สวัสดีครับ
วันนี้จะมารีวิวแบบ (เกือบ) ไร้ภาพ ทริปที่เพิ่งจบไป
ที่ไร้ภาพก็เพราะ ขี้เกียจย่อภาพ ขี้เกียจนั่งใส่ลายน้ำ
แผนแรกเริ่มเดิมที จะเป็น Kosovo-Macedonia-Bulgaria-Cyprus-Malta เคยแชร์แพลนไว้ในนี้
https://ppantip.com/topic/37490903
แต่มีเหตุกะทันหัน ทำให้เปลี่ยนใจไม่เข้า Macedonia
บวกกับ อยากไปโปรตุเกสแบบกะทันหันเช่นกัน เลยจองตั๋วไปแบบแทบไม่มีเวลาวางแผนเพราะต้องเคลียร์งาน เคยมาตั้งกระทู้ขอคำแนะนำตามนี้
https://ppantip.com/topic/37781862
ทริปนี้ใช้ Budapest เป็นฐาน แต่ไม่ได้เที่ยว Budapest มานั่งๆนอนๆเปลี่ยนเครื่องเฉยๆ เพราะเคยมาแล้ว
เริ่มจากโปรตุเกสใต้ กะ Sevilla บินเข้า Lisboa (Lisbon) บินออก Sevilla
เมืองที่ไปมาได้แก่ Lisboa, Evora, Sintra, Portimão, Faro (ไม่อยู่ในแผน), Sevilla และ Cádiz
ที่ Lisboa พักที่ Safestay Lisbon (Hostel)
ข้อเสียของที่พัก อยู่ในตรอกเล็กๆ แต่ข้อดีคืออยู่ใจกลางเมือง ใกล้สถานีรถไฟ Rossio และสถานี metro Restauradores มี locker ให้ แต่ต้องเตรียมตัวล็อคไปเอง
ข้อดีอีกอย่างคือพนักงานแนะนำร้านอาหารให้ อร่อย และถูกมาก (มื้อไม่ถึง 5 ยูโร เหลือเชื่อ ยุโรปตะวันตก ราคานี้ กินอิ่มและไม่ใช่ takeaway)
ร้านที่เขาแนะนำ และผมจะแนะนำต่อคือ Restaurante a Provinciana search google map กันเองนะครับ จุดสังเกตคือ มีลังไม้ (barrel) อยู่หน้าร้าน
วันแรก ไปถึงค่ำๆ ดึกๆ ถึงแล้วนอนเลย
ัวันที่สอง day trip ไป Evora โดยนั่งรถ metro จาก Restauradores ไป สถานี Jardim Zoologico
ออกจากสถานี เดินตามป้าย แล้วถามคนเดินถนนว่า Estaçao de Autobus? เขาก็จะชี้ไปสถานีรถบัสให้
ค่ารถ ไปกลับ ถ้าจำไม่ผิด ราวๆ 23 ยูโร ใช้เวลาเท่าไหร่ไม่แน่ใจลืมไปแล้ว จองไปกลับถูกกว่าจองทีละขา แนะนำ จองไปกลับไปเลย เผื่อเวลาให้พอ
ถ้าบังเอิญเที่ยวเร็วกว่ากำหนด มาขอเลื่อนตั๋วกลับให้เร็วขึ้นทีหลังได้
สาเหตุที่ตัดสินใจไป Evora เพราะ อยากไปดูโบสถ์กระดูก และไม่ผิดหวัง แต่อากาศร้อนไปหน่อย
วันที่สาม สายๆไป Belem (เป็น district ใน Lisbon) ไปดู Torre de Belem สัญลักษณ์ของ Lisbon และโปรตุเกส และ Jeronimos Monastery มรดกโลก
ค่าตั๋วเข้า Jeronimos แพงมาก 10 ยูโร รู้สึกไม่คุ้ม ซื้อพ่วงกับตั๋วเข้า Torre de Belem เป็น 16 ยูโร
ที่สำคัญคิวยาวมาก แต่ก็ต่อ เพราะข้างนอกไม่มีอะไร ต้องดูข้างใจ ซึ่งจริงๆก็มีแค่ courtyard อย่างที่บอก ไม่คุ้ม แต่ถ้ากลัวเสียเที่ยวก็ต้องจ่าย
ส่วนตั๋วเข้า Torre de Belem สุดท้ายไม่ได้ใช้ เพราะคิวยาวมากเหมือนกัน และเขาจำกัดจำนวนคนเข้า คิดว่าถ้าต่อจนเข้าได้ บ่ายแน่ๆ สุดท้ายเลยตัดใจ ยกตั๋วให้คนแถวนั้นไป ถ่ายรูปข้างนอกก็สวยแล้ว
วิธีไป Belem คือนั่งรถราง ลืมเลขสายไปแล้ว แต่ถาม hostel หรือ รร เอาเองได้
นั่งรถรางกลับจาก Belem และนั่ง metro กลับมา Restauradores เพื่อไปสถานีรถไฟ Rossio เพื่อนั่งรถไฟไป Sintra ตอนบ่าย
รถไฟ มีทุก ชม หรือครึ่ง ชม นี่แหละ ที่สถานีรถไฟมี Starbucks เข้าไปนั่งจิบกาแฟหรือชารอรถได้
รถไฟไป Sintra มีออกจาก Rossio และ Oriente ผมพักใกล้ Rossio ก็เลยออกจาก Rossio นั่งรถไม่นาน
พอไปถึง ผมเดินตรงหาทางเข้าเมืองเลย ซึ่งผิด เป็นการตัดสินใจที่ผิด
ที่ว่าผิด เพราะ ทางเดินขึ้น Pena Palace แลนด์มาร์คของ Sintra มันชันมากๆ ไปเสร่อเดินขึ้นเอง เหนื่อยมากๆ
วิธีที่ถูกคือ ให้เดินย้อนไปจากทางออกรถไฟ แทนที่จะเดินไปทางเมือง ให้เดินย้อนไปแถวตัวตึกสถานีรถไฟ จะเห็น tourist information office และป้ายรถเมล์สำหรับขึ้นไป Pena Palace สาย 434 หรืออะไรนี่แหละ ลองถามเขาดู หรือสังเกตป้าย
วันที่ 4 นั่งรถไฟจาก Lisboa ไป Portimão นั่ง metro ไปสถานีรถไฟ Oriente แต่เช้า
รถไฟนั่งไปถึงเมือง Tunes แล้วเปลี่ยนรถ เป็นรถ regional นั่งไปทาง Lagos
Portimão เป็นสถานีใหญ่ ไม่ต้องกลัว คนลงเยอะแน่นอน
ที่พักใน Portimão พักที่ Aloha Hostel
เจ้าของไม่ค่อยอยู่ที่ hostel ต้องโทรตาม ผมไม่ได้เปิดโรมมิ่ง เลยให้คนแถวนั้นช่วยโทรให้
เดินจากสถานีรถไฟ ไกลนิดหน่อย แต่ไม่ไกลเกินเดิน
ข้อดี ใกล้ๆมีร้าน takeaway อร่อย ชื่อร้าน a Cozinha (อ่านว่า อา โคซิญญ่า)
ทีนี้โปรแกรมเที่ยวคือ จะไปนั่งเรือไปชม Benagil sea cave ในวันที่ 5
แต่ถามเจ้าของโฮสเทล เขาบอกมีเรือรอบวันที่ 4 นี้เลย ตอน 6 โมงเย็น (หน้าร้อนตอนนั้นอาทิตย์ตก 3 ทุ่ม)
เห็นว่ายังสว่างแน่ๆ และได้ไปดูเร็ว เลยตกลงจองรอบ 6 โมงเย็นวันนี้ไปเลย
ซึ่งผิด ผิดอีกแล้ว ผิดมากๆ
ที่ถูกคือ ต้องจองรอบ 11 โมงเช้าครับ
สาเหตุคือ Benagil Sea Cave มีรูให้แสงเข้าข้างบน แสงจะเข้าพีคและสวย คือเวลาประมาณเที่ยงวันครับ
ตอนไปไม่รู้ โง่ เลยจองรอบ 6 โมงเย็น ไปดูแล้วเสียดายตัง
อีกอย่าง พยายามเตรียมชุดว่ายน้ำไปด้วยครับ จะได้ไปถ่ายรูปจากในเกาะ ไม่ใช่จากเรือ มุมจากในเกาะสวยกว่ากันเยอะ
นี่เอากระเป๋า Deuter Gigant มาใบเดียว ไม่มีที่ใส่อุปกรณ์ว่ายน้ำ เลยไม่ได้ว่าย เสียดาย
วันที่ 5 ว่าง เพราะเลื่อนวันล่องเรือไปวันที่ 4 แล้ว เลยกินๆนอนๆอยู่โฮสเทล
วันที่ 6 ออกแต่เช้า เพื่อนั่งบัสไป Sevilla
ตามที่ google ได้ มี ALSA bus รอบราวๆ 8 โมง ออกจากทิศเหนือเกือบติดสถานีรถไฟ (แต่ต้องเดินอ้อมถนน)
จงใจเผื่อเวลาเยอะๆ ไปซื้อตั๋วหน้างาน
ไปถึงสถานีรถ จนท ขายตั๋วบอกว่า ไม่มีตั๋วไป Sevilla ขาย และรถ ALSA ที่ว่าก็ไม่มาจอดสถานีนี้ด้วย
ผิดอีกแล้ว....
แต่โชคดีมีแผนสอง นั่งรถไฟ regional ไป Faro ซึ่งมีสถานีที่รถบัสจอดอยู่ข้างสถานีรถไฟแน่ๆ
แต่โชคไม่ดี พอจะซื้อตั๋วรอบเช้า เขาบอกตั๋วหมด ต้องไปรอบบ่าย
ก็ต้องจำใจเอา เลยมีเวลาว่าง นั่งรถไปชายหาด Faro ไปนั่งเล่น กินข้าว
สุดท้ายไปถึง Sevilla ราวๆสองทุ่มครึ่ง ถึง hostel ที่ Sevilla สามทุ่ม
ที่พักคือ Sevilla Kitsch Hostel Art
ที่เลือกจองที่นี่เพราะ เห็นว่าใกล้ metro และใกล้ใจกลางเมือง
ซึ่งผิดอีกแล้วครับ
ผิดเพราะ ความใกล้ metro ไม่ช่วยอะไรเลย metro ไม่มีสถานีที่สถานีรถบัสและรถไฟ และไม่มีที่ airport ด้วย
แต่ยังดีที่อยู่ในกลางเมือง ทำให้เที่ยว Sevilla สะดวก
สถานีรถไฟ Santa Justa (อ่านว่าซานต้า ฆุสต้า) ก็ไปไม่ยาก ถ้ารู้ stop ที่ถูกต้องแล้ว
วันที่ 7 ตื่นสาย เดิมว่าจะเที่ยว Cádiz เลยเที่ยวใน Sevilla แทน
ก็ไม่มีอะไรครับ highlight อยู่ที่ Real Alcázar de Sevilla นอกนั้นงั้นๆ
วันที่ 8 ยังคงตื่นสาย แต่ก็ยังคงไป Cádiz
นั่งรถไฟไปจากสถานี Santa Justa ถ้าจำไม่ผิดเป็นรถ Regional
ผลปรากฏว่า ชอบเมืองนี้ครับ มัน pleasant แบบง่ายๆดี
ร้านอาหารก็ราคาถูกกว่าแถว hostel ที่ Sevilla
แนะนำร้านอาหารใน Sevilla
ตรงถนนตรงข้าม Torre del Oro มีร้านอาหารที่ได้คะแนนสูงใน tripadvisor หลายร้าน
กินโซนนั้นแหละครับ ลอง search ใน tripadvisor คร่าวๆดูก่อน แล้วเดินไปกินได้เลย
อาหารกลางวัน แนะนำร้าน Arepa Ole เป็นร้านแซนวิชแบบอเมริกาใต้
อาหารเย็น แนะนำร้าน Uno de Delicias เคยได้ดาว Michelin แต่ปี 2018 ไม่มีดาว ร้านนี้ราคาสูงนิดนึง แต่อร่อยครับ
6000 ตัวอักษรแล้ว เพิ่งจบแค่โปรตุเกส-สเปนแฮะ งั้นขอตัดจบนะครับ ไว้ขึ้นกระทู้ใหม่ จะรีวิว part ต่อไป
เห็นว่าใส่รูปได้โดยไม่ต้องย่อแล้ว เดี๋ยวลองแป๊บ
รูปอาหารร้านที่ว่าไม่ถึง 5 ยูโรครับ ข้าวหุงกับกระต่าย อร่อย และอิ่มมาก!
อาหารที่ควรลอง Pastéis de Bacalhao (ขวา) ส่วนทางซ้ายเป็น Quiche ซึ่งมีขายทั่วไป ในประเทศที่เป็นต้นกำเนิดทาร์ทไข่แห่งนี้ (ผมไม่กินทาร์ทไข่ เพราะไม่กินของหวาน เลยกิน Quiche แทน)
ฺBacalhao com Natas อีกหนึ่งอาหารประจำชาติโปรตุเกสที่ต้องลอง (ขวา)
ส่วนซ้ายเป็นไก่ผัดอะไรสักอย่าง เห็นน่ากินเลยซื้อมาลอง
ซื้อจากร้าน a Cozinha ที่ว่าที่ Portimão
ไก่ piri-piri ร้านเดิม แต่ไม่ยักมีซอสพริกให้ แต่ก็อร่อยดีครับ
แซนวิช แป้ง corn tortilla ร้าน Arepa Ole เลือกใส้ที่มีอโวคาโดเพราะชอบ
Salmon Tartar ร้าน Uno de Delicias
Paella de mariscos (seafood paella) ร้าน Uno de Delicias
Jamón Ibérico ร้าน Uno de Delicias อร่อยเหมือนที่มาดริดเลย แต่น้อยไปหน่อย กินกับ Croutons และ Salmorejo (เพสท์ที่ทำจากมะเขือเทศและขนมปัง)
ขอลาแค่นี้นะครับ ต้องนอนแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นไปขึ้นเครื่องแต่เช้า ไว้วันหลังมาต่อภาคต่อไป
รวมเบ็ดเสร็จ 7390 ตัวอักษรพอดี
<เพิ่มเติม> สรุปค่าใช้จ่าย ไม่รวมค่าตั๋วบิน รวมเฉพาะค่า รร ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ ฯลฯ ราวๆ 550 Euros ครับ
รีวิว (เกือบ) ไร้ภาพ โปรตุเกสใต้-Sevilla-Kosovo-Bulgaria-Cyprus-Malta (1)
วันนี้จะมารีวิวแบบ (เกือบ) ไร้ภาพ ทริปที่เพิ่งจบไป
ที่ไร้ภาพก็เพราะ ขี้เกียจย่อภาพ ขี้เกียจนั่งใส่ลายน้ำ
แผนแรกเริ่มเดิมที จะเป็น Kosovo-Macedonia-Bulgaria-Cyprus-Malta เคยแชร์แพลนไว้ในนี้ https://ppantip.com/topic/37490903
แต่มีเหตุกะทันหัน ทำให้เปลี่ยนใจไม่เข้า Macedonia
บวกกับ อยากไปโปรตุเกสแบบกะทันหันเช่นกัน เลยจองตั๋วไปแบบแทบไม่มีเวลาวางแผนเพราะต้องเคลียร์งาน เคยมาตั้งกระทู้ขอคำแนะนำตามนี้ https://ppantip.com/topic/37781862
ทริปนี้ใช้ Budapest เป็นฐาน แต่ไม่ได้เที่ยว Budapest มานั่งๆนอนๆเปลี่ยนเครื่องเฉยๆ เพราะเคยมาแล้ว
เริ่มจากโปรตุเกสใต้ กะ Sevilla บินเข้า Lisboa (Lisbon) บินออก Sevilla
เมืองที่ไปมาได้แก่ Lisboa, Evora, Sintra, Portimão, Faro (ไม่อยู่ในแผน), Sevilla และ Cádiz
ที่ Lisboa พักที่ Safestay Lisbon (Hostel)
ข้อเสียของที่พัก อยู่ในตรอกเล็กๆ แต่ข้อดีคืออยู่ใจกลางเมือง ใกล้สถานีรถไฟ Rossio และสถานี metro Restauradores มี locker ให้ แต่ต้องเตรียมตัวล็อคไปเอง
ข้อดีอีกอย่างคือพนักงานแนะนำร้านอาหารให้ อร่อย และถูกมาก (มื้อไม่ถึง 5 ยูโร เหลือเชื่อ ยุโรปตะวันตก ราคานี้ กินอิ่มและไม่ใช่ takeaway)
ร้านที่เขาแนะนำ และผมจะแนะนำต่อคือ Restaurante a Provinciana search google map กันเองนะครับ จุดสังเกตคือ มีลังไม้ (barrel) อยู่หน้าร้าน
วันแรก ไปถึงค่ำๆ ดึกๆ ถึงแล้วนอนเลย
ัวันที่สอง day trip ไป Evora โดยนั่งรถ metro จาก Restauradores ไป สถานี Jardim Zoologico
ออกจากสถานี เดินตามป้าย แล้วถามคนเดินถนนว่า Estaçao de Autobus? เขาก็จะชี้ไปสถานีรถบัสให้
ค่ารถ ไปกลับ ถ้าจำไม่ผิด ราวๆ 23 ยูโร ใช้เวลาเท่าไหร่ไม่แน่ใจลืมไปแล้ว จองไปกลับถูกกว่าจองทีละขา แนะนำ จองไปกลับไปเลย เผื่อเวลาให้พอ
ถ้าบังเอิญเที่ยวเร็วกว่ากำหนด มาขอเลื่อนตั๋วกลับให้เร็วขึ้นทีหลังได้
สาเหตุที่ตัดสินใจไป Evora เพราะ อยากไปดูโบสถ์กระดูก และไม่ผิดหวัง แต่อากาศร้อนไปหน่อย
วันที่สาม สายๆไป Belem (เป็น district ใน Lisbon) ไปดู Torre de Belem สัญลักษณ์ของ Lisbon และโปรตุเกส และ Jeronimos Monastery มรดกโลก
ค่าตั๋วเข้า Jeronimos แพงมาก 10 ยูโร รู้สึกไม่คุ้ม ซื้อพ่วงกับตั๋วเข้า Torre de Belem เป็น 16 ยูโร
ที่สำคัญคิวยาวมาก แต่ก็ต่อ เพราะข้างนอกไม่มีอะไร ต้องดูข้างใจ ซึ่งจริงๆก็มีแค่ courtyard อย่างที่บอก ไม่คุ้ม แต่ถ้ากลัวเสียเที่ยวก็ต้องจ่าย
ส่วนตั๋วเข้า Torre de Belem สุดท้ายไม่ได้ใช้ เพราะคิวยาวมากเหมือนกัน และเขาจำกัดจำนวนคนเข้า คิดว่าถ้าต่อจนเข้าได้ บ่ายแน่ๆ สุดท้ายเลยตัดใจ ยกตั๋วให้คนแถวนั้นไป ถ่ายรูปข้างนอกก็สวยแล้ว
วิธีไป Belem คือนั่งรถราง ลืมเลขสายไปแล้ว แต่ถาม hostel หรือ รร เอาเองได้
นั่งรถรางกลับจาก Belem และนั่ง metro กลับมา Restauradores เพื่อไปสถานีรถไฟ Rossio เพื่อนั่งรถไฟไป Sintra ตอนบ่าย
รถไฟ มีทุก ชม หรือครึ่ง ชม นี่แหละ ที่สถานีรถไฟมี Starbucks เข้าไปนั่งจิบกาแฟหรือชารอรถได้
รถไฟไป Sintra มีออกจาก Rossio และ Oriente ผมพักใกล้ Rossio ก็เลยออกจาก Rossio นั่งรถไม่นาน
พอไปถึง ผมเดินตรงหาทางเข้าเมืองเลย ซึ่งผิด เป็นการตัดสินใจที่ผิด
ที่ว่าผิด เพราะ ทางเดินขึ้น Pena Palace แลนด์มาร์คของ Sintra มันชันมากๆ ไปเสร่อเดินขึ้นเอง เหนื่อยมากๆ
วิธีที่ถูกคือ ให้เดินย้อนไปจากทางออกรถไฟ แทนที่จะเดินไปทางเมือง ให้เดินย้อนไปแถวตัวตึกสถานีรถไฟ จะเห็น tourist information office และป้ายรถเมล์สำหรับขึ้นไป Pena Palace สาย 434 หรืออะไรนี่แหละ ลองถามเขาดู หรือสังเกตป้าย
วันที่ 4 นั่งรถไฟจาก Lisboa ไป Portimão นั่ง metro ไปสถานีรถไฟ Oriente แต่เช้า
รถไฟนั่งไปถึงเมือง Tunes แล้วเปลี่ยนรถ เป็นรถ regional นั่งไปทาง Lagos
Portimão เป็นสถานีใหญ่ ไม่ต้องกลัว คนลงเยอะแน่นอน
ที่พักใน Portimão พักที่ Aloha Hostel
เจ้าของไม่ค่อยอยู่ที่ hostel ต้องโทรตาม ผมไม่ได้เปิดโรมมิ่ง เลยให้คนแถวนั้นช่วยโทรให้
เดินจากสถานีรถไฟ ไกลนิดหน่อย แต่ไม่ไกลเกินเดิน
ข้อดี ใกล้ๆมีร้าน takeaway อร่อย ชื่อร้าน a Cozinha (อ่านว่า อา โคซิญญ่า)
ทีนี้โปรแกรมเที่ยวคือ จะไปนั่งเรือไปชม Benagil sea cave ในวันที่ 5
แต่ถามเจ้าของโฮสเทล เขาบอกมีเรือรอบวันที่ 4 นี้เลย ตอน 6 โมงเย็น (หน้าร้อนตอนนั้นอาทิตย์ตก 3 ทุ่ม)
เห็นว่ายังสว่างแน่ๆ และได้ไปดูเร็ว เลยตกลงจองรอบ 6 โมงเย็นวันนี้ไปเลย
ซึ่งผิด ผิดอีกแล้ว ผิดมากๆ
ที่ถูกคือ ต้องจองรอบ 11 โมงเช้าครับ
สาเหตุคือ Benagil Sea Cave มีรูให้แสงเข้าข้างบน แสงจะเข้าพีคและสวย คือเวลาประมาณเที่ยงวันครับ
ตอนไปไม่รู้ โง่ เลยจองรอบ 6 โมงเย็น ไปดูแล้วเสียดายตัง
อีกอย่าง พยายามเตรียมชุดว่ายน้ำไปด้วยครับ จะได้ไปถ่ายรูปจากในเกาะ ไม่ใช่จากเรือ มุมจากในเกาะสวยกว่ากันเยอะ
นี่เอากระเป๋า Deuter Gigant มาใบเดียว ไม่มีที่ใส่อุปกรณ์ว่ายน้ำ เลยไม่ได้ว่าย เสียดาย
วันที่ 5 ว่าง เพราะเลื่อนวันล่องเรือไปวันที่ 4 แล้ว เลยกินๆนอนๆอยู่โฮสเทล
วันที่ 6 ออกแต่เช้า เพื่อนั่งบัสไป Sevilla
ตามที่ google ได้ มี ALSA bus รอบราวๆ 8 โมง ออกจากทิศเหนือเกือบติดสถานีรถไฟ (แต่ต้องเดินอ้อมถนน)
จงใจเผื่อเวลาเยอะๆ ไปซื้อตั๋วหน้างาน
ไปถึงสถานีรถ จนท ขายตั๋วบอกว่า ไม่มีตั๋วไป Sevilla ขาย และรถ ALSA ที่ว่าก็ไม่มาจอดสถานีนี้ด้วย
ผิดอีกแล้ว....
แต่โชคดีมีแผนสอง นั่งรถไฟ regional ไป Faro ซึ่งมีสถานีที่รถบัสจอดอยู่ข้างสถานีรถไฟแน่ๆ
แต่โชคไม่ดี พอจะซื้อตั๋วรอบเช้า เขาบอกตั๋วหมด ต้องไปรอบบ่าย
ก็ต้องจำใจเอา เลยมีเวลาว่าง นั่งรถไปชายหาด Faro ไปนั่งเล่น กินข้าว
สุดท้ายไปถึง Sevilla ราวๆสองทุ่มครึ่ง ถึง hostel ที่ Sevilla สามทุ่ม
ที่พักคือ Sevilla Kitsch Hostel Art
ที่เลือกจองที่นี่เพราะ เห็นว่าใกล้ metro และใกล้ใจกลางเมือง
ซึ่งผิดอีกแล้วครับ
ผิดเพราะ ความใกล้ metro ไม่ช่วยอะไรเลย metro ไม่มีสถานีที่สถานีรถบัสและรถไฟ และไม่มีที่ airport ด้วย
แต่ยังดีที่อยู่ในกลางเมือง ทำให้เที่ยว Sevilla สะดวก
สถานีรถไฟ Santa Justa (อ่านว่าซานต้า ฆุสต้า) ก็ไปไม่ยาก ถ้ารู้ stop ที่ถูกต้องแล้ว
วันที่ 7 ตื่นสาย เดิมว่าจะเที่ยว Cádiz เลยเที่ยวใน Sevilla แทน
ก็ไม่มีอะไรครับ highlight อยู่ที่ Real Alcázar de Sevilla นอกนั้นงั้นๆ
วันที่ 8 ยังคงตื่นสาย แต่ก็ยังคงไป Cádiz
นั่งรถไฟไปจากสถานี Santa Justa ถ้าจำไม่ผิดเป็นรถ Regional
ผลปรากฏว่า ชอบเมืองนี้ครับ มัน pleasant แบบง่ายๆดี
ร้านอาหารก็ราคาถูกกว่าแถว hostel ที่ Sevilla
แนะนำร้านอาหารใน Sevilla
ตรงถนนตรงข้าม Torre del Oro มีร้านอาหารที่ได้คะแนนสูงใน tripadvisor หลายร้าน
กินโซนนั้นแหละครับ ลอง search ใน tripadvisor คร่าวๆดูก่อน แล้วเดินไปกินได้เลย
อาหารกลางวัน แนะนำร้าน Arepa Ole เป็นร้านแซนวิชแบบอเมริกาใต้
อาหารเย็น แนะนำร้าน Uno de Delicias เคยได้ดาว Michelin แต่ปี 2018 ไม่มีดาว ร้านนี้ราคาสูงนิดนึง แต่อร่อยครับ
6000 ตัวอักษรแล้ว เพิ่งจบแค่โปรตุเกส-สเปนแฮะ งั้นขอตัดจบนะครับ ไว้ขึ้นกระทู้ใหม่ จะรีวิว part ต่อไป
เห็นว่าใส่รูปได้โดยไม่ต้องย่อแล้ว เดี๋ยวลองแป๊บ
รูปอาหารร้านที่ว่าไม่ถึง 5 ยูโรครับ ข้าวหุงกับกระต่าย อร่อย และอิ่มมาก!
อาหารที่ควรลอง Pastéis de Bacalhao (ขวา) ส่วนทางซ้ายเป็น Quiche ซึ่งมีขายทั่วไป ในประเทศที่เป็นต้นกำเนิดทาร์ทไข่แห่งนี้ (ผมไม่กินทาร์ทไข่ เพราะไม่กินของหวาน เลยกิน Quiche แทน)
ฺBacalhao com Natas อีกหนึ่งอาหารประจำชาติโปรตุเกสที่ต้องลอง (ขวา)
ส่วนซ้ายเป็นไก่ผัดอะไรสักอย่าง เห็นน่ากินเลยซื้อมาลอง
ซื้อจากร้าน a Cozinha ที่ว่าที่ Portimão
ไก่ piri-piri ร้านเดิม แต่ไม่ยักมีซอสพริกให้ แต่ก็อร่อยดีครับ
แซนวิช แป้ง corn tortilla ร้าน Arepa Ole เลือกใส้ที่มีอโวคาโดเพราะชอบ
Salmon Tartar ร้าน Uno de Delicias
Paella de mariscos (seafood paella) ร้าน Uno de Delicias
Jamón Ibérico ร้าน Uno de Delicias อร่อยเหมือนที่มาดริดเลย แต่น้อยไปหน่อย กินกับ Croutons และ Salmorejo (เพสท์ที่ทำจากมะเขือเทศและขนมปัง)
ขอลาแค่นี้นะครับ ต้องนอนแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นไปขึ้นเครื่องแต่เช้า ไว้วันหลังมาต่อภาคต่อไป
รวมเบ็ดเสร็จ 7390 ตัวอักษรพอดี
<เพิ่มเติม> สรุปค่าใช้จ่าย ไม่รวมค่าตั๋วบิน รวมเฉพาะค่า รร ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ ฯลฯ ราวๆ 550 Euros ครับ