(กระทู้รำลึก) ฟ้าทะลายโจร (2000) - หนังไทยสุดแหวกแนวเรื่องแรกที่ได้เข้าฉายใน Cannes Film Festival

ฟ้าทะลายโจร : Tears of the Black Tiger

"รักซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ"


          หากจะนึกถึงหนังไทยดีๆที่ถูกลืม มีอยู่หลายเรื่อง วันนี้ผมอยากจะนำเรื่องหนึ่งมาย้อนรำลึกให้กับทุกคน หลายคนอาจจะเคยได้ยินมากันบ้าง เรื่องที่ว่านี้ก็คือ "ฟ้าทะลายโจร" หนังไทยนอกกระแสที่ประสบความสำเร็จในการเข้าฉายตามเทศกาลหนังต่างๆ แต่ในประเทศไทยกลับไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนัก อย่างไรก็ตามนี่คือหนึ่งในหนังไทยชั้นเยี่ยมที่น่าสนใจ

มารู้จักกับภาพยนตร์เรื่อง " ฟ้าทะลายโจร "

          Tears of the Black Tiger หรือ ฟ้าทะลายโจร กำกับโดย คุณวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ฟ้าทะลายโจรจัดเป็นหนังเรื่องแรกของคุณวิศิษฏ์ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะสร้างชื่อเสียงในนานาชาติได้มากมาย หนังได้เข้าฉายในเทศกาลหนังต่างๆ เช่น Sundance , Vancouver , Seatlle , International Film Festival Rotterdam และที่อื่นๆนับไม่ถ้วน

       ที่สำคัญยังเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ถูกนำไปฉายใน Cannes Film Festival ปี 2001 (Un Certain Regard) เทศกาลที่เป็นเสมือนออสการ์ของกลุ่มหนังนอกกระแสและหนังอาร์ต นอกจากนี้ในประเทศไทยก็ได้รางวัลจากสถาบันหลักๆไปเป็นจำนวนมาก ไม่ธรรมดาจริงๆ (อีกหนังไทยเรื่องเยี่ยมที่คุณวิศิษฏ์กำกับมา ก็เรื่อง " หมานคร " สร้างชื่อในวงการภาพยนตร์นานาชาติเช่นกัน)

          ฟ้าทะลายโจร ทำออกมาในแนวหนังคาวบอยย้อนยุค มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรักของ ดำ ลูกชายกำนันที่ดันไปหลงรักกับ รำเพย ลูกสาวของพระยาคนใหญ่คนโต ความรักนี้เกิดขึ้นในวัยเด็กและไม่สมหวังนัก จนกระทั่งโตมาได้พบกันอีกครั้ง ทั้งคู่สัญญาจะหนีไปอยู่ด้วยกัน ดำประสบเคราะห์กรรมจับผลัดจับผลูไปทำงานกับ "เสือฝ้าย" ขุนโจรชื่อดัง ดำรับตำแหน่งเป็น "เสือดำ" มือขวาเสือฝ้าย มีคู่หูคือ "เสือมเหศวร" มือซ้ายของเสือฝ้าย ส่วนรำเพยก็ถูกครอบครัวบังคับแต่งงานกับ ร.ต.อ.กำจร ตำรวจมือปราบหนุ่ม ซึ่งเป็นหนึ่งในตำรวจที่ได้รับภารกิจปราบเสือทั้งหลาย

          (ข้อมูลหนังและเนื้อเรื่องเต็มสามารถอ่านได้ใน Wikipedia ตามลิงค์นี้นะครับ)

"รักซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ"

        ใครที่ไปเห็นปกแล้วคิดว่า 'ฟ้าทะลายโจร' เป็นหนังเก่า อย่าเข้าใจผิดนะครับ หนังสร้างในปี 2000 (พ.ศ.2543) เอง ไม่เก่าขนาดโบราณย้อนยุคไปแบบ 30 - 40 ปี เพียงแต่ผู้กำกับแกสร้างออกมาเลียนแบบหนังคาวบอยย้อนยุค โดยสไตล์การดำเนินเรื่องจะแฝงกลิ่นอายแบบหนังสมัยก่อน ไม่ฉับไว แอ็คชันแข็งๆ แต่ในแง่บทหนังและเนื้อเรื่องถูกออกแบบมาในลักษณะหนังปัจจุบันที่มีความสมเหตุสมผล จึงไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด และเหมือนเรากำลังดูหนังปัจจุบันที่ทำออกมาแบบย้อนยุคนั่นเอง (แถมสนุกอีกด้วย)

        สไตล์ปมเนื้อเรื่องก็จะออกโทนหนังไทยสมัยก่อน ตามสโลแกน "รักซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ" ในหนังมีปมหลายเรื่องที่เราคุ้นเคยจากหนังไทย เช่น ความรักที่ไม่สมหวังระหว่างพระเอกกับนางเอก (ฟีลดอกฟ้ากับหมาวัด) เพื่อนรักหักเหลี่ยม การทรยศกันไปมา ปมเหล่านี้ถูกนำมาผสมกับการเขียนบทแบบปัจจุบันทำให้บทหนังมีชั้นเชิง ดูลึก มีมิติมากขึ้น หักมุมไปมา (แทนที่จะทื่อๆแบบหนังสมัยก่อน) มี Flashback ย้อนตัดไปตัดมา ทำให้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น สนุกไปกับการค่อยๆคลี่ปมต่างๆ

        ในแง่คุณค่าทางประวัติศาสตร์ รายละเอียดชื่อตัวละครต่างๆที่เป็นเสือได้ถูกหยิบยืมมาจากขุนโจรในสมัยก่อนที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคต่างๆของประเทศไทย และเหตุการณ์ในเรื่องก็ดัดแปลงมาจากประวัติศาสตร์ยุคที่เมืองไทยเต็มไปด้วยก๊กเสือต่างๆที่คอยดักปล้นเงินคน นอกจากนี้ยังสะท้อนภาพสังคมไทย ค่านิยมไทยๆ ยุคราวปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เราเห็นภาพยุคนั้นได้ชัดเจน (แต่ก็คงไม่คาวบอยขนาดจ๋าแบบในหนัง) รวมทั้งลักษณะร่วมของหนังยุคเก่าที่โดดเด่นก็ถูกนำมาเล่าผ่านฟ้าทะลายโจรได้ครอบคลุม ก็คือ

'เราจะได้ดูเอกลักษณ์สำคัญของหนังสมัยก่อนบนการทำหนังแบบสมัยใหม่นั่นเอง'


เทคนิคสีอันฉูดฉาดเกินจริง
        นี่เป็นหนึ่งในไม้เด็ดชิ้นสำคัญของฟ้าทะลายโจรที่สร้างความฮือฮาและรางวัลจากเทศกาลหนังต่างๆ โดยการย้อมสีหนังทั้งเรื่องให้ฉูดฉาดเกินจริง เลียนแบบสีโปสเตอร์หนังสมัยก่อนที่จะฉูดฉาดๆ จุดนี้ผมถือว่าเป็นกึ๋นของจริงของผู้กำกับ แกทำได้ล้ำมาก กล้ามาก เทคนิคนี้ก็แทบไม่มีคนใช้ในยุคปัจจุบัน เพราะมันควบคุมและทำได้ยาก รวมถึงคนดูไม่คุ้นตา เสี่ยงที่จะทำให้หนังเจ๊งได้ง่าย ซึ่งสำหรับฟ้าทะลายโจร ผมต้องขอชื่นชมในความกล้าจริงๆ กล้าที่จะนำเทคนิคยากๆแบบนี้มาใช้ ทั้งยังเป็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆให้กับวงการหนังไทยและวงการภาพยนตร์โลก

       [ เห็นล่าสุดที่มีใช้การปรับโทนสีย้อนยุคก็เรื่อง La La Land (2016) แต่ก็ไม่ได้ย้อมซะขนาดเหมือนฟ้าทะลายโจร ]

ฉากแอ็คชันต่อสู้สุดคลาสสิค

        ฉากแอ็คชันหลายฉากมีความคลาสสิคแบบหนังย้อนยุค แม้มันไม่ฉับไวแบบหนังปัจจุบัน แต่ท่าทางการแอ็คชัน มุมกล้อง ฉากต่างๆ ยาวไปจนถึงโปรดักชันสถานที่ต่างๆกลับสวยงาม ตรึงอารมณ์คนดู ราวกับเรากำลังดูงานศิลปะ ยิ่งเฉพาะฉากดวลปืนทั้งตอนต้นเรื่องกับท้ายเรื่องเท่มาก

        อีกฉากที่ผมว่าอลังการชอบเป็นพิเศษก็คือ ฉากกลุ่มเสือฝ้ายกำลังควบม้าตะบึงอยู่บนทุ่งหญ้า 20-30 กว่าตัว สวยงามและอลังการมาก (เพิ่งจะเคยเห็นหนังคาวบอยไทยที่ขี่ม้ากันเหมือนเป็นคาวบอยจริงๆ)

มุมนักแสดง

        ในมุมนักแสดง ก็แสดงได้ดีทุกคน ซึ่งแอ็คติ้งต่างๆก็จะเป็นการแสดงแบบหนังสมัยก่อน ดูแข็งๆ คำพูดเชยๆ โดยรวมนักแสดงก็แสดงได้ดีมาก : เสือดำ - ชาติชาย งามสรรพ์ (เคยเจอหน้าพี่แกในเรื่อง 2499) , รำเพย - สเตลล่า มาลูกี้ (สวยมาก) , เสือมเหศวร - พี่ต็อก ศุภกรณ์ (แสดงดีมากๆ) , ร.ต.อ.กำจร - เอ พศิน เรืองวุฒิ , เสือฝ้าย - สมบัติ เมทะนี (พระเอกสมัยก่อนตัวจริง 555)   

ดนตรีประกอบภาพยนตร์ - ตามรอยเพลงเก่าบรรยากาศย้อนยุค

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

Tears of Black Tiger - ใครจะเมตตา[ Official Trailer ]


        หนังได้นำเพลงสมัยก่อนหลายเพลงมาใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ แต่ละเพลงเลือกมาได้มีคลาส ให้บรรยากาศย้อนยุคได้ดีมาก โดยเฉพาะเพลงประกอบภาพยนตร์หลัก เพลง "ใครจะเมตตา" ของ สุนทราภรณ์ เลือกได้โคตรสุดยอด เป็นเพลงที่ผมชอบที่สุดในเรื่อง เสียงไวโอลินสีและเสียงเปียโนอินโทรฟีลมายังกับคาวบอยควบขับม้าวิ่งย่องเลย เนื้อหาเพลงก็ดี รำพึงรำพันถึงความรักที่ไม่สมหวัง ไม่มีใครเมตตาความรักเลยสักคน เข้ากับหนังมาก

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ฝนสั่งฟ้า


        มีเพลงคลาสสิคที่เราติดหูอย่าง ฝนสั่งฟ้า , พรหมลิขิต มีเพลง กำสรวลจันทร์ ที่เอาทำนองมาจาก The Last Rose of Summer และเพลง โคบาลย่องม้า ที่เอาทำนองมาจากเพลงดนตรีไทย อัศวลีลา สไตล์ขับม้าย่อง

       (ใครสนใจ List เพลงทั้งหมดก็ดูได้จากลิงค์ Wiki ที่วางไว้ข้างบนนะครับ)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

พรหมลิขิต - ฟ้าทะลายโจร


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

กำสรวลจันทร์


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

อัศวลีลา (ม้าย่อง)


บทส่งท้าย

        สำหรับผม 'ฟ้าทะลายโจร' ถือเป็นหนังไทยในดวงใจอีกเรื่องหนึ่งที่คลาสสิค และอยากให้ทุกคนได้ลองดูกันนะครับ หนังงดงามทั้งจากบทเรื่อง ฉากแอ็คชันและเทคนิคต่างๆ ยิ่งโดยเฉพาะคนชอบดูหนังนอกกระแสและหนังอาร์ตหน่อยรับรองว่าถูกใจแน่นอน ตัวหนังอาจดูคัลท์ ดูเฉพาะกลุ่มไปหน่อย แต่ก็ถือว่าชมได้ไม่ยากนะครับ (เพราะยังไงก็ยังมีฐานความเป็นหนังปัจจุบันแฝงอยู่) แค่ลองเปิดใจดู ก็ดูได้สนุก อิน รู้เรื่องแล้ว ถือเป็นหนังไทยที่น่าสนใจทั้งในแง่ความสนุกและความเป็นศิลปะ

        สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณนะครับที่อ่านมาได้ถึงตรงนี้... ใครที่สนใจในผลงานของคุณวิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง ผมแนะนำอีกเรื่องก็ 'หมานคร' โทนหนังนอกกระแส ชนิดที่พอดูจบนึกว่าผู้กำกับฝรั่งมากำกับเอง เป็นหนังที่มีแนวคิดลึกล้ำมาก สามารถจิกกัดสังคมเมืองของคนกรุงเทพอย่างเจ็บแสบ ไว้ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าสู่กันฟังนะครับ ขอบคุณครับ

----------------------------------------------------------------------

Fah talai jone (2000) (Imdb)
With its loud acting style, exuberant sets and stunning shots in pastel colours, this Thai cult film is as much a parody as an homage to the Western and the romantic tearjerker.
Director: Wisit Sasanatieng
Writer: Wisit Sasanatieng
Stars: Chartchai Ngamsan, Stella Malucchi, Supakorn Kitsuwon | See full cast & crew »

----------------------------------------------------------------------

ป.ล. สำหรับคนที่ดูแล้วหรือยังไม่ได้ดู ก็สามารถมาคุยกันได้นะครับ ชอบฉากไหน ประทับใจเรื่องใด ก็มาคุยแลกเปลี่ยนกัน

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่