วันก่อนผมได้มีโอกาสไปไปทำบุญที่วัดแถวๆ บ้าน ได้ยินมัคทายกประกาศออกไมค์ถึงสรรพคุณของหลวงพ่อที่มีญาติโยมมาขอพรถูกหวยไป 3 งวดติดๆ มันเลยมาสะกิดใจผม ผมเลยมานั่งนึกว่าคนพวกนี้มาวัดมาทำอะไรกัน

มาดูพระอวดอุตริ ?

มาหาหวย ขอให้รวย ?

มาขอพรให้ได้ นู่น นี่ นั่น ?

ทุกข์ใจ มาหาที่พึ่ง ?

มากราบไหว้ผี, ซากต้นไม้ ?

มาเสียเงินทำบุญ เพื่อหวังว่าจะได้บุญเอาไปใช้ชาติหน้า ?

มาทะนุบำรุงศาสนา ?

ทำให้รู้สึกว่าคนส่วนใหญ่อยู่บนพื้นฐานความหวังลมๆแล้งๆ อยู่แล้วแต่เวรแต่กรรม มีใครบ้างไหมที่มาวัดแล้วไม่ได้หวังอะไร มาเพื่อที่จะศึกษาธรรมจริงๆผมบอกตามตรงว่าผมไม่เคยเห็นใครมาวัด มาทำบุญแล้วไม่หวังอะไรเลย ทุกคนที่มาหวังที่จะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการผมเคยบวชอยู่วัดญาติโยมมาวัดมาหาพระก็หวังให้ช่วยทำนู่นนี่นั่นให้หน่อย ผมรู้สึกว่าตอนนี้คนส่วนใหญ่สวดมนต์ยังไม่รู้เลยว่ามันมีความหมายว่าอะไร สวดไปอย่างงั้นเพราะเค้าสวดต่อๆ กันมาคิดว่าสวดแล้วจะได้บุญกันเหรอมีเรื่องทุกข์ ก็สวดมนต์ อยากได้อะไรก็สวดมนต์ ถามจริงๆ เหอะมันจะได้อะไรในเมื่อจิตใจมันไม่สงบ ผมว่าการสวดมนต์การนั่งสมาธิมันจะทำให้เรามีความคิด มีสติมากขึ้น ทำให้เราระลึกถึงพระพุทธเจ้า ไม่ได้ทำให้เราได้บุญหรือว่าสมหวังอะไรทั้งนั้น อยากฝากไว้ให้คิดครับ

ตัวอย่างบทสวดมนต์ที่แปลเป็นภาษาไทย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา,
พระผู้มีพระภาคเจ้า, เป็นพระอรหันต์ ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ;
พุทธัง ภควันตัง อะภิวาเทมิ.
ข้าพเจ้าอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า, ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม,
พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า, ตรัสไว้ดีแล้ว ;
ธัมมัง นะนัสสามิ.
ข้าพเจ้านมัสการพระธรรม.

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า, ปฏิบัติดีแล้ว ;
สังฆัง นะมามิ.
ข้าพเจ้านอบน้อมพระสงฆ์.

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ;
อะระหะโต
ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ;
สัมมาสัมพุทธัสสะ.
ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง