06.09.17 - DAY 01



ตีสี่ที่มิวนิค ผมรวบเป้ขึ้นหลัง แล้วนั่งรถไฟไปสนามบิน MUC ตื่นเต้นประมาณนึง ว่าสิ่งที่เราตั้งตารอมาตั้งนานมันจะเริ่มขึ้นแล้ว ต่อจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง เครื่องบินสีสดใส Transavia ซึ่งเป็นสายการบิน Low cost สายเลือดดัตช์ก็มาส่งผมที่สนามบิน Lisbon Portela Airport เอาจริงๆ แผนเดียวของวันนี้คือการไป Aquarium ที่ชื่อว่า Ocenário de Lisboa หรือภาษาอังกฤษคือ Lisbon Oceanarium



ถ้าไม่นับว่าเพราะทางรถไฟที่ยาวที่สุดในโลกจะเริ่มจากเมืองนี้แล้ว Ocenário de Lisboa ถือเป็นจุดมุ่งหมายที่สำคัญที่สุดของการมาเมือง Lisbon
Ocenário de Lisboa ตั้งอยู่ติดทะเลฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกและยังเป็น Indoor aquarium ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป แถมยังถือเป็นอันดับสองของยุโรป ถ้าจะข้ามรุ่นไปวัดกับ Aquarium ที่มีส่วน Outdoor ด้วย

[หมายเหตุ: ถึงวันที่เขียนกระทู้นี่ อาจจะตกอันดับลงมาแล้วนะครับ]

ในภาพรวมที่นี่จะมี Exhibition 2 ส่วนคือ Permanent Exhibition ซึ่งหลักๆ จะเป็น Aquarium น้ำทะเล มีตู้โชว์หลักใหญ่ขนาด 5,000 ลบ.ม. มีน้ำทั้งหมด 7 ล้านลิตร (ช๊อคแพ้พ) มีสิ่งมีชีวิตรวม 8,000 ตัว

ป้าย Aquarium อยู่ที่ทางเชื่อของ Exhibition ทั้งสองส่วน


สถาปัตยกรรมของตึก Permanent Exhibition

เข้าไปแล้วจะเป็นการเดินชมตู้หลักผ่านมุมต่างๆ ผสมกับตู้อื่นๆ ที่แบ่งตีมตามโซนของมหาสมุทรต่างๆ ผสมกับสัตว์อื่นๆ ทั้งนากทะเล (เป็นซุปตาร์ประจำที่นี่เลย ชื่อ Eusebio กับ Amália ถ้าโชคจะได้เห็นมันนอนจับมือกันลอยบนน้ำ จะได้ไม่หลุดจากกันเวลาลอยไป), เพนกวิ้น, นกพัฟฟิน ฯลฯ



นกพัฟฟินนี่มีประเด็นเล็กน้อย เพราะเมื่อเดือนพฤษภาคม ผมไปเที่ยว Scotland และเสียตังค่า Local Tour หนักมาก หวังว่าจะได้ไปดูไอ้นกนี้ แต่สรุปว่าซื้อผิดทัวร์ เค้าพาไปชมเมือง Kirkwall ที่อยู่ในเกาะ Orkney ซึ่งอยู่ทางเหนือของ Scotland ตอนนั้นเฟลมาก แต่พอเวลานี้นกมันอยู่ใกล้มากเพียงเอื้อมมือ เพื่อนผมที่ไปด้วยกันอีกสองคนถ้าได้อ่านอยู่ ก็คงแอบด่าทอผมอยู่ในใจ

นี่แหละครับ ยืนนิ่งๆ ให้ถ่ายชิลๆ เลย

กลับมาที่ Aquarium ความรู้สึกระหว่างเดินดูไปเรื่อยq คือมันมีความคล้าย Kaiyukan Aquarium ที่ Osaka มาก ต่างกันแค่ที่นี่ไม่มีฉลามวาฬพระเอกของ Kaiyukan Aquarium แต่ก็ได้ Sunfish ประมาณ 2-3 ตัว ที่เลี้ยงรวมอยู่ในตู้หลักมาเป็นพระเอกของ Aquarium นี้แทน

ปล. ผมมาอ่านเจอทีหลังว่า Designer ที่ออกแบบอควาเรี่ยมนี้กับที่โอซาก้า เป็นคนเดียวกัน (เห้ย โคตรคูล ดูเซียนเหมือนกันนะเรา)



ส่วนที่สองเป็น Temporary Exhibition ช่ือ “Florestas Submersas” ซึ่งอยู่อีกตึกนึงของ Aquarium
และนี่แหละ Highlight ของจริง (สำหรับผม) ถึงแม้ส่วนนี้จะมีตู้ปลาอยู่แค่ตู้เดียว แต่ตู้นี้คือ Nature Aquarium หรือตู้ไม้น้ำ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก



ตู้นี้เป็นรูปตัว U กระจกบานหน้ายาวมาก แถมยังยาวแบบไร้รอยต่อ ทอเต็มฝืน ดูแล้วอยากจะหลับเต็มตื่น ด้วยชุดเครื่องนอนโตโต้ (ผมนับถือ Copywriter คนที่คิด tagline นี้มากๆ เพราะมันติดหูสุดๆ)



ตู้ไม้น้ำตู้นี้ถูกออกแบบและจัดโดย Takashi Amano เจ้าของแบรนด์ ADA (Aqua Design Amano) แบรนด์อุปกรณ์สำหรับการเลี้ยงไม้น้ำแบรนด์ที่คนส่วนใหญ่ยอมรับว่าดีที่สุดในโลก และทีมงานของ ADA ที่บินมาจากญี่ปุ่น ร่วมกับทีมงานของ Ocenário de Lisboa และอาสาสมัคร Aquascapers ในยุโรป (นักจัดตู้ไม้น้ำ - อาชีพนี้มีอยู่จริงๆ นะครับ มีการแข่งระดับโลกที่จัดอันดับโลกในแต่ละปีด้วย) ที่เข้ามาช่วยกันทำโปรเจ็คที่สุดในโลกนี้

Mr.Amano คอยสั่งการงานนี้ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ในตอนนั้นน่าจะป่วยอยู่แล้ว

ตู้นี้มีความยาว 40 เมตร จุน้ำ 160,000 ลิตร (คิดเป็นเบียร์ไทยประมาณ 484,000 กระป๋อง) ทำลายสถิติตู้ที่ยาวที่สุดตู้เดิมที่ญี่ปุ่นซึ่งยาว 7 เมตร แบบขาดกระจุยกระจาย และใช้เวลาเกือบ 2 ปี ตั้งแต่ Mr.Amano ได้รับคำเชิญจากทาง Ocenário de Lisboa (CEO ของ Ocenário de Lisboa นี้ยังบอกเองเลยว่า ชื่อ Takashi Amano เนี่ยแหละ ที่จะเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้คนมากมายเข้ามาเยี่ยมชม Exhibition นี้)



ประเด็นของตู้ไม้น้ำคือการดูแลรักษาหรือที่เรียกกันว่า Maintenance ซึ่งสิ่งที่สำคัญมากคือตู้นี้ต้องทำการ Maintenance แทบทุกวัน เพราะต้องมั่นใจว่าตู้สมบูรณ์พร้อมให้คนที่เข้ามาเยี่ยมชม ได้เห็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบที่สุด ย้ำอีกครั้งว่าดูแลแทบทุกวัน!!! การดูแลปกติตู้ของหลายๆ คนที่บ้าน กว้างแค่ 2 ฟุต เปลี่ยนน้ำกันสัปดาห์ละครั้งยังขี้เกียจทำกันเลย

สำหรับตู้ขนาด 40 เมตร การดูแลทุกๆวัน แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว แต่ก็ต้องทำ เพื่อให้ตู้ Perfect ที่สุดพร้อมให้คนมาดูตลอดเวลา ทาง Aquarium จึงต้องใช้ทั้งเงินและเวลาจำนวนมาก เพื่อให้ตู้ดูสวยงาม และอยู่ในสภาพที่สวยสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อตอบแทนให้กับคนที่ยอมข้ามน้ำข้ามทะเลมาดู และที่สำคัญสำหรับ Mr.Amano และทีมงานผู้จัดทำทุกคน ที่สร้างผลงานระดับ Masterpiece นี้ขึ้นมา (ผมแอบได้ยินมาว่าสตาฟท์ญี่ปุ่นที่ไปอยู่ดูแลตู้นี้อยู่ที่ Lisbon ไม่ได้เห็นหน้าแฟนมานานมากแล้ว ไม่รู้เค้าพูดจริงหรือพูดเล่น)

อันนี้แค่ทำความสะอาดนะครับ ถือว่าเล็กน้อยมากจากงานทั้งหมดที่ต้องทำ

Concept ที่ทาง Mr.Amano ทำตามเสมอมาคือ "Learning from Nature" หรือการเรียนรู้จากธรรมชาติ และ "Create Nature" สร้างธรรมชาติขึ้นมาจากสิ่งที่เราได้เรียนรู้ ทั้งเรื่องของพรรณไม้ ปลา น้ำ ระบบนิเวศน์ แบคทีเรีย และอีกหลายๆ อย่าง

ตอนที่อ่านเรื่องนี้ผมยังขนลุกอยู่เลยเพื่อมาเขียน เพราะน่าเสียดายที่หลังจากตู้นี้สร้างเสร็จเมื่อปี 2015 ไม่นานหลังจากนั้น Amano ก็ลาโลกนี้ไปด้วยวัย 61 ปีด้วยโรคอาการปอดบวม ที่แทรกซ้อนมาจากโรคมะเร็ง
(ถ้า Apple มี Steve Jobs เป็นศาสดาของสาวกแอปเปิลที่ฝากผลงานไอโฟนไว้บนโลกก่อนจากไป
Takashi Amano แห่ง ADA ก็เปรียบเหมือนศาสดาแห่งลัทธิไม้น้ำลิสซึ่ม ที่ผู้จัดตู้ไม้น้ำทั่วโลกต่างยอมรับให้เป็นบิดาแห่งวงการไม้น้ำ)
ดังนั้น ย้ำอีกทีว่า Exhibition นี้มันไม่ใช่ธรรมดา แต่ผมขอเรียกว่าเป็น The Last Master Piece of Takashi Amano หรือผลงานชิ้นเอกชิ้นสุดท้ายที่ Mr.Amano ฝากไว้ให้กับโลกใบนี้ น่าเสียดายที่ Exhibition นี้เป็น Temporary exhibition ที่ไม่รู้ทาง Ocenário de Lisboa จะเปลี่ยนเมื่อไหร่ หรือจะเปลี่ยนใจเก็บที่นี่ไว้เป็น Permanent Exhibition อีกส่วนหนึ่งไปด้วย



ถ้าเป็นไปได้ แนะนำว่าให้รีบมาดูความอลังการของระบบนิเวศน์จำลอง, เหล่าปลาน้อย และกุ้งแคระ ซึ่งมีชื่อสามัญชื่อหนึ่งว่า Amano Shrimp (จะมีกี่คนบนโลกที่มีชื่อสัตว์เป็นชื่อของตัวเอง) เพราะ Mr.Amano เค้าค้นพบการใช้กุ้งสายพันธุ์นี้ในตู้ไม้น้ำ เนื่องจากกุ้งตัวนี้กินตะไคร่เป็นอาหารเป็นหลัก และกินได้เยอะมากๆ แถมยังไม่เป็นอันตรายต่อปลาตัวอื่นๆ อีกด้วย



หวังว่าทาง Ocenário de Lisboa เค้าจะเก็บงานนี้ไว้ตลอดไป เอาไว้เป็นอณุสรณ์สถานของ Sensei Amano ก็คงจะดี



แถมอีกอย่างนึงคือหลังจากวันแรกมาสองปีกว่า ในปี 2017 นี้เอง Ocenário de Lisboa ก็ได้รับการ Vote ให้เป็น "The Best Aquarium in the World"
นี่บิ้วกันขนาดนี้แล้วถ้าพูดแทนตู้ไม้น้ำตู้นี้พูดได้ อยากจะบอกว่า "รีบมาดูกูเหอะ อยากเจอ"

07.09.2016
Lisbon (day 1)



ภาพส่วนหนึ่งมาจาก: http://www.adana.co.jp/en/lisbon/