พอเห็นคำสั่ง กลต ก็ตระหนกตกใจกันซะอย่างกับบริษัทเจ้ง หลายคนเห็นตัวเลข 54 ล้านเหรียญก็ตื่นตูมกันไปแล้ว ไอ้ 54 ล้านเหรียญนี่(คิดเป็นเงินไทยที่อัตราแลกเปลี่ยน 33 บาท ต่อ ดอล ก็ประมาณ 1800 ล้าน) คือจำนวนเงินปล่อยกู้ที่เป็นปัญหาไม่ใช่กำไรนะ ดอกเบี้ย 14-25 % ตีไปคร่าว  ๆ ก็ประมาณ 19% ต่อปี ก็จะเป็นรายได้ประมาณ 340 ล้านบาทต่อปี(หรือเปล่า) (อันนี้คำนวณเองเออเองอาจไม่ถูกนะ) อันนี้คือรายได้นะไม่ใช่กำไร แต่สมมติให้เงินจำนวนนี้เป็นกำไรที่ต้องตัดออกจากงบทั้งหมด ปีนี้กำไรครึ่งปีอยู่ที่ 664 ล้าน หักกำไรจากที่ปล่อยกู้ 54 ล้านเหรียญไปครึ่งปีก็จะประมาณ 170 ล้าน ก็จะเหลือกำไรครึ่งปีแรก ประมาณ 490 ล้าน ก็พอ ๆ กับกำไรปีครึ่งปีของปีที่แล้วนะ แต่ราคานี่หุ้นนี่ต่างกันราวฟ้ากับเหว 60 กับ 9 บาท ส่วนที่บอกว่าถ้ามีการตรวจสอบพบธุรกรรมอำพรางเพิ่มอีกก็อาจปรับลดอีก แต่โดยส่วนตัว (ย้ำแค่ส่วนตัว) มองว่าเขาน่าจะออดิทบัญชีมาละเอียดแล้วนะถึงได้พบจำนวนนี้(แต่ก็เป็นไปได้ที่จะมีอีกก็ต้องตรวจสอบกันไป) ถ้าหากว่าจำนวนที่ต้องหักมีเท่านี้จริง ๆ โดยส่วนตัวก็มองว่า GL ก็ทำกำไรได้เยอะอยู่นะจากธุรกิจตอนแรกนึกว่าจะถูกหักเป็นพัน ๆ ล้านซะอีกจากราคาที่ลงมาแบบกราวรูด และถ้าดูงบการเงินเฉพาะกิจการก็มากกว่างบการเงินรวมนะเท่าที่ดู
   เห็นหลายคนบอกว่าอาจเหมือน earth หรือ ifec มันจะเหมือนกันได้ไงอันนั้นขาดทุนแถมเป็นหนี้หมื่น ๆ ล้าน อันนี้แค่กำไรหายไป 3 ร้อยกว่าล้านคิดเป็นประมาณ 30% กว่า ๆ แต่ราคาลงมาแล้วกว่า 85%  โดยส่วนตัวมองว่าคำสั่งกลตทำให้ทุกอย่างมันชัดเจนมากกว่านะ อย่างน้อยก็รู้ว่ากำไรที่หายไปคือเท่าไหร่ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าน้อยกว่าที่คาดถ้าดูจากราคาที่ลงมามากขนาดนี้  ส่วนที่กลตบอกว่าถ้าไม่แก้จะถูกให้ออกจากตลาด คือบริษัทก็คงต้องปรับบัญชีในท้ายที่สุดแหละ แต่ที่ไม่ปรับเพราะกลัวเสียภาพพจน์ไง แต่ถ้าต้องออกจากตลาดความเสียหายมันจะเยอะกว่ามาก ถ้าปรับบัญชีให้ถูกราคาก็มีสิทธิ์วิ่งได้เลยนะเพราะกำไรที่เหลือก็เยอะอยู่
ป.ล.กรุณาอ่านด้วยสตินะไม่ต้องเชื่อเพราะเป็นแค่ความคิดเห็นไม่ใช่บทวิเคราะห์ใด ๆ  แค่อยากเผื่อเแผ่มุมมองแค่นั้นแหละเห็นตื่นตูมกันจัง 55 แต่คิดว่าคงมีหลายคนรอช้อนราคาเปิดพรุ่งนี้เยอะแน่เลย อิอิ
แต่ถ้าให้แฟร์กลตน่าจะขึ้น SP ไปก่อนจนกว่าจะแก้ไขงบเสร็จน่าจะดีกว่าปล่อยให้เทรดท่ามกลางความไม่แน่นอนนะ