สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พันทิพย์
วันนี้เราจะมาเตือนภัยจากการใช้บริการแท็กซี่ ที่มันเกิดขึ้นบ่อยมาก ทั้งๆ ที่เป็นการเดินทางที่คนใช้บริการกันเยอะมาก
เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเรื่องของเพื่อนเรา ที่ประสบเหตุเมื่อวันอาทิตย์นี้เองค่ะ
เราขออนุญาต Copy ข้อความของเพื่อนเรามาเลยนะคะ
.
.
.
.
เรากลับจากท่องเที่ยวต่างประเทศในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2557 ลงที่สนามบินดอนเมือง
ได้ขึ้นแท็กซี่เหลืองป้ายแดง มีสติ๊กเกอร์ใหญ่ๆ ด้านหลัง 88702 (ทราบภายหลังว่าเป็นเลขวิทยุ)
แต่ไม่มีเลขทะเบียนแท็กซี่ด้านในเลย เห็นเพียงแต่ชื่อ
ระบุว่า นายโค โททองดี (อันนี้ไม่แน่ว่าจะผิดกฎหมายไหมถ้าเราระบุชื่อคนลงมาแบบนี้)
ซึ่งรูปพรรณคนขับไม่ตรงกับรูปที่ติด คนขับเป็นชายสูงราว 170-175 รูปร่างท้วม ผมกรียน
จำป้ายทะเบียนรถไม่ได้ ด้านข้างระบุว่าเป็นรถของสหกรณ์แท็กซี่ลาดพร้าว
-ลักษณะเหตุการณ์โดยละเอียด-
เวลาประมาณ 22.30 น. ที่อาคาร1 ชั้นสาม ประตูที่4
ตอนแรกเราได้เข้าไปถามแท็กซี่คันนี้หลังจากที่ได้ส่งผู้โดยสารคนอื่นแล้ว
ในตอนแรกก็ตกลงว่าจะไปส่งที่หมาย แต่พอคนขับแท็กซี่คนนั้นมองเห็นชาวต่างชาติเดินออกมาจากอาคาร ก็ทิ้งเราไปเลย
แต่ชาวต่างชาติไม่เล่นด้วย คนขับแท็กซี่ก็เลยย้อนกลับมาหาเรา
เราให้ไปส่งที่ซอยพหลโยธิน ก่อนถึงสะพานใหม่
ด้วยความที่เราไม่ทันคิดอะไรก็เลยตกลง เขาก็จูงกระเป๋าเราขึ้นรถให้
แต่เมื่อออกรถไปไม่ถึง 100 เมตร (แค่ต้นคอสะพานทางลงเท่านั้น) คนขับก็บอกว่าลืมกดมิเตอร์ ขอราคาเหมา สองร้อยบาท
เราปฏิเสธ เพราะทั้งตัวเรามีแค่ 100 บาท
ระหว่างนั้นเขาก็อึกอักค่อยๆ ขับรถลงมาช้าๆ
จนเราหงุดหงิดถามว่า พี่จะเอายังไง ไม่เอา100 บาทก็ปล่อยหนูลง
เขาก็ตอบว่า พี่เอา 60 บาท แล้วกัน
เราก็ไม่โอเคเพราะถ้าให้ไปเราก็ไม่มีตังค์กลับบ้านเหมือนกัน
ซึ่งคนขับก็ยังขับไปช้าๆ อยู่ เขาทำท่าอึกอักแล้วออกรถค่อนข้างแรง วิ่งออกไปตามทาง
แปปเดียวเขาก็พยายามกดดันให้เราจ่าย 200 บาท (คิดราคาเหมา) ซึ่งจากดอนเมืองไปที่หมายเรายังไงมันก็ไม่ถึง 200 บาทอยู่ดี ขนาดเราบอกไปว่ามีเงินอยู่ 100 บาท เขาก็กดดันบอกว่าให้ญาติเราจ่ายให้ตอนถึงที่หมาย (ซึ่งเราอยู่คนเดียว ไม่มีใครจ่ายให้หรอก ให้เข้าบ้านไปก็ไม่มีใครช่วยอยู่ดี)
แล้วก็บอกว่า "รู้งี้พี่เอาฝรั่งคนนั้นก็ดี ให้ตั้ง 600 บาท" (คงรู้กันว่ามันตอแหว ถ้าเอามันพูดจริง ป่านนี้คงไปส่งฝรั่งคนนั้นนานแล้ว)
เราปฏิเสธทุกข้อเสนอ จนเห็นว่ามันหงุดหงิด ไอ้เราก็กล้าๆกลัวๆ ตั้งแต่แรก จนมันจอดรถให้เรากดเงินจากตู้เอทีเอ็มไทยพานิชย์ ก่อนถึง Maxvalue
เราเลยจำใจลงไปกดให้ มันถึงอารมณ์ดีขึ้น และไปส่งเราดีๆ ไม่เหวี่ยงใส่ (ไอ้เราละชิ่งหนีตั้งแต่มันปล่อยให้ลงไปกด ATM ก็กลัวว่ามันจะซ่อนอาวุธแล้วตามมาทำร้าย TwT)
พอมาถึงซอยก็ยังจะบ่นอีกว่าซอยลึกจังนะ นู้นนี้นั่น
เราให้มันจอดที่บริเวณทางแยกใกล้บ้านแล้วลงเดินต่อเอง
เรากลับมาถึงในเวลา 22.42 ณ เวลาที่ลงจากรถ คือเราไม่โอเคกับแท็กซี่ที่ใช้กลโกงแบบนี้มาก เราเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว และก็มืดค่ำแล้ว ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เราเลยตัดสินใจโทรแจ้ง 1584 ในเวลาประมาณ 23.25 น.
แต่เพราะข้อมูลทั้งหมดที่เรามีมันน้อยมาก (ขนาดป้ายคนขับยังไม่ตรงกับตัวจริงเลย!) เราเลยตั้งใจจะไปหาเลขทะเบียนรถเพิ่มเพื่อให้ดำเนินคดีได้รวดเร็วขึ้น
วันที่ 8 กันยายน 2557
เราไปขอดูกล้องชุมชน แต่คุณภาพกล้องห่วยแตกมาก มองไม่เห็นเลขทะเบียนรถเลย (โอยยย!ถ้าเรารวยจะบริจาคเงินซื้อกล้องวงจรปิดแบบ Super HD ให้เลย!) เราคงต้องถ่อไปขอดูกล้องที่สนามบินแทนแล้วล่ะ!!
วันที่ 9 กันยายน 2557
1584 ส่ง sms กลับมาว่า เป็นเรื่องยากที่จะตามหาเพราะไม่มีเลขทะเบียนรถ เรานอยมาก ความปลอดภัยของแท็กซี่เมืองไทยอยู่ไหน!! ยังดีนะที่ยังส่ง sms มาบอกความคืบหน้า แต่เราไม่จบแค่นี้หรอก เราจะพยายามหาทางเดินเรื่องต่อเอง!
สิ่งต่อไปที่เราทำคือ เราตรงดิ่งไปแจ้งความกับตำรวจที่สนามบินดอนเมือง ประสานกับตำรวจท่องเที่ยว ขอดูกล้องวงจรปิดที่สนามบินชนชน- เรารบกวนแก้เรื่องค่าเปิดกล้องออกให้ที วันนี้เราไม่เสียคงเพราะเราแจ้งตำรวจอะ
เรากลัวว่าลงไปจะไม่มีใครกล้าขอความช่วยเหลือ
(เราก็เพิ่งรู้วันนี้เองว่าต้องแจ้งตำรวจท่องเที่ยวที่ประชาสัมพันธ์ ขอดูกล้อง... ยุ่งยากชะมัด = =" ทางที่ดี ควรรีบแจ้งความให้เป็นเรื่องเป็นราวไปตั้งแต่แรกเลยดีกว่า)
แล้วคือความโชคร้ายก็กระหน่ำซ้ำซ้อน เพราะเขาแจ้งมาว่ากล้องที่สนามบินมองไม่เห็นเลขทะเบียน เห็นแค่เลขวิทยุ
(เราไม่เห็นด้วยนะ เพราะเขาน่ะเช็คแค่กล้องตัวเดียวจากจุดที่รับเราขึ้นรถ เราคิดว่าถ้าเช็คทุกตัวที่อยู่ในบริเวณนั้น มันก็น่าจะเห็นอยู่บ้างอ่ะ)
แล้วคุณพี่ตำรวจก็บอกว่าเราไม่สามารถแจ้งความเอาเรื่องคดีกรรโชกทรัพย์ได้เพราะเคสเราไม่มีการใช้อาวุธ หรือถ่ายคลิปข่มขู่ (แถมยังโดนคุณตำรวจบ่นด้วยว่าทำไมถึงเพิ่งมาแจ้งตอนนี้ ก็จะให้เราแจ้งตอนไหน เวลานั้นมันกี่ยามแล้ว เราผู้หญิงคนเดียวนะ แถมคือถ้าจะให้วันรุ่งขึ้นรีบมาแจ้ง ไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลอะไรเลย ยังไงก็ไม่รับแจ้งความเราอยู่ดี นี่เราพยายามหาข้อมูลให้ได้มากที่สุดแล้วนะ ถ้าเรารีบแจ้นมาแจ้งตั้งแต่วันรุ่งขึ้นจากที่เกิดเหตุโดยไม่มีข้อมูลเลยท่านจะรับแจ้งรึ แหม่...- - ")
และถึงจุดนี้เราไม่เห็นด้วยอีกเพราะพี่ทนายที่เราได้ปรึกษาหลังจากลงบันทึกความไว้บอกว่ามันคนและข้อกฎหมาย คดีความกรรโชกทรัพย์กับข่มขู่แบล็คเมล์ไม่เหมือนกัน
เรื่องนี้ยังไม่จบง่ายๆ หรอกนะ ตอนนี้ต้องรอติดตามผลต่อไป แต่ที่เราอยากให้เพื่อนรีบลงเรื่องนี้ในพันทิพให้ ก็เพื่อจะเตือนภัยทุกๆ คนที่จะเดินทางไปไหนมาไหนโดนใช้บริการแท็กซี่ ให้ระมัดระวังกันเอาไว้ มีสติ สังเกตอะไรให้ดีๆ ถ้าเกิดกรณีแบบเรามีอะไรผิดสังเกตให้เอะใจไว้ก่อน
บอกต่อกันด้วยนะคะ เพราะว่าเท่าที่รู้มาแท็กซี่ที่วิ่งภายในกรุงเทพฯ ต้องคิดราคาตามมิเตอร์ (ซึ่งมิเตอร์บางคันนี่ก็มีกลโกงซ่อนอยู่อีกนะ ฮ่วยยย อยู่เมืองหลวงชีวิตฮาร์ดคอร์เหลือเกิน)
.
.
.
.
นี่เป็นข้อความที่เพื่อนเราพิมพ์มาให้ค่ะ ซึ่งเราเองก็เคยเกือบๆ โดนแท็กซี่โกงแบบนี้เหมือนกัน ที่หมอชิตเลย เดินทางในประเทศแท้ๆ ถ้าคนไม่รู้เรื่องอาจจะโดนโกงไปแล้ว (เราโชคดีที่เพื่อนเรารู้เรทค่าแท็กซี่จากหมอชิตไปที่หมายค่ะ เลยไหวตัวทัน)
เพราะฉะนั้น ก่อนจะเดินทางไปไหนมาไหน ที่คิดว่าอาจจะต้องใช้บริการแท็กซี่ ควรไปค้นหาข้อมูลค่าโดยสารโดยคร่าวๆ และเส้นทางที่จะต้องผ่านให้ดีก่อนนะคะ เพื่อป้องกันตัวเองขั้นเบื้องต้นก่อนเดินทางค่ะ (แค่เดินทางในกรุงเทพ หรือในประเทศ นี่เหนื่อยพอๆ กับจะเดินทางไปต่างแดนเลยนะคะ U.U) พอขึ้นรถไปแล้วก็ต้องรับสังเกตและเก็บข้อมูลในแท็กซี่ให้ได้มากที่สุด ถ่ายรูปได้ถ่ายเลยค่ะ เก็บหลักฐานไว้ป้องกันตัวเยอะๆ ถ้ากลัวมากจะโพสลงโซเชียล หรือส่งให้เพื่อนเห็นไว้ก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าแท็กซี่คันไหนข้อมูลไม่ครบหรือคลุมเครือ ชิ่งก่อนเลยค่ะ (เมื่อก่อนเราก็ขึ้นแท็กซี่แบบไม่ค่อยคิดอะไรนะ จำแค่ทะเบียนในรถ พอเพื่อนเราเจอแบบนี้ ต่อไปต้องระวังและจำข้อมูลให้ได้มากกว่านี้แล้วค่ะ)
ขอบคุณที่อ่านจนถึงตรงนี้นะคะ ถ้ามีข้อวิธีอะไรในการจัดการเรื่องแบบนี้แนะนำเรากับเพื่อนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
* Edit เพิ่มเติม 1 : ตำรวจบอกว่าแท็กซี่ป้ายแดงห้ามขับกลางคืนค่ะ ผิดกฏหมาย ถ้าเห็นแล้วห้ามขึ้นเด็ดขาดนะคะ
[เตือนภัย] โดนแท็กซี่โกงจากดอนเมือง!
วันนี้เราจะมาเตือนภัยจากการใช้บริการแท็กซี่ ที่มันเกิดขึ้นบ่อยมาก ทั้งๆ ที่เป็นการเดินทางที่คนใช้บริการกันเยอะมาก
เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเรื่องของเพื่อนเรา ที่ประสบเหตุเมื่อวันอาทิตย์นี้เองค่ะ
เราขออนุญาต Copy ข้อความของเพื่อนเรามาเลยนะคะ
.
.
.
.
เรากลับจากท่องเที่ยวต่างประเทศในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2557 ลงที่สนามบินดอนเมือง
ได้ขึ้นแท็กซี่เหลืองป้ายแดง มีสติ๊กเกอร์ใหญ่ๆ ด้านหลัง 88702 (ทราบภายหลังว่าเป็นเลขวิทยุ)
แต่ไม่มีเลขทะเบียนแท็กซี่ด้านในเลย เห็นเพียงแต่ชื่อ
ระบุว่า นายโค โททองดี (อันนี้ไม่แน่ว่าจะผิดกฎหมายไหมถ้าเราระบุชื่อคนลงมาแบบนี้)
ซึ่งรูปพรรณคนขับไม่ตรงกับรูปที่ติด คนขับเป็นชายสูงราว 170-175 รูปร่างท้วม ผมกรียน
จำป้ายทะเบียนรถไม่ได้ ด้านข้างระบุว่าเป็นรถของสหกรณ์แท็กซี่ลาดพร้าว
-ลักษณะเหตุการณ์โดยละเอียด-
เวลาประมาณ 22.30 น. ที่อาคาร1 ชั้นสาม ประตูที่4
ตอนแรกเราได้เข้าไปถามแท็กซี่คันนี้หลังจากที่ได้ส่งผู้โดยสารคนอื่นแล้ว
ในตอนแรกก็ตกลงว่าจะไปส่งที่หมาย แต่พอคนขับแท็กซี่คนนั้นมองเห็นชาวต่างชาติเดินออกมาจากอาคาร ก็ทิ้งเราไปเลย
แต่ชาวต่างชาติไม่เล่นด้วย คนขับแท็กซี่ก็เลยย้อนกลับมาหาเรา
เราให้ไปส่งที่ซอยพหลโยธิน ก่อนถึงสะพานใหม่
ด้วยความที่เราไม่ทันคิดอะไรก็เลยตกลง เขาก็จูงกระเป๋าเราขึ้นรถให้
แต่เมื่อออกรถไปไม่ถึง 100 เมตร (แค่ต้นคอสะพานทางลงเท่านั้น) คนขับก็บอกว่าลืมกดมิเตอร์ ขอราคาเหมา สองร้อยบาท
เราปฏิเสธ เพราะทั้งตัวเรามีแค่ 100 บาท
ระหว่างนั้นเขาก็อึกอักค่อยๆ ขับรถลงมาช้าๆ
จนเราหงุดหงิดถามว่า พี่จะเอายังไง ไม่เอา100 บาทก็ปล่อยหนูลง
เขาก็ตอบว่า พี่เอา 60 บาท แล้วกัน
เราก็ไม่โอเคเพราะถ้าให้ไปเราก็ไม่มีตังค์กลับบ้านเหมือนกัน
ซึ่งคนขับก็ยังขับไปช้าๆ อยู่ เขาทำท่าอึกอักแล้วออกรถค่อนข้างแรง วิ่งออกไปตามทาง
แปปเดียวเขาก็พยายามกดดันให้เราจ่าย 200 บาท (คิดราคาเหมา) ซึ่งจากดอนเมืองไปที่หมายเรายังไงมันก็ไม่ถึง 200 บาทอยู่ดี ขนาดเราบอกไปว่ามีเงินอยู่ 100 บาท เขาก็กดดันบอกว่าให้ญาติเราจ่ายให้ตอนถึงที่หมาย (ซึ่งเราอยู่คนเดียว ไม่มีใครจ่ายให้หรอก ให้เข้าบ้านไปก็ไม่มีใครช่วยอยู่ดี)
แล้วก็บอกว่า "รู้งี้พี่เอาฝรั่งคนนั้นก็ดี ให้ตั้ง 600 บาท" (คงรู้กันว่ามันตอแหว ถ้าเอามันพูดจริง ป่านนี้คงไปส่งฝรั่งคนนั้นนานแล้ว)
เราปฏิเสธทุกข้อเสนอ จนเห็นว่ามันหงุดหงิด ไอ้เราก็กล้าๆกลัวๆ ตั้งแต่แรก จนมันจอดรถให้เรากดเงินจากตู้เอทีเอ็มไทยพานิชย์ ก่อนถึง Maxvalue
เราเลยจำใจลงไปกดให้ มันถึงอารมณ์ดีขึ้น และไปส่งเราดีๆ ไม่เหวี่ยงใส่ (ไอ้เราละชิ่งหนีตั้งแต่มันปล่อยให้ลงไปกด ATM ก็กลัวว่ามันจะซ่อนอาวุธแล้วตามมาทำร้าย TwT)
พอมาถึงซอยก็ยังจะบ่นอีกว่าซอยลึกจังนะ นู้นนี้นั่น
เราให้มันจอดที่บริเวณทางแยกใกล้บ้านแล้วลงเดินต่อเอง
เรากลับมาถึงในเวลา 22.42 ณ เวลาที่ลงจากรถ คือเราไม่โอเคกับแท็กซี่ที่ใช้กลโกงแบบนี้มาก เราเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว และก็มืดค่ำแล้ว ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เราเลยตัดสินใจโทรแจ้ง 1584 ในเวลาประมาณ 23.25 น.
แต่เพราะข้อมูลทั้งหมดที่เรามีมันน้อยมาก (ขนาดป้ายคนขับยังไม่ตรงกับตัวจริงเลย!) เราเลยตั้งใจจะไปหาเลขทะเบียนรถเพิ่มเพื่อให้ดำเนินคดีได้รวดเร็วขึ้น
วันที่ 8 กันยายน 2557
เราไปขอดูกล้องชุมชน แต่คุณภาพกล้องห่วยแตกมาก มองไม่เห็นเลขทะเบียนรถเลย (โอยยย!ถ้าเรารวยจะบริจาคเงินซื้อกล้องวงจรปิดแบบ Super HD ให้เลย!) เราคงต้องถ่อไปขอดูกล้องที่สนามบินแทนแล้วล่ะ!!
วันที่ 9 กันยายน 2557
1584 ส่ง sms กลับมาว่า เป็นเรื่องยากที่จะตามหาเพราะไม่มีเลขทะเบียนรถ เรานอยมาก ความปลอดภัยของแท็กซี่เมืองไทยอยู่ไหน!! ยังดีนะที่ยังส่ง sms มาบอกความคืบหน้า แต่เราไม่จบแค่นี้หรอก เราจะพยายามหาทางเดินเรื่องต่อเอง!
สิ่งต่อไปที่เราทำคือ เราตรงดิ่งไปแจ้งความกับตำรวจที่สนามบินดอนเมือง ประสานกับตำรวจท่องเที่ยว ขอดูกล้องวงจรปิดที่สนามบินชนชน- เรารบกวนแก้เรื่องค่าเปิดกล้องออกให้ที วันนี้เราไม่เสียคงเพราะเราแจ้งตำรวจอะ
เรากลัวว่าลงไปจะไม่มีใครกล้าขอความช่วยเหลือ
(เราก็เพิ่งรู้วันนี้เองว่าต้องแจ้งตำรวจท่องเที่ยวที่ประชาสัมพันธ์ ขอดูกล้อง... ยุ่งยากชะมัด = =" ทางที่ดี ควรรีบแจ้งความให้เป็นเรื่องเป็นราวไปตั้งแต่แรกเลยดีกว่า)
แล้วคือความโชคร้ายก็กระหน่ำซ้ำซ้อน เพราะเขาแจ้งมาว่ากล้องที่สนามบินมองไม่เห็นเลขทะเบียน เห็นแค่เลขวิทยุ
(เราไม่เห็นด้วยนะ เพราะเขาน่ะเช็คแค่กล้องตัวเดียวจากจุดที่รับเราขึ้นรถ เราคิดว่าถ้าเช็คทุกตัวที่อยู่ในบริเวณนั้น มันก็น่าจะเห็นอยู่บ้างอ่ะ)
แล้วคุณพี่ตำรวจก็บอกว่าเราไม่สามารถแจ้งความเอาเรื่องคดีกรรโชกทรัพย์ได้เพราะเคสเราไม่มีการใช้อาวุธ หรือถ่ายคลิปข่มขู่ (แถมยังโดนคุณตำรวจบ่นด้วยว่าทำไมถึงเพิ่งมาแจ้งตอนนี้ ก็จะให้เราแจ้งตอนไหน เวลานั้นมันกี่ยามแล้ว เราผู้หญิงคนเดียวนะ แถมคือถ้าจะให้วันรุ่งขึ้นรีบมาแจ้ง ไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลอะไรเลย ยังไงก็ไม่รับแจ้งความเราอยู่ดี นี่เราพยายามหาข้อมูลให้ได้มากที่สุดแล้วนะ ถ้าเรารีบแจ้นมาแจ้งตั้งแต่วันรุ่งขึ้นจากที่เกิดเหตุโดยไม่มีข้อมูลเลยท่านจะรับแจ้งรึ แหม่...- - ")
และถึงจุดนี้เราไม่เห็นด้วยอีกเพราะพี่ทนายที่เราได้ปรึกษาหลังจากลงบันทึกความไว้บอกว่ามันคนและข้อกฎหมาย คดีความกรรโชกทรัพย์กับข่มขู่แบล็คเมล์ไม่เหมือนกัน
เรื่องนี้ยังไม่จบง่ายๆ หรอกนะ ตอนนี้ต้องรอติดตามผลต่อไป แต่ที่เราอยากให้เพื่อนรีบลงเรื่องนี้ในพันทิพให้ ก็เพื่อจะเตือนภัยทุกๆ คนที่จะเดินทางไปไหนมาไหนโดนใช้บริการแท็กซี่ ให้ระมัดระวังกันเอาไว้ มีสติ สังเกตอะไรให้ดีๆ ถ้าเกิดกรณีแบบเรามีอะไรผิดสังเกตให้เอะใจไว้ก่อน
บอกต่อกันด้วยนะคะ เพราะว่าเท่าที่รู้มาแท็กซี่ที่วิ่งภายในกรุงเทพฯ ต้องคิดราคาตามมิเตอร์ (ซึ่งมิเตอร์บางคันนี่ก็มีกลโกงซ่อนอยู่อีกนะ ฮ่วยยย อยู่เมืองหลวงชีวิตฮาร์ดคอร์เหลือเกิน)
.
.
.
.
นี่เป็นข้อความที่เพื่อนเราพิมพ์มาให้ค่ะ ซึ่งเราเองก็เคยเกือบๆ โดนแท็กซี่โกงแบบนี้เหมือนกัน ที่หมอชิตเลย เดินทางในประเทศแท้ๆ ถ้าคนไม่รู้เรื่องอาจจะโดนโกงไปแล้ว (เราโชคดีที่เพื่อนเรารู้เรทค่าแท็กซี่จากหมอชิตไปที่หมายค่ะ เลยไหวตัวทัน)
เพราะฉะนั้น ก่อนจะเดินทางไปไหนมาไหน ที่คิดว่าอาจจะต้องใช้บริการแท็กซี่ ควรไปค้นหาข้อมูลค่าโดยสารโดยคร่าวๆ และเส้นทางที่จะต้องผ่านให้ดีก่อนนะคะ เพื่อป้องกันตัวเองขั้นเบื้องต้นก่อนเดินทางค่ะ (แค่เดินทางในกรุงเทพ หรือในประเทศ นี่เหนื่อยพอๆ กับจะเดินทางไปต่างแดนเลยนะคะ U.U) พอขึ้นรถไปแล้วก็ต้องรับสังเกตและเก็บข้อมูลในแท็กซี่ให้ได้มากที่สุด ถ่ายรูปได้ถ่ายเลยค่ะ เก็บหลักฐานไว้ป้องกันตัวเยอะๆ ถ้ากลัวมากจะโพสลงโซเชียล หรือส่งให้เพื่อนเห็นไว้ก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าแท็กซี่คันไหนข้อมูลไม่ครบหรือคลุมเครือ ชิ่งก่อนเลยค่ะ (เมื่อก่อนเราก็ขึ้นแท็กซี่แบบไม่ค่อยคิดอะไรนะ จำแค่ทะเบียนในรถ พอเพื่อนเราเจอแบบนี้ ต่อไปต้องระวังและจำข้อมูลให้ได้มากกว่านี้แล้วค่ะ)
ขอบคุณที่อ่านจนถึงตรงนี้นะคะ ถ้ามีข้อวิธีอะไรในการจัดการเรื่องแบบนี้แนะนำเรากับเพื่อนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
* Edit เพิ่มเติม 1 : ตำรวจบอกว่าแท็กซี่ป้ายแดงห้ามขับกลางคืนค่ะ ผิดกฏหมาย ถ้าเห็นแล้วห้ามขึ้นเด็ดขาดนะคะ