"กบฏที่เซี่ยงไฮ้"ในวันนั้น ,การกลับสู่จีนของ "48 group" ในวันนี้ และภัยซ่อนเร้นที่น่าสะพรึงกลัว

หมายเหตุ: ที่จริงผมตั้งใจจะลองเขียนความเห็นเกี่ยวกับการแยกตัวของ SNH48 มาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ก็มีเรื่องผัดผ่อนมาเรื่อยๆ ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนขี้เกียจเขียน และกาลเวลาก็ล่วงเลยจากช่วงที่เกิดเหตุ (กลางปี 2016) มาพักใหญ่ๆแล้ว อย่างไรก็ดี เมื่อทราบข่าวว่าทาง 48  group จะกลับเข้าสู่จีนใหม่ ผมจึงตัดสินใจเขียนให้จบครับ
-----------------------------------------------------------------

ว่ากันว่า เป็นแฟนสาวๆ ไอดอลกลุ่ม 48 (มีAKB48 เป็นอาทิ) นั้น ต้องอดทน
เพราะในระหว่างที่กำลังติดตามอยู่พวกเธอนั้น จะต้องมีเรื่องราวชวนปวดใจมาแวะเวียนเป็นระยะๆ
ไม่ว่าจะเป็น การที่สมาชิกคนโปรดตัดสินใจสำเร็จการศึกษา หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ที่คอยลอบกัดเมื่อเจอจังหวะเหมาะ การเจ็บไข้ได้ป่วนของสาวๆบางคน หรือการก่อเหตุการณ์วุ่นวายโดยโอตะโรคจิต  ฯลฯ   ทั้งนี้ทั้งนั้น หากมองย้อนกลับไปดูเรื่องร้ายๆเหล่าแล้ว ผมว่า เหตุการณ์ "กบฏที่เซี่ยงไฮ้" (จะว่าไปแล้ว คำที่ถูกควรจะเป็นคำว่า"ปฏิวัติ" เพราะฝั่งจีนชนะ)ก็คงเป็นเรื่องชวนปวดใจที่อยู่ในอันดับต้นๆของลิสต์แน่ๆ

เรื่องราวโดยย่อ มีอยู่ว่า แรกเริ่มเดิมทีนั้น 48 group ได้ไปตั้งวงน้องสาวที่เซี่ยงไฮ้ ชื่อว่า SNH48  โดยในช่วงเริ่มแรกนั้น ก็ได้มีการส่งเมมเบอร์ระดับดัง
อย่าง มิยาซาว่า ซาเอะไปประจำด้วย อย่างไรก็ดี เมื่อกาลเวลาล่วงเลยไป เมื่อ SNH48 เจริญเติบโต และประสบความสำเร็จมากขึ้นเป็นลำดับ เรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

โดยในปี 2016 นั้น ทางบริษัท Star48 ซึ่งเป็น ผู้บริหาร SNH48 ที่จีนนั้นได้จัดตั้งวงเพิ่มเติมขึ้นมาเสียเองเลยสองวง คือ BEJ48 ที่ปักกิ่ง และGNZ48 ที่กวางโจว  สถานการณ์เลวร้ายลง จนถึงช่วงกลางปีที่แล้ว ทางญี่ปุ่นได้ลบเอาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ SNH48 ออกจนหมด และตัดขาดความสัมพันธ์ด้วยเหตุที่ว่า ทาง SNH48 ทำการละเมิดสัญญา  ส่วนฝ่าย SNH48 ก็อ้างว่า ตนเองเป็นอิสระจาก AKB48 มาตั้งแต่ต้น และไม่ได้มีสัญญาอะไรกัน  

หลังจากนั้นเป็นต้นมา Star48 ก็ได้ ขยายอาณาจักรของตัวเองต่อไป โดยเพิ่มวง SNH48 ที่เฉินหยางและ CKG48 ที่ชุงกิงเข้ามา อีกทั้งยังมีการจัดการเลือกตั้งของตัวเองอีกด้วย   แถมเร็วๆนี้ ผมก็เริ่มทราบข่าวมาว่า แนวเพลงของวงก็เบนไปทาง Kpop เสียอีก

ส่วนฝั่งญี่ปุ่น ก็สามารถไม่ได้ทำอะไรมาก เนื่องจากเกรงว่าถ้าทำอะไรรุนแรง ตนก็จะถูกต่อต้านจากตลาดจีนที่ "กำลังซื้อสูง คนเยอะ รักแรง เกลียดแรง"

--------------------------------------------------------------------------------

สำหรับผมเอง ในฐานะแฟนพันธุ์ทาง 48 group คนหนึ่ง (หลังยูโกะแกรดออกไปแล้ว ตามข่าวอะไรน้อยลงมาก) เรื่องนี้นับเป็นเรื่องเศร้าที่ผู้ชนะเป็นพวก " ข้าใหญ่ เงินเยอะ จะทำอะไรก็ได้"

อย่างไรก็ตาม พอลองวิเคราะห์ดีๆแล้ว เรื่องร้ายยังมีเรื่องดีซ่อนอยู่ ผมกลับรู้สึกโล่งอกเล็กๆที่ทางฝั่ง Star48 รีบออกลายมาแต่เนื่นๆ เพราะนั่นกลายเป็นการปลดระเบิดเวลาลูกใหญ่ออกจาก 48 group ไปในตัว ภัยซ่อนเร้นที่ว่ามานั้นก็คือ "การยึดครอง 48 group (เชิงสัญลักษณ์)โดยจีน" นั่นเอง

พออ่านมาถึงตอนนี้ หลายๆท่านอาจจะว่า เรื่องนี้ฟังดูเวอร์เกิน และผมก็คงแอนตี้จีนมากเกินไป มีที่ไหนกันที่จีนจะมายึด"ไอดอลแห่งชาติ"ของญี่ปุ่นได้
อย่างไรก็ตาม ผมขอเสนอเหตุผลประกอบดังนี้ ซึ่งจะทำให้ผู้อ่านเห็นได้ว่ามันไม่เกินจริงไปนัก

1. จีนเป็นโอตะที่น่ากลัวมาก ถ้าชอบอะไรก็จะทุ่มหนัก ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าในปีหลังๆ  เมมเบอร์ที่เป็นที่นิยมในจีนนั้น จะได้รับอันดับในการเลือกตั้งดีมาก
และเมมเบอร์ระดับคามิ 7 ก็จะมีคะแนนจีนคิดเป็นสัดส่วนไม่น้อยทีเดียว  นอกจากนี้ ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดของฝั่งจีนนั้น  ผุ้ที่ได้รับเลือกอันดับหนึ่ง คือ Ju Jingyi นั้น ได้คะแนนโหวตในจีนสูงยิ่งกว่า ผลโหวตล่าสุดของซาชิฮาระ ริโน่ เสียอีก

2.  ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการจีนนั้น เป็นคู่ค้าที่ไม่น่าไว้ใจ หากลองมองดูในภาคธุรกิจ หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จีนจะให้ความสำคัญกับการกินรวบทุกอย่าง  (ซึ่งปัจจัยหนึ่งนั้นอาจจะเป็นความคิดที่มีมาตั้งแต่อดีตที่มองว่าประเทศจีนคือศูนย์กลางของโลก ดังชื่อ 中国) มากกว่าที่ จะเป็น win-win solution   ตอนแรกๆอาจจะดีอยู่ แต่ถ้าพร้อมเมื่อไรก็จะฮุบทันที
การแยกตัวของ SNH48 นี้เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดถึงความจริงเรื่องนี้ และก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าในอนาคต จะไม่มีการตลบหลังอีก ถึงจะไม่ใช่ในรูปแบบเดียวกับ SNH48 ก็เป็นรูปแบบอื่น


3. รัฐบาลจีนเอง มีนโยบายใช้ "ผู้บริโภคจีน" และ "ตลาดบันเทิง" เป็นอาวุธของตน เมื่อเกิดประเด็นปัญหาขึ้นกับคู่กรณี
และก็สามารถปั่นกระแสให้ผู้บริโภคจีนเกิดความชาตินิยม คล้อยตามไปด้วยได้
ยกตัวอย่างเช่น
-  ตอนแรกเริ่มตั้ง SNH48 จีนมีปัญหาเรื่องเกาะเซนคาคุกับญี่ปุ่นรุนแรง  มิซาซาวะ ซาเอะ ก็ถูกดองเรื่องใบอนุญาตทำงาน ไม่สามารถออกสเตจได้ไปพักใหญ่ๆ หรือแม้แต่ (อดีต)ดาราหนังผู้ใหญ่ที่เป็นที่นิยมในจีนอย่าง โซระ อาโออิ ก็ไดนแอนตี้เหมือนกัน ถึงแม้เจ้าตัวจะพยายามออกมาโพสต์ว่า
"ญี่ปุ่น-จีน เป็นมิตรกันนะ" ก็โดนตั้งแง่ว่าทำไมเอาชื่อญี่ปุ่นขี้นข้างหน้าจีน ฝั่งเจ้าตัวก็ยอมแก้โพสต์เป็น "จีน-ญี่ปุ่น"
- หลังมีกรณีการตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD  ละครเกาหลีและเพลง K pop ก็ถูกจำกัดการฉายเป็นอย่างมาก
- หนัง Hollywood ใหญ่ๆ ช่วงหลัง จะมีนโยบายว่ายังไงๆ ต้องมีตัวละครจีนโผล่ออกมาให้เห็นเท่ๆสวยๆ  ทั้งๆที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง
ปัจจัยหนึ่งเป็นเพราะบริษัทจีนเข้าไปลงทุนในค่ายหนัง ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งมีอยู่ว่า ถ้าจีนไม่พอใจในตัวหนัง ก็จะไม่อนุญาตให้นำมาฉาย จึงต้องเอาใจ

การที่ทั้งจีนและญี่ปุ่นมีความเป็นไม้เบื่อไม้เมาทางด้านการเมืองระหว่างประเทศมายาวนาน ย่อมมีความเป็นไปได้ว่า วันดีคืนดี รัฐบาลจีนก็อาจจะนำไอดอลมาเป็นอาวุธกดดันทางการเมืองก็ได้ ซึ่งจากโครงสร้างทางการเมืองและธุรกิจในจีนนั้น บริษัทใหญ่ๆของจีน อยู่ในฐานะสั่งได้ และตลาดผู้บริโภคอยู่ในสภาพปั่นได้

--------------------------------------------

ตัวอย่างที่จะยกต่อไปนี้อาจจะสุดโต่งไปหน่อนครับ แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากในอนาคตเป็นอย่างนี้
-  เกิดเหตุที่ คามิ 7 หรือเซนบัตสึทั้ง 15 เป็นเมมเบอร์จีนทั้งหมด ส่วนเหล่าสาวๆที่เรารู้จักกันดี (ถ้าหากเจ้าตัวยังไม่แกรดไปก่อน)   อย่าง จูรินะ ซายาเน่ ซากุระ หลุดไปเป็น Undergirls (ซึ่งดูจากจำนวนโหวตในการเลือกตั้งของ 48 จีนแล้ว จีนมีศักยภาพในการเอาคนของตนป้อนเข้าใส่ 15 อันดับแรกได้สบายๆ )
-  ฝ่ายธุรกิจจีนเข้าไปมีแทรกแซงการโปรโมท การออกรายการมากขึ้น มีการกดดันให้เอาเมมเบอร์จีนใส่เข้าไปในซิงเกิ้ลที่ไม่ใช่เลือกตั้งมากขึ้น
-  คาแรคเตอร์ของไอดอล จากเดิมที่จะต้องเป็นแนวญี่ปุ่น ก็จะออกแนวจีนแทน

มันคงน่ากลัวไม่น้อย ที่ตัวตนของ "ไอดอลแห่งชาติ"ญี่ปุ่นที่เราๆท่านๆตามนั้น ก็จะเริ่มจางลงไป

การที่ SNH48 รีบแยกตัวออกไปเนิ่นๆนั้น นับว่าเป็นการทำให้ปลดชนวนระเบิดลูกนี้ไปอย่างไม่ตั้งใจ แต่ในเมื่อ 48 group ตัดสินในเข้าสู่ตลาดจีนใหม่ ระเบิดเวลาลูกนี้ก็เริ่มทำงานอีกครั้งหนึ่ง

แน่นอนว่า เม็ดเงินในตลาดจีนนั้นมหาศาลยากเกินห้ามใจสำหรับคนทำธุรกิจ แต่การกลับเข้าสู่ตลาดจีนครั้งนี้ ของ 48 group นี้จำเป็นต้องระวังให้มากครับ (ส่วนตัวเห็นว่า ควรเน้นเปิด shop จัดคอนเสิร์ตเป็นระยะๆ หรือทำ event แบบ collaboration กับสื่อบันเทิงจีน โดยไม่ต้องตั้งยูนิตใหม่ จะดีกว่าครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่