วันพฤหัสบดี ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 17.36 น.
tags : กลุ่มแท็กซี่พัทยา, เจอ3ข้อหาหนัก, ล้อมรถอูเบอร์, ไล่นทท.ลง
18 พ.ค. 60 กรณีเมื่อกลางดึกวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ ร.ต.อ.นิวัตน์ เพ็งแคน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ได้มี นายสุรศักดิ์ คูคำ อายุ 29 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ป้ายดำสังกัดบริษัทอูเบอร์ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์พร้อมนำคลิปวีดีโอมาเป็นหลักฐาน หลังจากถูกกลุ่มแท็กซี่เมืองพัทยาประมาณ 5-6 คน ปิดล้อมรถยนต์ที่บริเวณริมถนนสาย 2 ย่านพัทยาเหนือ ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และไล่ผู้โดยสาร ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้ลงจากรถ ซ้ำยังเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมายึดใบขับขี่ให้ไปเสียค่าปรับที่ สภ.เมืองพัทยา ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการข่มขู่คุกคาม และเกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงเดินทางเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้
ล่าสุด พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้เชิญนายสุรศักดิ์ คูคำ อายุ 29 ปี คนขับรถแท็กซี่ป้ายดำสังกัดบริษัทอูเบอร์ มาสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมกับเรียกคู่กรณีซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่ป้ายเหลือง สังกัดสหกรณ์พัฒนาบ่อทอง และสหกรณ์แท็กซี่พัทยา จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายกฤษณ์ แสงสุวรรณ อายุ 42 ปี นายชลอ ทุ่มเพชร อายุ 39 ปี นายศุภกฤต ทองปลื้ม อายุ 42 ปี และนายปราโมช วัฒนศิริมณี อายุ 29 ปี เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่ให้กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงและทรัพย์สินของผู้ถูกขืมขืนใจนั้น หรือใช้กำลังประทุษร้ายผู้ถูกข่มขืนใจให้กระทกการนั้น หรือไม่กระทำการนั้น หรือยอมจำนนต่อสิ่งนั้น , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ซึ่งเบื้องต้นทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยมีคนขับรถแท็กซี่ของทั้งสองฝ่ายรวมแล้วประมาณ 20 คน เดินทางมาให้กำลังใจ
โดยนายกฤษณ์ แสงสุวรรณ 1 ใน 4 แท็กซี่ป้ายเหลือง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้เปิดแอพลิเคชั่นของอูเบอร์ดูทำให้ทราบว่ากำลังมีคนขับรถแท็กซี่ป้ายดำในสังกัดดังกล่าวกำลังไปรับลูกค้าชาวจีนบริเวณถนนพัทยาสาย 2 ย่านพัทยาเหนือ จึงโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ให้ทราบ เพื่อดำเนินการจับกุม เพราะปัจจุบันแท็กซี่อูเบอร์ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นรถรับส่งสาธารณะอย่างถูกกฎหมาย จากนั้นตนกับพวกจึงได้ติดตามสัญญาณจีพีเอส.ในแอพลิเคชั่น จนไปพบรถเก๋งป้ายดำที่มีนายสุรศักดิ์ คูคำ เป็นคนขับ และมีนักท่องเที่ยวชาวจีนนั่งอยู่ในรถ พวกตนจึงเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวว่ารถแท็กซี่ที่ใช้บริการอยู่ขณะนี้เป็นรถที่ผิดกฎหมาย ซึ่งนักท่องเที่ยวก็เข้าใจดีไม่มีปัญหาอะไร จากนั้นจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการจับกุมและเปรียบเทียบปรับนายสุรศักดิ์เป็นเงิน 1,000 บาท โดยไม่ได้ข่มขู่คุกคามและทำร้ายร่างกาย หรือแตะเนื้อต้องตัวนายสุรศักดิ์ แต่อย่างใด และอยากให้เจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรม เนื่องจากปัจจุบันมีรถแท็กซี่ป้ายดำสังกัดบริษัทเอกชนเข้ามาหากินในพื้นที่เมืองพัทยาจนทำให้ผู้ประกอบการแท็กซี่ที่ขึ้นทะเบียนและเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ด้าน พ.ต.อ.พิสิฏฐ โปรยรุ่งโรจน์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ในฐานะนายตำรวจที่ควบคุมดูแลงานด้านจราจร เปิดเผยว่า จากการประชุมพูดคุยกับบรรดารถแท็กซี่ป้ายเหลืองเมื่อครั้งก่อนได้ข้อสรุปว่า กรณีที่ไปเจอรถแท็กซี่อูเบอร์เข้ามารับส่งผู้โดยสารในพื้นที่เมืองพัทยา ก็ให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการ ไม่ควรกระทำการใดๆ โดยพละการเพราะอาจเกิดการกระทบกระทั่งกันได้ นอกจากนี้ยังกำชับให้สารวัตรจราจรยึดข้อกฎหมายเป็นหลัก หากพบมีรถแท็กซี่ของอูเบอร์วิ่งรับส่งผู้โดยสารก็ให้ดำเนินการจับกุมทันที ไม่มีการว่ากล่าวตักเตือน และให้ทำการเปรียบเทียบปรับในอัตราโทษสูงสุดคือ 2,000 บาท พร้อมกับฝากเตือนไปยังคนขับรถแท็กซี่ที่ยังไม่จดทะเบียนเป็นรถโดยสารสาธารณะทั้งหลาย ว่าไม่ควรนำรถออกมารับส่งผู้โดยสาร เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในระหว่างที่กำลังแถลงข่าวอยู่นั้น กลุ่มคนขับรถแท็กซี่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตั้งคำถามให้อีกฝ่ายเป็นคนตอบจนกลายเป็นการโต้เถียงกัน ทำให้ พล.ต.ท จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 ต้องออกโรงมาห้ามทัพ และขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายแยกย้ายกันไป ทำให้ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น
http://www.naewna.com/local/270879
สมน้ำหน้า! TAXI หนักแผ่นดิน ล้อมรถ อูเบอร์ ไล่นักท่องเที่ยวลง นี่หรือสยามเมืองยิ้ม!!
tags : กลุ่มแท็กซี่พัทยา, เจอ3ข้อหาหนัก, ล้อมรถอูเบอร์, ไล่นทท.ลง
18 พ.ค. 60 กรณีเมื่อกลางดึกวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ ร.ต.อ.นิวัตน์ เพ็งแคน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ได้มี นายสุรศักดิ์ คูคำ อายุ 29 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ป้ายดำสังกัดบริษัทอูเบอร์ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์พร้อมนำคลิปวีดีโอมาเป็นหลักฐาน หลังจากถูกกลุ่มแท็กซี่เมืองพัทยาประมาณ 5-6 คน ปิดล้อมรถยนต์ที่บริเวณริมถนนสาย 2 ย่านพัทยาเหนือ ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และไล่ผู้โดยสาร ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้ลงจากรถ ซ้ำยังเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมายึดใบขับขี่ให้ไปเสียค่าปรับที่ สภ.เมืองพัทยา ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการข่มขู่คุกคาม และเกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงเดินทางเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้
ล่าสุด พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้เชิญนายสุรศักดิ์ คูคำ อายุ 29 ปี คนขับรถแท็กซี่ป้ายดำสังกัดบริษัทอูเบอร์ มาสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมกับเรียกคู่กรณีซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่ป้ายเหลือง สังกัดสหกรณ์พัฒนาบ่อทอง และสหกรณ์แท็กซี่พัทยา จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายกฤษณ์ แสงสุวรรณ อายุ 42 ปี นายชลอ ทุ่มเพชร อายุ 39 ปี นายศุภกฤต ทองปลื้ม อายุ 42 ปี และนายปราโมช วัฒนศิริมณี อายุ 29 ปี เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่ให้กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงและทรัพย์สินของผู้ถูกขืมขืนใจนั้น หรือใช้กำลังประทุษร้ายผู้ถูกข่มขืนใจให้กระทกการนั้น หรือไม่กระทำการนั้น หรือยอมจำนนต่อสิ่งนั้น , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ซึ่งเบื้องต้นทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยมีคนขับรถแท็กซี่ของทั้งสองฝ่ายรวมแล้วประมาณ 20 คน เดินทางมาให้กำลังใจ
โดยนายกฤษณ์ แสงสุวรรณ 1 ใน 4 แท็กซี่ป้ายเหลือง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้เปิดแอพลิเคชั่นของอูเบอร์ดูทำให้ทราบว่ากำลังมีคนขับรถแท็กซี่ป้ายดำในสังกัดดังกล่าวกำลังไปรับลูกค้าชาวจีนบริเวณถนนพัทยาสาย 2 ย่านพัทยาเหนือ จึงโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ให้ทราบ เพื่อดำเนินการจับกุม เพราะปัจจุบันแท็กซี่อูเบอร์ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นรถรับส่งสาธารณะอย่างถูกกฎหมาย จากนั้นตนกับพวกจึงได้ติดตามสัญญาณจีพีเอส.ในแอพลิเคชั่น จนไปพบรถเก๋งป้ายดำที่มีนายสุรศักดิ์ คูคำ เป็นคนขับ และมีนักท่องเที่ยวชาวจีนนั่งอยู่ในรถ พวกตนจึงเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวว่ารถแท็กซี่ที่ใช้บริการอยู่ขณะนี้เป็นรถที่ผิดกฎหมาย ซึ่งนักท่องเที่ยวก็เข้าใจดีไม่มีปัญหาอะไร จากนั้นจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการจับกุมและเปรียบเทียบปรับนายสุรศักดิ์เป็นเงิน 1,000 บาท โดยไม่ได้ข่มขู่คุกคามและทำร้ายร่างกาย หรือแตะเนื้อต้องตัวนายสุรศักดิ์ แต่อย่างใด และอยากให้เจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรม เนื่องจากปัจจุบันมีรถแท็กซี่ป้ายดำสังกัดบริษัทเอกชนเข้ามาหากินในพื้นที่เมืองพัทยาจนทำให้ผู้ประกอบการแท็กซี่ที่ขึ้นทะเบียนและเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ด้าน พ.ต.อ.พิสิฏฐ โปรยรุ่งโรจน์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ในฐานะนายตำรวจที่ควบคุมดูแลงานด้านจราจร เปิดเผยว่า จากการประชุมพูดคุยกับบรรดารถแท็กซี่ป้ายเหลืองเมื่อครั้งก่อนได้ข้อสรุปว่า กรณีที่ไปเจอรถแท็กซี่อูเบอร์เข้ามารับส่งผู้โดยสารในพื้นที่เมืองพัทยา ก็ให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการ ไม่ควรกระทำการใดๆ โดยพละการเพราะอาจเกิดการกระทบกระทั่งกันได้ นอกจากนี้ยังกำชับให้สารวัตรจราจรยึดข้อกฎหมายเป็นหลัก หากพบมีรถแท็กซี่ของอูเบอร์วิ่งรับส่งผู้โดยสารก็ให้ดำเนินการจับกุมทันที ไม่มีการว่ากล่าวตักเตือน และให้ทำการเปรียบเทียบปรับในอัตราโทษสูงสุดคือ 2,000 บาท พร้อมกับฝากเตือนไปยังคนขับรถแท็กซี่ที่ยังไม่จดทะเบียนเป็นรถโดยสารสาธารณะทั้งหลาย ว่าไม่ควรนำรถออกมารับส่งผู้โดยสาร เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในระหว่างที่กำลังแถลงข่าวอยู่นั้น กลุ่มคนขับรถแท็กซี่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตั้งคำถามให้อีกฝ่ายเป็นคนตอบจนกลายเป็นการโต้เถียงกัน ทำให้ พล.ต.ท จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 ต้องออกโรงมาห้ามทัพ และขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายแยกย้ายกันไป ทำให้ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น
http://www.naewna.com/local/270879