สวัสดีนี่หมีเอง…หมีไหนใครอยากรู้ ไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะเรียกว่าอะไรดีแต่ที่รู้คือหมีอยากเล่า ก่อนจะเล่าหมีมีคำถามว่าเพื่อนๆ เคยมีประสบการณ์จองตั๋วเครื่องบินลงผิดสนามบินกันมั้ย ส่วนหมีนั้นขอบอกเลยว่าเป็นครั้งแรกและอะไรจะสำคัญไปกว่าจองผิดที่อินเดียจ้านายจ๋า
มึนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ด่าหมีได้แต่อย่าแรง หมีเสียไต...
เริ่มแรกเดิมทีหมีตัดสินใจมาเที่ยวอินเดียโดยใช้ระยะเวลา 32 วัน โดยมีเพื่อนบ้างไม่มีเพื่อนบ้าง หมีจึงตัดสินใจวางแผนเที่ยวคือ เริ่มจากลงดิลลีจากนั้นไปจ้อดปู้ อุไดปู้ อาเมดาบัด (ช่วงนี้มีเพื่อนเที่ยว) กลับมาดิลลีเพื่อเตรียมตัวบินไปเลห์กับลาดักส์ และส่งเพื่อนกลับไทย
โอ...ความใฝ่ฝันของหมีคือการไปเลห์ตั้งแต่เจ็ดปีก่อนเพราะดูหนังอินเดียเรื่อง 3 idiots อยากจะตามรอยสักครั้ง เมื่อมีโอกาสกลับมาอินเดียอีกจะพลาดได้อย่างไร ใช่ค่ะ แต่หมีพลาดไปแล้ว เพราะหมีจองตั๋วไปลงจามู โอ๊ย...ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจ ทั้งๆ ที่ก็หาข้อมูลมาหลายครั้งและสังหรณ์ใจอยู่บ้าง...
แต่นั่นล่ะค่ะ พลาดแล้วจะโทษใครได้ ชีวิตต้องเดินต่อไปเราจะไม่ถอยหลังกลับ! หมีรู้ได้ไงว่าพลาดใช่มั้ยคะ ขอบอกเลยว่า เอะใจมากๆ และใจไม่ดีตอนออกมาจากสนามบินแล้วเห็นพี่ทหารเต็มไปหมด และที่สำคัญที่นี่ไร้ซิมอินเดียของหมีใช้ไม่ได้ค่ะ...ราวกลับหมีกลับเข้าป่า...หมีนั่งแท็กซี่เข้าเมืองและมองไปรอบๆ แล้วเอ่ยกับตัวเองในใจว่ามันใช่เหรอ จนกระทั่งลงรถแล้วเดินไปเรื่อยๆ สายตาเล็กๆ ผ่านแว่นของหมีก็เจอกับป้ายเอเจนท่องเที่ยว ไหนล่ะทะเลสาบ ไหนล่ะนูบร้าวิลเลจ ไหนล่ะที่ที่หมีจะไป
สุดท้ายหมีก็เจอกับศูนย์การท่องเที่ยวและถามเจ้าหน้าที่ วินาทีที่เจ้าหน้าที่บอกว่าทางที่หมีจะไปเลห์ได้นั้นคือต้องบินไปเท่านั้น! โลกใบเล็กๆ ของหมีดับมืดลงทันที หมีเดินออกมาเงียบๆ โดยไม่เอ่ยอะไร นอกจากคิดในใจแค่ว่าเอาไงดี ซื้อตั๋วไปเลห์ได้มั้ย จะมีตั๋วมั้ย คืนนี้ล่ะนอนไหน
หมีจึงตัดสินใจเข้าไปถามเอเจนซี่ร้านหนึ่งและพบว่าวันนั้นไม่มีตั๋วบินตรงและตั๋วที่มีก็แพง...ตอนนี้คิดว่าทำไมตัวเองโง่ขนาดนี้ โง่กว่าหมีมีอีกมั้ยยยยย...เป็นการผิดพลาดครั้งแรก หมีได้แต่ถามตัวเองว่าเอาไงต่อ สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าจะมาเที่ยวแถบหิมาจัลประเทศแทน เพราะตอนเดินมาเห็นเอเจนซี่เขียนว่ามีบัสไปแถบนั้น
เมื่อตัดสินใจแล้วก็ก้าวเดินต่อ หมีได้รับคำแนะนำจากเอเจนซี่ว่าให้ไปที่สถานีรถบัส ที่นั่นมีรถไปในที่ที่หมีต้องการ...ระหว่างทางที่นั่งรถมาคิดตลอดทางว่าเราจะไปไหนดี มะนาลี ธรรมศาลา ชิมล่า หรือที่ไหนในแถบนี้ดี พอถึงหมีก็เข้าไปถามเอเจนซี่ก่อนเผื่อว่าจะมีพวกรถทัวร์ดีๆ นั่งไปและหมีเลือกธรรมศาลาแต่ปรากฏว่าไม่มี เขาแนะนำให้หมีมาดูที่สถานีรถบัส
ระยะทางราวๆ หนึ่งร้อยเมตรหมีก็ยังตัดสินใจไม่ได้จนมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ หมีมองชื่อสถานที่ที่รถบัสไปถึงและหมีก็ตัดสินใจว่าจะไปมะนาลีเป็นที่แรก อยากเริ่มจากที่สูงลงมาเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่บอกกับหมีว่ารถออกหกโมงเย็นและตอนนั้นเพิ่งจะสามโมงเท่านั้น หมีจึงไปนั่งรอใกล้ๆ อีกครั้งที่สายตาเหลือบไปอ่านป้าย (ความโชคดียังมีคือหมีพออ่านภาษาฮินดีและพูดได้นิดหน่อยเพราะเคยมาเรียนเมื่อเจ็ดปีก่อน) และพบว่ามีไป Amritsa ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้หมีเปลี่ยนใจกะทันหัน หมีลุกขึ้นไปถามเจ้าหน้าที่อีกครั้งทันทีและเขาก็บอกทางว่าบัสอยู่ข้างนอก
ตอนนั้นหมีเดินออกไปอย่างไม่ลังเล หมีแวะซื้อน้ำและมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาถามว่าหมีจะไปไหนหมีก็บอกไปน้องเขาก็พาไปซื้อตั๋ว (คาดว่าน่าจะได้ค่านายหน้า) หมีตัดสินใจซื้อตั๋วทันทีเพราะรถกำลังจะออก หมีคิดว่าอย่างน้อยก็ได้นั่งบนรสบัสดีกว่านั่งรอเฉยๆ มันคล้ายว่าเรากำลังเดินเข้าใกล้ปลายทาง
พอขึ้นมาในรถเขาให้หมีนั่งข้างๆ ผู้หญิงคนหนึ่ง หมีส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตรและถามเขาว่าลงที่ไหนคะ คำตอบของเขาทำให้หมียิ้มได้เพราะปลายทางของเราคือที่เดียวกัน
เพื่อนๆ เชื่อไหมคะว่าบางครั้งในความผิดพลาดก็ทำให้เราพบอะไรใหม่ๆ และสิ่งดีๆ เหมือนกับหมีได้พบกับคนที่นั่งข้างๆ หมีหันไปคุยกับเธอและเล่าเรื่องราวความพลาดให้เธอฟัง เธออยากรู้มั้ยหมีไม่รู้แต่หมีอยากบอก คุยกันไปได้สักพักหมีก็ถามชื่อเธอค่ะ เธอชื่อสุกชัมค่ะ เธอเป็นทันต์แพทย์ แต่สำหรับหมีเธอคือนางฟ้ามาโปรด...ในที่สุดฟ้าก็ส่งคนมาช่วยหมีแล้ว เราคุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งครึ่งทางรถบัสจอดให้เราได้เข้าห้องน้ำและแวะซื้ออาหาร
เธอเดินพาหมีไปซื้ออาหารค่ะ เป็นอาหารข้างทางแต่สะอาดนะคะอร่อยด้วย ทำจากถั่วค่ะ หมีก็กินจนหมด ระหว่างนั่งรถเธอยังใจดีหาข้อมูลให้หมี ถามถึงที่พัก พอหมีบอกว่ายังไม่มีเธอก็บอกว่าเธอรู้จักที่หนึ่งที่นั่นดีและใกล้กับวัดทอง Golden temple
ในที่สุดระยะเวลากว่าสี่ชั่วโมงครึ่งก็พาหมีมาถึง Amritsa นางฟ้าก็หมีช่วยบอกริกชอ (ตุ๊กตุ๊ก) ให้เรื่องที่พัก เรากอดลากันตรงนั้นหมีเอ่ยขอบคุณที่เขาช่วยเหลือ ก่อนเธอจะย้ำว่าถึงแล้วให้ส่งข้อความหาเธอด้วย ตอนนั้นแบตโทรศัพท์หมีหมด และย้ำว่าถ้ามีอะไรส่งข้อความหาเธอได้ตลอดเวลา
เมื่อมาถึงโรงแรมหมีก็ส่งข้อความหาเธอและขอบคุณสำหรับความช่วยเหลืออีกครั้ง บอกเธอว่าถ้ามีโอกาสมาเมืองไทยหวังว่าเราจะได้พบกัน ถึงตอนนั้นเมื่อไรหมีจะดูแลเธออย่างดีเลยล่ะ... และวันที่พลาดก็เปลี่ยนเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่แบบไร้แผนการสุดๆ แต่มีความสุขสุดๆ เช่นกันค่ะ น่าเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายภาพนางฟ้าเอาไว้ เวลานั้นใครจะมีอารมณ์ถ่ายละเนอะ
ครั้งหน้ามีจะมาพร้อมความชัดเจนในความไม่ชัดเจนนะคะ
วันที่เขียนหมีอยู่ มะนาลีค่ะ (มะนาลีหนาวมากกกก)
ถึงแล้ว Amritsa
ขอปิดท้ายด้วยรูปเด็กน้อยน่ารักนะคะ
เปลี่ยนความพลาดให้กลายเป็นความบ้าในอินเดีย...1
สวัสดีนี่หมีเอง…หมีไหนใครอยากรู้ ไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะเรียกว่าอะไรดีแต่ที่รู้คือหมีอยากเล่า ก่อนจะเล่าหมีมีคำถามว่าเพื่อนๆ เคยมีประสบการณ์จองตั๋วเครื่องบินลงผิดสนามบินกันมั้ย ส่วนหมีนั้นขอบอกเลยว่าเป็นครั้งแรกและอะไรจะสำคัญไปกว่าจองผิดที่อินเดียจ้านายจ๋า
มึนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ด่าหมีได้แต่อย่าแรง หมีเสียไต...
เริ่มแรกเดิมทีหมีตัดสินใจมาเที่ยวอินเดียโดยใช้ระยะเวลา 32 วัน โดยมีเพื่อนบ้างไม่มีเพื่อนบ้าง หมีจึงตัดสินใจวางแผนเที่ยวคือ เริ่มจากลงดิลลีจากนั้นไปจ้อดปู้ อุไดปู้ อาเมดาบัด (ช่วงนี้มีเพื่อนเที่ยว) กลับมาดิลลีเพื่อเตรียมตัวบินไปเลห์กับลาดักส์ และส่งเพื่อนกลับไทย
โอ...ความใฝ่ฝันของหมีคือการไปเลห์ตั้งแต่เจ็ดปีก่อนเพราะดูหนังอินเดียเรื่อง 3 idiots อยากจะตามรอยสักครั้ง เมื่อมีโอกาสกลับมาอินเดียอีกจะพลาดได้อย่างไร ใช่ค่ะ แต่หมีพลาดไปแล้ว เพราะหมีจองตั๋วไปลงจามู โอ๊ย...ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจ ทั้งๆ ที่ก็หาข้อมูลมาหลายครั้งและสังหรณ์ใจอยู่บ้าง...
แต่นั่นล่ะค่ะ พลาดแล้วจะโทษใครได้ ชีวิตต้องเดินต่อไปเราจะไม่ถอยหลังกลับ! หมีรู้ได้ไงว่าพลาดใช่มั้ยคะ ขอบอกเลยว่า เอะใจมากๆ และใจไม่ดีตอนออกมาจากสนามบินแล้วเห็นพี่ทหารเต็มไปหมด และที่สำคัญที่นี่ไร้ซิมอินเดียของหมีใช้ไม่ได้ค่ะ...ราวกลับหมีกลับเข้าป่า...หมีนั่งแท็กซี่เข้าเมืองและมองไปรอบๆ แล้วเอ่ยกับตัวเองในใจว่ามันใช่เหรอ จนกระทั่งลงรถแล้วเดินไปเรื่อยๆ สายตาเล็กๆ ผ่านแว่นของหมีก็เจอกับป้ายเอเจนท่องเที่ยว ไหนล่ะทะเลสาบ ไหนล่ะนูบร้าวิลเลจ ไหนล่ะที่ที่หมีจะไป
สุดท้ายหมีก็เจอกับศูนย์การท่องเที่ยวและถามเจ้าหน้าที่ วินาทีที่เจ้าหน้าที่บอกว่าทางที่หมีจะไปเลห์ได้นั้นคือต้องบินไปเท่านั้น! โลกใบเล็กๆ ของหมีดับมืดลงทันที หมีเดินออกมาเงียบๆ โดยไม่เอ่ยอะไร นอกจากคิดในใจแค่ว่าเอาไงดี ซื้อตั๋วไปเลห์ได้มั้ย จะมีตั๋วมั้ย คืนนี้ล่ะนอนไหน
หมีจึงตัดสินใจเข้าไปถามเอเจนซี่ร้านหนึ่งและพบว่าวันนั้นไม่มีตั๋วบินตรงและตั๋วที่มีก็แพง...ตอนนี้คิดว่าทำไมตัวเองโง่ขนาดนี้ โง่กว่าหมีมีอีกมั้ยยยยย...เป็นการผิดพลาดครั้งแรก หมีได้แต่ถามตัวเองว่าเอาไงต่อ สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าจะมาเที่ยวแถบหิมาจัลประเทศแทน เพราะตอนเดินมาเห็นเอเจนซี่เขียนว่ามีบัสไปแถบนั้น
เมื่อตัดสินใจแล้วก็ก้าวเดินต่อ หมีได้รับคำแนะนำจากเอเจนซี่ว่าให้ไปที่สถานีรถบัส ที่นั่นมีรถไปในที่ที่หมีต้องการ...ระหว่างทางที่นั่งรถมาคิดตลอดทางว่าเราจะไปไหนดี มะนาลี ธรรมศาลา ชิมล่า หรือที่ไหนในแถบนี้ดี พอถึงหมีก็เข้าไปถามเอเจนซี่ก่อนเผื่อว่าจะมีพวกรถทัวร์ดีๆ นั่งไปและหมีเลือกธรรมศาลาแต่ปรากฏว่าไม่มี เขาแนะนำให้หมีมาดูที่สถานีรถบัส
ระยะทางราวๆ หนึ่งร้อยเมตรหมีก็ยังตัดสินใจไม่ได้จนมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ หมีมองชื่อสถานที่ที่รถบัสไปถึงและหมีก็ตัดสินใจว่าจะไปมะนาลีเป็นที่แรก อยากเริ่มจากที่สูงลงมาเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่บอกกับหมีว่ารถออกหกโมงเย็นและตอนนั้นเพิ่งจะสามโมงเท่านั้น หมีจึงไปนั่งรอใกล้ๆ อีกครั้งที่สายตาเหลือบไปอ่านป้าย (ความโชคดียังมีคือหมีพออ่านภาษาฮินดีและพูดได้นิดหน่อยเพราะเคยมาเรียนเมื่อเจ็ดปีก่อน) และพบว่ามีไป Amritsa ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้หมีเปลี่ยนใจกะทันหัน หมีลุกขึ้นไปถามเจ้าหน้าที่อีกครั้งทันทีและเขาก็บอกทางว่าบัสอยู่ข้างนอก
ตอนนั้นหมีเดินออกไปอย่างไม่ลังเล หมีแวะซื้อน้ำและมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาถามว่าหมีจะไปไหนหมีก็บอกไปน้องเขาก็พาไปซื้อตั๋ว (คาดว่าน่าจะได้ค่านายหน้า) หมีตัดสินใจซื้อตั๋วทันทีเพราะรถกำลังจะออก หมีคิดว่าอย่างน้อยก็ได้นั่งบนรสบัสดีกว่านั่งรอเฉยๆ มันคล้ายว่าเรากำลังเดินเข้าใกล้ปลายทาง
พอขึ้นมาในรถเขาให้หมีนั่งข้างๆ ผู้หญิงคนหนึ่ง หมีส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตรและถามเขาว่าลงที่ไหนคะ คำตอบของเขาทำให้หมียิ้มได้เพราะปลายทางของเราคือที่เดียวกัน
เพื่อนๆ เชื่อไหมคะว่าบางครั้งในความผิดพลาดก็ทำให้เราพบอะไรใหม่ๆ และสิ่งดีๆ เหมือนกับหมีได้พบกับคนที่นั่งข้างๆ หมีหันไปคุยกับเธอและเล่าเรื่องราวความพลาดให้เธอฟัง เธออยากรู้มั้ยหมีไม่รู้แต่หมีอยากบอก คุยกันไปได้สักพักหมีก็ถามชื่อเธอค่ะ เธอชื่อสุกชัมค่ะ เธอเป็นทันต์แพทย์ แต่สำหรับหมีเธอคือนางฟ้ามาโปรด...ในที่สุดฟ้าก็ส่งคนมาช่วยหมีแล้ว เราคุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งครึ่งทางรถบัสจอดให้เราได้เข้าห้องน้ำและแวะซื้ออาหาร
เธอเดินพาหมีไปซื้ออาหารค่ะ เป็นอาหารข้างทางแต่สะอาดนะคะอร่อยด้วย ทำจากถั่วค่ะ หมีก็กินจนหมด ระหว่างนั่งรถเธอยังใจดีหาข้อมูลให้หมี ถามถึงที่พัก พอหมีบอกว่ายังไม่มีเธอก็บอกว่าเธอรู้จักที่หนึ่งที่นั่นดีและใกล้กับวัดทอง Golden temple
ในที่สุดระยะเวลากว่าสี่ชั่วโมงครึ่งก็พาหมีมาถึง Amritsa นางฟ้าก็หมีช่วยบอกริกชอ (ตุ๊กตุ๊ก) ให้เรื่องที่พัก เรากอดลากันตรงนั้นหมีเอ่ยขอบคุณที่เขาช่วยเหลือ ก่อนเธอจะย้ำว่าถึงแล้วให้ส่งข้อความหาเธอด้วย ตอนนั้นแบตโทรศัพท์หมีหมด และย้ำว่าถ้ามีอะไรส่งข้อความหาเธอได้ตลอดเวลา
เมื่อมาถึงโรงแรมหมีก็ส่งข้อความหาเธอและขอบคุณสำหรับความช่วยเหลืออีกครั้ง บอกเธอว่าถ้ามีโอกาสมาเมืองไทยหวังว่าเราจะได้พบกัน ถึงตอนนั้นเมื่อไรหมีจะดูแลเธออย่างดีเลยล่ะ... และวันที่พลาดก็เปลี่ยนเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่แบบไร้แผนการสุดๆ แต่มีความสุขสุดๆ เช่นกันค่ะ น่าเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายภาพนางฟ้าเอาไว้ เวลานั้นใครจะมีอารมณ์ถ่ายละเนอะ
ครั้งหน้ามีจะมาพร้อมความชัดเจนในความไม่ชัดเจนนะคะ
วันที่เขียนหมีอยู่ มะนาลีค่ะ (มะนาลีหนาวมากกกก)
ถึงแล้ว Amritsa
ขอปิดท้ายด้วยรูปเด็กน้อยน่ารักนะคะ