Review: Let Me Eat Your Pancreas ( Shô Tsukikawa, 2017) เขียนโดย Form Corleone

Let Me Eat Your Pancreas ( Shô Tsukikawa, 2017) คะแนน B


By Form Corleone

"ใช้ชีวิตไปกับใครสักคน คือการเกิดมามีชีวิตที่คุ้มค่า" ภาพยนตร์ญี่ปุ่นโรแมนติก-ดราม่า ชื่อไทยว่า 'ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ' ตอนเห็นชื่อเรื่องครั้งแรกรู้สึกประหลาดใจอยู่เหมือนกัน แต่พอได้ดูภาพยนตร์แล้วจึงเข้าใจความหมายของชื่อเรื่องว่าแทบที่จะเป็นหัวใจหลักทั้งหมดของเนื้อเรื่อง เมื่อเด็กสาวน่ารักวัยใสเกิดเป็นโรคที่เกี่ยวกับตับอ่อนและจะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้อีกไม่นาน ถูกเพื่อนชายที่ไม่ค่อยจะเข้าสังคมกับเพื่อนคนอื่นเท่าไหร่ ล่วงรู้ความลับว่าตัวเธอนั้นป่วยและมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานด้วยความบังเอิญ การใช้ชีวิตช่วงเวลาสุดท้ายจึงเป็นเรื่องราวแสนสวยงามสำหรับความทรงจำที่ฝากทิ้งไว้ในส่วนหนึ่งของชีวิตใครอีกคน ภาพรวมทั้งหมดคืองานสไตล์ญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องราวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบร้อนที่จะใส่อารมณ์ดราม่าน้ำตาซึมทุกขณะจิต มวลรวมทั้งหมดของหนังจะค่อยๆพาเราซึมซับจนรู้สึกซาบซึ้งเมื่อเรื่องราวทั้งหมดจบลง งานภาพ+โลเคชั่นสวยมากและสบายตามาก คู่พระนางแสดงกันได้อย่างน่ารัก โดยเฉพาะเด็กสาวที่มีความสดใสจนลืมไปว่าเธอนั้นกำลังป่วยใกล้ตายอยู่ (มาแจกความสดใส จนบางครั้งก็รู้สึกว่าเวอร์เกินไปป่าวเนี่ย) จับคู่กับหนุ่มเข้มขรึมที่ไม่ได้สนใจเรื่องราวภายนอกเท่าไหร่ แต่เพียงใส่ใจกับเรื่องราวเล็กๆ เมื่อทั้งสองได้ทำความรู้จักและค่อยๆขยับความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของตัวละครจึงเปลี่ยนไป ภาพยนตร์มีวิธีการเล่าแบบตัดสลับเหตุการณ์ระหว่างตอนเด็กกับตอนโต สลับกันไปมาผ่านการเล่าเรื่องในสถานที่ ที่ทั้งสองคนได้มีความทรงจำร่วมกัน นั้นคือ 'ห้องสมุดโรงเรียน' บรรยากาศทั้งหมดจึงชวนโรแมนติกสำหรับคนที่ชื่นชอบเรื่องราวความรัก


ข้อความที่หนังต้องการสื่อมาให้นั้นดีมากๆ ในช่วงอายุของเด็กวัยรุ่นหรือขยับมาเป็นวัยผู้ใหญ่สักหน่อย การได้ออกไปใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการกับใครสักคนที่สามารถฝากอีกครึ่งชีวิตไว้ได้ จนเราอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปในโลกใบนี้ให้นานที่สุด ความรู้สึกของการได้งอนใครอีกคน ได้สวมกอดใครอีกคนในวันที่เศร้าใจที่สุด ความรู้สึกของความอึดอัดในช่วงเวลาที่ไม่เข้าใจกันจนน่ารำคาญ ความห่วงใยและการเอาใจใส่ คือความรู้สึกที่เราได้ใช้ชีวิตไปกับคนอีกคนและมีชีวิตอยู่เพื่อทำสิ่งเหล่านี้ไปพร้อมกัน+ยอมรับในสิ่งที่อีกฝ่ายหนึ่งเป็น นี้คือทั้งหมดของชีวิตที่ตัวละครทั้งสองได้ส่งมอบข้อความส่วนนั้นมาให้ สำหรับคนที่มีคู่ชีวิตคนจะได้รับข้อความที่ดีในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้มั่นคงยิ่งขึ้น แต่สำหรับใครที่ไม่มีคนข้างกายที่เป็นคนรู้ใจ ก็สามารถดูภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างไม่รู้สึกโดดเดี่ยวมากนัก เพราะเราก็ยังมีครอบครัวให้ได้บอกรัก มีคนที่เราอยากดูแลอยู่เสมอนั่นแหละ เราเกิดมาเพื่อดูแลใครสักคนและมีความสัมพันธ์กับใครสักคน นั้นหรือเปล่าคือการได้ใช้ชีวิตจริงๆ เมื่อเรานั่งดูภาพยนตร์เรื่องนี้ แง่มุมหนึ่งจึงทำให้เราตระหนักถึงการมีชีวิตและตั้งคำถามว่าเราได้ใช้ชีวิตของเราคุ้มค่าพอแล้วหรือยัง


หนังค่อนข้างจะเป็นสูตรสำเร็จตายตัว ทั้งซีนดราม่าและวิธีในการเล่าเรื่องเพื่อส่งมอบข้อความสำคัญๆ ที่ทำให้เราเห็นคุณค่าของชีวิตที่ได้ใช้เพื่อใครสักคน ในมุมมองที่ตัวละครในเรื่องกระทำต่อตนเองและผู้อื่น กำลังใจที่หนังเรื่องนี้มอบใครจึงทำให้เราฉุกคิด ถึงวิธีการใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวแล้วไม่เคยแบ่งปันชีวิตเพื่อคนอื่นนั้นคือการใช้ชีวิตแล้วแน่หรือ เมสเสจของภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นเพียงแนวทางหนึ่งในวิธีการตามหาความหมายของชีวิต และความเข้มแข็งด้วยวิธีมองโลกของตัวละครในเรื่อง แม้ว่าภาพยนตร์จะมีการจัดฉากหรือเซ็ตติ้งให้เรื่องราวดูเหมือนพรหมลิขิต(destiny) ระหว่างคนสองคนก็ตาม แต่ตัวละครในเรื่องกลับใช้การกระทำของตัวเองเป็นตัวกำหนดทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เรากำหนดชะตาชีวิตของเราเองหรือเราอาจมีสิ่งที่ลิขิตไว้แล้วเพียงแต่เราต้องเลือกเส้นทางนั้นเอง และภายใต้เรื่องราวที่เลวร้ายยังมีความหวัง+กำลังใจให้อยากมีชีวิตต่อไปเสมอ ถ้าเรารู้ว่าจะมีชีวิตนี้เพื่อใครสักคนหรือเพื่ออะไรก็ตามที่ยึดเราไว้ให้อยู่บนโลกใบนี้ต่อไป


สุดท้าย 'Let Me Eat Your Pancreas' คือภาพยนตร์ที่มีเรื่องราวความตายซ้อนทับไปกับเรื่องราวของการมีชีวิตและได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าไปกับคนที่ตัวเองรักและมั่นใจว่าเขาคนนั้นสามารถเติมเต็มเรื่องราวในชีวิตได้ เติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปได้จริงๆ ก่อนที่ทุกสิ่งจะเหลือเพียงร่างกายที่ไร้ความรู้สึก ท้ายสุด แม้ว่าเรื่องราวทั้งหมดจะเนิบช้าเป็นสูตรสำเร็จไปสักนิดจนไม่สามารถทำให้น้ำตาของเรามาตามนัดได้ แต่ภาพรวมทั้งหมดก็ถือเป็นผลงานที่ซาบซึ้งกินใจและน่าจะเรียกน้ำตาได้ไม่ยากจนเกินไปในความสัมพันธ์ที่แสนสั้นแต่สวยงามเหลือเกินของคนสองคน...ออกไปใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการและถ้าจะมีใครสักคนที่อยากใช้ชีวิตด้วยกัน เราคิดว่ามันคงจะเป็นชีวิตที่สมบูรณ์แล้วนะ...


ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ ยิ้ม

ตัวอย่างหนัง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่