ยาวหน่อยนะคะ
ทุกคนมีเหตุผลในการ..ทานเจ..ที่แตกต่างกันไปนะคะ
ส่วนตัวเองคือ..ไม่ได้ทานเอาบุญ แต่มันมีอะไรที่ประทับใจไม่รู้ลืมที่เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อปีที่ผ่านมา (แต่ก่อนหน้านั้นก้อเป็นคนชอบทานเจอยู่แล้ว เคยงดทานเนื้อสัตว์ยาวนานถึงหกเดือนมาก่อนแล้วปรากฏว่าสุขภาพดียอดเยี่ยม ดวงตาที่เคยพร่ามัวสั้นและเอียงก้อกลับมองชัดแจ๋วได้อย่างปาฏิหารย์)
เรื่องมีอยู่ว่า..เมื่อปีที่แล้วก่อนทานเจได้อธิษฐานว่า ขออุทิศบุญกุศลในการทานเจครั้งนี้ให้กับสัตว์ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านมาโดยการกินเขา ขอให้เขามาอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้าด้วยเทอญ แล้วเราจะเอากายเนื้อของเรานี้ปฏิบัติธรรมทำความดีให้เขาทั้งหลายต่อไป
ตอนอฐิษฐานนั้นก้อไม่ได้นั่งสวดมนต์ ไม่ได้กราบกราน ไม่ได้ขอต่อหน้าพระแต่อย่างใด คิดขึ้นมาเฉย ๆ ตอนนั่งอยู่โซฟาในห้องรับแขก
พอวันที่สามที่กินเจ ปรากฏว่า..ตุ่มนูนตรงข้อมือ และ หลังมือซึ่งใหญ่มาก ที่เป็นมาแล้วสองปี และจะเจ็บปวดทรมานมากตอนนอน..เคยส่งรูปให้น้องดู เคยเซริท์ในกูเกิ้ลว่าจะไปผ่าออก ...ได้อันตรธานหายไปอย่างไม่มีสาเหตุ ...หายไปเฉย ๆ ต่อหน้าต่อตา หาไม่เจอ กดดูก้อไม่เจ็บ
มันก้อเลยเป็นความเชื่อที่ฝังแน่นว่าปาร์ฏิหารย์นั้นมีจริงอย่างแน่นอน (อันนี้ประกอบกับหลาย ๆ เรื่องที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่านมา)
เรื่องนี้ไม่ได้กุขึ้น แล้วแต่ใครจะเชื่อก้อได้ ไม่เชื่อก้อได้ค่ะ ...เห็นว่าดีมีประโยชน์เผื่อใครจะนำไปใช้บ้าง
เคล็ดลับก้อคือ..เราไม่ได้ขออะไร แต่เราขออุทิศบุญกุศล (หากมี) ให้เขาด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ และขอโทษจากส่วนลึกของจิตใจ ตอนนั้นเราไม่อยากได้อะไรจริง ๆ แค่อยากขออโหสิกรรม เท่านั้นเอง
หลังจากนั้นเกือบทุกครั้งที่จะทานเนื้อสัตว์ (คือหลายครั้งเราก้อลืม) เราก้อจะขอเขาก่อน ขออโหสิกรรม ขอให้เราเป็นผู้มีสติปัญญา ได้มีชีวิตอยู่ทำความดี สาธุ..สาธุ..สาธุ..
สรุปทานก้อได้ ไม่ทานก้อได้ (สามีที่บ้านก้อไม่ทานเจ) แล้วแต่ความเชื่อ คือเราทานแล้วเราสบายใจ ชอบ อร่อยด้วย รสชาดมันบริสุทธิ์จริง ๆ ค่ะ
เหตุผลในการ..ทานเจ
ทุกคนมีเหตุผลในการ..ทานเจ..ที่แตกต่างกันไปนะคะ
ส่วนตัวเองคือ..ไม่ได้ทานเอาบุญ แต่มันมีอะไรที่ประทับใจไม่รู้ลืมที่เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อปีที่ผ่านมา (แต่ก่อนหน้านั้นก้อเป็นคนชอบทานเจอยู่แล้ว เคยงดทานเนื้อสัตว์ยาวนานถึงหกเดือนมาก่อนแล้วปรากฏว่าสุขภาพดียอดเยี่ยม ดวงตาที่เคยพร่ามัวสั้นและเอียงก้อกลับมองชัดแจ๋วได้อย่างปาฏิหารย์)
เรื่องมีอยู่ว่า..เมื่อปีที่แล้วก่อนทานเจได้อธิษฐานว่า ขออุทิศบุญกุศลในการทานเจครั้งนี้ให้กับสัตว์ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านมาโดยการกินเขา ขอให้เขามาอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้าด้วยเทอญ แล้วเราจะเอากายเนื้อของเรานี้ปฏิบัติธรรมทำความดีให้เขาทั้งหลายต่อไป
ตอนอฐิษฐานนั้นก้อไม่ได้นั่งสวดมนต์ ไม่ได้กราบกราน ไม่ได้ขอต่อหน้าพระแต่อย่างใด คิดขึ้นมาเฉย ๆ ตอนนั่งอยู่โซฟาในห้องรับแขก
พอวันที่สามที่กินเจ ปรากฏว่า..ตุ่มนูนตรงข้อมือ และ หลังมือซึ่งใหญ่มาก ที่เป็นมาแล้วสองปี และจะเจ็บปวดทรมานมากตอนนอน..เคยส่งรูปให้น้องดู เคยเซริท์ในกูเกิ้ลว่าจะไปผ่าออก ...ได้อันตรธานหายไปอย่างไม่มีสาเหตุ ...หายไปเฉย ๆ ต่อหน้าต่อตา หาไม่เจอ กดดูก้อไม่เจ็บ
มันก้อเลยเป็นความเชื่อที่ฝังแน่นว่าปาร์ฏิหารย์นั้นมีจริงอย่างแน่นอน (อันนี้ประกอบกับหลาย ๆ เรื่องที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่านมา)
เรื่องนี้ไม่ได้กุขึ้น แล้วแต่ใครจะเชื่อก้อได้ ไม่เชื่อก้อได้ค่ะ ...เห็นว่าดีมีประโยชน์เผื่อใครจะนำไปใช้บ้าง
เคล็ดลับก้อคือ..เราไม่ได้ขออะไร แต่เราขออุทิศบุญกุศล (หากมี) ให้เขาด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ และขอโทษจากส่วนลึกของจิตใจ ตอนนั้นเราไม่อยากได้อะไรจริง ๆ แค่อยากขออโหสิกรรม เท่านั้นเอง
หลังจากนั้นเกือบทุกครั้งที่จะทานเนื้อสัตว์ (คือหลายครั้งเราก้อลืม) เราก้อจะขอเขาก่อน ขออโหสิกรรม ขอให้เราเป็นผู้มีสติปัญญา ได้มีชีวิตอยู่ทำความดี สาธุ..สาธุ..สาธุ..
สรุปทานก้อได้ ไม่ทานก้อได้ (สามีที่บ้านก้อไม่ทานเจ) แล้วแต่ความเชื่อ คือเราทานแล้วเราสบายใจ ชอบ อร่อยด้วย รสชาดมันบริสุทธิ์จริง ๆ ค่ะ