Review: Die Tomorrow (นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์, 2017) เขียนโดย Form Corleone

Die Tomorrow (นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์, 2017) คะแนน B


By Form Corleone

"ตระหนักถึงความตาย ก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้" หนังแนวทดลองของ 'เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์' ถ่ายทอดเรื่องราวความตายเป็นภาพฟุตเทจและลองเทคขนาดยาวผสมการนั่งสัมภาษณ์ที่ให้อารมณ์แบบหนังสารคดี การโคลสอัพไปที่ใบหน้านักแสดงเป็นเวลานานๆ และวิธีเคลื่อนมุมกล้องช้าๆ ทั้งมุมแคบและมุมกว้าง คือวิธีการเล่นอารมณ์ต่อความรู้สึกถึงคนดูที่ 'Die Tomorrow' ส่งผ่านเมสเสจในเรื่องราวความตายที่อยู่คู่กับชีวิตทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ เพียงแต่เรื่องราวการตายทั้งหมดเกิดขึ้นในพรุ่งนี้หรือในวินาทีข้างหน้า ความพิเศษของงานนี้คือการพาเราตั้งคำถามต่อเรื่องราวความตายและแน่นอนว่าอินแพคต่อภาพรวมทั้งหมดสามารถทำให้เราตระหนักถึงความตายได้อย่างเข้าถึงง่าย แม้ว่าองค์รวมทั้งหมดจะไม่ได้มีผลต่อความรู้สึกเราให้ต้องดูหนังเรื่องนี้ให้ได้ก่อนตายก็ตาม


หนังเหมาะกับทุกคนและไม่ได้มีช่องว่างในการดูยาก ความเงียบของหนังคือผลกระทบให้เราตกผลึกความคิดเกี่ยวกับเรื่องราวความตายตรงกับเหตุการณ์ที่หนังนำเสนอ ทั้งการพลัดพรากจากกันไปหรือการกระทำต่อคนที่เรารักในวินาทีก่อนที่ความตายจะพรากชีวิตคนที่เรารักไปแบบไม่มีเครื่องหมายเตือนก่อน และแบบที่มีบางสิ่งเป็นสัญญาณเตือนแต่เราก็ไม่ได้ตระหนักจนละเลยการกระทำต่อคนที่เรารักไป สำหรับเราหนังจึงน่าจะมีอินแพคอย่างมากต่อคนที่ไม่เคยแสดงความรักต่อคนที่ตัวเองรัก อาทิ การบอกรักพ่อแม่ การสวมกอดคนที่รัก หรือการกระทำในสิ่งที่อยากจะทำต่อคนที่ตัวเองรักแต่ไม่กล้าที่จะลงมือทำ แต่สำหรับคนที่ใส่ใจคนที่ตัวเองรักอยู่ทุกวันและทำเป็นประจำจนเป็นเรื่องปกติไปในชีวิต หนังน่าจะส่งมอบกำลังใจในการทำสิ่งนั้นต่อไป และดำเนินชีวิตในการอยู่กับปัจจุบันขณะต่อไป และเราคิดว่าคนประเภทหลังที่เอาใจใส่คนที่ตัวเองรักอยู่แล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องดูภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้(ถ้าไม่มีโอกาสได้ดู ไม่ต้องเสียดาย)


#สปอย เรื่องราวของโชคชะตา(destiny) ประเด็นการนั่งสัมภาษณ์คุณปู่วัย 102 ปี ที่ปิดท้ายความคิดที่ว่าน่าจะมีอะไรผิดพลาดที่สร้างตัวปู่ให้มีอายุเกินหลักร้อย มีบางสิ่งผิดพลาดทำให้อายุล่วงเลยมาถึงขนาดนี้ กับการเอาเด็กอายุ 10 กว่าขวบ มานั่งสัมภาษณ์ ในความหมายของความตายที่เข้าไปหาข้อมูลใน google หรือ pantip ดูขัดแย้งกันอย่างมีนัยสำคัญที่ต่างกันทั้งช่องว่างทางอายุและวิธีคิด ซึ่งข้อดีและข้อเสียสำหรับเราคือ การที่คุณปู่บอกว่ามีอะไรผิดพลาดบางอย่างที่กำหนดชีวิตไว้แล้ว ทำให้เรื่องราวที่เล่ามาเกือบทั้งหมดที่ให้เราตระหนักถึงปัจจุบันดูจะด้อยค่าลงไปทันที เพราะมันไม่สอดคล้อยกับการกระทำภายใต้เงื่อนของของโชคชะตาที่เราไม่ได้เป็นคนลิขิตไว้ด้วยตัวเอง ไม่มีเหตุและปัจจัยในการมีชีวิตรอดหรือต่อการตายนั้นๆ ส่วนข้อดี คือเราได้เห็นมุมมองหรือชุดความคิดแบบหนึ่งต่อเรื่องราวความตาย ที่มีบางสิ่งที่ต่างกันระหว่างคุณปู่และเด็กน้อย แต่สิ่งที่เหมือนกัน คือ 'ความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัว' ในชุดความคิดของทั้งสองคน


เรื่องราวในเรื่องจะต้องมีส่วนใดส่วนหนึ่งตรงกับเรื่องราวในอดีตของใครหลายคน เพราะเชื่อว่าไม่มีบ้านไหนที่ไม่มีคนตาย ทุกบ้านเคยมีคนตายด้วยกันทั้งนั้น และบางครั้งเราก็ไม่ได้เตรียมใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือแม้กระทั่งเตรียมใจไว้แล้ว แต่บ่อยครั้งก็ทำใจได้ลำบากในการจากไปของคนที่เรารักอยู่ดี 'คนตายไปสบาย คนเป็นนั้นทรมาน' เราเคยมีเพื่อนคนหนึ่งที่คุยแชทกันปกติ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เราไม่ได้ตอบแชทเพื่อน และมันก็เป็นแชทสุดท้ายที่เพื่อนคนนั้นส่งมาให้เรา และเราก็ไม่มีโอกาสได้ส่งข้อความนั้นกลับไปถึงเพื่อนของเราได้อีกเลย หรือเพื่อนที่กำลังจะฆ่าตัวตายและไม่มีใครคิดว่ามันจะทำจริงๆได้หรอก พอเราได้ดู 'Die Tomorrow' เรื่องราวที่เราเคยประสบกับตัวเองและมันไปโดนกับเส้นเรื่องส่วนใดส่วนหนึ่งของงานนี้มันจะส่งผลให้เราคิดถึงเรื่องราวในอดีต แม้เราจะเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างไปแล้ว ทั้งการทำทุกวันให้เป็นวันพิเศษหรือการรับฟังเพื่อนโดยไม่ใส่ความคิดของตัวเองลงไป อย่างที่ตัวละครไม่ได้พึงกระทำ เป็นต้น


ท้ายสุด 'Die Tomorrow' สำหรับเราเป็นงานที่ทำให้เราตระหนักถึงสิ่งที่เรากระทำอยู่ทุกวันในขณะเดียวกันก็ตั้งคำถามต่อเรื่องราวความตาย นำเสนอในรูปแบบหนังแนวทดลองที่ผสมความเป็นตัวตนของคนๆหนึ่งได้อย่างชัดเจน+ถ่ายทอดให้คนอื่นกลับไปตั้งคำถามต่อเรื่องราวความตายในมุมของตัวเองต่อไป แม้จะไม่ได้เป็นหนังที่เราจะชอบมากเพราะไม่ได้รู้สึกถึงความแปลกใหม่ในตัวข้อความที่ต้องการนำเสนอหรือวิธีการเล่าเรื่องจนรู้สึกว่าถ้าไม่ได้ดูแล้วจะเสียดาย อย่างไรเสีย 'Die Tomorrow' ก็จัดเป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การเข้าไปดูแบบไม่รู้สึกเสียเวลาหรือรู้สึกว่ามีใครสักคนกำลังสอนและตัดสินความคิดในเรื่องราวความตายให้เราอยู่ ฉะนั้น งานนี้จึงเป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัวและสามารถสัมผัสต่อห้วงความรู้สึกได้ไม่ยาก...เพราะความตายนั้นเข้าใกล้เราเสมอทุกขณะ…อาจจะเป็นพรุ่งนี้หรือวินาทีถัดจากนี้ก็เป็นได้...


ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ ยิ้ม

ตัวอย่างหนัง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่