สวัสดีค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า เรานั่งรถจากป้ายรถเมล์โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี นั่งมากับเพื่อนอีก3คน ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ17.40นาทีค่ะ ก็ขึ้นรถแท็กซี่สีส้มคันนึง นั่งไปลงที่ป้ายรถเมล์ของเซ็นทรัลเวสเกตค่ะ ไปทางปากเกร็ด สะพานพระราม4 ราชพฤกษ์ค่ะ
เรามั่นใจว่าทำตกในรถแน่ๆ เพราะระหว่างทางยังนั่งเช็ดมือถือเราอยู่ พอลงรถปุ๊ป เดินมาได้สี่ห้าก้าว ก็หามือถือ แต่ว่าดันหาไม่เจอ เลยตกใจมาก ให้เพื่อนโทรรัวๆ (คือมือถือเราเปิดเสียงไว้ แต่ไม่ได้เปิดเน็ตไว้ค่ะ แบตเตอรี่เหลือ36%) คือระหว่างที่โทรกันอยู่ก็ทำทุกอย่างเท่าที่เด็กๆจะทำได้ค่ะ หาเบอร์โทรของทางสหกรณ์ ทางสหกรณ์บอกว่าปิดบริการแล้ว แจ้งจส.100 แจ้งสวพ.91 เปิด Find my iphone ก็แล้ว ก็ขึ้นoffline เพราะเราไม่ได้เปิดเน็ตไว้ เดินไปหาapple storeก็แล้ว เค้าก็บอกว่าทำอะไรไม่ได้
แต่สิ่งเดียวที่เพื่อนจำได้คือ
นามสกุลของคนขับรถค่ะ เพื่อนค่อนข้างมั่นใจเลย ว่านามสกุล
บุรัตน์ แต่ป้ายทะเบียนไม่มีใครถ่ายไว้เลย ปกติถ้าเราขึ้นรถคนเดียวเราก็ถ่ายรูปส่งให้ครอบครัวนะคะ แต่นี่เห็นว่ามากับเพื่อนเลยไม่ได้ถ่าย (ประมาทมากค่ะ อย่าเอาเป็นตัวอย่าง555) ประกอบกับวันนั้นมีซ้อมเต้นทั้งวัน แล้วทุกคนเหนื่อย เพลีย เราเองก็ง่วงนอน สะลึมสะลือ เพราะงี้แหละค่ะ เลยทำให้มือถือหล่นลง
เราก็โทรไปหาพี่เรา บอกให้พี่เราบอกแม่ เพราะเราจำเบอร์ใหม่แม่ไม่ได้ แม่รู้แม่ก็รีบมาเลย จะพาไปแจ้งความ พอดีบ้านเราอยู่ซื่อตรงนะคะ เลยมาง่ายหน่อย ระหว่างที่รอแม่ก็โทรรัวๆไปเรื่อยๆเลย ก็เหมือนเดิมค่ะ โทรติด ไม่มีคนรับสาย แต่ซักพัก.. ก็ปิดเครื่องใส่เฉยเลย
จุดที่ปลายสายบอกมาว่า ขอโทษค่ะ ไม่สามารถใช้งานได้ในขณะนี้ เราโวยวายเลย น้ำตาไหลออกมาร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก รู้สึกแย่มาก อย่างบอกไม่ถูก
พอแม่เรามาก็แยกกับเพื่อน แม่ก็พาข้ามฝั่ง ไป นั่งมอไซไปลงสถานีตำรวจบางใหญ่ ก็รอคิวนานมากค่ะกว่าจะได้แจ้งความ ตำรวจก็เล่นมุกใหญ่เลย ยิ้มตลอด แต่เราก็ไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วยเลย การที่มือถือหาย เราว่ามันไม่ใช่เรื่องตลกเลย แต่ก็ช่างเถอะค่ะ เค้าก็คงทำงานเครียด เราก็เข้าใจ พอแจ้งความเรียบร้อย ตำรวจก็ออกบันทึกประจำวันให้ ออกตราครุฑให้ ให้เราไปยื่นกับทางค่ายมือถือ3ค่าย ให้คอยตรวจจับสัญญาณกับIMIEมือถือเรา (เลขIMEIจะอยู่ที่กล่องiphoneนะคะ พอดีพ่อเราอยู่บ้าน เลยให้ถ่ายส่งมาให้)
อ้อ ลืมเหตุการณ์สำคัญค่ะ ระหว่างที่นั่งรอที่สถานีตำรวจ เราก็ใช้มือถือแม่เราลองโทรไปหามือถือเราอีก ปรากฎว่าติด!!! มีเสียงตื้ด ตื้ด แต่ก็ยังไม่มีคนรับ แล้วจู่ก็หายไป เหมือนโดนตัดสาย เราเลยโทรอีกรอบ แต่ก็ปิดเครื่องไปแล้ว.......
ได้ใบแจ้งความเรียบร้อย พอดีตำรวจเค้าออกเวร เลยไปส่งที่เวสเกตให้ เวลาตอนนั้นดึกแล้วค่ะ 21.00กว่าๆ แต่ก็น่าจะขอดูกล้องวงจรปิดทันอยู่ เพราะห้างปิด4ทุ่ม พอถึง ก็ติดต่อกับทางห้าง ยื่นใบแจ้งความเป็นหลักฐาน ทางห้างก็พาไปห้องที่มีกล้องจากทุกมุมอ่ะค่ะ เรียกว่าห้องอะไรเราก็ไม่ทราบ555 แม่เราก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ว่าแม่เราโทรไปหาเราเวลาประมาณ 18.10 แต่ก็ไม่มีคนรับสาย แสดงว่าก็น่าจะหายตอนนั้น พี่เค้าก็ลองย้อนให้ดู แต่ก็ไม่ค่อยเห็นอะไร พี่เค้าเลยพาไปที่ป้อมตำรวจเลยป้ายรถเมล์ของทางห้างไปเล็กน้อยค่ะ มีกล้องที่เป็นของทางป้อมอยู่ เค้าก็เข้าไปดูให้ สิ่งที่พบก็คือ
เวลาประมาณ 18.10 นาที เราลงรถมากับเพื่อน บริเวณป้ายรถเมล์หน้าห้าง พอเราลงมาปุ๊ป สักพักเราก็รู้ตัวว่ามือถือหาย (ไม่นานเลยค่ะ ไม่ถึง2นาทีด้วยซ้ำ) เราหันกลับไปก็ไม่ทันแล้ว ลุงแกขับรถไปแล้ว เราก็ให้เพื่อนรีบโทร จังหวะที่ให้เพื่อนโทร ลุงแกคงได้ยินเสียงจากมือถือเรา เลยจอดรถเลยป้อมตำรวจที่ยืนดูกล้องกันอยู่ แค่นิดเดียว จอดค้างประมาณ5นาทีได้ แล้วค่อยออกรถ ซึ่งเราคาดว่า ลุงได้ยินเสียงจากมือถือ แล้วจอดรถเพื่อเอื้อมไปหยิบจากเบาะหลัง (เรานั่งเบาะหลังตรงกลางค่ะ) เพราะเราโทรรัวตลอดเวลาเลย เป็นไปได้น้อยมากค่ะ ที่ลุงจะไม่ได้ยิน และที่เราไม่เห็นว่าลุงแกจอดค้างอยู่ด้วยตาเปล่าเพราะบริเวณที่ปล่อยเราลง มีรถ shuttle bus บังอยู่พอดี เราเลยไม่ได้สังเกต และค่อนข้างห่างจากสายตาอยู่พอควร ถึงแม้จะไม่มีรถบัง
กว่าจะดูเสร็จก็ปาไป4ทุ่มแล้วค่ะ พี่เค้าบอกให้มาอีกทีพรุ่งนี้ เพราะเดี๋ยวประตูห้างจะปิด พี่เค้าจะเข้าไม่ได้ เราก็ขอบคุณ แล้วก็นั่งแท็กซี่กับแม่กลับบ้านค่ะ
ระหว่างนั่งแท็กซี่กับแม่ ก็สอบถามเรื่องสหกรณ์แท็กซี่ ลุงเค้าก็บอกว่า เออถ้าของสีส้ทนี่ก็ของบวรแท็กซี่แหละเนอะ แม่เราก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ลุงแกก็บอกว่า ผมเองก็เคยเก็บได้ แต่ผมใช้ไม่เป็นหรอกครับ ผมก็ติดต่อเอาไปคืนเจ้าของ ผมเอาไปก็ทำอะไรไม่ได้ จุดนี้เราน้ำตาไหลเลย55555 ทำไมลุงเค้าไม่เป็นคนดีแบบลุงบ้าง พอถึงบ้านเราก็เฟลมาก ทั้งเหนื่อยทั้งหิวข้าว ร้องไห้จนปวดตา ตาบวมไปหมด ครอบครัวเราก็บอกว่าให้เก็บไว้เป็นบทเรียน เวลาขึ้นรถก็ถ่ายส่งไลน์มาตลอด ปกติพ่อเราจะดุ แต่คงเห็นเราร้องไห้หนัก เค้าเลยไม่อยากซ้ำเติมอะไร
เช้ามา พ่อแม่เราก็รีบไปเวสเกตเลย 10โมงค่ะ ก็ติดต่อพี่คนเดิม เค้าก็พาเข้าห้องเดิม ก็เปิดย้อนไปตอนที่แท็กซี่ตีซ้ายเข้ามาจะจอด และเทียบดูกับเมื่อวานก็พบว่าเป็นคันนี้จริงๆ (เทียบกับคันที่ตีคู่กันมาค่ะ เลยแน่ใจว่าคันนี้ และพ่อเราเห็นว่ามีคนนั่งทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ใส่เสื้อสีฟ้า คอปกสีชมพู ก็คือชุดพละของโรงเรียนนั่นแหละค่ะ) แต่เนื่องจากเวลาที่เราลงรถ มันโพล้เพล้ ทำให้กล้องวงจรปิดเก็บภาพได้ไม่ชัดเจน ชัดที่สุดคือแค่นี้ค่ะ
[img](null)[/img]
ใครแกะออกบอกเราทีนะคะ
เมื่อเห็นจากวงจรปิด ว่าเป็นคันนี้แน่นอน หัวหน้าของพี่พนักงาน ก็สั่งให้ไปปริ้นออกมา เป็นหลักฐานให้ลูกค้า และรอให้เจ้าหน้าที่อีกคนแกะรอยจากภาพให้ แต่เค้าเข้ามาตอนบ่ายค่ะ เลยยังไม่ได้ตอนนี้ ถ้าเค้าแกะรอยได้เค้าจะติดต่อกลับมาหาแม่เรา (เราขอชื่นชมทางเซ็นทรัลเลยค่ะ ให้ความร่วมมือดีมากๆ น่ารักมากๆ พูดจาดีมาก เสิร์ฟน้ำ กาแฟให้ด้วย555 นี่ถ้าไม่ได้ทางเซ็นทรัลช่วย เราคงหมดหวัง ไม่อยากตามแล้วค่ะ)
พอดูกล้องเสร็จเรียบร้อย ก็ตรงไปที่ศูนย์บริการAISก่อนเลยค่ะ ทำการระงับการใช้งานของซิม เปิดซิมใหม่เบอร์เดิม พร้อมทั้งยื่นหลักฐานแจ้งความ ส่งไปยังฝ่ายกฎหมายต่อไปค่ะ จบจากนี้ เราก็ไปดีแทค ทรูมูฟ แจ้งไว้หมดค่ะ ช่วยได้รึเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่ได้ยื่นอย่างน้อยก็สบายใจ555 พอทำเรื่องเสร็จ พวกเราก็ตัดสินใจกลับไปที่บริเวณจุดที่ขึ้นรถมา ก็คือแถวป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนค่ะ
เมื่อไปถึงก็ไปขอดูกล้องของทางAmwayก่อน คือก่อนถึงป้ายรถเมล์รร.เราจะมีAmwayอยู่ก่อนหน้าค่ะ ทางAmwayก็ไม่ได้ให้เข้าไปดู เหมือนของทางเซ็นทรัล แต่เค้าจดสีรถ เวลาใกล้เคียงมาให้ พอเจอจากกล้อง ก็แคปหน้าจอแล้วส่งให้แม่เราค่ะ
ระหว่างที่รอทางAmwayหาให้ เรากับพ่อก็เดินออกไปสำรวจ ดูว่ามีกล้องตรงไหนบ้างที่รถน่าจะผ่าน ก็ขอดูของร้านแถวๆนั้น บริเวณริมถนน ก็ได้ดูที่ร้านอู่ซ่อมรถร้านนึง เค้าใจดีกันทุกคนเลยค่ะ ช่วยเหลือดี ให้เรานั่งดูได้ให้กระดาษให้ปากกามาจดว่ามีรถสีส้มคันไหนผ่านเวลาไหนบ้าง ซึ่งก็ไม่ชัดอยู่ดีค่ะ ซูมไปภาพก็แตกละเอียดยิบเลย เลยตัดสินใจกลับบ้านกัน พ่อกับแม่ก็ปลอบค่ะ บอกว่าของมันหายไปแล้วก็แล้วไป ให้ทำใจ เราก็ร้องไห้เลย เสียใจที่ทำให้พ่อกับแม่ต้องลำบาก แต่อย่างน้อยเราก็กู้ข้อมูลใน icloud กลับมาได้ค่ะ
ปล. เราได้ติดต่อไปทางสหกรณ์บวรแล้ว เราบอกแล้วว่าเราจำได้แค่นามสกุล ทางนั้นเค้าก็บอกว่ามันยาก ต้องหาทะเบียนมาให้ เค้าบอกว่าเค้าจะลองหาให้ ถ้าได้จะติดต่อไป แต่ส่วนตัวเราว่าเค้าดูขี้เกียจจะหาให้มากกว่า
ปล.2 ในนั้นมีข้อมูลสำคัญมากๆค่ะ ถึงเราจะเป็นแค่เด็กมัธยม เราก็อยากได้ข้อมูลของเราคืน อีกอย่างเพิ่งซื้อมาหมาดๆ ยังไม่ทันผ่อนเลยค่ะ
ปล.3 มือถือเรารุ่น iphone7plus สีทอง ใส่เคสใสค่ะ
ขอบคุณมากนะคะที่ติดตาม หากมีเบาะแสเพิ่มเติม แจ้งมาทางหลังไมค์ได้เลยนะคะ มีรางวัลให้นะคะถ้ามีเบาะแสแน่นอน เราอาจจะเขียนงงๆไปบ้าง ขออภัยด้วยค่ะ
***** รถแท็กซี่สีส้ม รุ่น toyota altis นามสกุลคนขับ บุรัตน์ อายุประมาณ60-70 มีผมหงอกค่อยข้างเยอะ เสียงจะแหบๆแบบนุ่มๆอ่ะค่ะ ไม่เหมือนเสียงลุงๆทั่วไป
คาดว่าขาจร แต่ถ้าไม่คงวิ่งแถวนนทบุรีไม่น่าไปไกล ******
แปะรูปอีกรอบนะคะ
[img](null)[/img]
[img](null)[/img]
มหากาพย์ตามล่า 2วัน กับมือถือที่หายไป...
เรามั่นใจว่าทำตกในรถแน่ๆ เพราะระหว่างทางยังนั่งเช็ดมือถือเราอยู่ พอลงรถปุ๊ป เดินมาได้สี่ห้าก้าว ก็หามือถือ แต่ว่าดันหาไม่เจอ เลยตกใจมาก ให้เพื่อนโทรรัวๆ (คือมือถือเราเปิดเสียงไว้ แต่ไม่ได้เปิดเน็ตไว้ค่ะ แบตเตอรี่เหลือ36%) คือระหว่างที่โทรกันอยู่ก็ทำทุกอย่างเท่าที่เด็กๆจะทำได้ค่ะ หาเบอร์โทรของทางสหกรณ์ ทางสหกรณ์บอกว่าปิดบริการแล้ว แจ้งจส.100 แจ้งสวพ.91 เปิด Find my iphone ก็แล้ว ก็ขึ้นoffline เพราะเราไม่ได้เปิดเน็ตไว้ เดินไปหาapple storeก็แล้ว เค้าก็บอกว่าทำอะไรไม่ได้
แต่สิ่งเดียวที่เพื่อนจำได้คือ นามสกุลของคนขับรถค่ะ เพื่อนค่อนข้างมั่นใจเลย ว่านามสกุล บุรัตน์ แต่ป้ายทะเบียนไม่มีใครถ่ายไว้เลย ปกติถ้าเราขึ้นรถคนเดียวเราก็ถ่ายรูปส่งให้ครอบครัวนะคะ แต่นี่เห็นว่ามากับเพื่อนเลยไม่ได้ถ่าย (ประมาทมากค่ะ อย่าเอาเป็นตัวอย่าง555) ประกอบกับวันนั้นมีซ้อมเต้นทั้งวัน แล้วทุกคนเหนื่อย เพลีย เราเองก็ง่วงนอน สะลึมสะลือ เพราะงี้แหละค่ะ เลยทำให้มือถือหล่นลง
เราก็โทรไปหาพี่เรา บอกให้พี่เราบอกแม่ เพราะเราจำเบอร์ใหม่แม่ไม่ได้ แม่รู้แม่ก็รีบมาเลย จะพาไปแจ้งความ พอดีบ้านเราอยู่ซื่อตรงนะคะ เลยมาง่ายหน่อย ระหว่างที่รอแม่ก็โทรรัวๆไปเรื่อยๆเลย ก็เหมือนเดิมค่ะ โทรติด ไม่มีคนรับสาย แต่ซักพัก.. ก็ปิดเครื่องใส่เฉยเลย
จุดที่ปลายสายบอกมาว่า ขอโทษค่ะ ไม่สามารถใช้งานได้ในขณะนี้ เราโวยวายเลย น้ำตาไหลออกมาร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก รู้สึกแย่มาก อย่างบอกไม่ถูก
พอแม่เรามาก็แยกกับเพื่อน แม่ก็พาข้ามฝั่ง ไป นั่งมอไซไปลงสถานีตำรวจบางใหญ่ ก็รอคิวนานมากค่ะกว่าจะได้แจ้งความ ตำรวจก็เล่นมุกใหญ่เลย ยิ้มตลอด แต่เราก็ไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วยเลย การที่มือถือหาย เราว่ามันไม่ใช่เรื่องตลกเลย แต่ก็ช่างเถอะค่ะ เค้าก็คงทำงานเครียด เราก็เข้าใจ พอแจ้งความเรียบร้อย ตำรวจก็ออกบันทึกประจำวันให้ ออกตราครุฑให้ ให้เราไปยื่นกับทางค่ายมือถือ3ค่าย ให้คอยตรวจจับสัญญาณกับIMIEมือถือเรา (เลขIMEIจะอยู่ที่กล่องiphoneนะคะ พอดีพ่อเราอยู่บ้าน เลยให้ถ่ายส่งมาให้)
อ้อ ลืมเหตุการณ์สำคัญค่ะ ระหว่างที่นั่งรอที่สถานีตำรวจ เราก็ใช้มือถือแม่เราลองโทรไปหามือถือเราอีก ปรากฎว่าติด!!! มีเสียงตื้ด ตื้ด แต่ก็ยังไม่มีคนรับ แล้วจู่ก็หายไป เหมือนโดนตัดสาย เราเลยโทรอีกรอบ แต่ก็ปิดเครื่องไปแล้ว.......
ได้ใบแจ้งความเรียบร้อย พอดีตำรวจเค้าออกเวร เลยไปส่งที่เวสเกตให้ เวลาตอนนั้นดึกแล้วค่ะ 21.00กว่าๆ แต่ก็น่าจะขอดูกล้องวงจรปิดทันอยู่ เพราะห้างปิด4ทุ่ม พอถึง ก็ติดต่อกับทางห้าง ยื่นใบแจ้งความเป็นหลักฐาน ทางห้างก็พาไปห้องที่มีกล้องจากทุกมุมอ่ะค่ะ เรียกว่าห้องอะไรเราก็ไม่ทราบ555 แม่เราก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ว่าแม่เราโทรไปหาเราเวลาประมาณ 18.10 แต่ก็ไม่มีคนรับสาย แสดงว่าก็น่าจะหายตอนนั้น พี่เค้าก็ลองย้อนให้ดู แต่ก็ไม่ค่อยเห็นอะไร พี่เค้าเลยพาไปที่ป้อมตำรวจเลยป้ายรถเมล์ของทางห้างไปเล็กน้อยค่ะ มีกล้องที่เป็นของทางป้อมอยู่ เค้าก็เข้าไปดูให้ สิ่งที่พบก็คือ
เวลาประมาณ 18.10 นาที เราลงรถมากับเพื่อน บริเวณป้ายรถเมล์หน้าห้าง พอเราลงมาปุ๊ป สักพักเราก็รู้ตัวว่ามือถือหาย (ไม่นานเลยค่ะ ไม่ถึง2นาทีด้วยซ้ำ) เราหันกลับไปก็ไม่ทันแล้ว ลุงแกขับรถไปแล้ว เราก็ให้เพื่อนรีบโทร จังหวะที่ให้เพื่อนโทร ลุงแกคงได้ยินเสียงจากมือถือเรา เลยจอดรถเลยป้อมตำรวจที่ยืนดูกล้องกันอยู่ แค่นิดเดียว จอดค้างประมาณ5นาทีได้ แล้วค่อยออกรถ ซึ่งเราคาดว่า ลุงได้ยินเสียงจากมือถือ แล้วจอดรถเพื่อเอื้อมไปหยิบจากเบาะหลัง (เรานั่งเบาะหลังตรงกลางค่ะ) เพราะเราโทรรัวตลอดเวลาเลย เป็นไปได้น้อยมากค่ะ ที่ลุงจะไม่ได้ยิน และที่เราไม่เห็นว่าลุงแกจอดค้างอยู่ด้วยตาเปล่าเพราะบริเวณที่ปล่อยเราลง มีรถ shuttle bus บังอยู่พอดี เราเลยไม่ได้สังเกต และค่อนข้างห่างจากสายตาอยู่พอควร ถึงแม้จะไม่มีรถบัง
กว่าจะดูเสร็จก็ปาไป4ทุ่มแล้วค่ะ พี่เค้าบอกให้มาอีกทีพรุ่งนี้ เพราะเดี๋ยวประตูห้างจะปิด พี่เค้าจะเข้าไม่ได้ เราก็ขอบคุณ แล้วก็นั่งแท็กซี่กับแม่กลับบ้านค่ะ
ระหว่างนั่งแท็กซี่กับแม่ ก็สอบถามเรื่องสหกรณ์แท็กซี่ ลุงเค้าก็บอกว่า เออถ้าของสีส้ทนี่ก็ของบวรแท็กซี่แหละเนอะ แม่เราก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ลุงแกก็บอกว่า ผมเองก็เคยเก็บได้ แต่ผมใช้ไม่เป็นหรอกครับ ผมก็ติดต่อเอาไปคืนเจ้าของ ผมเอาไปก็ทำอะไรไม่ได้ จุดนี้เราน้ำตาไหลเลย55555 ทำไมลุงเค้าไม่เป็นคนดีแบบลุงบ้าง พอถึงบ้านเราก็เฟลมาก ทั้งเหนื่อยทั้งหิวข้าว ร้องไห้จนปวดตา ตาบวมไปหมด ครอบครัวเราก็บอกว่าให้เก็บไว้เป็นบทเรียน เวลาขึ้นรถก็ถ่ายส่งไลน์มาตลอด ปกติพ่อเราจะดุ แต่คงเห็นเราร้องไห้หนัก เค้าเลยไม่อยากซ้ำเติมอะไร
เช้ามา พ่อแม่เราก็รีบไปเวสเกตเลย 10โมงค่ะ ก็ติดต่อพี่คนเดิม เค้าก็พาเข้าห้องเดิม ก็เปิดย้อนไปตอนที่แท็กซี่ตีซ้ายเข้ามาจะจอด และเทียบดูกับเมื่อวานก็พบว่าเป็นคันนี้จริงๆ (เทียบกับคันที่ตีคู่กันมาค่ะ เลยแน่ใจว่าคันนี้ และพ่อเราเห็นว่ามีคนนั่งทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ใส่เสื้อสีฟ้า คอปกสีชมพู ก็คือชุดพละของโรงเรียนนั่นแหละค่ะ) แต่เนื่องจากเวลาที่เราลงรถ มันโพล้เพล้ ทำให้กล้องวงจรปิดเก็บภาพได้ไม่ชัดเจน ชัดที่สุดคือแค่นี้ค่ะ
[img](null)[/img]
ใครแกะออกบอกเราทีนะคะ
เมื่อเห็นจากวงจรปิด ว่าเป็นคันนี้แน่นอน หัวหน้าของพี่พนักงาน ก็สั่งให้ไปปริ้นออกมา เป็นหลักฐานให้ลูกค้า และรอให้เจ้าหน้าที่อีกคนแกะรอยจากภาพให้ แต่เค้าเข้ามาตอนบ่ายค่ะ เลยยังไม่ได้ตอนนี้ ถ้าเค้าแกะรอยได้เค้าจะติดต่อกลับมาหาแม่เรา (เราขอชื่นชมทางเซ็นทรัลเลยค่ะ ให้ความร่วมมือดีมากๆ น่ารักมากๆ พูดจาดีมาก เสิร์ฟน้ำ กาแฟให้ด้วย555 นี่ถ้าไม่ได้ทางเซ็นทรัลช่วย เราคงหมดหวัง ไม่อยากตามแล้วค่ะ)
พอดูกล้องเสร็จเรียบร้อย ก็ตรงไปที่ศูนย์บริการAISก่อนเลยค่ะ ทำการระงับการใช้งานของซิม เปิดซิมใหม่เบอร์เดิม พร้อมทั้งยื่นหลักฐานแจ้งความ ส่งไปยังฝ่ายกฎหมายต่อไปค่ะ จบจากนี้ เราก็ไปดีแทค ทรูมูฟ แจ้งไว้หมดค่ะ ช่วยได้รึเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่ได้ยื่นอย่างน้อยก็สบายใจ555 พอทำเรื่องเสร็จ พวกเราก็ตัดสินใจกลับไปที่บริเวณจุดที่ขึ้นรถมา ก็คือแถวป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนค่ะ
เมื่อไปถึงก็ไปขอดูกล้องของทางAmwayก่อน คือก่อนถึงป้ายรถเมล์รร.เราจะมีAmwayอยู่ก่อนหน้าค่ะ ทางAmwayก็ไม่ได้ให้เข้าไปดู เหมือนของทางเซ็นทรัล แต่เค้าจดสีรถ เวลาใกล้เคียงมาให้ พอเจอจากกล้อง ก็แคปหน้าจอแล้วส่งให้แม่เราค่ะ
ระหว่างที่รอทางAmwayหาให้ เรากับพ่อก็เดินออกไปสำรวจ ดูว่ามีกล้องตรงไหนบ้างที่รถน่าจะผ่าน ก็ขอดูของร้านแถวๆนั้น บริเวณริมถนน ก็ได้ดูที่ร้านอู่ซ่อมรถร้านนึง เค้าใจดีกันทุกคนเลยค่ะ ช่วยเหลือดี ให้เรานั่งดูได้ให้กระดาษให้ปากกามาจดว่ามีรถสีส้มคันไหนผ่านเวลาไหนบ้าง ซึ่งก็ไม่ชัดอยู่ดีค่ะ ซูมไปภาพก็แตกละเอียดยิบเลย เลยตัดสินใจกลับบ้านกัน พ่อกับแม่ก็ปลอบค่ะ บอกว่าของมันหายไปแล้วก็แล้วไป ให้ทำใจ เราก็ร้องไห้เลย เสียใจที่ทำให้พ่อกับแม่ต้องลำบาก แต่อย่างน้อยเราก็กู้ข้อมูลใน icloud กลับมาได้ค่ะ
ปล. เราได้ติดต่อไปทางสหกรณ์บวรแล้ว เราบอกแล้วว่าเราจำได้แค่นามสกุล ทางนั้นเค้าก็บอกว่ามันยาก ต้องหาทะเบียนมาให้ เค้าบอกว่าเค้าจะลองหาให้ ถ้าได้จะติดต่อไป แต่ส่วนตัวเราว่าเค้าดูขี้เกียจจะหาให้มากกว่า
ปล.2 ในนั้นมีข้อมูลสำคัญมากๆค่ะ ถึงเราจะเป็นแค่เด็กมัธยม เราก็อยากได้ข้อมูลของเราคืน อีกอย่างเพิ่งซื้อมาหมาดๆ ยังไม่ทันผ่อนเลยค่ะ
ปล.3 มือถือเรารุ่น iphone7plus สีทอง ใส่เคสใสค่ะ
ขอบคุณมากนะคะที่ติดตาม หากมีเบาะแสเพิ่มเติม แจ้งมาทางหลังไมค์ได้เลยนะคะ มีรางวัลให้นะคะถ้ามีเบาะแสแน่นอน เราอาจจะเขียนงงๆไปบ้าง ขออภัยด้วยค่ะ
***** รถแท็กซี่สีส้ม รุ่น toyota altis นามสกุลคนขับ บุรัตน์ อายุประมาณ60-70 มีผมหงอกค่อยข้างเยอะ เสียงจะแหบๆแบบนุ่มๆอ่ะค่ะ ไม่เหมือนเสียงลุงๆทั่วไป
คาดว่าขาจร แต่ถ้าไม่คงวิ่งแถวนนทบุรีไม่น่าไปไกล ******
แปะรูปอีกรอบนะคะ
[img](null)[/img]
[img](null)[/img]