เป็นหนังที่เข้ามาสองสัปดาห์ และกำลังจะออกจากโรงฉาย แต่ผมเพิ่งมีโอกาสได้ดู เพราะสัปดาห์นั้นหนังฉายชนกับ Thor Raknarok ซึ่งผมเลือกดู Thor ก่อนตามกระแส แต่หารู้ไม่ว่าหนังเรื่องนี้ ไม่ธรรมดาเลย ถ้าให้คะแนน ผมให้มากกว่า Thor ด้วยซ้ำ ด้วยความที่หนังมีอะไรเยอะแยะมากมายที่สร้างความประทับใจให้คนดูมากกว่า

หนังสร้างจากเหตุการณ์จริงของ Boston Marathon เรื่องจริงของชายที่ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา เจฟฟ์ เบาว์แมน ชายธรรมดาที่กำลังวาดอนาคตกับ อีริน แฟนสาวไว้อย่างสวยงาม แต่ทุกอย่างกลับพังทะลายเมื่อ เจฟฟ์ กลายเป็นหนึ่งในเหยื่อที่โดนลูกหลงจากการวางระเบิดที่งานบอสตันมาราธอน เจฟฟ์ หลังจากทีมแพทย์ผ่าตัดเพื่อรักษาชีวิตเขาแต่ก็ต้องแลกมาด้วยขาทั้งสองข้าง แต่คำว่ายอมแพ้ไม่เคยเป็นตัวเลือกของเขา เจฟฟ์ ยิ้มรับกับเรื่องที่เกิด มองโลกในแง่ดี และทำทุกอย่างเพื่อให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง เรื่องราวของเขาจะมอบแรงใจให้กับคนที่กำลังท้อถอย

หนังเรียกได้ว่า หดหู่อึดอัตั้งแต่ต้นเรื่องเลยทีเดียว จากฉากเปิดแนะนำตัวละครแค่ไม่ถึง 15 นาที แล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้น หนังใส่ดราม่าสร้างอารมณ์หดหู่ให้กับคนดูได้อย่างยอดเยี่ยม โดยโฟกัสไปที่ตัว เจฟฟ์ และครอบครัวเป็นหลัก ช่วงแรกหนังแสดงให้เห็นว่า เจฟฟ์ คือเหยื่อของการกระทำจากผู้ก่อการร้าย จนกระทั่งพอผ่านพ้นช่วงวิกฤตของตัว เจฟฟ์ เองไปแล้ว หนังกลับค่อยๆ แสดงให้เห็นว่า เจฟฟ์ กลายเป็นเหยื่อของการเอารัดเอาเปรียบจากคนในครอบครัวเองมากกว่าที่จะเป็นสัญลักษณ์ของ Boston Strong ฮีโร่ของเมืองบอสตัน

ด้วยอารมณ์ที่หนังจะแสดงให้เห็นถึงอีกมุมมองหนึ่งของผู้ที่ต้องตกเป็นเหยื่อของการก่อการร้าย แต่ต้องกลับมากลายเป็นจุดที่สังคมจ้องมองตลอดเวลา หนังทำให้เราเห็นถึงอีกแง่มุมความรู้สึกของคนที่ไม่อยากจำเหตุการณ์ร้ายที่ฝังหัว แต่กลับต้องโดนตอกย้ำให้พูดถงตลอดเวลา หนังแสดงให้เห็นถึงจิตใจที่บอบช้ำของ เจฟฟ์ แต่ต้องแสดงให้สังคมเห็นว่าตัวเองแข็งแกร่งและปกปิดความอ่อนแอในใจไว้ รอวันระเบิดออกมา

หนังพยายามจะบอกถึงการเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างแข็งแกร่งให้ได้ แต่ก่อนจะถึงตรงนั้น ตัวละครต้องฟันฝ่าอารมณ์แห่งการสูญเสียและยอมรับไปกับมันให้ได้ ซึ่งหนังทำออกมาได้ค่อนข้างกินใจ ตัว เจฟฟ์ ที่หนังเล่ามา แสดงให้เห็นทุกอย่างในเรื่องของชะตาชีวิตที่พลิกผัน ซึ่ง เจฟฟ์ ต้องเรียนรู้และสู้กับมันด้วยตัวเอง จุดเปลี่ยนของ เจฟฟ์ เกิดขึ้นเมื่อเขาได้ไปเจอกับคนหลายๆ คนที่มีเขาเป็นแรงบันดาลใจ ทำให้ เจฟฟ์ ตัดสินใจจะสู้กับมันอย่างเข้มแข็ง

ต้องยอมรับว่าหลังๆ การเลือกเล่นหนังของ Jake Gyllenhaal ได้ใจคนดูหนังเกือบจะทุกเรื่อง เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ Jake ปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ เพราะหนังเดินไปด้วยตัว เจฟฟ์ เป็นหลัก ซึ่งแน่นอน โฟกัสต้องอยู่ที่ Jake ชัวร์ๆ และเขาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้ว่าจะยังไม่น่าจะไปถึงออสการ์ แต่ก็เรียกว่า เป็นบทที่ต้องจดจำอีกหนึ่งบทบาทการแสดงของเขาเลยทีเดียว ส่วนตัวละครอื่นๆ ในเรื่องถึงจะไม่ได้ถูกโฟกัสมากเท่า แต่ก็ถือว่าเป็นฟันเฟืองสำคัญในการดำเนินเรื่องของหนังได้อย่างดี

โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงอีกหนึ่งมุมของผู้ประสบเหตุการณ์ใน Boston Marathon ที่ไม่ได้บอกถึงการตามหาตัวคนร้าย แต่กลับไปพูดถึงอีก timeline หนึ่งของผู้ประสบเหตุการณ์ออกมาเป็นหนังดราม่าได้อย่างยอดเยี่ยม เสียดายที่หนังเข้าฉายชนกับ Thor Raknarok เลยทำให้กระแสหนังไม่ได้โดดเด่นขึ้นมาสักเท่าไหร่ แต่สำหรับผม หนังเรื่องนี้ดีกว่า Thor ในหลายๆ แง่ครับ

ฝากเพจด้วยนะครับ >> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/