สวัสดีครับ ขออนุญาตแชร์เรื่องราวการตาม iphone โดยการเสี่ยงปลด Find Iphone แล้วใช้ IMEI ตามแทนครับ

ไม่ขอเอ่ยนามหรือกล่าวถึงท่านใดโดยเจาะจงนะครับ เพราะว่าผู้เสียหายไม่อยากดำเนินการใดๆต่อแล้วครับ
ทั้งนี้ขอขอบพระคุณ พี่ท่านหนึ่งทาง Internet ที่ให้คำปรึกษามาโดยตลอด และ”นายตำรวจท่านนั้น” ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของเรื่องเองแต่ได้ช่วยเหลือจนจบเรื่องได้เครื่องคืนครับ

เรื่องย่อสำหรับคนไม่ว่างอ่านครับ
1.    ใช้เวลาในการตามนานเป็นเดือนครับ ต้องขยันโทรและไม่ท้อครับ
2.    กล่องหรือใบเสร็จที่มีเลข IMEI สำคัญมากครับ
3.    แจ้งความและขอให้ตำรวจออกจดหมายที่มีตรา (ไม่ใช่บันทึกประจำวัน) เพื่อที่จะขอเช็คการใช้งานจาก IMEI โดยให้ออกแจ้งไปทั้ง 3 เครือข่ายหรือมากกว่านั้น
4.    ถ้าตามด้วย Find iphone ไม่ได้จริงๆ ลองตัดใจลบเครื่องออกจาก Apple ID บน icloud และเริ่มตามจาก IMEI ครับ
5.    เราต้องเป็นฝ่ายโทรและประสานงานเองครับ ทั้งโทรไปตามให้ฝ่ายกฎหมายของเครือข่ายเช็ค IMEI ในช่วงตามจาก IMEI 10-15 วันโทรซักรอบ ถ้าเจอแล้วโทรตามเองในทุกๆฝ่ายครับ (อย่าหวังให้เค้าโทรกลับ) พยายามขอร้องให้ฝ่ายกฎหมายของเครือข่ายส่ง FAX ไปที่สน. โดยตรงครับ และเราต้องตามยืนยันเองครับว่าตำรวจเจ้าของคดีได้รับเอกสารแล้วครับ เพราะเรื่องจะดำเนินช้ามากๆ เข้าใจว่าตำรวจมีหลายคดีต้องทำครับ (ผมได้เครื่องคืนหลังเจอประมาณ 30 วัน ส่วนหนึ่งเพราะว่าข้อมูลผิดด้วย)
6.    มีท่านผู้ใจดีแนะนำว่าอย่าติดต่อผู้ใช้เครื่องเองครับ ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจครับ เราอาจเกิดอันตรายหรือโดนฟ้องกลับได้ครับ
7.    อย่าเซ็นรับเครื่องถ้าเครื่องมีสภาพเสียหาย (ถ้ารับไปแล้วก็แปลว่าเรายอมรับและอาจจะไม่สามารถเรียกร้องต่อได้อีกครับ)
8.    ผู้ซื้อสุดท้ายที่ใช้เครื่อง ผมไม่ทราบว่าได้รับเงินคืนจากร้านตู้หรือไม่ครับ แต่เค้าต้องคืนเครื่องของกลางให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีที่มาพบครับ (ถ้าไม่มาโดนหมายเรียก และถ้ายังไม่ตามหมายเรียก ตำรวจจะออกหมายจับทันทีครับ คดีอาญาครับ)


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ต้นเรื่อง
พี่สาวโดยกระชากกระเป๋าแถวสีลม โดยคนร้ายขี่มอเตอร์ไซด์มากระชาก ช่วงเย็นประมาณ 18.00น. ต้นเดือนสิงหาคม 2560 เมื่อตั้งสติได้จึงรีบไปแจ้งความเพื่ออายัดบัตรต่างๆ และลงบันทึกที่สน. ยานนาวา มีนายตำรวจท่านหนึ่งให้ลองตามโดย Find iphone แล้วท่านก็ให้นั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์ตามไปจนถึงแถวถนนจันทร์ สุดท้ายสัญญาณก็หายไปตรงนั้นครับ

เหนื่อยที่ 1
เนื่องจากไม่เคยโดยกระชากมาก่อนทำให้พี่สาวตกใจ และไม่มีความรู้ในการดำเนินต่างๆ เช่น การขอเอกสารสำหรับขอให้บริษัทฯเครือข่าย AIS DTAC TRUE เพื่อเช็คการใช้งานจาก IMEI เป็นต้น จึงต้องเดินทางกลับไปที่ สน อีก 2 ครั้งเพื่อขอเอกสารในการเช็ค IMEI

ปล. ไม่รู้ว่าระบบการแจ้งความและการออกเอกสารเป็นแบบนี้ จึงเสียเวลามากเพราะถ้าเราแจ้งบันทึกประจำวันไว้กับตำรวจท่านไหน ก็ต้องไปตามเรื่องกับตำรวจท่านนั้น ตำรวจท่านอื่นไม่สามารถตามเรื่องต่อหรือออกเอกสารเพิ่มเติมให้ได้
สำหรับการขอให้ตำรวจไปดูกล้องวงจรปิดครับ อาจเพราะไม่ใช่คดีใหญ่ ตำรวจบอกให้เราไปขอดูเอง (แล้วใครจะให้ดู) สรุปไม่ได้ดูครับ ตำรวจยังบอกอีก เกิดคดีแบบนี้บ่อย อาจจะตามอะไรไม่ได้มาก ให้ทำใจไว้ครับ

เหนื่อยที่ 2
เมื่อได้เอกสารทางกฎหมายมาแล้ว ต้องหาเบอร์ฝ่ายกฎหมายของเครือข่าย AIS DTAC TRUE เอง ไม่ว่าจะเป็นการหาทาง Google หรือ โทรถามทาง Call center (การหาเบอร์รวมการส่ง Fax เพื่อยืนยันการของเช็ค IMEI ใช้เวลาเกือบทั้งวัน)

ตัดสินใจปลด Find Iphone
ผมเปิด Find Iphone ตามทุกวันเป็นเวลา 5 วันเครื่องไม่เคยโดนเปิดอีกเลยนับจากที่สัญญาณหายไป จึงปรึกษาหลายๆท่าน ได้ข้อมูลมาว่า ถ้าเราลองปลด Find Iphone แล้วโจรอาจจะล้างเครื่องแล้วเอาไปขาย เมื่อมีคนซื้อไปใช้อาจจะได้คืน โดยมีคนมีประสบการณ์ยืนยันว่าได้คืนแต่ใช้เวลากว่า 3 เดือน

ปล. หลายๆร้านมือถือแจ้งว่าถ้าไม่ปลด อาจถูกแยกขายอะไหล่ ในเมื่อตาม Find Iphone ไม่ได้แล้วก็ลองปลดน่าจะดีกว่า

เมื่อปลดแล้ว Find Iphone ก็ทิ้งเวลาซัก 1 เดือนเริ่มโทรไปตามฝ่ายกฎหมายของเครือข่ายต่างๆ
-    โทรไป True ติดยากที่สุด เพราะเป็นเบอร์ตรง แต่โทรติดแล้วช่วยเหลือดีที่มาก ไม่ต้อง Fax เอกสารไปทุกรอบที่ถาม
-    โทรไป DTAC ติดง่ายแต่รอสายนานเพราะเป็นการโอนสาย แต่ติดแล้วช่วยเหลือดีที่มากเช่นกัน ไม่ต้อง Fax เอกสารไปทุกรอบที่ถาม
-    โทรไป AIS เสียความรู้สึกที่สุด เพราะต้อง Fax เอกสารไปทุกรอบที่ถาม แถมต้องส่งจม.ตัวจริงไปยัง AIS อีก (ขนาดยังไม่เจอก็ต้องส่งทุกรอบ)

ปล. เท่าที่ทราบจาก TRUE มาข้อมูลการผูกเบอร์กับIMEI เครือข่ายจะเก็บข้อมูลไว้ทุก 15 วัน ไม่ต้องโทรบ่อยเดือนละ 2 ครั้งก็พอ

เริ่มทำใจกับคำตอบเดิมๆ “ยังไม่มีการใช้งานนะครับ”
เวลาผ่านไป 2 เดือน กับการโทรไปรบกวนฝ่ายกฎหมาย TRUE และ DTAC (AIS ไม่เคยได้ถามเพราะเอกสารที่ได้จากตำรวจไม่ได้ระบุให้ AIS ช่วยและพี่สาวเจ้าของเครื่องติดงานจึงยังไม่ได้เข้าไปขอเอกสารใหม่กับทางตำรวจ) ได้รับคำตอบแบบเดิมๆ “ยังไม่มีการใช้งานนะครับ” เริ่มทำใจและคิดว่าจะไม่โทรแล้ว

เวลาผ่านไปนานประมาณ 20 วัน อยู่ดีๆก็นึกได้ว่าลองโทรอีกทีละกันโดยเลือก DTAC ก่อน ได้คำตอบแบบเดิมๆ และโทรไป TRUE พี่ที่รับสายหายไปนานมาก ได้ยินคำพูดกลับมาว่า “ขอทวนเบอร์ IMEI ครับ” และแจ้งผมว่าพบการใช้งาน ให้ทางผมส่ง FAX เอกสารในการแจ้งความและการขอให้เครือข่ายเช็ค IMEI เข้าไปใหม่เพื่อยืนยันและเขาจะได้ทำจดหมายลงทะเบียนแจ้งไปยังสน. ถึงตำรวจเจ้าของคดี เมื่อผมส่ง FAX เอกสารยืนยันเสร็จ โทรไปตามอีกครั้ง ได้รับการแจ้งว่าต้องติดตามเรื่องกับพนักงานฝ่ายกฎหมาย TRUE คนที่พบการใช้งานครับ (เหมือนตำรวจเลย) จึงต้องโทรไปอีก 2-3 รอบจึงได้คุย พี่พนักงานแจ้งว่าได้ทำเอกสารส่งให้ทางสน. ต้นเรื่อง (สน. ที่เราแจ้งความแล้ว โดยส่งไปยังนายตำรวจที่มีชื่อลงไว้ที่เอกสารขอเช็ค IMEI)

เหนื่อยที่ 3
จากการได้รับแจ้งว่าส่งจดหมายไปแล้วใช้เวลาประมาณ 6-7 วันกว่าที่สน. จะได้รับ (ยังไม่รวมถึงนายตำรวจเจ้าของเรื่องอีกว่าจะเข้าเวรมาตรงกันพอดีไหม) สรุปรอไปประมาณ 10 วัน โทรไปตามที่นายตำรวจท่านนั้นหลายครั้ง พบว่าไม่ได้รับจดหมาย จึงไปตามที่พนักงานฝ่ายกฎหมาย TRUE คนเดิม และขอให้ FAX เอกสารไปยังสน. โดยตรง

ปล. ตอนแรกไม่ยอม FAX แถมไม่ให้ข้อมูลอะไรกับเราเลย บอกว่าให้ตำรวจจัดการเท่านั้น

เหนื่อยที่ 4
เมื่อนายตำรวจท่านนั้น ได้โทรไปตามเบอร์ที่ใช้งาน พบว่าปิดเครื่องตลอด นายตำรวจท่านนั้นยืนยันว่าโทรไปหลายครั้งก็ปิดเครื่องเหมือนทิ้งเบอร์ไปแล้ว แต่ก็บอกว่าให้รอเพราะได้ออกหมายเรียกไปแล้ว ต้องใช้เวลาตามการส่งจดหมายอีกหลายวัน หลังจากรอการติดต่อของตำรวจมากกว่า 10 วัน ผมคิดว่าเครื่องอาจถูกขายไปต่อจึงได้โทรไปสอบถามฝ่ายกฎหมาย TRUE อีกครั้งจึงพบว่าเบอร์ผู้ใช้เครื่องยังคงเป็นเบอร์เดิม แต่เบอร์ที่พิมพ์ในจดหมายที่ส่งไปให้ตำรวจนั้นพี่เค้าพิมพ์ผิด (ทั้งนี้ฝ่ายกฎหมาย TRUE ขอโทษผมทันทีที่ทราบ) ผมจึงขออนุญาตที่จะทราบเบอร์และรีบโทรไปแจ้งนายตำรวจท่านนั้นทันที (นายตำรวจท่านนั้นแอบบ่น มีแบบนี้ด้วย)

ตอนจบได้เครื่องคืน แต่ตำรวจที่ทำคดีมาขอซื้อเครื่องต่อ
ผ่านไป 3 วันได้โทรไปสอบถามนายตำรวจท่านนั้น ได้ความว่า ตอนนี้ได้เครื่องคืนมาที่สน. แล้วให้พี่สาวผมโทรนัดและไปรับได้ เมื่อวันที่ไปรับพี่สาวผมไปรับ พบสภาพเครื่องแย่มาก เครื่องบุบจากการตก กระจกกันรอยแตกเสียหาย ตำรวจเจ้าของคดี แจ้งว่าไม่น่าจะเอาผิดผู้ใช้ได้เพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า “เครื่องอยู่ในสภาพไหนตอนที่โดนกระชากกระเป๋า” และแนะนำให้เซ็นรับเครื่องไป พี่สาวผมเหนื่อยกับการเดินทางต้องไปสน. บ่อยๆ จึงตัดสินใจยอบรับเครื่องกลับบ้าน ทั้งนี้ตำรวจเจ้าของคดีได้ขอซื้อเครื่องต่อจากพี่สาวราคา 10,000 บาท แต่ไม่ได้ขายเพราะว่าเครื่องยังอยู่ในประกัน

จบเรื่องราวการตาม Iphone ครับ
ขอบคุณที่ตามอ่านครับ
ยินดีให้ข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่ต้องการครับ

ปล. มีเรื่องราวที่น่าประทับใจนิดหน่อยตรง ตำรวจเจ้าของคดีไม่ใช่ “นายตำรวจท่านนั้น” ที่ติดตามเรื่องให้ผมตลอดแต่เป็นอีกท่านหนึ่งที่รับเรื่องไปเมื่อวันที่เกิดการการชากกระเป๋า นายตำรวจท่านนั้นได้เล่าเรื่องราวความเป็นไปของเครื่องจนถึงได้อายัดไว้ที่สน.
ผู้ใช้น่าเป็นผู้บริสุทธิ์เพราะซื้อมาจากร้านราคา 26,000 บาท โดยซื้อให้ลูกสาวใช้ ส่วนผู้ขาย (ร้านตู้) มีหลักฐานว่ารับซื้อมาจากผู้ชายคนหนึ่ง (มีบัตรประชาชนถ่ายเอกสารไว้) ราคา 22,000 บาท ผู้ชายคนที่นำมาขายไม่ได้มาสน. ด้วยเนื่องจากไม่ได้มีหมายเรียก สุดท้ายแล้ว “นายตำรวจท่านนั้น” แนะนำให้โทรไปหานายตำรวจอีกท่านที่เป็นเจ้าของคดีเพื่อมารับคืน