บท "อีเพา" ใน รถเมล์สายพระพุทธบาท อาจไม่ใช่นางเอกของเรื่อง แต่ก็เป็นบทเด่นที่มีสีสันจัดจ้าน
จากอีข้าวนอกนาลูกทหารฝรั่งสมัยสงครามโลก ที่ใช้เรือนร่างและความสวยแปลกตาที่เป็นลูกครึ่งเป็นเครื่องมือหากิน
นำพาตัวเองไปสู่วงการบันเทิง และก้าวเข้ามาเป็น "อนุ" ของนายพล ก่อนจะเขี่ยคุณหญิงทิ้งแล้วขึ้นแท่นแทน
ความทะเยอทะยาย ทำให้อีเพา หรือคุณหญิงลำเพาพักตร์
รับสินบาทคาดสินบนเบื้องหลังสามี ไปจนถึงทำเรื่องที่ตราหน้าได้ว่า "ขายชาติ"
ความริษยา ทำให้เธอพยายามทำลายความรัก
ของร้อยตรีจามิกร ผู้ชายที่เธอหลงรัก กับกรพินธ์ ที่เป็นนางเอกตัวจริงของเรื่อง
คำโปรยบนปก
"สมบัติสิ่งเดียวที่ลำเพาพักตร์มี คือร่างกายที่กำลังเติบโตเต็มที่เเละสวยสดเเปลกตามนุษย์เเถวนั้นเป็นอย่างยิ่ง
ความหิวบอกให้เธอหาข้าวใส่ท้อง ความอวบอัดสวยสดทำให้เธอได้เงินมาซื้ออาหารคล่องอย่างยิ่ง
มีใครบ้างที่เคยสอนลำเพาพักตร์ให้รู้ งานหนักที่สุจริตนั้นมีอยู่ในโลกเเละเป็นของดี
มีใครเคยบอกเธอให้ผ่านหูบ้างว่า อาชีพของเธอขณะนั้นจะกลายเป็นชนักติดหลัง
ที่คอยเสียบยอกอยู่เสมอ เมื่อถึงคราวที่ชะตาจะหมุนขึ้นสู่ที่สูงเเละ
อาชีพเเลกร่างกายนั้น เมื่อได้ชินจนหมดความตะขิดตะขวงเสียเเต่เเรก เเล้ว
มันก็กลายเป็นโอชะอย่างหนึ่งที่ให้ทั้งรสเเปลกประหลาดเเละอาชีพที่สะดวกสบาย"
เรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเพิ่งเสร็จสิ้นสงครามได้ไม่นาน ณ ชุมทางรถเมล์สายพระพุทธบาท นั่นเอง
ร้อยตรีจามิกร นายทหารหนุ่มรูปงาม ท่าทางเคร่งขรึมเอาจริงเอาจัง
และคุณยายผู้อารีท่านหนึ่งที่เพิ่งเป็นผู้โดยสารร่วมคันรถกัน
ทั้งคู่ต่างเดินทางมานมัสการพระพุทธบาทสระบุรี และมีโอกาสพูดคุยสนทนากันอย่างถูกคอ
หมวดจามิกร เป็นเด็กวัดที่ยากจนแต่อาศัยความรักดี มุมานะบากบั่นจนเรียนสำเร็จนายร้อยทหารบก
มาประจำการอยู่ที่นี่พอดี นายทหารหนุ่มรูปงามเองก็มีหญิงสาวมาติดพันมากมาย
รวมถึงเขมาวดี ที่เป็นบุตรพ่อค้าที่อาศัยอยู่ในแถบนั้นด้วย ในขณะที่คุณยายเองเดินทางมาจากพระนคร
เพื่อมาเยี่ยมหลานสาวที่อาศัยอยู่สระบุรี และถือโอกาสแวะมานมัสการพระบาทเช่นกัน
ตัวละครทั้งคู่ได้เผชิญหน้ากับตัวละครเอกอีกผู้หนึ่งที่มีสีสันจัดจ้านตั้งแต่เริ่มปรากฏตัวในบทแรกคือ “อีเพา”
แม่ค้าวัยรุ่นขายไก่ย่างริมทาง อีเพา หญิงสาวงามประหลาด ด้วยเลือดตะวันตกในตัวจากทหารยุคสงครามโลก
ผู้มีวาจาจัดจ้าน ตามประสาแม่ค้าผู้กร้านโลกย์ เพราะนอกจากไก่ย่าง เธอยังหากินด้วยเรือนร่างและความสวยงาม
เพาเกิดความประทับใจนายทหารหนุ่มรูปหล่ออย่างจามิกร ชีวิตของคนทั้งสามคงจะผ่านพบและแยกย้ายกันไปคนละทาง
แต่ดูเหมือนว่าจากชุมทางรถเมล์สายพระพุทธบาทจะเป็นเส้นทางเริ่มต้นของชีวิตแต่ละคนให้โคจรมาบรรจบกันอีกครั้งที่พระนคร
หลังจากนั้นไม่นาน จามิกร มีโอกาสรู้จัก กรพิน นักศึกษาสาวที่มาทัศนศึกษา
ร่วมกับกลุ่มเพื่อนๆของเธอ รวมถึงเจ้าเจ้าอินทรปัตถ์ เจ้าชายแห่งแคว้นชายแดนริมแม่น้ำโขงแห่งหนึ่ง
ที่ติดพันกรพินอยู่ด้วย หญิงสาวเป็นคนสวยงาม ประทับใจนายทหารหนุ่มผู้ไม่เคยมีความรักมาก่อน
ในเวลาต่อมา ปรากฏชื่อดาราภาพยนตร์ชื่อดังเกิดขึ้น
ลำเพาพักตร์ ซึ่งมีประวัติที่มาอันน่าสงสาร ตามที่หล่อนพยายาม สร้าง ประวัติชีวิตตนเองขึ้น
จามิกร จำหล่อนได้ว่าคือ “อีเพา”ที่เขาพบที่พระพุทธบาทนั่นเอง
โดยเฉพาะเมื่อหล่อนใช้มารยาหญิง ไต่เต้ามาเป็น อนุของท่านนายพล
ก่อนจะเขี่ยคุณหญิงคนเดิม ทิ้งไปอย่างเลือดเย็น และเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านพักอันหรูหรา
ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านของคุณยายกรพินนั่นเอง
ลำเพาพักตร์จำจามิกรได้ฝังใจ แม้ว่าตอนนี้หล่อนจะเป็นภรรยา “ท่าน”ซึ่งเป็นเจ้านายของจามิกร แล้วก็ตาม
ลำเพาพักตร์ใช้ความเป็นหลังบ้าน กอบโกยทรัพย์สินรวมทั้งสินบนจากบรรดาผู้ที่เข้ามาแสวงผลประโยชน์จากบารมีของสามีตนเอง
โดยที่ท่านนายพลเองก็มิได้รู้เรื่องด้วย จนกระทั่ง มีเสี่ยธนบูลย์ซึ่งเป็นอาของเขมาวดี ต้องการประมูลถนนและก่อสร้างอาคารของทหาร
ในเขตแดนรอยต่อระหว่าง ไทย กับอาณาจักรของเจ้าอินทร์แปง พระบิดาของเจ้าชายอินทรปัตถ์นั่นเอง จึงเกิดเรื่องขึ้น
นายธนบูลย์พยายามนำเขมาวดี เข้ามาประเคนให้ “ท่าน” เพื่อกรุยทางสู่ธุรกิจการประมูล
เพราะรู้ว่า “ท่าน”แพ้ทางในเรื่องอิสตรี แต่ลำเพาพักตร์ ที่เคยใช้วิธีนี้มาก่อน พยายามเข้าขัดขวาง
เพราะกลัวว่าตัวเองจะเสียประโยชน์ และด้วยความริษยาในความรักของจามิกรกับกรพิน
หล่อนสืบรู้มาว่า เขมาวดี เองสนใจหนุ่มรูปงามอย่างจามิกร มาก่อน
แผนการที่จะ ส่งเขมาวดี ไปยั่วยวนจามิกร เพื่อทำให้คู่รักแตกหักกับเขาจึงเริ่มต้นขึ้น
แต่จามิกร มีความรักและซื่อสัตย์ต่อกรพิน มากกว่า สิ่งที่ลำเพาพักตร์ประเมินมากนัก แผนการที่ว่าจึงไม่ได้ผล
ทว่าความรักของสองหนุ่มสาวก็ยังเผชิญกับอุปสรรค อีกมากมาย ทั้งการที่จามิกรถูกส่งตัวไปเข้าอบรมหลักสูตรปรมาณูที่อเมริกา
ความห่างไกล แม้จะถูกทดสอบด้วยปัญหาต่างๆ แต่ก็หาได้ทำให้ความรักนั้นขาดสะบั้นลงไม่
เมื่อกลับมา ทั้งสองตั้งใจจะหมั้นหมายและแต่งงานกัน แต่แล้ว เมื่อเกิดข้อพิพาทระหว่างชายแดน
จามิกร ถูกส่งตัวไปรบร่วมกับท่านนายพล โดยหารู้ไม่ว่า ลำเพาพักตร์ ร่วมมือกับกลุ่มขายชาติอย่างนายธนบูลย์และเขมาวดี
นำความลับเรื่องรหัสลับและแผนที่ทางยุทธศาสตร์ เอาไปขาย จนเกิดการต่อสู้กันขึ้นและจามิกร ก็ถูกจับตัว
ข่าวถูกส่งมาถึงกรพิน หญิงสาวแทบหัวใจสลาย ในขณะที่เจ้าอินทรปัตถ์ ส่งคนมารับกรพินให้เดินทางมายังเมืองของตน
และวางแผนช่วยเหลือจามิกร โดยกล่อมให้เขมาวดีเป็นไส้ศึก แม้ว่า หญิงสาวจะเป็นยอดหัวใจ แต่ด้วยความรักที่มีต่อกรพิน
เจ้าชายหนุ่มยอมเสียสละ หาทางช่วยเหลือคนรักของหญิงสาวจนประสบผลสำเร็จ
และเจ้าอินทรปัตถ์กับจามิกร ก็ร่วมกันต่อสู้รบกับข้าศึกจนทุกอย่างประสบผลสำเร็จ
ในที่สุด จามิกร และกรพิน ก็กลับมาพบกันอีกครั้งพร้อมกับความสุขสมหวังแห่งรัก ส่วนท่านนายพลถูกสอบสวน
แม้ว่าท่านจะไม่มีความผิดโดยเจตนา แต่ในที่สุด ด้วยความเป็นลูกผู้ชาย ท่านนายพลตัดสินใจลาออกจากราชการ
และไปใช้ชีวิตต่างประเทศ โดยที่ลำเพาพักตร์ซึ่งสำนึกผิดก็ตัดสินใจ ขอติดตามไปรับใช้ท่านด้วย
ทั้งๆที่ ท่านเองก็ไม่เหลือทรัพย์สมบัติใดๆติดกายอีกต่อไป
ฉากท้ายๆของเรื่อง ย้อนกลับมายังชุมทางรถเมล์สายพระพุทธบาทอีกครั้ง พร้อมกับการเผชิญหน้ากันของอีเพา
อดีตแม้ค้าที่โชคชะตาส่งให้กลายมาเป็นคุณหญิง และท้ายสุดโชคชะตาก็เล่นตลกหมุนย้อนพาหล่อนกลับลงมาเ
ป็นเพียงนางลำเพาพักตร์ผู้อนาถา ที่กำลังจะลี้ภัยพร้อมสามีไปต่างประเทศ
ครั้งนี้หล่อนได้เผชิญหน้ากับ คู่หมั้นหน่มสาวที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ของจามิกร และกรพิน เป็นการปิดฉาก
เรื่องราวชีวิตของอีเพาอย่างหมดจดชัดเจนในความหมายแห่งชื่อเรื่องที่เป็นทั้งจุดเริ่มต้นและอวสาน
ลำเพาพักตร์ยิ้มอย่างที่กรพินเคยเห็นยิ้มอย่างนั้นในดวงหน้าของหล่อนมาก่อน เป็นยิ้มที่น่าสมเพช
คืออาการของคนที่ "ปลงตก"แล้วในชะตากรรมของตน หล่อนตอบกรพินเสียงเรียบๆเบาๆ ว่า
"อย่าห่วงคนอย่างดิฉันเลยค่ะ ห่วงตัวคุณเถิด รีบจับรถเข้ากรุงเสียก่อนค่ำ
ดิฉันน่ะ ไม่มีใครอยากจะเอาไปทำอะไรแล้ว ดิฉันรู้จักที่นี่หมดทุกหัวเลี้ยว ไปเถอะค่ะ
ขอให้คุณทั้งสองมีแต่ความสุข ความทุกข์ยากอย่าได้มารู้จักแผ้วพานเลย"
จามิกรกับกรพินมองดูรถคันนั้นแล่นเลี้ยวหายไปในกลุ่มฝุ่นสีแดง จามิกรพบหล่อนครั้งแรกในหมอกฝุ่นตรงนี้
บัดนี้ก็จากกันในหมอกฝุ่นที่ตรงนี้อีก ทางเดินของคนนี้ช่างแปลกกันนี่กระไร ทุกคนมีกรรมเป็นของตนเองทั้งสิ้น
คำว่า "วิบาก" คือผลแห่งกรรมนั้นมีจริง และกรรมนั้นเป็นเครื่องจำแนกสัตว์ให้ต่างกันโดยแท้
ขอบคุณเรื่องย่อจากคุณสามปอยหลวง
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sampoiluang&month=11-11-2013&group=6&gblog=65
คาริสา จะเหมาะไหมกับบทสุดแซ่บ "อีเพา" ในนิยายอมตะ "รถเมล์สายพระพุทธบาท"
จากอีข้าวนอกนาลูกทหารฝรั่งสมัยสงครามโลก ที่ใช้เรือนร่างและความสวยแปลกตาที่เป็นลูกครึ่งเป็นเครื่องมือหากิน
นำพาตัวเองไปสู่วงการบันเทิง และก้าวเข้ามาเป็น "อนุ" ของนายพล ก่อนจะเขี่ยคุณหญิงทิ้งแล้วขึ้นแท่นแทน
ความทะเยอทะยาย ทำให้อีเพา หรือคุณหญิงลำเพาพักตร์
รับสินบาทคาดสินบนเบื้องหลังสามี ไปจนถึงทำเรื่องที่ตราหน้าได้ว่า "ขายชาติ"
ความริษยา ทำให้เธอพยายามทำลายความรัก
ของร้อยตรีจามิกร ผู้ชายที่เธอหลงรัก กับกรพินธ์ ที่เป็นนางเอกตัวจริงของเรื่อง
คำโปรยบนปก
"สมบัติสิ่งเดียวที่ลำเพาพักตร์มี คือร่างกายที่กำลังเติบโตเต็มที่เเละสวยสดเเปลกตามนุษย์เเถวนั้นเป็นอย่างยิ่ง
ความหิวบอกให้เธอหาข้าวใส่ท้อง ความอวบอัดสวยสดทำให้เธอได้เงินมาซื้ออาหารคล่องอย่างยิ่ง
มีใครบ้างที่เคยสอนลำเพาพักตร์ให้รู้ งานหนักที่สุจริตนั้นมีอยู่ในโลกเเละเป็นของดี
มีใครเคยบอกเธอให้ผ่านหูบ้างว่า อาชีพของเธอขณะนั้นจะกลายเป็นชนักติดหลัง
ที่คอยเสียบยอกอยู่เสมอ เมื่อถึงคราวที่ชะตาจะหมุนขึ้นสู่ที่สูงเเละ
อาชีพเเลกร่างกายนั้น เมื่อได้ชินจนหมดความตะขิดตะขวงเสียเเต่เเรก เเล้ว
มันก็กลายเป็นโอชะอย่างหนึ่งที่ให้ทั้งรสเเปลกประหลาดเเละอาชีพที่สะดวกสบาย"
เรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบคุณเรื่องย่อจากคุณสามปอยหลวง
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sampoiluang&month=11-11-2013&group=6&gblog=65