เล่าความยากของการยกเลิกเงินฝากค้ำประกันบัตรเครดิต SCB

กระทู้สนทนา
สรุปปัญหาหลักที่เจอสำหรับคนขี้เกียจอ่านยาวๆ
- คอลเซนเตอร์แต่ละคนแต่ละครั้งแจ้งข้อมูลไม่ตรงกันและอาจถึงกับตรงกันข้ามกันเลยก็ได้
- คอลเซนเตอร์ดำเนินการไม่สำเร็จลุล่วงตามที่ตกลงกัน มีการทำตกหล่น ทำให้เกิดความล่าช้า
- สาขาไม่ทราบวิธีดำเนินการที่คอลเซนเตอร์แจ้งมา และเมื่อโทรไปคอลเซนเตอร์อีกครั้งก็แจ้งข้อมูลไม่เหมือนเดิม


ผมทำบัตรเครดิตใบแรกกับ SCB โดยใช้เงินฝาก 40,000 บาทค้ำประกันไว้ โดยก็ผ่านขั้นตอนไปได้ด้วยดี ได้บัตรมาใช้สมใจ ผ่านไปอีกไม่กี่เดือนพบว่าวงเงินนี้มันน้อยไปก็เลยติดต่ออยากเพิ่มวงเงิน โดยเปิดบัญชีเงินฝากใหม่อีก 100,000 บาท โดยจะขอเปิดบัตรใหม่อีกใบด้วยเพราะโปรน่าสนใจ ด้วยความไม่รู้ว่าวงเงินมันใช้ร่วมกันเราก็ได้บัตรใหม่มาในวงเงิน 100,000 บาท และเป็นวงเงินร่วมกันกับบัตรใบแรก

ยกที่ 1 ติดต่อขอยกเลิกบัญชีเงินฝาก 40,000 บาทแรก
พอรู้ว่าบัตรทั้งสองใบใช้วงเงินฝากร่วมกัน 100,000 บาท แปลว่าอีก 40,000 บาทแรกเราไม่ได้ใช้ประโยชน์จากตรงนั้นเลย ก็ทำเรื่องยกเลิก โทรหาคอลเซนเตอร์ขอวิธียกเลิก เจ้าหน้าที่บอกรอเรื่อง 5 วันทำการ ผมรอครบ 7 วันก็โทรไปถามคอลเซนเตอร์ ซึ่งได้คำตอบว่าดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ไปรับสมุดบัญชีคืนได้ที่สาขาได้เลย  แต่วันรุ่งขึ้นเมื่อไปที่สาขา เจ้าหน้าที่สาขากลับบอกว่าส่วนกลางยังไม่ได้ปลดล็อคบัญชีไม่สามารถคืนบัญชีเงินฝาก 40,000 บาทให้ได้ วันนั้นโกรธมาก โทรคุยกับคอลเซนเตอร์ตอนนั้นก็ปฎิเสธการรับผิดชอบ ผมเดินทางไปสาขาเสียเที่ยว ต้องรอหลังจากนั้นอีกหลายวันกว่าจะได้บัญชีเงินฝาก 40,000 บาทนี้ คืนมา

หลังจากใช้งานบัตรทั้งสองใบผ่านไปราว 6 เดือน ระหว่างนั้นผมทำเรื่องกู้สินเชื่อคอนโดกับ SCB แล้วพนักงานก็คะยั้นคะยอให้ทำบัตรเพิ่ม ใจผมอยากได้บัตรเครดิตเพิ่มแล้วเพราะเพิ่งมีธนาคารอื่นออกบัตรเครดิตให้โดยไม่ต้องใช้เงินฝากค้ำประกัน แต่ไม่อยากปฎิเสธเซลไปก็ตกลงทำบัตรเครดิต King Power ของ SCB มาอีก 1 ใบแต่ไม่เคยเปิดใช้บริการ  แต่เพื่อนที่เคยเปิดบัตรแบบเดียวกันทำเรื่องขอยกเลิกบัญชีเงินฝากค้ำประกันบัตรเครดิตสำเร็จ ผมจึงรอระยะเวลาอีก 2 เดือนต่อจากนั้น แล้วติดต่อคอลเซนเตอร์เพื่อจะทำเรื่องยกเลิกบัญชีค้ำประกันบัตรเครดิตกับ SCB อีกครั้ง

ยกที่ 2 (กันยายน 2560) ยกเลิกเงินฝากค้ำประกันบัตรเครดิต 100,000 บาท
ครั้งนี้แจ้งความประสงค์จะขอใช้บัตรเครดิตต่อ เจ้าหน้าที่พูดหว่านล้อมให้ถือบัตรเครดิตต่อ และแจ้งผมว่าไม่มีการยกเลิกเงินฝากค้ำประกันโดยไม่ยกเลิกบัตรเครดิต ผมจึงยืนยันจะยกเลิกบัตรเครดิตทั้ง 2 ใบ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งยอดให้ชำระเพื่อทำเรื่องปิดบัตร ผมรีบชำระทั้ง 2 ใบและรีบโทรเข้าคอลเซนเตอร์ทันทีเพื่อติดต่อยืนยันขอยกเลิกบัตรเครดิตทั้ง 2 ใบและทำเรื่องขอคืนสมุดบัญชีค้ำประกัน แต่รอบนี้มีการเปลี่ยนเจ้าหน้าที่มาคุยกับผม โดยบอกผมว่า "ถ้าอยากใช้บัตรต่อแต่ยกเลิกบัญชีเงินฝากค้ำประกัน สามารถทำได้โดยติดต่อยื่นเอกสารเหมือนสมัครบัตรใหม่ที่สาขา" ทั้งที่ครั้งแรกบอกผมว่าทำไม่ได้ ผมแย้งไปว่าแน่ใจนะ ผมเคยติดต่อสาขานี้แล้วเขาไม่ค่อยรู้เรื่องว่าต้องทำไง ขอให้เขายืนยันว่าผมไม่ต้องเข้าไปที่สาขาแบบเสียเที่ยวอีกนะ น้องเขายืนยัน
แน่นอนผมอยากได้แบบนี้อยู่แล้ว จึงตกลงไปว่าจะเข้าไปติดต่อสาขา

ยกที่ 3 (11 ตุลาคม 2560) ติดต่อสาขาขอยกเลิกเงินฝากค้ำประกัน 100,000 บาท ที่สาขา
พนักงานที่สาขางงเป็นไก่ตาแตกว่ามันทำได้ด้วยเหรอ เขาปรึกษากันแล้วก็ให้คำตอบผมว่าทำไม่ได้ ต้องยกเลิกไปทั้งบัตรเครดิตและเงินฝากค้ำประกัน ผมยืนยันทำตามที่คอลเซนเตอร์แนะนำขอยื่นเอกสารเหมือนสมัครบัตรใหม่ โดยพนักงานก็งงๆ เลยให้ผมทำการสมัครบัตรใหม่ไป

ยกที่ 4 (2 พฤศจิกายน 2560) ติดต่อคอลเซนเตอร์ติดตามเรื่องยกเลิกเงินฝากค้ำประกัน 100,000 บาท
ผมเล่าเหตุการณ์ที่คอลเซนเตอร์คนเก่าแนะนำให้ แต่เจ้าหน้าที่คนนี้บอกผมว่าทำแบบที่ว่านี้ไม่ได้นะ ถึงตอนนี้ผมโคตรสับสนใจว่ามัน SCB เดียวกันรึเปล่า คอลเซนเตอร์คนนี้แจ้งยอดชำระปิดบัตร และทำเรื่องยกเลิกบัตรเก่าทั้ง 2 ใบให้ โดยให้รอผลพิจารณาบัตรใหม่ ซึ่งเมื่อได้บัตรใหม่จะเป็นวงเงินแบบไม่มีเงินฝากค้ำประกัน ส่วนเรื่องยกเลิกบัญชีเงินฝากค้ำประกันใช้เวลา 10 วันทำการ

ยกที่ 5 (4 พฤศจิกายน 2560) คอลเซนเตอร์ติดต่อเข้ามาอีกครั้งบอกว่าบัตรมีรายการตัดมาเพิ่มอีก 2 ยอด ขอให้ชำระเพิ่ม อ้าว ไหนบอกปิดบัตรแล้วทำไมตัดยอดได้อีก น้องแจ้งว่าเป็นปรกติต้องรอเคลียร์สัญญากับหลายๆ ที่ ผมก็ชำระยอดเหล่านั้นไป ถามย้ำอีกครั้งว่าปิดบัตรทั้ง 2 ใบแล้วแน่นะ ขั้นตอนต่อไป คือ รอสาขาติดต่อกลับมาใน 10 วัน เพื่อเข้าไปรับสมุดบัญชีคืน

ระหว่างนี้ผมก็ได้บัตรเครดิตใบใหม่ของ SCB มาอีกใบ ซึ่งเจ้าหน้าที่คอลเซนเตอร์บอกไว้ว่าใบใหม่นี้จะไม่ใช้เงินค้ำประกันแล้วก็เลยลองใช้ซะเลย (ผมก็พลาด ไม่น่าไปลองใช้เลยจริงๆ ) ปรากฎว่ามันใช้วงเงินร่วมกันกับ 2 ใบแรกซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ในแอพ SCB EASY ยังโชว์งเงินที่ใช้ได้ลดลงทั้ง 2 ใบ(ที่ยกเลิกไปแล้ว)

ยกที่ 6 (18 พฤศจิกายน 2560) โทรติดตามความคืบหน้ายกเลิกบัญชีเงินฝาก
เนื่องจากครบ 2 สัปดาห์หรือ 10 วันทำการแล้ว ผมไม่อยากรออีกต่อไปเพราะพยายามทำเรื่องยกเลิกบัญชีนี้มานานมากแล้ว จึงโทรเข้าคอลเซนเตอร์ถามความคืบหน้า เจ้าหน้าที่บอกว่าดำเนินการเรียบร้อย เข้าไปรับสมุดบัญชีที่สาขาได้เลย ติดต่อคุณ... (บอกชื่อพนักงานที่สาขามาด้วย) น่ารักมาก

ยกที่ 7 (19 พฤศจิกายน 2560) เข้าไปที่สาขา ขอรับสมุดบัญชีค้ำประกันคืน
สาขากลับบอกผมว่าส่วนกลางยังไม่ปลดล็อค เพราะวันที่เจ้าหน้าที่ติดต่อมา(เมื่อวาน) คือวันเสาร์ และวันนี้เป็นวันอาทิตย์ดำเนินการอะไรต่อไม่ได้ ให้ผลเซ็นต์เอกสารไว้เท่าที่ทำได้ แล้วก็ขอโทษขอโพยไป ผมก็ไม่ได้โวยวายอะไร พยายามใจเย็น แต่ก็โกรธเพราะคอลเซนเตอร์ยืนยันกับผมว่าเข้ามารับสมุดบัญชีได้ตั้งแต่เมื่อวาน

ยกที่ 8 (20 พฤศจิกายน 2560) มียอดตัดบัตรเครดิต 1 ใน 2 ใบแรกที่เจ้าหน้าที่บอกยกเลิกไปแล้วเข้ามา!!! ผมโทรติดต่อคอลเซนเตอร์อีกรอบ
ผมเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ทำเรื่องยกเลิกของวันที่ 2-4 พฤศจิกายน ไปรวมทั้งเหตุการณ์ไปติดต่อรับสมุดบัญชีคืนที่สาขาด้วย รวมทั้งเรื่องยังมีการตัดยอดบัตรเครดิตที่เคยยกเลิกไปแล้วมาด้วย น้องเขาขอตรวจสอบข้อมูลปรากฎว่าบัตรเครดิตที่บอกยกเลิกไปแล้วทั้ง 2 ใบในวันที่ 2-4 พฤศจิกายนนั้น ยกเลิกไปแค่ใบเดียว เฮ้อ!!! นี่เค้าทำงานกันยังไงเนี่ย น้องก็ขอทำเรื่องยกเลิกบัตรให้อีกครั้ง โดยครั้งนี้ผมขอยกเลิกบัตรเครดิตทั้ง 4 ใบของ SCB แล้วถามน้องคอลเซนเตอร์ซ้ำไปว่าทำเรื่องยกเลิกครบมั้ย น้องยืนยัน ผมถามระยะเวลาดำเนินการก่อนได้รับสมุดบัญชีคืน ซึ่งต้องรออีก 5 วันทำการ

ถึงตอนนี้ผมต้องมารอลุ้นกันต่อว่าจะได้สมุดบัญชีเงินฝากของตัวเองคืนเมื่อไหร่ และผมมั่นใจว่าถ้าไม่แชร์เรื่องนี้ให้ใครฟัง เดี๋ยวครบ 5 วันทำการ ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่จากสาขาโทรมาหรอก ผมต้องโทรเข้าไปตามเรื่องกับคอลเซนเตอร์ที่อาจแจ้งข้อมูลไม่ตรงกับเรื่องที่คุยไปวันนี้ และผมอาจต้องเข้าไปติดต่อสาขาที่ไม่รู้ต้องทำไงกับเคสนี้ แต่ที่แน่ๆ ทำเรื่องคืนสมุดบัญชีให้ผมไม่ได้ ทั้งๆ ที่คอลเซนเตอร์เพิ่งแจ้งมาว่าทำได้แล้ว

ผมพบว่าความยุ่งยากนี้ช่างตรงกับสโลแกนบัตรเครดิต SCB ใบนึงที่บอกว่า "เหนือกว่า ด้วยประสบการณ์ที่เหนือใคร" จริงๆ เลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่