ทำงานแล้วรู้สึกเหมือนเป็นของตาย ไม่มีใครเห็นค่า แต่พอเราจะจากไป กลับถูกผู้บริหารรั้งให้อยู่ต่อ

เวลาอยู่ในสังคมการทำงาน ที่ต้องมีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน แต่เราไม่ชอบการแข่งขันมากนัก ทำให้บางครั้งเราก็รู้สึกว่าเราเข้รู้ากับพวกคนในที่ทำงานไม่ได้ เพราะเรามักมีทัศนคติแตกต่างจากพวกเขา พวกเขาไม่ชอบทัศนคติของเรา เราก็ไม่ชอบทัศนคติของพวกเขา

เราชอบเป็นผู้นำ แต่สถานการณ์ในที่ทำงานก็ไม่เอื้ออำนวยให้เราเป็นผู้นำ เราเหมือนเป็นพวกที่ต้องถูกควบคุม ต้องคอยเชื่อฟังคำสั่งของคนที่ไม่ชอบเรา เพราะเขาเป็นหัวหน้าเรา และอยู่มานานกว่าเรา เวลาทำงานด้วยกันก็สวมหน้ากากเข้าหากัน แต่ต่างคนต่างรู้ดีว่าไม่ชอบหน้ากัน เขาทำให้เรารู้สึกแย่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครช่วยเราได้ เวลามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับเรา ก็ไม่เคยมีใครอยู่เคียงข้างเรา ผู้บริหารก็ไม่เคยช่วยอะไรได้ และถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะเปลี่ยนตำแหน่ง ไม่ได้เป็นลูกน้องเขาแล้ว แต่เราก็ต้องทนเห็นเขาทำตัวบ้าอำนาจใส่คนอื่น คอยข่มขู่และควบคุมคนอื่น และคนอื่นก็พร้อมจะยอมถูกเขาควบคุม เพราะความกลัว และบางคนก็ยอมเพราะหวังผลประโยชน์

ผู้บริหารก็ยอมให้อำนาจเขา ไม่ตำหนิเขา เขาได้รับอำนาจเกือบจะเทียบเท่าผู้บริหารแล้ว ซึ่งมันมากกว่าที่เขาควรได้รับ และเขาก็ใช้อำนาจในทางที่ผิดอยู่หลายครั้ง แต่ไม่มีใครกล้าโต้แย้ง(เขาเป็นคนใจร้อน เอาแต่ใจ ตัดสินปัญหาด้วยอารมณ์ แล้วดันไปให้อำนาจกับคนแบบนั้นเนี่ยนะ) เวลาเรากับเขาไปเสนอความคิดในการทำงานต่อผู้บริหาร ผู้บริหารก็เอนเอียงไปเข้าข้างเขา และขัดความคิดเรา แต่พอเราไปคุยกับผู้บริหารตามลำพัง เขาก็บอกว่าความคิดเราดี (เราก็แบบ เฮ้ย อะไรวะ) เราเห็นสิ่งพวกนี้แล้วก็ทนไม่ได้ รู้สึกว่าอะไรๆ มันก็ไม่แฟร์สำหรับเราเลย เรื่องการทำงานเราก็ทำได้ดีไม่แพ้เขา เพียงแต่เราไม่มีอำนาจ ไม่บ้าอำนาจ และไม่ได้มีพวกพ้องมากเหมือนกับเขา (เพราะเราไม่มีอะไรมาล่อใจให้คนอื่นมาเป็นพวกของเรา เรามีแต่มิตรภาพมอบให้คนที่เป็นมิตรกับเราเท่านั้น ใครไม่เป็นมิตรกับเรา เราก็เฉยๆ ไม่ยุ่งด้วย)

เวลาเราทำหน้าที่ตัวเองได้ดี เราก็แทบไม่เคยได้รับคำชม เวลาเราทำงานเกินหน้าที่(แต่เป็นผลดีต่อองค์กร) บางอย่างทำให้ฟรีๆ ก็ไม่มีใครสนใจ ถ้าสนใจก็จะสนใจในผลลัพธ์มากกว่า ไม่ได้สนใจหรอกว่าเราต้องเหนื่อยแค่ไหน เราเองก็ไม่เคยคุยโวว่าเราทำอะไรบ้าง เหมือนเราทำงานอยู่แต่เบื้องหลัง ไม่ค่อยได้ออกหน้าออกตาเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ตัวเองเลย ทำให้ดูเหมือนว่าเราไม่มีผลงานออกมาแสดงให้คนอื่นๆเห็น (แต่จริงๆเราทำงานเยอะ) ส่วนคนที่ไม่ชอบเรา เขาได้ทำงานที่ได้ออกหน้าออกตา แถมชอบคุยโวถึงสรรพคุณของตัวเอง คนอื่นๆ จึงชื่นชมเขามากว่าเขาเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ (คือถ้าเราได้รับหน้าที่เหมือนเขา เราก็ทำได้เหมือนกัน แต่หน้าที่ของเราไม่เหมือนของเขา)

วันหนึ่งเราจึงบอกผู้บริหารว่าเราจะไม่อยู่แล้วนะ หาคนใหม่มาแทนด้วย เพราะเราไม่ค่อยมีความสุข ทีนี้ผู้บริหารก็พูดรั้งเราไว้ เขาบอกว่าเราทำหน้าที่ๆได้รับมอบหมายทุกอย่างได้เป็นอย่างดี และเราก็มีศักยภาพที่จะทำงานได้หลายๆอย่าง เขาอยากให้เราอยู่ช่วยงานอีกหลายอย่าง (เราก็คิดในใจว่า ถ้าเห็นศักยภาพของเรา แล้วทำไมที่ผ่านๆมาถึงทำเหมือนเราเป็นของตาย) และก็พูดว่าถ้าเราอยากทำหน้าที่อะไร หรืออยากเปลี่ยนไปทำหน้าที่อื่นก็บอกได้ เราก็บอกไปว่าเราไม่รู้ว่าควรจะไปทำหน้าที่อะไร เพราะถ้าหน้าที่นั้นทำให้เราต้องทนกับอำนาจของคนที่เราไม่ชอบ เราก็ไม่มีความสุขอยู่ดี (เพราะคนๆนั้นชอบจุ้นกับงานคนอื่นหลายเรื่อง และเขาก็มีพวกพ้องอยู่ในหลายหน้าที่ จริงๆเราอยากให้ผู้บริหารยึดหรือลดอำนาจของคนที่ไม่ชอบเรามากกว่า ถ้าคนเรามีสถานภาพใกล้เคียงกัน ระดับอำนาจก็ไม่ควรแตกต่างกันขนาดนี้ แต่เราไม่ได้บอกออกไปแบบนั้น เดี๋ยวเขาจะมองเราไม่ดี) เขาก็บอกให้เราค่อยๆคิด เขาไม่อยากให้เรารีบออกไปจริงๆ

เราไม่เข้าใจว่าผู้บริหารจะรั้งเราไว้ทำไม ถ้าเขาเห็นแก่เรา ถ้ารู้ว่าเราไม่มีความสุข เขาก็ควรจะให้เราไปไม่ใช่เหรอ ถ้าเราอยู่ต่อแล้วเราจะได้ประโยชน์อะไรล่ะ มีแต่จะเหนื่อยเปล่า คนที่ได้ประโยชน์ก็คือคนอื่นต่างหาก
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
รั้งตามธรรมเนียม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่