โค้ช 7 ประเภท พาคุณประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง

โค้ช 7 ประเภทพาคุณประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง

บทความนี้เป็นเรื่องนอกตำรา แต่ผมคิดว่ามีประโยชน์มากในการพัฒนาภาษาอังกฤษด้วยตนเอง

การเรียนภาษาไม่ได้สร้างในชั่วข้ามคืน แต่ต้องอาศัยกำลัง ความพยายาม ความอดทน ซึ่งถ้าไม่มีใครคอยชี้แนะ เรียนแบบไม่มีแนวทาง ก็เหมือนคุณกำลังทำงานหนักกว่าเพื่อนสองเท่าโดยไม่จำเป็น

โค้ชที่ผมจะมาแนะนำในการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองวันนี้มี 6 ประเภทซึ่งผมขอเปรียบเปรยกับธาตุต่างๆเพื่อให้เห็นภาพได้ง่ายนะครับ เรามาเริ่มกันเลย

------------------
1 โค้ชหิน
สำหรับวิธีดั้งเดิมแต่ได้ผลตั้งแต่รุ่นเก่าจนกระทั่งปัจจุบัน ได้แก่สายหิน สายถึก นั่นคือการอ่านตำราไวยากรณ์เล่มหนาสุดในห้องสมุดหรือ กินพจนานุกรมเป็นอาหาร
หนังสือไวยากรณ์และคำศัพท์ภาษาอังกฤษสมัยนี้หลากหลายมาก มีทั้งเหมาะสำหรับเด็ก ผู้ใหญ่ หรือปรับตามพื้นฐาน ผู้เรียนเช่น เริ่มจากภาษาไทย หรือต้องการใช้ภาษาอังกฤษตั้งแต่เริ่ม
ยังคงปฏิเสธไม่ได้ว่า grammar ในภาษาอังกฤษมี rule ให้จำมากมาย รวมถึง exception ต่างๆ
ซึ่งถ้าคุณเป็นผู้เรียนสายหิน ก็คงไม่ใช่เรื่องยากกับการจำ grammar , vocabulary
ข้อได้เปรียบคือเมื่อทำข้อสอบคุณจะรู้ทุกเรื่อง เหมือนหนังเรื่อง inception
ทำไมข้อสอบออกแบบนี้ คนออกตั้งใจจะหลอกอะไร ข้อสอบวัดความสามารถด้านไหน ข้อไหนถูกสุดผิดที่สุด
แต่ข้อเสียคือถ้าจำไม่ได้หรือจำสลับกัน ก็เสีย dog เหมือนกัน
นักเรียนสายหินมักจะเป็นแหล่งอ้างอิงของเพื่อนๆ ถามอะไรเหมือนกับถามครูอังกฤษโดยตรง ไม่ว่านักเรียนสายหินจะรู้จริงหรือรู้ไม่จริง เพื่อนจะพยักหน้าตอบรับอย่างไม่สงสัย
If Clause , 12 tenses , article , idioms ก็เป็นแค่วิชาที่บางที นักเรียนสายหินพูดก็ทำให้รู้สึกถึง overcorrect
นักเรียนสายหินต้องใช้ความอดทน พลังหรือบางครั้งพรสวรรค์ก็มีส่วนเกี่ยวข้อง



-----------------------------------
2 โค้ชสายแม่น้ำ
นักเรียนภาษาอังกฤษสายน้ำคือนักเรียนแห่งโชคชะตา ผู้มีเพื่อน คนรู้จัก เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า หรือแม้กระทั่งแฟนที่เป็นคนต่างชาติ เป็นผู้สอนภาษา
นักเรียนสายแม่น้ำมีคนรู้จักมากมาย  มีเส้นสาย สภาพแวดล้อมมักบังคับให้พูดภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะไทยคำอังกฤษคำ หรือพูดภาษาอังกฤษแล้วผิด เพื่อนก็จะแก้ให้
นักเรียนสายแม่น้ำอาจจะเคยอ่อนแอภาษาอังกฤษมาก่อน แต่เมื่อฟังพูดอ่านเขียนบ่อยๆ ความคิดที่ออกจากสมองด้านภาษาจะแทรกไวยากรณ์และคำศัพท์ที่จำเป็นในการเอาชีวิตรอดเข้าไป ทำให้พูดฟังภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้คล่องแคล่วกว่านักเรียนสายอื่น
นักเรียนสายแม่น้ำมักต้องอาศัยโชคชะตา เช่นการเข้าทำงานที่บริษัทข้ามชาติ หรือทำงานในย่านคนต่างชาติเยอะ
แต่ก็ไม่เสมอไป ในปัจจุบัน เราสามารถเข้าถึงคนต่างชาติได้หลายช่องทาง เช่นการใช้ application LINE , Facebook group , What's app เว็บไซต์อย่าง interpals.net , livemocha , Unilang เป็นต้น
รวมถึงเข้าค่ายแลกเปลี่ยนกับเพื่อนต่างชาติ (ที่ประเทศไทยราคาจะไม่แพง) เช่น exchage , boot camp , volunteer เป็นต้น
หากใครสนใจโค้ชแบบนี้อาจเริ่มต้นจาก skill Writing แบบ chat หรือ Speaking ก็ได้
ข้อดีของนักเรียนสายแม่น้ำคือการใช้ภาษาในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องอ่านหนังสือมากมาย

---------------------
3 โค้ชสายไฟ
โค้ชสายไฟ หมายถึงต่อสู้ แข่งขัน
นักเรียนแบบนี้มักผ่านสนามสอบมาหลายสนาม
ผมเชื่อว่าในระบบการศึกษาประเทศไทย ทุกคนคงผ่านสนามสอบมาหลายครั้ง การสอบย่อย สอบ grammar ,vocabulary , error , essay ซึ่งแต่ละประเภทจะใช้ทักษะที่แตกต่างกันไป
อีกทั้งในปัจจุบันมีการสอบวัดความสามารถภาษาอังกฤษมากมาย และมีหลายจุดประสงค์
บางอย่างจัดสอบภายในประเทศ บางอย่างจัดสอบโดยสถาบันสากล
บางอย่างเสียเงิน บางอย่างไม่เสียเงิน
บางอย่างใช้เพื่อเรียนต่อ เพื่อสมัครงาน และอีกหลายๆจุดประสงค์
ข้อดีของนักเรียนที่มีโค้ชแบบนี้มักมี experience ที่หลากหลาย การสอบแบบ listening , writing , reading ,speaking
ในปัจจุบันมีหนังสือและคอร์สภาษาอังกฤษตามสถาบันต่างๆ ที่จัดทำขึ้นมาอ้างอิงตามการสอบ เช่น หนังสือจับผิด error , หนังสือ


แต่ข้อเสียคือใครที่สอบบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสอบที่จัดโดยสถาบันสากล มักจะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย
ตัวอย่างการสอบเช่น TOEFL , TOEIC , IELTS , SAT


สำหรับใครที่อยากเป็นนักเรียนสายนี้ ขอแนะนำให้ฝึกตามธรรมชาติของการสอบต่างๆ เพราะคุณจะได้ประสบการณ์อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมัยนี้มี pre test online ทำได้ทาง internet แบบฟรีๆ
แต่สำหรับวิธีการเตรียมตัวสอบ คงไม่ได้พูดรายละเอียดเบื้องลึกไว้ ณ ที่นี้เพราะมีความจำเพาะสูงแต่สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่เพจ  English KNOW NOW ได้นะครับ

4 โค้ชสายหมอก
โค้ชสายนี้มีความเปลี่ยนแปลงสูง เหมือนกับนักเรียนที่อาศัยติวเตอร์หลายๆคอร์ส
ส่วนใหญ่เราจะเห็นนักเรียนแบบนี้ตามกวดวิชาติวเตอร์
กวดวิชาในปัจจุบันมีความหลากหลายสูงเพื่อให้เข้ากับ style การเรียน , วิถีชีวิตของนักเรียน
เช่นคอร์ส เจาะลึก grammar , เจาะลึก vocabulary
หรือแบ่งตามพื้นฐานภาษาอังกฤษเช่น preintermediate, intermediate หรือ advance
แน่นอนว่าการเรียนแบบนี้จะได้เจาะลึกถึงแก่นของภาษาอังกฤษจากผู้ชำนาญในการสอนและมีประสบการณ์ บางสถาบันใช้ native speaker เป็นผู้สอน
(แต่ผมเห็นว่ามีบางสถาบันเหมือนกันที่จ้างครูที่ไม่ได้มาจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเช่นอเมริกาใต้ , ยุโรปบางประเทศ ต้องดูให้ดี)
นอกจากนั้นบางสถาบันยังจัดสอน crash course ที่สอนจำเพาะกับการสอบ ในเวลาสั้นๆ เช่น ตั้งใจเตรียมสอบ TOEFL ใน 1 เดือนเป็นต้น ตามที่เคยกล่าวไว้แล้ว ซึ่งก็เป็นข้อได้เปรียบที่จะได้ทำข้อสอบเก่าและฝึกทักษะที่จำเป็นอย่างเข้มข้น

ผมเองก็เรียนภาษาอังกฤษจาก รูปแบบนี้เหมือนกัน เป็นศิษย์หลายอาจารย์ 555 ก็ยังชอบวิธีการสอนของอาจารย์หลายๆท่าน ซึ่งถ้าใครสนใจผมก็คิดว่าคงได้ความประทับใจแบบเดียวกัน

ขอติดอีก 3 รูปแบบที่เหลือไว้ก่อนนะครับ ง่วงนอนแล้ว เดียวจะมาเขียนต่อพรุ่งนี้
ท่านใดที่สนใจอ่านรีวิวการเรียนแบบ ครบถ้วน ขอแนะนำอ่านเพิ่มเติมที่กระทู้
https://ppantip.com/topic/37117138

หรืออ่านเรื่องที่ผมเรียบเรียงไว้ ได้ที่
https://m.facebook.com/EnglishKNOWNOW/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่