Thor: Ragnarok (Taika Waititi, 2017) คะแนน B
By Form Corleone
"ภาคต่อที่สนุกสนานผนวกอารมณ์ขันที่สุดในจักรวาลมาร์เวล" ความบันเทิงของ 'Thor: Ragnarok' สำหรับเราคือการพาเราหลุดกรอบออกไปในจักรวาลที่กว้างใหญ่+โทนสีที่ฉูดฉาด จนหลงลืมโลกภายนอกไปช่วงขณะที่ดู คือความน่ายินดีที่ตัวภาพยนตร์สามารถทำให้เราโฟกัสอยู่กับฉากหลังต่างๆได้แทบตลอดรอดฝั่ง แม้ว่าความกวนๆของ 'Thor: Ragnarok' จะคล้ายคลึงกับ 'Guardians Of The Galaxy' ก็ตาม ซึ่งเราก็ชื่นชอบ 'GOTG' อยู่แล้วเป็นทุนเดิมโดยเฉพาะภาคแรก ทำให้การนั่งดูพื้นหลัง+มุกกวนๆเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง ผนวกกับฉากไล่ล่าขับยานที่ให้ความบันเทิงต่างจาก 'Thor' ภาคก่อนหน้าที่ไม่มีให้เห็น ยังช่วยส่งเสริมความสนุกสนานได้น่าพอใจ พร้อมทั้งตัวละครที่มาช่วยเสริมเติมพลังกันยังมีความตื้นลึกหนาบาง โดยไม่ต้องบอกรายละเอียดลำดับความสำคัญของแต่ละตัวให้มากความอีก ทั้งยังใส่ใจหรือกระจายความน่าสนใจได้ใกล้เคียงกันในแต่ละตัว แม้ว่าสุดท้ายก็จะไปโฟกัสที่ตัว 'Thor' อยู่ดีนั้นแหละ ภาคนี้จึงถือเป็นภาคที่ดีที่สุดของ 'เทพเจ้าสายฟ้า' แม้ว่าจะมีข้อเสียอยู่แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำให้ความสนุกลดทอนลงไป การดำเนินเรื่องก็เป็นเส้นตรงและเบาบางเพราะโดนมุกตลกกลบไปจนหมด แต่ถึงจะไม่มีมุกตลกมันก็ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรอยู่แล้ว
อารมณ์ตลกขบขันของภาพยนตร์แบบฉบับมาร์เวลนั้นมีให้เห็นกันแทบทุกเรื่อง เพียงแต่ว่าเรื่องนี้มันมีเยอะกว่าเรื่องอื่นแต่ไม่ถึงกับต้องรำคาญจนอารมณ์เสีย เพราะมันก็เข้าที่เข้าทางลงล็อกของมันพอดิบพอดี แม้ว่าจุดนี้จะเป็นเหมือนดาบสองคมที่ความขำขันไปบั่นทอนเนื้อหาสาระให้เบาบางลงไปอีกทั้งๆที่มันก็ไม่ได้มีอะไรมากอยู่แล้วอย่างหลีกไม่ได้ เพราะเราแทบที่จะลืมเส้นเรื่องทั้งหมดไปเลยก็ว่าได้ ซึ่งน่าเสียดายอยู่เหมือนกันเพราะความเข้มข้นของเส้นเรื่องในภาคนี้ที่สามารถทำให้ดราม่าได้ในระดับที่ดีผสมความกวนๆได้น่าจะออกมาน่าสนใจกว่านี้ ถ้ามีจุดนี้ผสมอยู่ด้วยคงจะกลมกล่อมมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะหนังเลือกเล่นในมุมที่ยียวนกวนประสาทเบาสมองแทนลงไปเกือบจะทั้งหมดเลย ในแง่ของความบันเทิงคงจะตอบโจทย์ในระดับที่ดีมาก แต่ในเรื่องของโครงสร้างทั้งหมดเหมือนจะไปได้ไม่รอด แต่ก็ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาที่ดูไม่ได้ติดใจในโครงสร้างหรือพล็อตเรื่องอะไรเลยเพราะหนังนำพาเราไปร่วมสนุกสนานได้อยู่แล้ว จนหลังจากดูเสร็จจึงมองเห็นจุดที่ไม่ชอบ สิ่งที่ดีจนไม่กล่าวถึงไม่ได้+เป็นเหมือนเซอร์ไพรส์ของภาคนี้คือการได้ 'เคท แบลนเช็ตต์' มารับบทเป็นตัวร้ายที่อาจจะไม่ได้แสดงความร้ายกาจให้เราลุ่มหลง แต่ใช้ความมีเสน่ห์ มีลุกมีทรงที่เซ็กซี่น่าหลงใหล ดูมีออร่าและเจิดจรัสของ 'เคท แบลนเช็ตต์' นั้นสามารถทำให้เราจดจ่อไปได้ตลอดเวลา ถือว่าเป็นตัวละครที่สะกดใจได้อยู่เอามากๆ
ท้ายสุด 'Thor: Ragnarok' เป็นภาพยนตร์ที่ตอบโจทย์ความบันเทิงได้ในระดับที่ดีมาก แม้จะมีช่วงเวลาที่หนังยืดเยื้ออยู่เหมือนกัน แต่ภาพรวมทั้งหมดคงถูกใจใครหลายคนที่ชอบงานสไตล์โทนสีแจ่มๆ เล่นสีจัดๆ ผนวกกับความเป็นจักรๆวงศ์ๆ ฉากแอคชั่นมันส์ๆ ภาคนี้คงตอบโจทย์ได้คุ้มค่ากว่าภาคอื่น แม้จะมีพล็อตเรื่องที่เบาบางมากๆ แต่ก็คงจะไม่ต้องไปถือสาหาความอะไร แค่เฉพาะช่วงเวลาที่ดูนั้นหนังพาเราหลุดไปจากโลกความเป็นจริงภายนอกสักระยะให้ร่างกายได้หยุดพักหยุดคิดสักพักก็เพียงพอ งานนี้คงจะเพลิดเพลินได้ไม่น้อยเลย ถึงจะรู้สึกว่าภาพรวมทั้งหมดก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไรในจักรวาลมาร์เวลแบบที่เราเคยเห็นๆกันก็ตาม อย่างไรเสีย แต่ละส่วนของงานนี้คงจะเอาปลอดภัยไว้ก่อน คือทำแบบเดิมๆที่เคยทำสำเร็จมาแล้วของแต่ละเรื่องมาผสมๆกัน จนเอาตัวรอดไปได้อย่างน่าชื่นชมอีกหนึ่งผลงาน...และยังคงอุ่นใจที่ซื้อตั๋วเข้าไปดูงานของค่ายมาร์เวลอีกเช่นเคย...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/ 
Review: Thor: Ragnarok (Taika Waititi, 2017) เขียนโดย Form Corleone
By Form Corleone
"ภาคต่อที่สนุกสนานผนวกอารมณ์ขันที่สุดในจักรวาลมาร์เวล" ความบันเทิงของ 'Thor: Ragnarok' สำหรับเราคือการพาเราหลุดกรอบออกไปในจักรวาลที่กว้างใหญ่+โทนสีที่ฉูดฉาด จนหลงลืมโลกภายนอกไปช่วงขณะที่ดู คือความน่ายินดีที่ตัวภาพยนตร์สามารถทำให้เราโฟกัสอยู่กับฉากหลังต่างๆได้แทบตลอดรอดฝั่ง แม้ว่าความกวนๆของ 'Thor: Ragnarok' จะคล้ายคลึงกับ 'Guardians Of The Galaxy' ก็ตาม ซึ่งเราก็ชื่นชอบ 'GOTG' อยู่แล้วเป็นทุนเดิมโดยเฉพาะภาคแรก ทำให้การนั่งดูพื้นหลัง+มุกกวนๆเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง ผนวกกับฉากไล่ล่าขับยานที่ให้ความบันเทิงต่างจาก 'Thor' ภาคก่อนหน้าที่ไม่มีให้เห็น ยังช่วยส่งเสริมความสนุกสนานได้น่าพอใจ พร้อมทั้งตัวละครที่มาช่วยเสริมเติมพลังกันยังมีความตื้นลึกหนาบาง โดยไม่ต้องบอกรายละเอียดลำดับความสำคัญของแต่ละตัวให้มากความอีก ทั้งยังใส่ใจหรือกระจายความน่าสนใจได้ใกล้เคียงกันในแต่ละตัว แม้ว่าสุดท้ายก็จะไปโฟกัสที่ตัว 'Thor' อยู่ดีนั้นแหละ ภาคนี้จึงถือเป็นภาคที่ดีที่สุดของ 'เทพเจ้าสายฟ้า' แม้ว่าจะมีข้อเสียอยู่แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำให้ความสนุกลดทอนลงไป การดำเนินเรื่องก็เป็นเส้นตรงและเบาบางเพราะโดนมุกตลกกลบไปจนหมด แต่ถึงจะไม่มีมุกตลกมันก็ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรอยู่แล้ว
อารมณ์ตลกขบขันของภาพยนตร์แบบฉบับมาร์เวลนั้นมีให้เห็นกันแทบทุกเรื่อง เพียงแต่ว่าเรื่องนี้มันมีเยอะกว่าเรื่องอื่นแต่ไม่ถึงกับต้องรำคาญจนอารมณ์เสีย เพราะมันก็เข้าที่เข้าทางลงล็อกของมันพอดิบพอดี แม้ว่าจุดนี้จะเป็นเหมือนดาบสองคมที่ความขำขันไปบั่นทอนเนื้อหาสาระให้เบาบางลงไปอีกทั้งๆที่มันก็ไม่ได้มีอะไรมากอยู่แล้วอย่างหลีกไม่ได้ เพราะเราแทบที่จะลืมเส้นเรื่องทั้งหมดไปเลยก็ว่าได้ ซึ่งน่าเสียดายอยู่เหมือนกันเพราะความเข้มข้นของเส้นเรื่องในภาคนี้ที่สามารถทำให้ดราม่าได้ในระดับที่ดีผสมความกวนๆได้น่าจะออกมาน่าสนใจกว่านี้ ถ้ามีจุดนี้ผสมอยู่ด้วยคงจะกลมกล่อมมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะหนังเลือกเล่นในมุมที่ยียวนกวนประสาทเบาสมองแทนลงไปเกือบจะทั้งหมดเลย ในแง่ของความบันเทิงคงจะตอบโจทย์ในระดับที่ดีมาก แต่ในเรื่องของโครงสร้างทั้งหมดเหมือนจะไปได้ไม่รอด แต่ก็ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาที่ดูไม่ได้ติดใจในโครงสร้างหรือพล็อตเรื่องอะไรเลยเพราะหนังนำพาเราไปร่วมสนุกสนานได้อยู่แล้ว จนหลังจากดูเสร็จจึงมองเห็นจุดที่ไม่ชอบ สิ่งที่ดีจนไม่กล่าวถึงไม่ได้+เป็นเหมือนเซอร์ไพรส์ของภาคนี้คือการได้ 'เคท แบลนเช็ตต์' มารับบทเป็นตัวร้ายที่อาจจะไม่ได้แสดงความร้ายกาจให้เราลุ่มหลง แต่ใช้ความมีเสน่ห์ มีลุกมีทรงที่เซ็กซี่น่าหลงใหล ดูมีออร่าและเจิดจรัสของ 'เคท แบลนเช็ตต์' นั้นสามารถทำให้เราจดจ่อไปได้ตลอดเวลา ถือว่าเป็นตัวละครที่สะกดใจได้อยู่เอามากๆ
ท้ายสุด 'Thor: Ragnarok' เป็นภาพยนตร์ที่ตอบโจทย์ความบันเทิงได้ในระดับที่ดีมาก แม้จะมีช่วงเวลาที่หนังยืดเยื้ออยู่เหมือนกัน แต่ภาพรวมทั้งหมดคงถูกใจใครหลายคนที่ชอบงานสไตล์โทนสีแจ่มๆ เล่นสีจัดๆ ผนวกกับความเป็นจักรๆวงศ์ๆ ฉากแอคชั่นมันส์ๆ ภาคนี้คงตอบโจทย์ได้คุ้มค่ากว่าภาคอื่น แม้จะมีพล็อตเรื่องที่เบาบางมากๆ แต่ก็คงจะไม่ต้องไปถือสาหาความอะไร แค่เฉพาะช่วงเวลาที่ดูนั้นหนังพาเราหลุดไปจากโลกความเป็นจริงภายนอกสักระยะให้ร่างกายได้หยุดพักหยุดคิดสักพักก็เพียงพอ งานนี้คงจะเพลิดเพลินได้ไม่น้อยเลย ถึงจะรู้สึกว่าภาพรวมทั้งหมดก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไรในจักรวาลมาร์เวลแบบที่เราเคยเห็นๆกันก็ตาม อย่างไรเสีย แต่ละส่วนของงานนี้คงจะเอาปลอดภัยไว้ก่อน คือทำแบบเดิมๆที่เคยทำสำเร็จมาแล้วของแต่ละเรื่องมาผสมๆกัน จนเอาตัวรอดไปได้อย่างน่าชื่นชมอีกหนึ่งผลงาน...และยังคงอุ่นใจที่ซื้อตั๋วเข้าไปดูงานของค่ายมาร์เวลอีกเช่นเคย...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/