สวัสดีคะ อยากแชร์ประสบการณ์การผ่าซีสต์ที่เหมือนจะธรรมดาแต่มันไม่ธรรมดาคะให้หลายๆท่าน เพราะของเราเป็นก้อนที่ขนาดค่อนข้างใหญ่ (มากกกก) ซึ่งหาข้อมูลได้ค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่จะเจอกันไม่เกิน 12 ซม.
ตอนที่เจอคือเมื่อประมาณ 5 เดือนที่แล้วคะ
ปัจจุบันอายุ 27 ปีนะคะเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรง ตรวจสุขภาพทุกปี ตรวจมะเร็งปากมดลูดทุกปี (แต่ทำไมไม่เจอน้าาา) และฉีดวัคซีนเรียบร้อยร้อยแล้ว และที่บ้านไม่มีใครเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งก็เลยใช้ชีวิตแบบสบายใจมาก
เรื่องเริ่มจาก พอเรียนจบทำงานก็เริ่มอ้วนขึ้นๆ แต่ไม่ได้มากนะคะ แค่บวมๆ จนมาเมื่อปีก่อนน้ำหนักไม่ขึ้นเยอะคะ แค่ 1-2 โล แต่พุงเนี่ยสิคะ มันมาแบบใหญ่มากหนักมาก บวมมากเหมือนคนท้อง ไปนวด หมอนวดก็ทักว่าท้องป่าว ทำไมพุงกลมๆ แต่กดแล้วไม่เจ็บปวดอะไร ตรวจสุขภาพก็ไม่เจอ ก็เลยไม่คิดอะไรคะ
จนวันนึงไปลองทำ Detox เพราะเป็นคนท้องผูกหมอก็ทักว่า ท้องเรานี่บวมผิดปกตินะเหมือนคนไม่อึมานาน ลองไปอัลตร้าซาวดูนะ บลาๆๆ
ก็เลยไปขอตรวจอัลต้าซาวคะ ตอนไปตรวจนี่ยังคิดว่าจะต้องอายหมดแน่ๆ ไม่เจออึก็เจอไขมันอัดแน่นอยู่ในท้อง
ปรากฏว่าสิ่งที่เจอหมออัลตร้าซาวบอกว่า เป็นซีสต์ถุงน้ำขนาดประมาณ 20-22 ซม. ซึ่งลักษณะจะคล้ายกระเพาะปัสสาวะบวมๆมาก เลยส่งต่อให้ทางหมอเฉพาะทางคะ
เราเลยตัดสินใจไป รพ. ศิริราชปิยะฯ คุณหมอน่ารักมากคะ ไปซาวใหม่อีกรอบ ก็บอกว่าเป็นซีสต์ถุงน้ำใสๆ ไม่ใช่ช็อคโกแลต ขนาดเกือบ 22 ซม. น่าจะอยู่ที่รังไข่ข้างขวา เพราะมันใหญ่จนบังรังไข่อีกข้างหายไปไหนไม่รู้มองไม่เห็นคะ และผนังบางมากเสี่ยงแตกมากๆ จะต้องผ่าตัดใหญ่เท่านั้น ทันทีและต้องตัดรังไข่ทิ้ง 1 ข้างคะ ซึ่งคุณหมอก็จะสักถามว่าเรามีอาการอะไรมั้ย ซึ่งบอกได้เลยตอนนั้นคะว่า ไม่มี!! ไม่มีความผิดปกติอะไรเลยคะ ซึ่งโดยส่วนใหญ่คนที่มีซีสต์หรือก้อนเนื้อจะมีอาการ เช่น ปจด.มาผิดปกติ, ปจด.มาเป็นลิ่มๆ, ปวดท้อง, มีเลือกที่ไม่ใช้ ปจด. ออกบ้าง และอื่นๆ ซึ่งเราไม่มีอาการอะไรเลย นอกจากมีก้อนอ้วนๆอืดๆอยู่ในพุง เวลาไปวิ่งมันจะตุงๆหน่วงๆและจุกๆแค่นั้น ซึ่งเราก็มักจะคิดว่าอ่อเรามันอ้วนนี่เองงงงง และเนื่องด้วยขนาดอันยิ่งใหญ่ของเจ้าก้อนนี้คุณหมอเลยทำการนัดผ่าตัดด่วนคะ เพราะมันมีโอกาสแตกได้ตลอดเวลา ซึ่งคุณหมอก็ยังงว่าอยู่รอดมาได้ไง บางรายแค่ 8-10 ซม. แตกแล้วก็มี แต่ จขกท ยังไปวิ่ง ไปต่อยมวย ไปทำกิจกรรมแอดแวนเจอร์ทุกอย่างสบายมาก คุณหมอคาดว่าน่าจะมีอยู่ในตัวมานานแล้วแต่มาเร่งโตช่วง 1 ปีที่ผ่านมานี้ เพราะก่อนหน้านี้ตรวจไม่เจอ ซึ่งซีสต์มันจะมีหลายประเภทมากคะ
1. ก้อนเนื้อ เช่น เนื้องอก, เนื้อร้าย
2. ถุงน้ำ หรือซีสต์ เช่น ซีสต์น้ำธรรมดา, ช็อคโกแลตซีสต์ (เลือด) เป็นต้น
ของ จขกท เวลากดพุงตรงก้อนซีสต์ลงไปมันจะเหมือนพุงเรามากๆคะ แค่ใหญ่กว่าพุงส่วนอื่นๆซึ่งจะเป็นพุงที่อยู่ตรงท้องน้อย เวลากดจะเด้งๆ เวลาแขม่วจะแขม่วไม่สุด พอแขม่วแล้วเหมือนโดนกดทับหายใจไม่ออก
การรักษาเบื้องต้น ถ้าเป็นก้อนเล็กๆ ไม่เกิน 5-6 ซม. คุณหมอก็จะให้ทานยาก่อนเพื่อให้มันยุบไปเอง
ถ้าใหญ่มาหน่อย 8-12 ซม. ก็จะผ่าด้วยวิธีการส่องกล้อง จะมีแผลที่พุง 3 รูเล็กๆ
ใหญ่กว่านั้นก็ผ่าหน้าท้องคะ
การผ่าตัดที่วางแผนไว้เป็นการผ่าตัดใหญ่เปิดหน้าท้อง bikini line ยาวประมาณ 12-15 ซม. เหมือนการผ่าคลอด (เรียกว่าซ้อมไว้ก่อน) โดยทำการเปิดหน้าท้องเอาก้อนออกและรังไข่ข้างขวา ใช้เวลาประมาน 2-3 ชม. โดย จขกท เลือกวิธีการบล็อคหลังเพราะไม่อยากใส่ท่อช่วยหายใจถ้าเลือกใช้ยาสลบซึ่งจะทำให้เจ็บคอคะ แต่ปรากฏว่าสลบยาวเลยคะไม่รุ้เรื่อง ตื่นอีกทีตอนเสร็จแล้ว คุณหมอแจ้งว่า พอผ่าเข้าไปแล้วขนาดใหญ่กว่าที่คิดไว้คือประมาณ 30 ซม. น้ำหนักประมาณ 3 กก. (ขนาดประมาณเด็ก 6 เดือน) ไม่สามารถเอาออกมาได้ เนื่องจากแผลผ่ายาวสุดแล้วที่ 15 ซม. โชคดีที่ผลตรวจไม่มีเชื้อมะเร็ง คุณหมอเลยเจาะซีสต์ดูดน้ำออกแล้วค่อยเอาออกมา ปรากฏว่ามันไม่ได้อยู่ที่รังไข่คะ แต่มันไปเป็นที่ท่อนำไข่!! (99% จะเจอที่มดลูกหรือรังไข่) ซึ่งมีโอกาสเจอน้อยมากๆ เนื่องจากท่อนำไข่ไม่มีฮอร์โมนหรือหน้าที่ในการสร้างอะไร เป็นอวัยวะที่เป็นท่อเฉยๆ ไม่น่าจะมีอะไรไปเจริญแถวนั้นได้ (เช่นลำไส้ใหญ่เป็นท่อก็จริง แต่มีการดูดซึมอาหาร ย่อยอาหาร) คุณหมอจึงต้องตัดท่อนำไข่ออกไปด้วยคะ จากนั้นก็นอน รพ. อยู่ 4 คืนแล้วกลับบ้านไปพักต่อ 1 เดือน แล้วกลับมาทำงาน ใช้เวลาประมาณ 2 เดือนหลังผ่า จึงจะกลับมา 90% และ 3 เดือนจึงจะ 100%
หลังผ่าเสร็จหิวมากกกกกกนะคะ เพราะต้องอดอาหาร 6-8 ชม. ก่อนผ่า ต้องสวนออกให้หมด และหลังผ่าก็งดทานอาหารอีก 1 วัน ทานได้แค่น้ำและน้ำข้าวต้ม เป็นเรื่องเศร้ามากสำหรับคนชอบกินนะคะ ให้เตรียมใจไว้เลย
สำหรับเรื่องฮอร์โมนหลังเอาออกไปขอชี้แจงเป็น 2 เคสนะคะ
1. ตัดรังไข่ออก 1 ข้าง
เคสนี้จะมีผลกระทบกับฮอร์โมนคะในช่วงแรก แต่ไม่มากคะ คุณหมออธิบายว่า รังไข่อีกข้างที่เหลืออยู่จะทำงานเพิ่มขึ้นเป็น 200% เพื่อชดเชยอีกข้างที่หายไป ซึ่งเราก็จะยังตกไข่ทุกเดือนเป็นปกติ (ความเชื่อเดิมคือตกไข่เดือนเว้นเดือน) ก็คือมีโอกาสมีลูกได้ ทุกเดือนเหมือนเดิม แต่ช่วงแรกร่างกายอาจมีรวนบ้างจากการปรับฮอร์โมนและอาจเข้าสู่วัยทองเร็วกว่าปกติเนื่อจากรังไข่ที่เหลืออยู่ต้องทำงานหนักคะ
2. ตัดท่อนำไข่ออก 1 ข้าง
เคสนี้ไม่มีผลกระทบกับฮอร์โมน แต่มีผลกระทบกับการมีลูกคะ ร่างกายจะยังรับรู้อยู่ว่ายังมีรังไข่ 2 ข้างอยู่ และทั้ง 2 ข้างก็ทำงานตามปกติของมันไป แต่แต่แต่ ท่อนำไข่ข้างนึงหายไป นั่นทำให้ ไข่ที่ตกมาจากรังไข่ข้างนั้นไม่เข้าไปในมดลูก ก็จะล่องลอยอยู่ในร่างกายของเรา (ไข่เล็กมากๆ ไม่มีผลกะอวัยวะอื่นๆ) และสลายไปเอง นั่นทำให้โอกาสมีลูกคือเดือนเว้นเดือนคะ คือเดือนไหนที่ไข่ตกมากจากฝั่งที่ไม่มีท่อ ก็จะไม่มีลูกนั่นเอง ส่วนนอกเหนือจากนั้นก็ปกติคะ
หลังผ่าตัดแล้วรู้สึกเปลี่ยนไปมั้ย ก็มีเปลี่ยนไปบ้างคะ
1. เมื่อก่อนจะปวดปัสสาวะบ่อย ทุกๆ 2 ชม. แต่ไม่ได้ปวดมากนะคะ ปวดแบบไปนั่งฉี่ก็ออกเพราะก็จะไปอู้เล่นโทรศัพท์ในห้องน้ำอยู่แล้ว (555) เพราะว่าเจ้าก้อนมันไปเบียดกับกระเพาะปัสสาวะคะ ส่วนทุกวันนี้ ปวดปกติ อู้ไม่ได้แล้วคะ 55+
2. นน. ลดคะ หลังผ่าคือผอมเลย เพราะกินอะไรไม่ค่อยได้ เพราะเดินมากไม่ได้ เดินมากไม่ได้ ระบบย่อยกับระบบขับถ่ายก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ ต้องทานแต่อาหารอ่อนๆอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์คะ ผอมสมใจเลยคะทีนี้ 55
3. ตอนนี้เวลาวิ่ง ไม่รู้สึกเหมือนมีอะไรเด้งๆที่พุงแล้วคะ (แต่ไม่ได้วิ่งหนักนะคะ)
4. ถ้ามีลูกหลังจากนี้คือผ่าคลอดอย่างเดียวและแนะนำไม่ให้มีลูกเกิน 2 คนคะ
ส่วนสาเหตุ โรคพวกนี้ก็เหมือนๆกับมะเร็งคะ บอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร และมีโอกาสเป็นได้อีก
อยากให้ผู้หญิงทุกคนไปตรวจเป็นประจำคะ เพราะโรคนี้อาจไม่แสดงอาการอะไรเลยคะ ถ้าเป็นถุงน้ำก็สามารถแตกได้ ถ้าแตกจะเป็นเรื่องใหญ่คะ เพราะไม่ว่าเนื้องอกหรือซีสต์ถ้ามีเชื้อมะแร็วและมีการแตกจะลามไปยังอวัยวะอื่นๆได้ หรือทำให้ติดเชื้อได้ เพราะเราไม่ทราบว่าในก้อนในถุงนั้นคืออะไร
สุดท้ายต้องขอขอบคุณทีมหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ที่ รพ. ศิริราชปิยะฯ ที่ช่วยชีวิตเราไว้ด้วยนะคะ ดีมากๆๆจริงๆ คุณหมอเก่งมาก พยาบาลและเจ้าหน้าที่ดูแลดีมากๆ อาหารคนป่วยก็อร่อย ห้องสวยใหม่สะอาด วิวดี มีแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นฉาก ห้องผ่าตัดอลังการไม่น่ากลัวเหมือนในหนังนะคะ ส่วนค่าใช้จ่าย เท่าๆกับรพ. เอกชนทั่วไปเลยคะ (ตอนเจอก้อนเจอที่ รพ. เอกชนแห่งหนึ่ง แต่ว่าหมอที่นั่นไม่เคยผ่าก้อนใหญ่แบบนี้มาก่อน และเรามั่นใจในศิริราช) แถมได้ทำบุญอีกด้วยคะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านนะคะ ขอบคุณคะ
ขอให้ทุกท่านสุขภาพดีคะ ^^
รีวิวประสบการณ์ผ่าซีสต์ขนาด 30 ซม. คะ
ตอนที่เจอคือเมื่อประมาณ 5 เดือนที่แล้วคะ
ปัจจุบันอายุ 27 ปีนะคะเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรง ตรวจสุขภาพทุกปี ตรวจมะเร็งปากมดลูดทุกปี (แต่ทำไมไม่เจอน้าาา) และฉีดวัคซีนเรียบร้อยร้อยแล้ว และที่บ้านไม่มีใครเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งก็เลยใช้ชีวิตแบบสบายใจมาก
เรื่องเริ่มจาก พอเรียนจบทำงานก็เริ่มอ้วนขึ้นๆ แต่ไม่ได้มากนะคะ แค่บวมๆ จนมาเมื่อปีก่อนน้ำหนักไม่ขึ้นเยอะคะ แค่ 1-2 โล แต่พุงเนี่ยสิคะ มันมาแบบใหญ่มากหนักมาก บวมมากเหมือนคนท้อง ไปนวด หมอนวดก็ทักว่าท้องป่าว ทำไมพุงกลมๆ แต่กดแล้วไม่เจ็บปวดอะไร ตรวจสุขภาพก็ไม่เจอ ก็เลยไม่คิดอะไรคะ
จนวันนึงไปลองทำ Detox เพราะเป็นคนท้องผูกหมอก็ทักว่า ท้องเรานี่บวมผิดปกตินะเหมือนคนไม่อึมานาน ลองไปอัลตร้าซาวดูนะ บลาๆๆ
ก็เลยไปขอตรวจอัลต้าซาวคะ ตอนไปตรวจนี่ยังคิดว่าจะต้องอายหมดแน่ๆ ไม่เจออึก็เจอไขมันอัดแน่นอยู่ในท้อง
ปรากฏว่าสิ่งที่เจอหมออัลตร้าซาวบอกว่า เป็นซีสต์ถุงน้ำขนาดประมาณ 20-22 ซม. ซึ่งลักษณะจะคล้ายกระเพาะปัสสาวะบวมๆมาก เลยส่งต่อให้ทางหมอเฉพาะทางคะ
เราเลยตัดสินใจไป รพ. ศิริราชปิยะฯ คุณหมอน่ารักมากคะ ไปซาวใหม่อีกรอบ ก็บอกว่าเป็นซีสต์ถุงน้ำใสๆ ไม่ใช่ช็อคโกแลต ขนาดเกือบ 22 ซม. น่าจะอยู่ที่รังไข่ข้างขวา เพราะมันใหญ่จนบังรังไข่อีกข้างหายไปไหนไม่รู้มองไม่เห็นคะ และผนังบางมากเสี่ยงแตกมากๆ จะต้องผ่าตัดใหญ่เท่านั้น ทันทีและต้องตัดรังไข่ทิ้ง 1 ข้างคะ ซึ่งคุณหมอก็จะสักถามว่าเรามีอาการอะไรมั้ย ซึ่งบอกได้เลยตอนนั้นคะว่า ไม่มี!! ไม่มีความผิดปกติอะไรเลยคะ ซึ่งโดยส่วนใหญ่คนที่มีซีสต์หรือก้อนเนื้อจะมีอาการ เช่น ปจด.มาผิดปกติ, ปจด.มาเป็นลิ่มๆ, ปวดท้อง, มีเลือกที่ไม่ใช้ ปจด. ออกบ้าง และอื่นๆ ซึ่งเราไม่มีอาการอะไรเลย นอกจากมีก้อนอ้วนๆอืดๆอยู่ในพุง เวลาไปวิ่งมันจะตุงๆหน่วงๆและจุกๆแค่นั้น ซึ่งเราก็มักจะคิดว่าอ่อเรามันอ้วนนี่เองงงงง และเนื่องด้วยขนาดอันยิ่งใหญ่ของเจ้าก้อนนี้คุณหมอเลยทำการนัดผ่าตัดด่วนคะ เพราะมันมีโอกาสแตกได้ตลอดเวลา ซึ่งคุณหมอก็ยังงว่าอยู่รอดมาได้ไง บางรายแค่ 8-10 ซม. แตกแล้วก็มี แต่ จขกท ยังไปวิ่ง ไปต่อยมวย ไปทำกิจกรรมแอดแวนเจอร์ทุกอย่างสบายมาก คุณหมอคาดว่าน่าจะมีอยู่ในตัวมานานแล้วแต่มาเร่งโตช่วง 1 ปีที่ผ่านมานี้ เพราะก่อนหน้านี้ตรวจไม่เจอ ซึ่งซีสต์มันจะมีหลายประเภทมากคะ
1. ก้อนเนื้อ เช่น เนื้องอก, เนื้อร้าย
2. ถุงน้ำ หรือซีสต์ เช่น ซีสต์น้ำธรรมดา, ช็อคโกแลตซีสต์ (เลือด) เป็นต้น
ของ จขกท เวลากดพุงตรงก้อนซีสต์ลงไปมันจะเหมือนพุงเรามากๆคะ แค่ใหญ่กว่าพุงส่วนอื่นๆซึ่งจะเป็นพุงที่อยู่ตรงท้องน้อย เวลากดจะเด้งๆ เวลาแขม่วจะแขม่วไม่สุด พอแขม่วแล้วเหมือนโดนกดทับหายใจไม่ออก
การรักษาเบื้องต้น ถ้าเป็นก้อนเล็กๆ ไม่เกิน 5-6 ซม. คุณหมอก็จะให้ทานยาก่อนเพื่อให้มันยุบไปเอง
ถ้าใหญ่มาหน่อย 8-12 ซม. ก็จะผ่าด้วยวิธีการส่องกล้อง จะมีแผลที่พุง 3 รูเล็กๆ
ใหญ่กว่านั้นก็ผ่าหน้าท้องคะ
การผ่าตัดที่วางแผนไว้เป็นการผ่าตัดใหญ่เปิดหน้าท้อง bikini line ยาวประมาณ 12-15 ซม. เหมือนการผ่าคลอด (เรียกว่าซ้อมไว้ก่อน) โดยทำการเปิดหน้าท้องเอาก้อนออกและรังไข่ข้างขวา ใช้เวลาประมาน 2-3 ชม. โดย จขกท เลือกวิธีการบล็อคหลังเพราะไม่อยากใส่ท่อช่วยหายใจถ้าเลือกใช้ยาสลบซึ่งจะทำให้เจ็บคอคะ แต่ปรากฏว่าสลบยาวเลยคะไม่รุ้เรื่อง ตื่นอีกทีตอนเสร็จแล้ว คุณหมอแจ้งว่า พอผ่าเข้าไปแล้วขนาดใหญ่กว่าที่คิดไว้คือประมาณ 30 ซม. น้ำหนักประมาณ 3 กก. (ขนาดประมาณเด็ก 6 เดือน) ไม่สามารถเอาออกมาได้ เนื่องจากแผลผ่ายาวสุดแล้วที่ 15 ซม. โชคดีที่ผลตรวจไม่มีเชื้อมะเร็ง คุณหมอเลยเจาะซีสต์ดูดน้ำออกแล้วค่อยเอาออกมา ปรากฏว่ามันไม่ได้อยู่ที่รังไข่คะ แต่มันไปเป็นที่ท่อนำไข่!! (99% จะเจอที่มดลูกหรือรังไข่) ซึ่งมีโอกาสเจอน้อยมากๆ เนื่องจากท่อนำไข่ไม่มีฮอร์โมนหรือหน้าที่ในการสร้างอะไร เป็นอวัยวะที่เป็นท่อเฉยๆ ไม่น่าจะมีอะไรไปเจริญแถวนั้นได้ (เช่นลำไส้ใหญ่เป็นท่อก็จริง แต่มีการดูดซึมอาหาร ย่อยอาหาร) คุณหมอจึงต้องตัดท่อนำไข่ออกไปด้วยคะ จากนั้นก็นอน รพ. อยู่ 4 คืนแล้วกลับบ้านไปพักต่อ 1 เดือน แล้วกลับมาทำงาน ใช้เวลาประมาณ 2 เดือนหลังผ่า จึงจะกลับมา 90% และ 3 เดือนจึงจะ 100%
หลังผ่าเสร็จหิวมากกกกกกนะคะ เพราะต้องอดอาหาร 6-8 ชม. ก่อนผ่า ต้องสวนออกให้หมด และหลังผ่าก็งดทานอาหารอีก 1 วัน ทานได้แค่น้ำและน้ำข้าวต้ม เป็นเรื่องเศร้ามากสำหรับคนชอบกินนะคะ ให้เตรียมใจไว้เลย
สำหรับเรื่องฮอร์โมนหลังเอาออกไปขอชี้แจงเป็น 2 เคสนะคะ
1. ตัดรังไข่ออก 1 ข้าง
เคสนี้จะมีผลกระทบกับฮอร์โมนคะในช่วงแรก แต่ไม่มากคะ คุณหมออธิบายว่า รังไข่อีกข้างที่เหลืออยู่จะทำงานเพิ่มขึ้นเป็น 200% เพื่อชดเชยอีกข้างที่หายไป ซึ่งเราก็จะยังตกไข่ทุกเดือนเป็นปกติ (ความเชื่อเดิมคือตกไข่เดือนเว้นเดือน) ก็คือมีโอกาสมีลูกได้ ทุกเดือนเหมือนเดิม แต่ช่วงแรกร่างกายอาจมีรวนบ้างจากการปรับฮอร์โมนและอาจเข้าสู่วัยทองเร็วกว่าปกติเนื่อจากรังไข่ที่เหลืออยู่ต้องทำงานหนักคะ
2. ตัดท่อนำไข่ออก 1 ข้าง
เคสนี้ไม่มีผลกระทบกับฮอร์โมน แต่มีผลกระทบกับการมีลูกคะ ร่างกายจะยังรับรู้อยู่ว่ายังมีรังไข่ 2 ข้างอยู่ และทั้ง 2 ข้างก็ทำงานตามปกติของมันไป แต่แต่แต่ ท่อนำไข่ข้างนึงหายไป นั่นทำให้ ไข่ที่ตกมาจากรังไข่ข้างนั้นไม่เข้าไปในมดลูก ก็จะล่องลอยอยู่ในร่างกายของเรา (ไข่เล็กมากๆ ไม่มีผลกะอวัยวะอื่นๆ) และสลายไปเอง นั่นทำให้โอกาสมีลูกคือเดือนเว้นเดือนคะ คือเดือนไหนที่ไข่ตกมากจากฝั่งที่ไม่มีท่อ ก็จะไม่มีลูกนั่นเอง ส่วนนอกเหนือจากนั้นก็ปกติคะ
หลังผ่าตัดแล้วรู้สึกเปลี่ยนไปมั้ย ก็มีเปลี่ยนไปบ้างคะ
1. เมื่อก่อนจะปวดปัสสาวะบ่อย ทุกๆ 2 ชม. แต่ไม่ได้ปวดมากนะคะ ปวดแบบไปนั่งฉี่ก็ออกเพราะก็จะไปอู้เล่นโทรศัพท์ในห้องน้ำอยู่แล้ว (555) เพราะว่าเจ้าก้อนมันไปเบียดกับกระเพาะปัสสาวะคะ ส่วนทุกวันนี้ ปวดปกติ อู้ไม่ได้แล้วคะ 55+
2. นน. ลดคะ หลังผ่าคือผอมเลย เพราะกินอะไรไม่ค่อยได้ เพราะเดินมากไม่ได้ เดินมากไม่ได้ ระบบย่อยกับระบบขับถ่ายก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ ต้องทานแต่อาหารอ่อนๆอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์คะ ผอมสมใจเลยคะทีนี้ 55
3. ตอนนี้เวลาวิ่ง ไม่รู้สึกเหมือนมีอะไรเด้งๆที่พุงแล้วคะ (แต่ไม่ได้วิ่งหนักนะคะ)
4. ถ้ามีลูกหลังจากนี้คือผ่าคลอดอย่างเดียวและแนะนำไม่ให้มีลูกเกิน 2 คนคะ
ส่วนสาเหตุ โรคพวกนี้ก็เหมือนๆกับมะเร็งคะ บอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร และมีโอกาสเป็นได้อีก
อยากให้ผู้หญิงทุกคนไปตรวจเป็นประจำคะ เพราะโรคนี้อาจไม่แสดงอาการอะไรเลยคะ ถ้าเป็นถุงน้ำก็สามารถแตกได้ ถ้าแตกจะเป็นเรื่องใหญ่คะ เพราะไม่ว่าเนื้องอกหรือซีสต์ถ้ามีเชื้อมะแร็วและมีการแตกจะลามไปยังอวัยวะอื่นๆได้ หรือทำให้ติดเชื้อได้ เพราะเราไม่ทราบว่าในก้อนในถุงนั้นคืออะไร
สุดท้ายต้องขอขอบคุณทีมหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ที่ รพ. ศิริราชปิยะฯ ที่ช่วยชีวิตเราไว้ด้วยนะคะ ดีมากๆๆจริงๆ คุณหมอเก่งมาก พยาบาลและเจ้าหน้าที่ดูแลดีมากๆ อาหารคนป่วยก็อร่อย ห้องสวยใหม่สะอาด วิวดี มีแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นฉาก ห้องผ่าตัดอลังการไม่น่ากลัวเหมือนในหนังนะคะ ส่วนค่าใช้จ่าย เท่าๆกับรพ. เอกชนทั่วไปเลยคะ (ตอนเจอก้อนเจอที่ รพ. เอกชนแห่งหนึ่ง แต่ว่าหมอที่นั่นไม่เคยผ่าก้อนใหญ่แบบนี้มาก่อน และเรามั่นใจในศิริราช) แถมได้ทำบุญอีกด้วยคะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านนะคะ ขอบคุณคะ
ขอให้ทุกท่านสุขภาพดีคะ ^^