกแบบนั้น)  เรากำลังรู้สึกว่าอยากได้รับความเอาใจใส่
เรากำลังจะจมน้ำ ... ไม่ว่าอะไรลอยเข้ามา เราจะคว้าไว้ก่อน

และถ้าบังเอิญสิ่งที่คว้าดูเข้าท่า ... ก็มักจะมีเรื่องชวนฝันตามมา...  
การมองด้วยตาที่พร่ามัว  ด้วยใจที่ยังไม่นิ่ง
"เราจะเห็นเฉพาะสิ่งที่เราอยากเห็น / เราจะเชื่อเฉพาะในสิ่งที่เราอยากเชื่อ"

เราจะนำบทเรียน ที่เลือกสามีพลาด มาใช้ในครั้งนี้ด้วย

ผู้ชายคนเก่า
_ คนนี้จะไม่อยู่ในสายตาเรา เพราะในวันนั้นเราไม่เลือกเขา ..
นั่นแปลว่าเขาไม่มีแรงดึงดูดใจพอที่เราอยากจะใช้ชีวิตคู่ด้วย
ในวันนี้ .. แรงดึงดูดใจมันจะมีมาจากไหน ?

เราจะไม่เลือก "ใครก็ได้" อีกแล้ว  เป็นผู้หญิงไม่ใช่จะสวยขึ้นทุกวัน  ความชรา ความเสื่อมไปของสังขารวิ่งตามมาติดๆ
บทเรียนจะสอนให้เราเรียนรู้ว่า การดูใจคน ต้องดูให้ถ้วนถี่  

หากจะแต่งงานอีกครั้ง
เราจะเลือก "คนที่ดีที่สุด" ไม่ใช่คนที่รวยที่สุด หล่อที่สุด หรือปากหวานสุดๆ
แต่ต้องเป็นคนที่พิสูจน์ให้เราเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมที่สุดว่า "เราคือที่สุดในหัวใจเขา"

หากหาไม่ได้อย่างนี้

อย่าว่าแต่สามคนนี้เลย.... ใครเราก็ไม่เอาทั้งนั้น
เราไม่อยากได้ชื่อว่า เป็นหญิงที่เลือกสามีผิดบ่อยๆ

flower
ความคิดเห็นที่ 3
ปัจจุบัน แต่งงานมาได้ ปีกว่าๆกับคนจีนอเมริกัน ตอนแรกๆมีปัญหากันเรื่องเงิน คือ ถ้าเค้าให้เราย้ายมาอยู่ที่อเมริกากับเค้า เค้าขอให้เราทำงานและช่วยออกค่าใช้จ่าย ซึ่งเราก็รับปากเพราะว่าอยากมาอยู่ที่อเมริกาด้วย แต่พอมาจริงๆเราก็ไม่ได้ทำงานและเค้าออกค่าใช้จ่ายต่างๆและให้เงินเราใช้ทุกเดือน ซึ่งเราก็คาดหวังว่าอยากเป็นแม่บ้านอยู่บ้านทำงานบ้านให้เค้า. แต่เค้าอยากให้เราทำงานและช่วยเค้าออกค่าใช้จ่าย(สามีเราเป็นเจ้าของกิจการอสังหา มีโรงแรม และmobile home parkให้เช่าประมาณ100หลัง)เราเลยทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ตลอด

ตอนที่ทะเลาะกัน เค้าบอกว่าชีวิตคู่มันต้องช่วยกันเสียสละ ช่วยกันหาเงินมาสร้างครอบครัว แต่ในความรู้สึกของเราคือ เราเสียสละทิ้งทุกอย่างเพื่อมาอยู่กับเค้า. ทิ้งครอบครัวทิ้งเพื่อน ทิ้งหน้าที่การงานที่ไทย ทิ้งผู้ชายตัวเลือกดีๆที่จีบเรา. และเรามาอเมริกาตัวคนเดียวเพื่อมาอยู่กับเค้า มันคือการเสียสละมากๆแล้ว และถ้าเราไม่ทำแบบนี้เราคงไปแต่งงานกับคนอื่น ซึ่งเราทำงานบ้าน ทำกับข้าว คอยเก็บกวาดเวลาเค้าทำรก ช่วยทำงานบริษัทเค้านิดๆหน่อยๆ(เราอยู่ด้วยกันตลอด24ชม.ค่ะเพราะเค้าแค่โทรเชคงาน ไม่ต้องไปทำงานนอกบ้าน)ในสายตาเราคือการทำงานอย่างหนึ่ง แต่สำหรับเค้าคิดว่าอยู่บ้านทำงานบ้านไม่นับว่าเป็นการทำงาน

——————

อ่านจนจบขอโทษนะที่จะพูดตรงตรงเลยว่าคุณพึ่พาตัวเองยังไม่ได้เลยที่บอกว่าละทิ้งทุกอย่างที่เมืองไทย ครอบครัว สังคม เพื่อน งาน เพื่อมาแต่งงานกับเขาเป็นการเสียสละรวมทั้งไม่ได้สนใจคนที่มาจีบช่วงนั้น

อะไรคือการเสียสละของคุณหรอคะก็ในเมื่อคุณเขียนเองว่าคุณเองก้ออยากมาอยู่อเมริกาด้วยนตอนนั้น.....จริงๆสามีคุณพูดเงื่อนไขข้อตกลงกับคุณชัดเจนตั้งเเต่ก่อนเเร่งเเล้ว เเต่ความหน้ามืดตามัวของคนที่อยากมาอยู่อเมริกาอะไรก็เอาหมดพอมาถึงมันก็ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด คุณก็ เริ่มเปลี่ยนคำพูดตัวเองขึ้นมาทันที เขียนเองพิมพ์เองกับมือคำพูดก็ยังเปลี่ยนแปลงไปเลยกระทู้เดียวกัน

ประเด็นหนึ่งก็คือถ้าเกิดว่าเค้าไม่เคยพูดเงื่อนไขข้อตกลงกับคุณก่อนแต่งมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ฉันว่าคุณอยู่เองเถอะพึ่งพาตัวเองให้ได้ก่อนเถอะนะ ต่อให้ไม่มีผชถ้ารู้จกพึ่งพาตัวเอง หลายอย่างอาจจะดีขึ้น ไม่ใช่มาบอกคนนี้ไม่ใช่ แต่ไม่เคยโทษตัวเองเลยโทษแต่คนอื่น พอมีคนเข้ามาก้อเริ่มเบี่ยงเบน แล้วเลยมาทำให้แน่ใจหรอว่าคนใหม่มันจะใช่ คนที่ใช่

ถ้าคอมเม้นต์ไม่ถูกใจก็ไม่รู้จะทำยังไงนะคะก็คอมเม้นต์จากที่อ่านมานี่แหละค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่