การเดินทางเริ่มต้นที่ เรารวมตัวกัน เป็นเพื่อนๆกลุ่มคนเลี้ยงกระต่ายที่เราก็รู้จักกันมาหลายปีละ
บางคนก็เคยไปเกาะมาแล้ว บางคนก็ยัง รวมทั้งเราด้วย ยังไม่เคยไป ก็เรียกได้ว่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียว และนี้ก็ยังเป็นครั้งแรกของเราในการเดินทางไปโอซาก้าอีกด้วยยยย
มาเรียงรายการสิ่งจำเป็นก่อน
1. ตั๋วเครื่องบิน
2. ที่พักใกล้เกาะกระต่าย(โอโนมิจิ)
3. ที่พักในโอซาก้า
4. บัตร JR Kansai Hiroshima wide pass
มาพูดถึงการเตรียมตัวกันสักนิดนึง เริ่มแรกเลยเราก็ต้องกำหนดวันเดินทางกันก่อน โดยครั้งนี้เราตั้งใจจะให้เป็นทริปที่ประหยัดที่สุด แต่ก็ต้องตรงตามรีเควสที่เพื่อนๆร่วมทริปสบายใจกัน
เมื่อมีข่าวตั๋วราคาประหยัดมาเราก็เลยรีบคว้าไว้เลย คีย์เพื่อให้ได้ตั๋วมาจนตี2 จากที่ถูกที่สุดในคืนนั้นมันประมาณ 7000 กว่าบาท แต่Error ไปหลายครั้ง ทุกคนสมานสามัคคีในการจองตั๋วกันมาก และแล้วเราก็ได้ตั๋วในราคา คนละ 9300 บาท ซึ่งเป็นขาไป โหลดกระเป๋าคู่ละ1 ใบ แต่ขากลับ(ลืมเลือก) โหลดกันคนละใบเลยจ้าาาา…..
จบไปจากเรื่องตั๋วเครื่องบินทีนี้เราก็ได้เวลาเดินทางมาแน่นอนละ คือวันที่ 5 -10 ตุลาคม
เราไปช่วงนี้เช็คแล้วว่าอากาศไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไป สำหรับการวิ่งเล่นร่าเริงของกระต่าย เพราะถ้าหากเราไปในช่วงเดือนพฤษภาคม จะเป็นช่วงกระต่ายตั้งท้องและมีลูกกันเยอะ ช่วงนั้นกระต่ายอาจจะดุสักนิด แล้วก็ถ้าไปหน้าหนาวเลยเช่นเดือนธันวาคม กระต่ายก็อาจจะมุดอยู่ในรูไม่อยากออกมาวิ่งเล่น
ฉะนั้น อากาศดีสำหรับเราก็คือดีสำหรับกระต่ายเช่นกัน แต่ข้อเสียของทริปนี้ที่เราเจอคือ ดวงดี(เราก็ถือว่าไม่แย่) ก็จะเจอฟ้าใส แต่ถ้าดวงร้าย ก็อาจจะเจอฝนตก ทีนี้กระต่ายก็หลบเข้ารู พื้นนองเฉะแฉะกันทีเดียว
กลับเข้ามาเรื่องเตรียมตัว เนื่องจากมีเพื่อนสมาชิกเราเคยไปแล้วได้บอกกล่าวว่าการเดินทางค่อนข้างไกลจากโอซาก้า (แต่ดีที่เดียวนี้มีรถไฟความเร็วสูงเพิ่มขึ้นแล้วจาก 4 ปีที่แล้วยังไม่มี ก็จะเดินทางนานกว่า4 ชม) การเดินทางอย่างเร็วที่สุดจากโอซาก้าไปสถานทีรถไฟท่าเรือ Tadanoumi ประมาณ 2 ชั่วโมง 26นาที แต่นั้นคือการขึ้นรถที่จอดน้อยสุดเร็วสุดทำเวลาดีสุด ซึ่งก็เป็นไปได้แหละที่เราจะเดินทางไปแบบนั้น แต่ก็อาจจะเหนื่อยหน่อย
เราตัดสินใจว่าเพื่อที่จะให้เราไปถึงเกาะได้เร็วและสะดวกที่สุด ก็เลยหาที่พักที่ใกล้ที่สุด (ถ้ามีงบก็ไปนอนเกาะเลย) ซึ่งเมืองที่ใกล้แล้วก็พอมีที่พักในราคาที่ดีคือเมือง Onomichi ที่พักที่เราหาได้คือ บ้านของคุณ Hideo คือที่ Miharashi-tei Onomichi guesthouse ( 尾道ゲストハウスみはらし亭) โดยจองได้หลายช่องทาง แต่ที่เราไปเจอคือจากทาง Airbnb และการเดินทางไปที่นี้ในครั้งนี้เราไปกันทั้งหมด 9 คน
ที่พักตกอยู่ที่ US $249 หรือ ประมาณ 7650 บาท ตกคนละ 850 บาท
และที่พักในโอซาก้าอีก 3 คืน ที่ Toyoko Inn Osaka Abeno Tennoji รวมค่าสมัครสมาชิก ¥8989+¥15386 = ¥24375 เป็นเงินไทย 7313 บาท
รวมๆแล้วทริปนี้ค่าที่พักตกอยู่ที่ 8163 บาท
ซื้อ JR Pass Kasai Hiroshima Wide pass เราซื้อที่งานท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้ในราคา 3900 ปกติประมาณ 4000ต้นๆ ทำไมซื้อใบนี้ ซื้อKasai Wide Pass ไม่ถูกกว่าเหรอ ตอบค่ะว่าไม่ เพราะ ที่ที่เราจะไปคือเกาะกระต่าย ซึ่งมันจะคุ้มก็ตรงชินคังเซนนี่แหละเพราะบัตรนี้สามารถนั่งชินคังเซนไปถึงที่ฮิโรชิม่าได้เลย ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มแล้ว แต่ข้อเสียเล็กๆก็คือ เราไม่สามารถนั่งในส่วนของเก้าอี้จองได้ ก็รีบชิงเข้าไปนั่ง Non-reserve seat กันไปค้าาาา สถานีที่เราต้องไป สังเกตุ Onomichi Mihara นะคะ
ออกเดินทางกันเลยยย.............
พร้อมเพียงกันที่สนามบินตอน 11 โมง ผ่านเข้าตม ไปอย่างราบรื่น แต่แล้ว เรื่องก็เกิดกับเรานั้นคือ
เราไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันตัว Sim2Fly มา คือถ้าซื้อกับที่ร้านก็ไม่มีปัญหา อันนี้ไปสั่งซื้อทางเว็บ จริงๆก็ต้องไปยืนยันตัวที่ร้านอยู่ดี
แต่ด้วยความที่เคยมีซิมอยู่แล้วอันนึง ก็เลยลองหาทางเติมเงินใช้ได้ รอดไป
ถ้ามีซิมอยู่แล้วก็เพียงเติมเงิน 290 ก็ลงทะเบียนใช้เน็ต 7 วัน 4 กิ๊กได้เลย เออมันก็ง่ายดี
จากนั้นด้วยความที่เป็นเที่ยวบินตอนบ่าย กว่าจะไปถึงที่โน่น เทียบเวลาไทยก็คือ 2 ทุ่ม แต่ที่โน่นคือถึงตอน 4 ทุ่ม มันก็เลยเกิดความหิว อดใจไม่ได้ก็เลยจำใจต้องสั่งอาหารกิน
#เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าบินรอบบ่ายสั่งอาหารตั้งแต่ตอนซื้อตั๋วดีกว่า
อิ่มท้องนอนหลับ พอลงจากสนามบินก็เดินๆมุ่งหน้าไปตามทางเลย ออกมามองไปทางซ้ายมือมีบรรไดเลื่อน ไป F2 เดินขึ้นไปเดินย้อนไปทางตึกที่มาแล้วอ้อมไปข้ามอีกสะพานนึงเดินไปทางซ้าย จะมีที่ขายตั๋วมากมายและ JR Office ก็ไปลงทะเบียนตั๋วกันให้เรียบร้อย
เข้ารถไฟ ลงบรรไดเลือนมาก็จะเจอชานชะลาเลย
ดูสายรถให้แน่ใจ ขึ้นให้ถูกชานชะลา แต่ก็ดูเหมือนไม่ยากนะ ก็เข้ามาถึงในเมือง เราลงกันที่ Tennoji เดินไปพักที่โรงแรม Toyoko Inn Osaka Abeno Tennoji
ระหว่างทางแวะร้านFamily mart ซื้อน้ำเปล่ารสชา ลองกันไป ส่วนตัวชอบนะ รู้สึกตื่นเต้น มันได้กลิ่นและ
รสชาติชามากอย่างน่าแปลกใจ แต่ถ้าเทียบกับชาข้นๆบางทีก็คงต้องยอมรับว่าไม่ขนาดนั้น
ราคา ¥124
เข้าที่พักแล้วก็ออกมาเดินช๊อป Family martใหม่ หาอะไรกินกันยันตี3
ตรงนั้นมีดองกี้ให้ช๊อปทั้งคืนด้วย สะดวกดีมาก
โดยที่ตอนเช้าก็ต้องรีบเดินทางต่อ นัดกันที่ล๊อบบี้ 6 โมง
เช้าวันแรกของการท่องเที่ยว (วันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม 2017)
เป้าหมายแรก ปราสาทฮิเมจิ Himeji Castle ค่าเข้าประตู 1000 เยน ถ้าเดินชมสวนด้วยเพิ่มอีก 40 เยน
เราซื้อกันแบบ 1040 เยน (312 บาท) แต่สรุปเวลาที่แพลนไม่พอสำหรับเดินเล่นสวน
ต่อด้วยกินเนื้อที่โกเบ เสียไปอีกคนละ 4534 เยน (เงินไทยประมาณ 1360บาท)
เดินเที่ยวลั้นล้าแวะร้าน 100เยน จากนั้นพอนึกได้ว่าเฮ้ย ต้องรีบไปขึ้นรถละไม่งั้นจะได้เดินทางนาน ก็รีบกันใหญ่ แต่แล้วก็มีการปวดปัสสาวะขึ้นมา พลาดกันไป 2 นาที รอรถไปค่ะ ทำให้ไปถึงที่โอโนชิม่า ช้าไปถึงเกือบ 1 ทุ่ม (กระเช้าที่จะขึ้นไปบ้านพักก็ได้จบไป) ทำยังไงละ กินชิวอยู่ในตลาดในเมือง(ซึ่งก็มีน้อยร้านแล้วที่เปิดอยู่) แล้วก็แบกกระเป๋ากันขึ้นไปค่ะ
เช้าวันที่2 ลงจากเขาไปเกาะกระต่าย (วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2017)
เดินทางไปเกาะกระต่าย ออกจากสถานที Onomichi ตั้งแต่ 6 โมง ถ้าให้ดีออกไปตั้งแต่ตีห้ากว่าๆเลย แต่ไม่ไหวจริงๆ
ไปดูวีดีโอได้ที่
https://www.youtube.com/embed/z-TzvZ02A3U
จาก Onomishi ต้องไปเปลี่ยนรถที่ Mihara แล้วก็ต่อมาที่ Tadanoumi ลงมาก็เจอป้ายกระต่ายน้อยน่ารักเลย
เดินออกมาเลี้ยวขวา แล้วก็เดินตามทางมาจนถึงคลองเล็กๆ
แวะถ่ายรูป เลี้ยวตรงนี้แหละ เดินมานิดเดียวก็จะเจอร้านของที่ระลึก สำหรับเกาะกระต่าย
ก็ต่อแถวซื้อตั๋วกันไป ซื้อที่ตู้นะ หยอดเหรียญ ราคา 620 เยน สำหรับไปกลับ
ขอบคุณพรีเซนเตอร์สาวสวย 555
บะบายฝั่งญี่ปุ่น เราใช้เวลาในการเดินทางไปเกาะ 15 นาที
พอลงจากเรือเดินออกมาจะมีรถที่ขับวนในเกาะ ขึ้นฟรี เราก็เลยเลือกที่จะขึ้นมาลงหน้าโรงแรม เพราะเป็นจุดที่เพื่อนที่เคยมาแนะนำว่าตรงนี้กระต่ายจะเยอะ
น้องๆมาทักทายขออาหารกันน่ารักมากๆ เราก็ไม่รอช้า แกะถุง(ที่แบกมา) แจกเลยยย
น้องๆก็จะวิ่งตามๆกันมาเยอะแยะเลย
กระต่ายที่นั้นเชื่อง แล้วก็เข้าหาคน น่ารักมากเลย คิดถึงงง
จุดที่กระต่ายเยอะๆ มาตรงที่หน้าโรงแรมจะดีกว่านะ
หลังจากเกาะกระต่ายเราก็มุ่งหน้ากลับโอซาก้า พักที่พักเดิม แล้วก็ไปเที่ยวนารา ไปหาน้องกวาง
เช้าวันที่3 ไปหาน้องกวางและเมืองเกียวโต (วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2017)
*วันที่ร้อนมาก
แล้วก็มาแวะวัดที่เกียวโต ที่เป็นเสาแดงๆ แต่คนเยอะมากเลยท้อใจก่อน
จากนั้นก็ไปกินไปเดินที่เกียวโต ป่าไผ่
จบทริปที่โอซาก้า
เช้าวันที่4 ช๊อปปิ้งกันให้เต็มที่ก่อนกลับ (วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2017)
ถ่ายรูปกับสัญลักษณ์โอซาก้าสะหน่อย เดียวจะหาว่าไม่ถึง
รวมทั้งทริปเสียเงินที่จำเป็นไป 9300+8163+3900 +312+ 1360 = 23035 บาท
แลกๆเงินไปช๊อปเกินไมไ่ด้ช๊อปสะเยอะเลย รวมๆแล้วก็ น่าจะ สามหมื่นกว่าๆเท่านั้นแหละ
[CR] ไปเที่ยวเกาะกระต่าย เกาะโอคูโนชิมะ ญี่ปุ่น (okunoshima Island) กับคนเลี้ยงกระต่าย
การเดินทางเริ่มต้นที่ เรารวมตัวกัน เป็นเพื่อนๆกลุ่มคนเลี้ยงกระต่ายที่เราก็รู้จักกันมาหลายปีละ
บางคนก็เคยไปเกาะมาแล้ว บางคนก็ยัง รวมทั้งเราด้วย ยังไม่เคยไป ก็เรียกได้ว่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียว และนี้ก็ยังเป็นครั้งแรกของเราในการเดินทางไปโอซาก้าอีกด้วยยยย
มาเรียงรายการสิ่งจำเป็นก่อน
1. ตั๋วเครื่องบิน
2. ที่พักใกล้เกาะกระต่าย(โอโนมิจิ)
3. ที่พักในโอซาก้า
4. บัตร JR Kansai Hiroshima wide pass
มาพูดถึงการเตรียมตัวกันสักนิดนึง เริ่มแรกเลยเราก็ต้องกำหนดวันเดินทางกันก่อน โดยครั้งนี้เราตั้งใจจะให้เป็นทริปที่ประหยัดที่สุด แต่ก็ต้องตรงตามรีเควสที่เพื่อนๆร่วมทริปสบายใจกัน
เมื่อมีข่าวตั๋วราคาประหยัดมาเราก็เลยรีบคว้าไว้เลย คีย์เพื่อให้ได้ตั๋วมาจนตี2 จากที่ถูกที่สุดในคืนนั้นมันประมาณ 7000 กว่าบาท แต่Error ไปหลายครั้ง ทุกคนสมานสามัคคีในการจองตั๋วกันมาก และแล้วเราก็ได้ตั๋วในราคา คนละ 9300 บาท ซึ่งเป็นขาไป โหลดกระเป๋าคู่ละ1 ใบ แต่ขากลับ(ลืมเลือก) โหลดกันคนละใบเลยจ้าาาา…..
จบไปจากเรื่องตั๋วเครื่องบินทีนี้เราก็ได้เวลาเดินทางมาแน่นอนละ คือวันที่ 5 -10 ตุลาคม
เราไปช่วงนี้เช็คแล้วว่าอากาศไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไป สำหรับการวิ่งเล่นร่าเริงของกระต่าย เพราะถ้าหากเราไปในช่วงเดือนพฤษภาคม จะเป็นช่วงกระต่ายตั้งท้องและมีลูกกันเยอะ ช่วงนั้นกระต่ายอาจจะดุสักนิด แล้วก็ถ้าไปหน้าหนาวเลยเช่นเดือนธันวาคม กระต่ายก็อาจจะมุดอยู่ในรูไม่อยากออกมาวิ่งเล่น
ฉะนั้น อากาศดีสำหรับเราก็คือดีสำหรับกระต่ายเช่นกัน แต่ข้อเสียของทริปนี้ที่เราเจอคือ ดวงดี(เราก็ถือว่าไม่แย่) ก็จะเจอฟ้าใส แต่ถ้าดวงร้าย ก็อาจจะเจอฝนตก ทีนี้กระต่ายก็หลบเข้ารู พื้นนองเฉะแฉะกันทีเดียว
กลับเข้ามาเรื่องเตรียมตัว เนื่องจากมีเพื่อนสมาชิกเราเคยไปแล้วได้บอกกล่าวว่าการเดินทางค่อนข้างไกลจากโอซาก้า (แต่ดีที่เดียวนี้มีรถไฟความเร็วสูงเพิ่มขึ้นแล้วจาก 4 ปีที่แล้วยังไม่มี ก็จะเดินทางนานกว่า4 ชม) การเดินทางอย่างเร็วที่สุดจากโอซาก้าไปสถานทีรถไฟท่าเรือ Tadanoumi ประมาณ 2 ชั่วโมง 26นาที แต่นั้นคือการขึ้นรถที่จอดน้อยสุดเร็วสุดทำเวลาดีสุด ซึ่งก็เป็นไปได้แหละที่เราจะเดินทางไปแบบนั้น แต่ก็อาจจะเหนื่อยหน่อย
เราตัดสินใจว่าเพื่อที่จะให้เราไปถึงเกาะได้เร็วและสะดวกที่สุด ก็เลยหาที่พักที่ใกล้ที่สุด (ถ้ามีงบก็ไปนอนเกาะเลย) ซึ่งเมืองที่ใกล้แล้วก็พอมีที่พักในราคาที่ดีคือเมือง Onomichi ที่พักที่เราหาได้คือ บ้านของคุณ Hideo คือที่ Miharashi-tei Onomichi guesthouse ( 尾道ゲストハウスみはらし亭) โดยจองได้หลายช่องทาง แต่ที่เราไปเจอคือจากทาง Airbnb และการเดินทางไปที่นี้ในครั้งนี้เราไปกันทั้งหมด 9 คน
ที่พักตกอยู่ที่ US $249 หรือ ประมาณ 7650 บาท ตกคนละ 850 บาท
และที่พักในโอซาก้าอีก 3 คืน ที่ Toyoko Inn Osaka Abeno Tennoji รวมค่าสมัครสมาชิก ¥8989+¥15386 = ¥24375 เป็นเงินไทย 7313 บาท
รวมๆแล้วทริปนี้ค่าที่พักตกอยู่ที่ 8163 บาท
ซื้อ JR Pass Kasai Hiroshima Wide pass เราซื้อที่งานท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้ในราคา 3900 ปกติประมาณ 4000ต้นๆ ทำไมซื้อใบนี้ ซื้อKasai Wide Pass ไม่ถูกกว่าเหรอ ตอบค่ะว่าไม่ เพราะ ที่ที่เราจะไปคือเกาะกระต่าย ซึ่งมันจะคุ้มก็ตรงชินคังเซนนี่แหละเพราะบัตรนี้สามารถนั่งชินคังเซนไปถึงที่ฮิโรชิม่าได้เลย ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มแล้ว แต่ข้อเสียเล็กๆก็คือ เราไม่สามารถนั่งในส่วนของเก้าอี้จองได้ ก็รีบชิงเข้าไปนั่ง Non-reserve seat กันไปค้าาาา สถานีที่เราต้องไป สังเกตุ Onomichi Mihara นะคะ
ออกเดินทางกันเลยยย.............
พร้อมเพียงกันที่สนามบินตอน 11 โมง ผ่านเข้าตม ไปอย่างราบรื่น แต่แล้ว เรื่องก็เกิดกับเรานั้นคือ
เราไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันตัว Sim2Fly มา คือถ้าซื้อกับที่ร้านก็ไม่มีปัญหา อันนี้ไปสั่งซื้อทางเว็บ จริงๆก็ต้องไปยืนยันตัวที่ร้านอยู่ดี
แต่ด้วยความที่เคยมีซิมอยู่แล้วอันนึง ก็เลยลองหาทางเติมเงินใช้ได้ รอดไป
ถ้ามีซิมอยู่แล้วก็เพียงเติมเงิน 290 ก็ลงทะเบียนใช้เน็ต 7 วัน 4 กิ๊กได้เลย เออมันก็ง่ายดี
จากนั้นด้วยความที่เป็นเที่ยวบินตอนบ่าย กว่าจะไปถึงที่โน่น เทียบเวลาไทยก็คือ 2 ทุ่ม แต่ที่โน่นคือถึงตอน 4 ทุ่ม มันก็เลยเกิดความหิว อดใจไม่ได้ก็เลยจำใจต้องสั่งอาหารกิน
#เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าบินรอบบ่ายสั่งอาหารตั้งแต่ตอนซื้อตั๋วดีกว่า
อิ่มท้องนอนหลับ พอลงจากสนามบินก็เดินๆมุ่งหน้าไปตามทางเลย ออกมามองไปทางซ้ายมือมีบรรไดเลื่อน ไป F2 เดินขึ้นไปเดินย้อนไปทางตึกที่มาแล้วอ้อมไปข้ามอีกสะพานนึงเดินไปทางซ้าย จะมีที่ขายตั๋วมากมายและ JR Office ก็ไปลงทะเบียนตั๋วกันให้เรียบร้อย
เข้ารถไฟ ลงบรรไดเลือนมาก็จะเจอชานชะลาเลย
ดูสายรถให้แน่ใจ ขึ้นให้ถูกชานชะลา แต่ก็ดูเหมือนไม่ยากนะ ก็เข้ามาถึงในเมือง เราลงกันที่ Tennoji เดินไปพักที่โรงแรม Toyoko Inn Osaka Abeno Tennoji
ระหว่างทางแวะร้านFamily mart ซื้อน้ำเปล่ารสชา ลองกันไป ส่วนตัวชอบนะ รู้สึกตื่นเต้น มันได้กลิ่นและ
รสชาติชามากอย่างน่าแปลกใจ แต่ถ้าเทียบกับชาข้นๆบางทีก็คงต้องยอมรับว่าไม่ขนาดนั้น
ราคา ¥124
เข้าที่พักแล้วก็ออกมาเดินช๊อป Family martใหม่ หาอะไรกินกันยันตี3
ตรงนั้นมีดองกี้ให้ช๊อปทั้งคืนด้วย สะดวกดีมาก
โดยที่ตอนเช้าก็ต้องรีบเดินทางต่อ นัดกันที่ล๊อบบี้ 6 โมง
เช้าวันแรกของการท่องเที่ยว (วันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม 2017)
เป้าหมายแรก ปราสาทฮิเมจิ Himeji Castle ค่าเข้าประตู 1000 เยน ถ้าเดินชมสวนด้วยเพิ่มอีก 40 เยน
เราซื้อกันแบบ 1040 เยน (312 บาท) แต่สรุปเวลาที่แพลนไม่พอสำหรับเดินเล่นสวน
ต่อด้วยกินเนื้อที่โกเบ เสียไปอีกคนละ 4534 เยน (เงินไทยประมาณ 1360บาท)
เดินเที่ยวลั้นล้าแวะร้าน 100เยน จากนั้นพอนึกได้ว่าเฮ้ย ต้องรีบไปขึ้นรถละไม่งั้นจะได้เดินทางนาน ก็รีบกันใหญ่ แต่แล้วก็มีการปวดปัสสาวะขึ้นมา พลาดกันไป 2 นาที รอรถไปค่ะ ทำให้ไปถึงที่โอโนชิม่า ช้าไปถึงเกือบ 1 ทุ่ม (กระเช้าที่จะขึ้นไปบ้านพักก็ได้จบไป) ทำยังไงละ กินชิวอยู่ในตลาดในเมือง(ซึ่งก็มีน้อยร้านแล้วที่เปิดอยู่) แล้วก็แบกกระเป๋ากันขึ้นไปค่ะ
เช้าวันที่2 ลงจากเขาไปเกาะกระต่าย (วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2017)
เดินทางไปเกาะกระต่าย ออกจากสถานที Onomichi ตั้งแต่ 6 โมง ถ้าให้ดีออกไปตั้งแต่ตีห้ากว่าๆเลย แต่ไม่ไหวจริงๆ
ไปดูวีดีโอได้ที่ https://www.youtube.com/embed/z-TzvZ02A3U
จาก Onomishi ต้องไปเปลี่ยนรถที่ Mihara แล้วก็ต่อมาที่ Tadanoumi ลงมาก็เจอป้ายกระต่ายน้อยน่ารักเลย
เดินออกมาเลี้ยวขวา แล้วก็เดินตามทางมาจนถึงคลองเล็กๆ
แวะถ่ายรูป เลี้ยวตรงนี้แหละ เดินมานิดเดียวก็จะเจอร้านของที่ระลึก สำหรับเกาะกระต่าย
ก็ต่อแถวซื้อตั๋วกันไป ซื้อที่ตู้นะ หยอดเหรียญ ราคา 620 เยน สำหรับไปกลับ
ขอบคุณพรีเซนเตอร์สาวสวย 555
บะบายฝั่งญี่ปุ่น เราใช้เวลาในการเดินทางไปเกาะ 15 นาที
พอลงจากเรือเดินออกมาจะมีรถที่ขับวนในเกาะ ขึ้นฟรี เราก็เลยเลือกที่จะขึ้นมาลงหน้าโรงแรม เพราะเป็นจุดที่เพื่อนที่เคยมาแนะนำว่าตรงนี้กระต่ายจะเยอะ
น้องๆมาทักทายขออาหารกันน่ารักมากๆ เราก็ไม่รอช้า แกะถุง(ที่แบกมา) แจกเลยยย
น้องๆก็จะวิ่งตามๆกันมาเยอะแยะเลย
กระต่ายที่นั้นเชื่อง แล้วก็เข้าหาคน น่ารักมากเลย คิดถึงงง
จุดที่กระต่ายเยอะๆ มาตรงที่หน้าโรงแรมจะดีกว่านะ
หลังจากเกาะกระต่ายเราก็มุ่งหน้ากลับโอซาก้า พักที่พักเดิม แล้วก็ไปเที่ยวนารา ไปหาน้องกวาง
เช้าวันที่3 ไปหาน้องกวางและเมืองเกียวโต (วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2017)
*วันที่ร้อนมาก
แล้วก็มาแวะวัดที่เกียวโต ที่เป็นเสาแดงๆ แต่คนเยอะมากเลยท้อใจก่อน
จากนั้นก็ไปกินไปเดินที่เกียวโต ป่าไผ่
จบทริปที่โอซาก้า
เช้าวันที่4 ช๊อปปิ้งกันให้เต็มที่ก่อนกลับ (วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2017)
ถ่ายรูปกับสัญลักษณ์โอซาก้าสะหน่อย เดียวจะหาว่าไม่ถึง
รวมทั้งทริปเสียเงินที่จำเป็นไป 9300+8163+3900 +312+ 1360 = 23035 บาท
แลกๆเงินไปช๊อปเกินไมไ่ด้ช๊อปสะเยอะเลย รวมๆแล้วก็ น่าจะ สามหมื่นกว่าๆเท่านั้นแหละ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น