หลังจากพาไปเที่ยวโครเอเชียกับสโลวีเนียแล้ว ตอนนี้เรายังอยู่ที่ประเทศอดีตยูโกสลาเวียในคาบสมุทรบอลข่านอยู่นะครับ และประเทศที่จะนำเสนอในวันนี้ คือ มอนเตเนโกร
มอนเตเนโกรเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องการพักตากอากาศริมทะเลไม่แพ้โครเอเชีย เพียงแต่คนไทยอาจจะยังไม่คุ้นเคยนัก ที่น่าแปลกใจ คือ มอนเตเนโกรไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปและประเทศในกลุ่มยูโรโซน (ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร) แต่กลับประกาศใช้เงินยูโรเพียงฝ่ายเดียวเสียเอง และเป็นประเทศที่ใช้ทั้งอักขระละติน (ตัว a b c ที่เราคุ้นเคยกัน) และอักขระ Cyrillic แบบเดียวกับที่ใช้ในภาษารัสเซีย
ผมพักอยู่ที่เมืองท่า Kotor แต่ที่ที่จะนำเสนอวันนี้เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่เรียกว่า Sveti Stefan (Saint Stephen) ครับ
ทั้งเกาะ Sveti Stefan เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยป้อมปราการที่ป้องกันข้าศึกชาวเติร์ก รวมทั้งเป็นที่หลบอาศัยของพวกโจรสลัดด้วย ปัจจุบันเป็นสมบัติของรัฐบาลมอนเตเนโกร และมีทางเชื่อมกับแผ่นดินใหญ่แล้ว
รัฐบาลได้ให้สัมปทานบริษัท Aman Resorts เพื่อบูรณะซ่อมแซม และเปิดเป็นรีสอร์ทสุดหรูทั้งเกาะ ใครจะเข้ามาในนี้ ต้องเป็นแขกของโรงแรมเท่านั้น ไม่ว่าจะมาพักค้างคืน หรือเข้ามาทานอาหาร
ผมจ่ายค่าห้องไม่ไหว เลยชื่นชมวิวจากยอดเขา และลงมาเดินเล่นที่ชายหาด แต่ชายหาดที่นี่ยังแบ่งออกเป็น ๒ ฝั่ง ฝั่งขวาเฉพาะแขกของโรงแรมหรือคนภายนอกที่พร้อมจะยอมจ่ายเงินค่าเข้าแสนจะแพง (จำไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่) ส่วนฝั่งซ้าย คนทั่วไปเข้ามาใช้ได้ฟรี รวมทั้งผมด้วย
น้ำที่นี่ใสแจ๋ว เห็นพื้นกรวดสีน้ำตาลแดงและสีส้มที่เบื้องล่าง อุณหภูมิน้ำเย็นสบาย น่าว่ายเล่นมาก พื้นหลังเป็นป้อมปราการของเกาะ ดูสวยงามราวกับเทพนิยาย
-----------------------------------
ผมได้ทำเฟสบุ๊คแฟนเพจเพื่อบอกเล่าประสบการณ์การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น การเรียนระดับปริญญาโทที่สาธารณรัฐเช็กและเนเธอร์แลนด์ การทำงานด้านการทูตที่เบลเยียม และการท่องเที่ยวในยุโรป อาหรับ และเอเชีย ใครสนใจก็ขอเรียนเชิญไปที่เพจ "ยุโรปรำลึก ระทึกอาหรับ กลับสู่เอเชีย" ที่ลิงก์นี้ครับ
https://www.facebook.com/MemoirsOfMrNomad/
แน่นอน มามอนเตเนโกรไม่ได้เพียงจะมาด้อม ๆ มอง ๆ Steti Stefan เท่านั้น ไว้รอติดตามตอนต่อไปครับ
มอนเตเนโกร (๑): ด้อม ๆ มอง ๆ Sveti Stefan
มอนเตเนโกรเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องการพักตากอากาศริมทะเลไม่แพ้โครเอเชีย เพียงแต่คนไทยอาจจะยังไม่คุ้นเคยนัก ที่น่าแปลกใจ คือ มอนเตเนโกรไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปและประเทศในกลุ่มยูโรโซน (ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร) แต่กลับประกาศใช้เงินยูโรเพียงฝ่ายเดียวเสียเอง และเป็นประเทศที่ใช้ทั้งอักขระละติน (ตัว a b c ที่เราคุ้นเคยกัน) และอักขระ Cyrillic แบบเดียวกับที่ใช้ในภาษารัสเซีย
ผมพักอยู่ที่เมืองท่า Kotor แต่ที่ที่จะนำเสนอวันนี้เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่เรียกว่า Sveti Stefan (Saint Stephen) ครับ
ทั้งเกาะ Sveti Stefan เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยป้อมปราการที่ป้องกันข้าศึกชาวเติร์ก รวมทั้งเป็นที่หลบอาศัยของพวกโจรสลัดด้วย ปัจจุบันเป็นสมบัติของรัฐบาลมอนเตเนโกร และมีทางเชื่อมกับแผ่นดินใหญ่แล้ว
รัฐบาลได้ให้สัมปทานบริษัท Aman Resorts เพื่อบูรณะซ่อมแซม และเปิดเป็นรีสอร์ทสุดหรูทั้งเกาะ ใครจะเข้ามาในนี้ ต้องเป็นแขกของโรงแรมเท่านั้น ไม่ว่าจะมาพักค้างคืน หรือเข้ามาทานอาหาร
ผมจ่ายค่าห้องไม่ไหว เลยชื่นชมวิวจากยอดเขา และลงมาเดินเล่นที่ชายหาด แต่ชายหาดที่นี่ยังแบ่งออกเป็น ๒ ฝั่ง ฝั่งขวาเฉพาะแขกของโรงแรมหรือคนภายนอกที่พร้อมจะยอมจ่ายเงินค่าเข้าแสนจะแพง (จำไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่) ส่วนฝั่งซ้าย คนทั่วไปเข้ามาใช้ได้ฟรี รวมทั้งผมด้วย
น้ำที่นี่ใสแจ๋ว เห็นพื้นกรวดสีน้ำตาลแดงและสีส้มที่เบื้องล่าง อุณหภูมิน้ำเย็นสบาย น่าว่ายเล่นมาก พื้นหลังเป็นป้อมปราการของเกาะ ดูสวยงามราวกับเทพนิยาย
-----------------------------------
ผมได้ทำเฟสบุ๊คแฟนเพจเพื่อบอกเล่าประสบการณ์การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น การเรียนระดับปริญญาโทที่สาธารณรัฐเช็กและเนเธอร์แลนด์ การทำงานด้านการทูตที่เบลเยียม และการท่องเที่ยวในยุโรป อาหรับ และเอเชีย ใครสนใจก็ขอเรียนเชิญไปที่เพจ "ยุโรปรำลึก ระทึกอาหรับ กลับสู่เอเชีย" ที่ลิงก์นี้ครับ https://www.facebook.com/MemoirsOfMrNomad/
แน่นอน มามอนเตเนโกรไม่ได้เพียงจะมาด้อม ๆ มอง ๆ Steti Stefan เท่านั้น ไว้รอติดตามตอนต่อไปครับ