ในหมู่บ้านอีสปหลังจากความพ่ายแพ้ของกระต่ายในการวิ่งแข่งกับเต่านั้นสร้างความอับอายให้แก่เดวิดทายาทกระต่ายรุ่นที่3 เป็นอย่างยิ่ง "ฮึ่มปู่นะปู่ไม่น่าไปนอนกลางวันเลย ถ้าปู่ไม่นอนกลางวัน ผมคงไม่ต้องมาโดนเพื่อนๆสัตว์ล้อเลียนหรอก" เดวิดคิดพลางหาวิธีที่จะชนะคำสบประมาทล้อเลียนของสัตว์ทั้งหลายเรื่องความพ่ายแพ้ของคุณปู่จนกระทั่ง "คิดออกแล้ว เราจะพัฒนาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาในหมู่บ้านอีสป สัตว์ทั้งหลายก็ต้องชื่นชมความเจ๋งของมัน ตระกูลกระต่ายต้องกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง" เดวิดคิดได้อย่างนั้นจึงพัฒนาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาในหมู่บ้านอีสป โทรศัพท์มือถือของเดวิดเป็นที่นิยมอย่างมากเพราะรูปทรงกะทัดรัดและสะดวกสบายกว่าการส่งจดหมายหรือการใช้โทรศัพท์บ้าน ทำให้เดวิดร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีทีเดียว แต่แล้วธุรกิจของเดวิสก็มีคู่แข่งเมื่อ มาร์ค ทายาทเต่ารุ่นที่3ได้คิดค้นโทรศัพท์ระบบสัมผัสซึ่งใช้สะดวกสบายกว่าโทรศัพท์ของเดวิดซึ่งเป็นปุ่มกดและลูกเล่นไม่ค่อยมี จนสุดท้ายบริษัทของเดวิดก็ขาดทุนและถูกบริษัทของมาร์คซื้อกิจการในที่สุด. เดวิดได้แต่รำพึงว่า"ฉันอุตส่าห์คิดค้นโทรศัพท์มือถือที่ใช้สะดวกแล้ว ทำไมพอทายาทเต่าเข้ามาบริษัทฉันถึงเจ๊ง โธ่เอ๋ยรุ่นปู่ก็วิ่งแพ้ รุ่นหลานยังถูกยืดกิจการอีก" โดยที่เดวิดไม่ได้คิดเลยว่าพอสินค้าของตัวเองขายดี ก็ไม่ได้มีการที่จะพัฒนาสินค้าให้ทันสมัยเลย ในขณะที่มาร์คได้เห็นจุดด้อยของสินค้าเดวิดจึงพัฒนาสินค้าของตัวเองจนชนะเดวิดได้ในที่สุด. เรื่องนี้จึงสอนให้รู้ว่า ในการทำอะไรอย่าได้ยืดติดความสำเร็จในอดีตเพราะคลื่นลูกใหม่มักแซงได้เสมอ.
นิทานอีสปทันยุค ตอน กระต่ายกับเต่า