กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นานมาก นานจนจำไม่ได้ ตึ่งโป๊ะ!
ไม่ใช่#%#$
เริ่ม
ในป่าใหญ่แห่งหนึ่ง มีเต่ากับกระต่ายเป็นเพื่อนรักกันมา ทั้งสองรู้จักกันตั้งแต่เด็ก เป็นเพื่อนเล่นกันในป่าใหญ่ ทั้งสองไม่เคยห่างกัน มีกันและกันเสมอ ทั้งสองทำสิ่งต่างๆด้วยกัน ไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยว หรือแตกต่าง
จนกระทั่งวันหนึ่งเต่าได้ไปเจอกับฝูงกระรอก เต่ารู้สึกเหงาและอยากมีเพื่อนเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่มีแค่กระต่าย เต่าจึงพยายามที่จะเข้าไปทำความรู้จักสนิทสนมกับกระรอก กระต่ายรับรู้ทุกอย่างว่าเพื่อนกำลังอยากรู้จักเพื่อนใหม่ แต่ไม่ว่าอะไร เพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ ไม่ว่าเต่าจะทำอะไร พยายามอย่างไร กระต่ายจะอยู่ข้างๆเสมอ
จนในที่สุดวันนึงเหล่าฝูงกระรอก ก็ยอมรับในตัวกระต่ายและเต่า ให้ทั้งสองเข้ากลุ่ม ซึ่งตลอดช่วงระยะเวลามีแต่ความสนุกสนาน มีแต่เรื่งตื่นเต้นให้ทำร่วมกัน
แต่ก็อีกนั่นแหละ ความสัมพันธ์ช่วงแรกจะสนุกสนาน น่าตื่นเต้นเสมอ แต่เมื่อต่างฝ่ายต่างได้รู้จักกันมากขึ้น นิสัยส่วนตัวก็จะออกมาให้เห็นกัน กระต่ายนั้รได้รับความนิยมจากเพื่อนๆกระรอกเป็นอย่างมาก ด้วยนิสัยที่เฮฮา ร่าเริง ไม่โกรธอะไรง่ายๆ ที่สำคัญรักษาน้ำใจเพื่อนๆอยู่เสมอ
ส่วนเต่าด้วยนิสัยที่นิ่งๆ ทำให้เพื่อนเดาอารมณ์ยาก ด้วยความช้า เพื่อนจึงไม่ค่อยแกล้งแต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร ยังอยู่ในกลุ่มเหมือนเดิม เพียงแต่ในความรู้สึกนั้น ช่างห่างเหินเหลือเกิน ช่างแปลกแยกเหลือเกิน
จนกระทั่งวันหนึ่ง กระรอกชวนกันเล่นวิ่งไล่จับกัน ทั้งกลุ่มเล่นเกมส์นี้อย่างสนุกสนาน โดยที่ผู้ที่โดนจับยากสุดคือกระรอก แน่นอน กระรอกปีนขึ้นต้นไม้ได้ และไม่มีกฎกติกาใดๆที่มาระบุไว้ และผู้ที่โดนบ่อยสุดคือเต่า การเล่นนี้สนุกสนานมาก เสียงหัวเราะดังลั่นป่า แม้แต่สิงโตยังยอมใจ
แต่ในจิตใจของเต่านั้นกลับอ้างว้างมากยิ่งขึ้น เต่ารู้สึกกดดัน รู้สึกแปลกแยก รู้สึกไม่เป็นที่ยอมรับของเพื่อน ด้วยอารมณ์น้อยใจอยากเอาชนะขึ้นมา จึงท้าให้เพื่อนๆมาวิ่งแข่งกัน ฝูงกระรอกไม่เข้าใจ รู้สึกสงสัยในการกระทำของเต่า จึงได้แย้งขึ้นมา เพราะรู้ดีกันอยู่แล้วว่าว่าเต่าวิ่งช้า แต่เต่ายืนยันที่จะแข่งขัน เหล่ากระรอกจึงตกลงที่จะแข่งขัน โดยแข่งกันทั้งกลุ่ม
การวิ่งนั้น ทั้งหมดได้ออกวิ่งพร้อมกัน ไม่มีกติกาใดระบุ มีเพียงเส้นชัยเท่านั้น ที่เป็นจุดหมาย
3 2 1 go
กระต่ายวิ่งออกนำก่อน เหล่ากระรอกตัวน้อยค่อยๆไล่หลังมา ส่วนเต่าตัวน้อยยังไปไม่ไกลจากเส้นชัย กระต่ายค่อยๆวิ่งช้า เพื่อรอเต่า กระรอกจึงแซงนำหน้าไป กระต่ายเห็นว่าเต่ายังอยู่อีกไกล จึงชะลอเข้าไปใต้ร่มต้นไม้เพื่อรอดูเพื่อน ด้วยความห่วงใย กลัวเพื่อนน้อยใจ เพราะรู้จักนิสัยเต่าดีกว่าใคร
ปั๊ก !!!
เสียงธนูผ่ากลุ่มใบไม้ที่สั่นไหว ปักกลางลำตัวของเจ้ากระต่ายน้อย ไม่มีใครได้ยิน ไม่มีใครเห็น กระต่ายทรุดตัวลงนอนใต้ต้นไม้ใหญ่นั้น ในใจหวังให้เต่าเห็น ทุกย่างก้าวของเต่าคือความหวังของกระต่าย แต่ใจของเต่าตอนนั้น เต็มไปด้วยความน้อยใจ ความแตกแยก ความไม่เข้าพวก สิ่งเดียวที่เต่ามีคือความต้องการชนะกระต่าย เต่าเห็นกระต่ายนอนหลับใต้ต้นไม้ ในใจหวังให้กระต่ายนอนอยู่อย่างนั้น เพราะนี่คือโอกาสเดียวที่เต่าจะพิสูจน์ให้เพื่อนๆในฝูงเห็นว่าเต่าไม่แปลกแยก เต่าค่อยๆเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ที่มีร่างกระต่ายนอนอยู่ โดยไม่แม้จะเหลือบตาไปดูเพื่อน เพราะกลัวเพื่อนจะตื่นขึ้นมา เต่าเดินไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ ทิ้งกระต่ายไว้ตรงนั้น จนกระทั่งถึงเส้นชัย
พร้อมความเปรมปรีย์ที่ชนะกระต่าย
ทุกอย่างเปลี่ยนไปไหม หากนิทานจบลงแบบนี้ ข้อคิดที่เคยบอกต่อกันมาเปลี่ยนไปหรือยัง
นิทานะรื่องกระต่ายกับเต่า เวอร์ชั่นที่คุณอาจเปลี่ยนข้อคิดใหม่
ไม่ใช่#%#$
เริ่ม
ในป่าใหญ่แห่งหนึ่ง มีเต่ากับกระต่ายเป็นเพื่อนรักกันมา ทั้งสองรู้จักกันตั้งแต่เด็ก เป็นเพื่อนเล่นกันในป่าใหญ่ ทั้งสองไม่เคยห่างกัน มีกันและกันเสมอ ทั้งสองทำสิ่งต่างๆด้วยกัน ไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยว หรือแตกต่าง
จนกระทั่งวันหนึ่งเต่าได้ไปเจอกับฝูงกระรอก เต่ารู้สึกเหงาและอยากมีเพื่อนเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่มีแค่กระต่าย เต่าจึงพยายามที่จะเข้าไปทำความรู้จักสนิทสนมกับกระรอก กระต่ายรับรู้ทุกอย่างว่าเพื่อนกำลังอยากรู้จักเพื่อนใหม่ แต่ไม่ว่าอะไร เพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ ไม่ว่าเต่าจะทำอะไร พยายามอย่างไร กระต่ายจะอยู่ข้างๆเสมอ
จนในที่สุดวันนึงเหล่าฝูงกระรอก ก็ยอมรับในตัวกระต่ายและเต่า ให้ทั้งสองเข้ากลุ่ม ซึ่งตลอดช่วงระยะเวลามีแต่ความสนุกสนาน มีแต่เรื่งตื่นเต้นให้ทำร่วมกัน
แต่ก็อีกนั่นแหละ ความสัมพันธ์ช่วงแรกจะสนุกสนาน น่าตื่นเต้นเสมอ แต่เมื่อต่างฝ่ายต่างได้รู้จักกันมากขึ้น นิสัยส่วนตัวก็จะออกมาให้เห็นกัน กระต่ายนั้รได้รับความนิยมจากเพื่อนๆกระรอกเป็นอย่างมาก ด้วยนิสัยที่เฮฮา ร่าเริง ไม่โกรธอะไรง่ายๆ ที่สำคัญรักษาน้ำใจเพื่อนๆอยู่เสมอ
ส่วนเต่าด้วยนิสัยที่นิ่งๆ ทำให้เพื่อนเดาอารมณ์ยาก ด้วยความช้า เพื่อนจึงไม่ค่อยแกล้งแต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร ยังอยู่ในกลุ่มเหมือนเดิม เพียงแต่ในความรู้สึกนั้น ช่างห่างเหินเหลือเกิน ช่างแปลกแยกเหลือเกิน
จนกระทั่งวันหนึ่ง กระรอกชวนกันเล่นวิ่งไล่จับกัน ทั้งกลุ่มเล่นเกมส์นี้อย่างสนุกสนาน โดยที่ผู้ที่โดนจับยากสุดคือกระรอก แน่นอน กระรอกปีนขึ้นต้นไม้ได้ และไม่มีกฎกติกาใดๆที่มาระบุไว้ และผู้ที่โดนบ่อยสุดคือเต่า การเล่นนี้สนุกสนานมาก เสียงหัวเราะดังลั่นป่า แม้แต่สิงโตยังยอมใจ
แต่ในจิตใจของเต่านั้นกลับอ้างว้างมากยิ่งขึ้น เต่ารู้สึกกดดัน รู้สึกแปลกแยก รู้สึกไม่เป็นที่ยอมรับของเพื่อน ด้วยอารมณ์น้อยใจอยากเอาชนะขึ้นมา จึงท้าให้เพื่อนๆมาวิ่งแข่งกัน ฝูงกระรอกไม่เข้าใจ รู้สึกสงสัยในการกระทำของเต่า จึงได้แย้งขึ้นมา เพราะรู้ดีกันอยู่แล้วว่าว่าเต่าวิ่งช้า แต่เต่ายืนยันที่จะแข่งขัน เหล่ากระรอกจึงตกลงที่จะแข่งขัน โดยแข่งกันทั้งกลุ่ม
การวิ่งนั้น ทั้งหมดได้ออกวิ่งพร้อมกัน ไม่มีกติกาใดระบุ มีเพียงเส้นชัยเท่านั้น ที่เป็นจุดหมาย
3 2 1 go
กระต่ายวิ่งออกนำก่อน เหล่ากระรอกตัวน้อยค่อยๆไล่หลังมา ส่วนเต่าตัวน้อยยังไปไม่ไกลจากเส้นชัย กระต่ายค่อยๆวิ่งช้า เพื่อรอเต่า กระรอกจึงแซงนำหน้าไป กระต่ายเห็นว่าเต่ายังอยู่อีกไกล จึงชะลอเข้าไปใต้ร่มต้นไม้เพื่อรอดูเพื่อน ด้วยความห่วงใย กลัวเพื่อนน้อยใจ เพราะรู้จักนิสัยเต่าดีกว่าใคร
ปั๊ก !!!
เสียงธนูผ่ากลุ่มใบไม้ที่สั่นไหว ปักกลางลำตัวของเจ้ากระต่ายน้อย ไม่มีใครได้ยิน ไม่มีใครเห็น กระต่ายทรุดตัวลงนอนใต้ต้นไม้ใหญ่นั้น ในใจหวังให้เต่าเห็น ทุกย่างก้าวของเต่าคือความหวังของกระต่าย แต่ใจของเต่าตอนนั้น เต็มไปด้วยความน้อยใจ ความแตกแยก ความไม่เข้าพวก สิ่งเดียวที่เต่ามีคือความต้องการชนะกระต่าย เต่าเห็นกระต่ายนอนหลับใต้ต้นไม้ ในใจหวังให้กระต่ายนอนอยู่อย่างนั้น เพราะนี่คือโอกาสเดียวที่เต่าจะพิสูจน์ให้เพื่อนๆในฝูงเห็นว่าเต่าไม่แปลกแยก เต่าค่อยๆเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ที่มีร่างกระต่ายนอนอยู่ โดยไม่แม้จะเหลือบตาไปดูเพื่อน เพราะกลัวเพื่อนจะตื่นขึ้นมา เต่าเดินไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ ทิ้งกระต่ายไว้ตรงนั้น จนกระทั่งถึงเส้นชัย
พร้อมความเปรมปรีย์ที่ชนะกระต่าย
ทุกอย่างเปลี่ยนไปไหม หากนิทานจบลงแบบนี้ ข้อคิดที่เคยบอกต่อกันมาเปลี่ยนไปหรือยัง