เรื่องสั้นรักโรแมนติกเรื่องเดียวของลิค่ะ รีไร้ท์แล้วจะเก็บรวบรวมไว้ในหมวดเรื่องรักใสๆ ลิเขียนแนวนี้พอใช้ได้ไหมคะคุณผู้อ่าน
กุมภาพันธ์ที่รัก
โดย...ล. วิลิศมาหรา
สายแล้ว ฉันวิ่งกระหืดกระหอบมารอรถประจำทางเพื่อไปให้ทันโรงเรียนเข้า แต่ตายจริง...ฉันมาไม่ทัน นี่คงต้องรอรถคันใหม่ซึ่งจะทำให้เสียเวลาไปอีกเป็นชั่วโมง
พระเจ้า! ฉันต้องโดนลงโทษจากทั้งครูปีศาจหน้าประตูโรงเรียน กับนังอุ้มแม่เพื่อนซาตานคนสนิท ที่ฉันถูกมันคาดโทษไว้ว่าต้องมาให้มันทันลอกการบ้านวิชาเคมีส่งอาจารย์ ไม่งั้นมันจะเอารูปเซลฟี่ห่วยแตกทำท่าอุบาทว์ ถลกเสื้อโชว์หน้าอกแบนแต๊ดแต๋ของฉันไปประจานให้เพื่อนในห้องดู ซึ่งฉันยอมให้บอม หนุ่มหน้าใสกิ๊กมาดพระเอกหนังเกาหลี หัวหน้าห้อง ม. 6/2 ที่ทั้งฉันกับยายอุ้มแอบชอบอยู่เห็นรูปพวกนั้นไม่ได้เป็นอันขาด
คิดดูสิ ถ้าบอมเกิดเห็นมันเข้า นักเรียนมารยาทงามฝ่ายหญิงอย่างฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แล้วนักเรียนมารยาทงามฝ่ายชายอย่างบอมจะคิดยังไง
"มาให้ทันก่อนโรงเรียนเข้าอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงนะแพม” นังเพื่อนซาดิสม์กำชับ
"อย่าทำบ้าๆ น่า อายเขา” ฉันอ้อนวอน พยายามทำตาละห้อยให้น่าสงสาร
“ทีใครทีมันสินังแพม แกยังเคยเอารูปตอนฉันเต้นชักกระตุกไปโพสต์ลงไลน์กลุ่มเลยนี่หว่า น่าเกลียดกว่าเป็นไหนๆ จุ๊ๆ ไข่ดาวแกนี่มันไข่นกกระทาชัดๆ ฮ่าๆๆ"
เฮ้อ! ทำไมไม่หัดทำโจทย์เองบ้างนะ อย่างนี้จะทำข้อสอบได้ยังไง ที่ฉันอิดออดไม่ใช่ไร้น้ำใจแต่อยากให้อุ้มคิดเองบ้าง อาจารย์สั่งการบ้านทีไรอุ้มต้องรอลอกงานฉันส่งทุกครั้ง บางครั้งก็ขอดีๆ บางครั้งก็เล่นพิเรนทร์เอาแบบนี้ แต่ฉันมีปัญหาเรื่องมาโรงเรียนสาย วันนี้ก็ด้วย
มอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งสีสันแสบตากับเสียงดังบาดแก้วหูเข้ามาจอดเอี้ยดข้างตัว ผู้ชายวัยรุ่นผมตัดสั้นเกรียนติดหนังศีรษะ เห็นรอยสักตามไหล่และแขนลายพร้อยบนอานรถชำเลืองมองหน้าฉันด้วยหางตาหมิ่นๆ เขาใส่เพียงกางเกงขาสั้นกับเสื้อกล้ามที่สีออกเหลืองตุ่นๆ ขะมุกขะมอมไปทั้งตัวจากคราบน้ำมันเครื่องรถ
"ขึ้นมาสิจะไปส่ง"
ฉันผงะตัวออกห่างพลางส่ายหน้าเดียะ หมอนี่เป็นเด็กแว้นแถวบ้าน อายุน้อยกว่าฉันเสียอีก แต่เลิกเรียนไปนานแล้ว
"ม่ายล่ะ ขอบใจ"
ปฏิเสธพร้อมส่งยิ้มให้ แต่รอยยิ้มของฉันมันคงเฝื่อนฝาดเต็มที จึงได้รับยิ้มกระตุกที่มุมปากข้างเดียวกับสายตาวาวตอบกลับมา
"กลัวฉันเหรอ"
"ป๊าว"
"งั้นก็ขึ้นมาสิ" บอกเสียงเข้มแกมบังคับ
"เอ้อ...จะดีเหรอ ฉันไม่..."
"บอกให้ขึ้นมา"
จะเป็นเพราะตกใจกลัวคำขู่ตะคอกของเขา หรือเพราะกลัวโดนทำโทษเรื่องมาสายก็ตาม ในที่สุดฉันก็ยอมขึ้นนั่งซ้อนท้ายหางม้าปลิวไปถึงโรงเรียนจนได้ และเมื่อมาถึง หนุ่มหัวเกรียนก็จอดรถพรืด เอียงคอมองก่อนพยักพเยิดให้ฉันลงจากรถ
"ขอบใจนะ"
พอกระมิดกระเมี้ยนลงจากหลังอานรถมาได้ ฉันก็พึมพำขอบใจเขาเบา ๆ
"ว่าไงนะ"
เสียงห้วนหนักถามซ้ำทำเอาสะดุ้ง ตาคมวาวคู่นั้นเปล่งประกายขำขันเมื่อเห็นฉันอึกอัก
คนบ้า! ทำไมถึงชอบพูดเสียงดังเหมือนตะคอกนะ คงเพราะเห็นฉันหน่อมแน้มท่าทางหงิมๆ ล่ะสิ คิดแล้วฉันก็ยืดตัวขึ้น กระแอมเล็กน้อยก่อนตะโกนดังๆ
"ขอบใจ..."
เขากระตุกยิ้มมุมปากข้างเดียวอีกครั้ง บอกฉันว่า
"อย่าเอาแต่เล่นเฟสเล่นไลน์จนตื่นสายบ่อยๆ สิ มีโอกาสเรียนก็ตั้งใจเรียนเหอะ เผื่อคนที่เขาอยากเรียนแต่ไม่ได้เรียนมั่ง"
ว่าแล้วก็บิดเครื่องมอเตอร์ไซค์แผดก้องจนฉันต้องเอามืออุดหู ก่อนกระชากรถจากไป ทิ้งให้ฉันยืนงงกับคำพูดราวรู้การเคลื่อนไหวของฉันอยู่ตรงนั้น
...นี่คือครั้งแรกและวันแรกสำหรับบทเริ่มต้นเรื่องราวความรักของเรา...ฉันจำได้...
(มีต่อ)
กุมภาพันธ์ที่รัก (รีไร้ท์)
โดย...ล. วิลิศมาหรา
สายแล้ว ฉันวิ่งกระหืดกระหอบมารอรถประจำทางเพื่อไปให้ทันโรงเรียนเข้า แต่ตายจริง...ฉันมาไม่ทัน นี่คงต้องรอรถคันใหม่ซึ่งจะทำให้เสียเวลาไปอีกเป็นชั่วโมง
พระเจ้า! ฉันต้องโดนลงโทษจากทั้งครูปีศาจหน้าประตูโรงเรียน กับนังอุ้มแม่เพื่อนซาตานคนสนิท ที่ฉันถูกมันคาดโทษไว้ว่าต้องมาให้มันทันลอกการบ้านวิชาเคมีส่งอาจารย์ ไม่งั้นมันจะเอารูปเซลฟี่ห่วยแตกทำท่าอุบาทว์ ถลกเสื้อโชว์หน้าอกแบนแต๊ดแต๋ของฉันไปประจานให้เพื่อนในห้องดู ซึ่งฉันยอมให้บอม หนุ่มหน้าใสกิ๊กมาดพระเอกหนังเกาหลี หัวหน้าห้อง ม. 6/2 ที่ทั้งฉันกับยายอุ้มแอบชอบอยู่เห็นรูปพวกนั้นไม่ได้เป็นอันขาด
คิดดูสิ ถ้าบอมเกิดเห็นมันเข้า นักเรียนมารยาทงามฝ่ายหญิงอย่างฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แล้วนักเรียนมารยาทงามฝ่ายชายอย่างบอมจะคิดยังไง
"มาให้ทันก่อนโรงเรียนเข้าอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงนะแพม” นังเพื่อนซาดิสม์กำชับ
"อย่าทำบ้าๆ น่า อายเขา” ฉันอ้อนวอน พยายามทำตาละห้อยให้น่าสงสาร
“ทีใครทีมันสินังแพม แกยังเคยเอารูปตอนฉันเต้นชักกระตุกไปโพสต์ลงไลน์กลุ่มเลยนี่หว่า น่าเกลียดกว่าเป็นไหนๆ จุ๊ๆ ไข่ดาวแกนี่มันไข่นกกระทาชัดๆ ฮ่าๆๆ"
เฮ้อ! ทำไมไม่หัดทำโจทย์เองบ้างนะ อย่างนี้จะทำข้อสอบได้ยังไง ที่ฉันอิดออดไม่ใช่ไร้น้ำใจแต่อยากให้อุ้มคิดเองบ้าง อาจารย์สั่งการบ้านทีไรอุ้มต้องรอลอกงานฉันส่งทุกครั้ง บางครั้งก็ขอดีๆ บางครั้งก็เล่นพิเรนทร์เอาแบบนี้ แต่ฉันมีปัญหาเรื่องมาโรงเรียนสาย วันนี้ก็ด้วย
มอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งสีสันแสบตากับเสียงดังบาดแก้วหูเข้ามาจอดเอี้ยดข้างตัว ผู้ชายวัยรุ่นผมตัดสั้นเกรียนติดหนังศีรษะ เห็นรอยสักตามไหล่และแขนลายพร้อยบนอานรถชำเลืองมองหน้าฉันด้วยหางตาหมิ่นๆ เขาใส่เพียงกางเกงขาสั้นกับเสื้อกล้ามที่สีออกเหลืองตุ่นๆ ขะมุกขะมอมไปทั้งตัวจากคราบน้ำมันเครื่องรถ
"ขึ้นมาสิจะไปส่ง"
ฉันผงะตัวออกห่างพลางส่ายหน้าเดียะ หมอนี่เป็นเด็กแว้นแถวบ้าน อายุน้อยกว่าฉันเสียอีก แต่เลิกเรียนไปนานแล้ว
"ม่ายล่ะ ขอบใจ"
ปฏิเสธพร้อมส่งยิ้มให้ แต่รอยยิ้มของฉันมันคงเฝื่อนฝาดเต็มที จึงได้รับยิ้มกระตุกที่มุมปากข้างเดียวกับสายตาวาวตอบกลับมา
"กลัวฉันเหรอ"
"ป๊าว"
"งั้นก็ขึ้นมาสิ" บอกเสียงเข้มแกมบังคับ
"เอ้อ...จะดีเหรอ ฉันไม่..."
"บอกให้ขึ้นมา"
จะเป็นเพราะตกใจกลัวคำขู่ตะคอกของเขา หรือเพราะกลัวโดนทำโทษเรื่องมาสายก็ตาม ในที่สุดฉันก็ยอมขึ้นนั่งซ้อนท้ายหางม้าปลิวไปถึงโรงเรียนจนได้ และเมื่อมาถึง หนุ่มหัวเกรียนก็จอดรถพรืด เอียงคอมองก่อนพยักพเยิดให้ฉันลงจากรถ
"ขอบใจนะ"
พอกระมิดกระเมี้ยนลงจากหลังอานรถมาได้ ฉันก็พึมพำขอบใจเขาเบา ๆ
"ว่าไงนะ"
เสียงห้วนหนักถามซ้ำทำเอาสะดุ้ง ตาคมวาวคู่นั้นเปล่งประกายขำขันเมื่อเห็นฉันอึกอัก
คนบ้า! ทำไมถึงชอบพูดเสียงดังเหมือนตะคอกนะ คงเพราะเห็นฉันหน่อมแน้มท่าทางหงิมๆ ล่ะสิ คิดแล้วฉันก็ยืดตัวขึ้น กระแอมเล็กน้อยก่อนตะโกนดังๆ
"ขอบใจ..."
เขากระตุกยิ้มมุมปากข้างเดียวอีกครั้ง บอกฉันว่า
"อย่าเอาแต่เล่นเฟสเล่นไลน์จนตื่นสายบ่อยๆ สิ มีโอกาสเรียนก็ตั้งใจเรียนเหอะ เผื่อคนที่เขาอยากเรียนแต่ไม่ได้เรียนมั่ง"
ว่าแล้วก็บิดเครื่องมอเตอร์ไซค์แผดก้องจนฉันต้องเอามืออุดหู ก่อนกระชากรถจากไป ทิ้งให้ฉันยืนงงกับคำพูดราวรู้การเคลื่อนไหวของฉันอยู่ตรงนั้น
...นี่คือครั้งแรกและวันแรกสำหรับบทเริ่มต้นเรื่องราวความรักของเรา...ฉันจำได้...
(มีต่อ)