>>>>> มนุษย์ถ้ำ

มนุษย์ถ้ำ

             เหล่านักโทษหลายคนถูกกักขังอยู่ภายในถ้ำแห่งหนึ่งมาตั้งแต่วัยเด็ก พวกเขาถูกบังคับให้นั่งหันหน้าเข้าหาผนังถ้ำด้านในสุด อยู่ตรงกันข้ามกับปากถ้ำ คนเหล่านั้นนั่งหันหลังให้กับปากถ้าตลอดเวลา พวกเขาต้องนั่งนิ่งเป็นรูปปั้น เพราะถูกล่ามโซ่ที่ขาและใส่ขื่อคาที่คอ จึงไม่สามารถแม้จะเหลียวมองเพื่อนนักโทษที่นั่งอยู่ข้างๆนั่งประจันหน้าผนังถ้ำ

             บริเวณด้านหลังนักโทษยกพื้นลาดสูงขึ้นไปจนถึงปากถ้ำที่มีแสงสว่างจากโลกภายนอกสาดเข้ามารำไร  ใกล้กับปากถ้ำมีกองไฟลุกโชนอยู่ แสงไฟแผ่ออกไปจับที่ผนังถ้าด้านหน้านักโทษ และในบริเวณระหว่างด้านหลังนักโทษกับกองไฟ มีคนอีกกลุ่มหนึ่งเดินไปมาขวักไขว่ ในมือคนเหล่านั้นมีภาชนะรูปปั้นและหุ่นจำลองของสัตว์ต่างๆ เงาของคนที่เดินและสิ่งของในมือที่ไปทาบอยู่ที่ผนังถ้ำด้านหน้านักโทษทั้งหลาย พวกนักโทษเห็นเพียงเงาที่ผนังถ้ำ แต่ไม่อาจเหลียวมองดูที่มาของเงา
             เนื่องจากนักโทษเห็นเงาเหล่านั้นมาตั้งแต่วัยเด็ก พวกเขาจึงไม่ได้คิดว่าภาพที่เห็นเป็นแค่เงา พวกเขาถือว่าสิ่งที่เห็นเป็นจริงในตัวเอง และเมื่อคนที่เดินอยู่ด้านหลังพูดคุยกัน นักโทษก็คิดว่าเป็นเสียงที่เปล่งออกมาจากภาพที่ผนังถ้ำ
           ภาพนี้แหล่ะที่เราต้องนำมาใช้กับสิ่งที่พูดมาแล้วทั้งหมด ที่ตั้งของคุกเทียบได้กับโลกที่เห็นได้ด้วยตา แสงจากกองไฟในที่นั้นเทียบได้กับอำนาจของดวงอาทิตย์ การขึ้นมาข้างบนและรู้เห็นสิ่งต่างๆข้างบน ก็คือการที่วิญญาณไต่ขึ้นไปหาโลกแห่งปัญญาแต่สิ่งที่จะเห็นเป็นสิ่งสุดท้าย และเป็นสิ่งที่เห็นได้ยากในโลกของสิ่งที่เราจะรู้ได้ ก็คือแบบแห่งความดี

            และเมือเห็นแล้วก็จะต้องสรุปว่า สิ่งนี้คือสิ่งที่มาของสิ่งทั้งปวงที่ถูกต้องและดีงาม ให้แสงสว่างและเป็นต้นกำเนิดแห่งแสงสว่างแก่โลกที่เห็นได้ด้วยตา และเป็นที่มาของความจริงและเหตุผลในโลกที่รู้ได้ด้วยปัญญาให้รู้ว่า คนส่วนมากก็เหมือนชาวถ้ำที่หลงนิยมชมชื่นอยู่กับ "เงา" วัสดุสิ่งของที่เราพบเห็นอยู่ในชีวิตประจำวันเป็นเพียงสิ่งจำลองมาจากของจริงต้นฉบับ

            คนที่ถูกล่ามโซ่ตรวนไว้ในถ้ำมาตลอดชีวิต พวกเขาไม่เคยย่างก้าวออกนอกถ้ำ อย่าว่าแต่ย่างก้าว แม้แต่ขยับหน้า ตัว แขน ขา หรือส่วนไหนก็ไม่ได้ ถูกตรึงไว้ พวกเขาถูกตรึงไว้หันหลังให้ปากถ้ำ
            สิ่งที่พวกเขาเห็นคือผนังภายในที่มีแสงจากปากถ้ำเข้ามากระทบ พวกเขาไม่เคยเห็นปากถ้ำเลย ไม่รู้ด้วยว่ามี สัตว์ นก คน หรือ สิ่งต่างๆ ผ่านปากถ้ำด้านนอกนั้น ก็จะทำให้เกิดเงาทอดเข้ามาตกกระทบบนผนังถ้ำด้านใน คนในถ้ำมองเงาบนผนังที่มีรูปทรงต่างๆ และเข้าใจว่ากำลังมองของจริงอยู่
             ต่อมามีคนในถ้ำคนหนึ่ง แหกโซ่ตรวจทั้งร่างออกได้ เขาหรือไม่ก็ เธอ เดินออกมานอกถ้ำ เห็นโลกของจริงเป็นครั้งแรก และรู้แล้วว่า โลกจริงลึกล้ำและเหนือกว่าโลกแห่งเงาที่รู้จักอย่างประมาณไม่ได้ เขาเห็นนกบินจริงๆ สัตว์เคลื่อนไหวจริงๆ มิใช่เงาของมันอย่างเคย และเห็นว่าแหล่งกำเนิดแสงนั้นคือพระอาทิตย์
           

          จากนั้นเขารู้สึกตื่นเต้นมากเดินกลับไปหาเพื่อนในถ้ำ พยายามบอกเล่าเรื่องโลกที่เป็นจริงด้านนอกให้ฟัง พยายามอธิบายว่าแสงพระอาทิตย์ ตกสะท้อนทัศนียภาพ หมู่สัตว์ ต้นไม้ ธรรมชาติ ภูเขา สายน้ำ สีสัน ของธรรมชาติมากมาย งดงามเพียงใด ตื่นตาตื่นใจเท่าใดให้รับฟัง แต่เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า พวกนั้นไม่เชื่อ แย่ไปกว่านั้นพวกเพื่อนกลับโมโห ต่างก็กล่าวว่า เงา ที่เขาเห็นในถ้ำนั้นนั่นแหละคือของจริง ที่เจ้าเล่ามาทั้งหมดนั้นพวกข้าว่าเจ้าเสียสติมากกว่า.



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


......
บางส่วนจาก
Allegory of Cave in  Republic
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่