ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ คือเราปวดท้องแล้วคุณหมอที่ตรวจโรคทั่วไปก็กลัวว่าจะเป็น ไส้ติ่งอักเสบ จึงส่งขึ้น Ward Surgery(วอร์ดศัลยกรรม) แรกๆเราก็ไม่ได้สนใจอะไร จนคุณหมอนัดไปตรวจเป็นครั้งที่ 2 (ครั้งสุดท้ายที่จะได้เขอคุณหมอศัล) จะว่าเป็นความคุ้นเคยก็คงไม่ใช่ค่ะ ตั้งแต่วันนัดครั้งสุดท้าย เรากลับมาก็พยายามหา Facebook ของคุณหมอ หาแล้วหาเล่าก็ยังไม่เจอ (ถอดใจแล้วว่าไม่เจอแน่) จนเอาชื่อหมอมาหาใน google แล้วก็เจอ ก็กดAddเลยจ้าา แต่...หมอไม่รับแอดอ่ะ เลยทักแชทไปหาหมอแล้วก็ถามโน่นนี่นั่นแล้วก็ขอให้หมอรับแอด อ๋อ ลืมบอกค่ะว่า หมอจำเราได้ (ดีใจจัง) แล้วต่อมาเราทักไปหาหมอแบบ 3วันทักไปที ก็ถามเกี่ยวกับเรื่องทางการแพทย์บ้าง แล้วเราก็ตัดสินใจรวบรวมความกล้าขอนัดหมอ เพื่อที่จะเอาขนมไปให้หมอ แล้วคุณหมอก็ตกลงค่ะ เมื่อถึงเวลาพัก คุณหมอก็บอกให้เราไปที่ห้องตรวจของหมอ เราส่งของให้ คุณหมอก็ขอบคุณแล้วก็ทำหน้ามึนๆ ตอนนั้นเราไม่ได้พูดอะไร พอให้ขนมเสร้จเราก็สวัสดีแล้วกลับออกมา คือตอนนั้นมันมีความสุขมาก มากซะจนบอกไม่ถูก แล้วเราก็พยายามทักไปหาหมออีกค่ะ ก็ถามเรื่องที่เกี่ยวกับการรักษาต่างๆนาๆบ้าง (เพราะเราเอก็เรียนสาธารณสุข ) เลยถามข้อมูลมาเก็บไว้ และล่าสุดเมื่อวันพฤหัสที่แล้ว เราก็เอาของไปให้หมออีกค่ะ (ของขวัญปีใหม่ล่วงหน้า) ไม่รู้ว่าเราคิดไปเองหรือปล่าวนะคะ เพราะคุณหมอแลพูดติดๆขัดๆเวลาที่เราถามหรือคุยกับหมอ แต่เราสังเกตุได้ว่า ก่อนที่เราจะหาเฟสหมอเจอ หรือเรียกว่าช่วงที่เรายังเป็นคนไข้ของคุณหมอนั่นแหละค่ะ ช่วงนั้นคุณหมอพูดกับเราแบบเป็นกันเองมาก แบบพูด ประมาณว่า ไม่รู้หวะ เออๆ ได้มั้ง หมอไม่แน่ใจหวะ .. แต่ตัดภาพกลับมาหลังจากที่เราหาเฟสหมอจนเจอแล้วทักไปจนถึงทุกวันนี้ หมอแลไม่เหมือนหมอคนเดิมเลยค่ะ
แบบนี้คือคุณหมอเขาไม่สนิทใจใช่มั๊ยคะ ที่เราทำแบบนี้ คุณหมออายุมากกว่าเรา10ปีค่ะ(ยังไม่มีครอบครัว) แต่ฐานะเรากับหมอก็เทียบกันไม่ติดจริงๆ เขาอยู่สูงมาก แต่เรา....ถ้าเรียนจบก็เป็นได้แค่หมออนามัย แล้วเขาซึ่งเป็นถึง ศัลยแพทย์ จะให้เขามาสนใจเราก็คงเป็นไปไม่ได้ อีกอย่างทั้งพ่อและแม่ของคุณหมอก็เป็น แพทย์เหมือนกัน แต่ครอบครัวเรา เป็นเกษตกร อันนี้ไม่ได้จะดูถูกอาชีพของครอบครัวเราเองนะคะ แค่จะเทียบให้มองภาพออกกันเฉยๆค่ะ คือเราจะทำยังไงต่อไปดีคะ ควรเดินหน้าต่อ หรือควรหยุดพอแค่นี้ แล้วเราก็ไม่แน่ใจด้วยค่ะว่าคุณหมอเขาจะรู้มั้ยว่าเรา มีความรู้สึกดีๆให้กับหมอ และถ้าเขารู้ว่าเรารู้สึกยังไงกับเขา เราก็กลับมาคิดอีกว่า เห้ย เขาจะมองว่าเราแก่แดดมั้ย เขาจะมองเรายังไงนะ (คือตตอนนี้เรายังเรียนไม่จบค่ะ แต่เป็นเทอมสุดท้ายของการเรียนแล้ว เดือนหน้าฝึกประสบการณ์ทางวิชาชีพครั้งสุดท้ายก่อนจบแล้วออกมาทำงานจริงๆ) เราควรจะทำยังไงดีคะ
ปล.มันอาจจะยาวไปหน่อยนะคะ
ปล.2 ถ้าอ่านแล้วมันงงๆก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ปล.3 ถ้าแท็กผิดห้องขอโทษด้วยค่ะ
คือเราไปชอบคุณหมอที่เป็นเจ้าของไข้เราค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดี
แบบนี้คือคุณหมอเขาไม่สนิทใจใช่มั๊ยคะ ที่เราทำแบบนี้ คุณหมออายุมากกว่าเรา10ปีค่ะ(ยังไม่มีครอบครัว) แต่ฐานะเรากับหมอก็เทียบกันไม่ติดจริงๆ เขาอยู่สูงมาก แต่เรา....ถ้าเรียนจบก็เป็นได้แค่หมออนามัย แล้วเขาซึ่งเป็นถึง ศัลยแพทย์ จะให้เขามาสนใจเราก็คงเป็นไปไม่ได้ อีกอย่างทั้งพ่อและแม่ของคุณหมอก็เป็น แพทย์เหมือนกัน แต่ครอบครัวเรา เป็นเกษตกร อันนี้ไม่ได้จะดูถูกอาชีพของครอบครัวเราเองนะคะ แค่จะเทียบให้มองภาพออกกันเฉยๆค่ะ คือเราจะทำยังไงต่อไปดีคะ ควรเดินหน้าต่อ หรือควรหยุดพอแค่นี้ แล้วเราก็ไม่แน่ใจด้วยค่ะว่าคุณหมอเขาจะรู้มั้ยว่าเรา มีความรู้สึกดีๆให้กับหมอ และถ้าเขารู้ว่าเรารู้สึกยังไงกับเขา เราก็กลับมาคิดอีกว่า เห้ย เขาจะมองว่าเราแก่แดดมั้ย เขาจะมองเรายังไงนะ (คือตตอนนี้เรายังเรียนไม่จบค่ะ แต่เป็นเทอมสุดท้ายของการเรียนแล้ว เดือนหน้าฝึกประสบการณ์ทางวิชาชีพครั้งสุดท้ายก่อนจบแล้วออกมาทำงานจริงๆ) เราควรจะทำยังไงดีคะ
ปล.มันอาจจะยาวไปหน่อยนะคะ
ปล.2 ถ้าอ่านแล้วมันงงๆก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ปล.3 ถ้าแท็กผิดห้องขอโทษด้วยค่ะ