ถ้าชอบ กดไลท์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะจ๊ะ หรือติดตามรีวิวใหม่ๆได้ที่
https://www.facebook.com/TickerCollector
ว่าด้วยเรื่องราวของสามีภรรยาที่เป็นจิตรกรคู่หนึ่ง วันหนึ่งภรรยาขอร้องให้สามีตัวเองมาเป็นแบบในการวาดรูป ก็แต่งองค์ทรงเครื่องเป็นผู้หญิง แต่แล้วเหมือนอะไรดลใจให้ตัวสามีกลับรู้สึกชอบซะงั้น แล้วชอบแบบถอนตัวไม่ขึ้นด้วย เรื่องราวจะเป็นยังไงต้องติดตามได้ในหนังนะจ๊ะ
หนังมันดีมากกว่าที่คิดไว้ แอดชอบมากเลยละ โดยเฉพาะ Eddie Redmayne แสดงได้โคตรรรรรรรรรรรรรรรรรรรดี แบบเฮ้ยยยยทึ่งอะ ทำไมแสดงเป็นสาวได้ขนาดนี้ บวกกับรูปลักษณ์ของเขาด้วย หน้าตา รูปร่าง สูงยาว ดูอ้อนแอ้น เลือกนักแสดงมารับบทนี้ได้ดีมากๆ คือถ้าเล่นไม่เข้าถึงตัวละครจะไม่อินกับหนังเลย แต่นี่ดูแล้วรู้สึกอิน อินมากเหมือนเขามีร่างผู้หญิงอยู่ในตัวเขาจริงๆ
อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวของแอดนะ ชอบในเครื่องแต่งกายมันแบบดูผู้ดีจัง ดูสะอาดตาไปหมด มีฉากวาบหวิวด้วยนะ ติดเรททททท แบบเห็นกันสดๆร้อนๆเลยละ เปลืองเนื้อเปลืองตัวดีจริงๆ55555555
ช่วงแรกก็เหมือนชีวิตคู่สามีภรรยาทั่วๆไป รักกันหวานชื่น จะบอกเล่าเรื่องการทำงานของตัวภรรยาสาว ซึ่งไม่ค่อยจะราบรื่นนัก เพราะเธอยังหาแนวทางการวาดรูปของเธอยังไม่ได้ มันไม่มีอะไรโดดเด่น จนอยู่ๆเธอก็นึกสนุกลองเอาสามีตัวเองที่แต่งหญิงมาเป็นแบบ มันกลับกลายเป็นไอเดียที่ทำให้เธอโด่งดัง และขายผลงานเธอได้ ช่วงต้นๆเรื่องก็จะเล่าถึงความสนุกสนานที่เธอให้สามีแต่งหญิง สอนท่าทางผู้หญิง ว่าต้องทำแบบนั้นแบบนี้นะ แล้วสามีก็สนุกไปกับเธอด้วย ถึงขั้นเลยเถิดไปกันใหญ่เพราะความสนุก (จะเลยเถิดถึงขนาดไหนก็ไปดูกันเอานะจ๊ะ)
พอมากลางๆเรื่องเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงของตัวสามี ว่าเธอรู้สึกชอบที่จะแต่งกายเป็นหญิง ทำอะไรเหมือนผู้หญิง ไม่ชอบที่จะเป็นเหมือนผู้ชายแล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่สามีสับสนว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ แล้วก็เริ่มดราม่าในเรื่องครอบครัวเกิดขึ้น (ก็นะใครจะไปรับได้สามีเริ่มกลายเป็นเพื่อนสาว) เริ่มมีการรักษาเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะสมัยนั้นต้องเข้าใจว่าคนยังไม่ค่อยยอมรับในเรื่องเพศที่แตกต่าง เขาเลยคิดกันว่าเป็นอาการผิดปกติทางเพศที่ควรรักษา
พอมาช่วงท้ายของเรื่องคือเหมือนจุดสิ้นสุดที่ทุกคนต้องยอมรับและปล่อยอะ ให้มันเป็นไป และคอยช่วยเหลือ ให้กำลังใจและยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นมากกว่า ช่วงท้ายเรื่องนี้แอดชอบมากกกกกกกกกก มันแบบโอ๊ยยยยยยย จี๊ดใจภรรยาอะ จะมีผู้หญิงกี่คนบนโลกที่ทำอะไรเพื่อสามีเธอได้ขนาดนี้อะ ยอมใจ
สรุป หนังดีมากกก นักแสดงก็ลงตัวสุดๆ หนังดำเนินเรื่องดีนะ (ชอบความดีดดิ้งของเอ็ดดี้ที่ไม่มากไม่น้อยเกินไปดูลงตัวอ่ะ) อาจมีขัดๆบ้างบางช่วงในบท แต่เพราะนักแสดงเล่นดีอ่ะมันเลยกลบส่วนเสียไป ดูจบแล้วแบบเหมือนเปิดโลกของตัวเองมากขึ้นอะ อยากให้ทุกคนได้ดูมันเป็นหนังที่ให้อิสระทางความคิดมากๆ
ให้ 8/10 คะแนน
[CR] รีวิวหนังเอาใจเพศที่ 3 : The Danish Girl (2015) สร้างจากเรื่องจริง
ว่าด้วยเรื่องราวของสามีภรรยาที่เป็นจิตรกรคู่หนึ่ง วันหนึ่งภรรยาขอร้องให้สามีตัวเองมาเป็นแบบในการวาดรูป ก็แต่งองค์ทรงเครื่องเป็นผู้หญิง แต่แล้วเหมือนอะไรดลใจให้ตัวสามีกลับรู้สึกชอบซะงั้น แล้วชอบแบบถอนตัวไม่ขึ้นด้วย เรื่องราวจะเป็นยังไงต้องติดตามได้ในหนังนะจ๊ะ
หนังมันดีมากกว่าที่คิดไว้ แอดชอบมากเลยละ โดยเฉพาะ Eddie Redmayne แสดงได้โคตรรรรรรรรรรรรรรรรรรรดี แบบเฮ้ยยยยทึ่งอะ ทำไมแสดงเป็นสาวได้ขนาดนี้ บวกกับรูปลักษณ์ของเขาด้วย หน้าตา รูปร่าง สูงยาว ดูอ้อนแอ้น เลือกนักแสดงมารับบทนี้ได้ดีมากๆ คือถ้าเล่นไม่เข้าถึงตัวละครจะไม่อินกับหนังเลย แต่นี่ดูแล้วรู้สึกอิน อินมากเหมือนเขามีร่างผู้หญิงอยู่ในตัวเขาจริงๆ
อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวของแอดนะ ชอบในเครื่องแต่งกายมันแบบดูผู้ดีจัง ดูสะอาดตาไปหมด มีฉากวาบหวิวด้วยนะ ติดเรททททท แบบเห็นกันสดๆร้อนๆเลยละ เปลืองเนื้อเปลืองตัวดีจริงๆ55555555
ช่วงแรกก็เหมือนชีวิตคู่สามีภรรยาทั่วๆไป รักกันหวานชื่น จะบอกเล่าเรื่องการทำงานของตัวภรรยาสาว ซึ่งไม่ค่อยจะราบรื่นนัก เพราะเธอยังหาแนวทางการวาดรูปของเธอยังไม่ได้ มันไม่มีอะไรโดดเด่น จนอยู่ๆเธอก็นึกสนุกลองเอาสามีตัวเองที่แต่งหญิงมาเป็นแบบ มันกลับกลายเป็นไอเดียที่ทำให้เธอโด่งดัง และขายผลงานเธอได้ ช่วงต้นๆเรื่องก็จะเล่าถึงความสนุกสนานที่เธอให้สามีแต่งหญิง สอนท่าทางผู้หญิง ว่าต้องทำแบบนั้นแบบนี้นะ แล้วสามีก็สนุกไปกับเธอด้วย ถึงขั้นเลยเถิดไปกันใหญ่เพราะความสนุก (จะเลยเถิดถึงขนาดไหนก็ไปดูกันเอานะจ๊ะ)
พอมากลางๆเรื่องเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงของตัวสามี ว่าเธอรู้สึกชอบที่จะแต่งกายเป็นหญิง ทำอะไรเหมือนผู้หญิง ไม่ชอบที่จะเป็นเหมือนผู้ชายแล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่สามีสับสนว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ แล้วก็เริ่มดราม่าในเรื่องครอบครัวเกิดขึ้น (ก็นะใครจะไปรับได้สามีเริ่มกลายเป็นเพื่อนสาว) เริ่มมีการรักษาเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะสมัยนั้นต้องเข้าใจว่าคนยังไม่ค่อยยอมรับในเรื่องเพศที่แตกต่าง เขาเลยคิดกันว่าเป็นอาการผิดปกติทางเพศที่ควรรักษา
พอมาช่วงท้ายของเรื่องคือเหมือนจุดสิ้นสุดที่ทุกคนต้องยอมรับและปล่อยอะ ให้มันเป็นไป และคอยช่วยเหลือ ให้กำลังใจและยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นมากกว่า ช่วงท้ายเรื่องนี้แอดชอบมากกกกกกกกกก มันแบบโอ๊ยยยยยยย จี๊ดใจภรรยาอะ จะมีผู้หญิงกี่คนบนโลกที่ทำอะไรเพื่อสามีเธอได้ขนาดนี้อะ ยอมใจ
สรุป หนังดีมากกก นักแสดงก็ลงตัวสุดๆ หนังดำเนินเรื่องดีนะ (ชอบความดีดดิ้งของเอ็ดดี้ที่ไม่มากไม่น้อยเกินไปดูลงตัวอ่ะ) อาจมีขัดๆบ้างบางช่วงในบท แต่เพราะนักแสดงเล่นดีอ่ะมันเลยกลบส่วนเสียไป ดูจบแล้วแบบเหมือนเปิดโลกของตัวเองมากขึ้นอะ อยากให้ทุกคนได้ดูมันเป็นหนังที่ให้อิสระทางความคิดมากๆ
ให้ 8/10 คะแนน