กระทู้นี้ผมเขียนเพื่อนำเสนอประสบการณ์เที่ยวที่เคยไปเกาะกระต่ายโอคุโนะชิม่าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ข้อมูลใดผิดพลาดต้องขออภัยณ.ที่นี้
เกาะโอคุโนะชิม่า (Okunoshima) หรือเกาะกระต่าย จังหวัดฮิโรชิม่า เป็นเกาะที่บางคนอาจเคยเห็นคลิปที่มีฝูงกระต่ายนับสิบๆตัววิ่งตามผู้หญิงคนหนึ่ง เพราะเกาะนี้เต็มไปด้วยกระต่าย แล้วมีวิวทะเลที่สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อนแบบครอบครัว
ที่มาของกระต่ายบนเกาะที่มีมากมายหลายร้อยตัวนั้น มีตำนานเล่าอยู่ 2 เรื่องคือ
1. มีกลุ่มเด็กประถมมาปล่อยกระต่ายชุดหนึ่งไว้บนเกาะนี้ เมื่อประมาณราวๆยุค 70 และเนื่องจากเกาะนี้ไม่มีผู้ล่าตามธรรมชาติ ทำให้กระต่ายขยายรวดพันธุ์เร็ว จนปัจจุบันมีกระต่ายลูกหลานมากมายเต็มเกาะ
2. ย้อนไปสมัยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เกาะโอคุโนะชิม่าเป็นโรงงานผลิตแก็สพิษให้กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นไว้ใช้ทำสงครามแถวภูมิภาคจีนกับแมนจูเรีย จึงเชื่อว่ากระต่ายเหล่านี้คือกระต่ายที่ไว้ใช้ในการทดลอง พอโรงงานปิดตัวลง กระต่ายก็หลุดออกมา
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้แน่ว่าที่มาของกระต่ายเหล่านี้มาจากไหน แต่กระต่ายก็เป็นตัวดึงดูดสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามอย่างไม่ขาดสาย จากที่กล่าวมาว่าเกาะโอคุโนะชิม่าเคยเป็นโรงงานผลิตแก็สพิษ ทำให้ปัจจุบันยังมีซากหลงเหลือของสิ่งก่อสร้างสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้เห็นอยู่ทั่วเกาะ เช่น บังเกอร์, แท่นวางปืนใหญ่, ห้องเก็บถังแก็สพิษ เป็นต้น
แผนการเดินทาง
สิ่งของที่ได้เตรียมไปนอกจากอุปกรณ์ถ่ายภาพกับเสบียงตัวเองแล้ว ต้องมีเสบียงให้น้องกระต่ายด้วย ไม่ใช่อะไรอย่างอื่นนอกจากแครอท พอดีผมซื้อมาจากร้านขายผักใกล้ๆโรงแรม เพราะว่าบนเกาะไม่มีขายอาหารกระต่ายนะ
ผมพักที่โอซาก้าเลยต้องออกจากโรงแรมประมาณ 5.20 น. เพื่อไปยังสถานีชินโอซาก้า (Shin-Osaka) การเดินทางเริ่มด้วยการขึ้นรถไฟชินคันเซ็น Hikari 441 ออกจากสถานีชินโอซาก้าเวลา 6.03 น. ไปลงที่สถานีมิฮาระ (Mihara) เวลา 7.33 น. ซึ่งเป็นการเดินทางที่เร็วสุดจากชินโอซาก้าไปมิฮาระ เพราะสถานีมิฮาระเป็นสถานีเล็ก ทำให้ชินคันเซ็นที่จอดส่วนใหญ่เป็น Kodama (รถธรรมดา) ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม.ครึ่ง
เมื่อมาถึงสถานีมิฮาระ ต้องย้ายจากชานชาลาชินคันเซ็นไปที่ชานชาลารถไฟธรรมดา เพราะเราต้องรอขบวนรถท้องถิ่นสาย JR Kure เที่ยว 8.25 น. ซึ่งมีชั่วโมงละขบวน พลาดทีรอกันนานเลย
จากสถานีมิฮาระ เราต้องนั่งรถไฟอีก 25 นาทีเพื่อไปลงที่สถานีทาดะโนะอุมิ (Tadanoumi) แนะนำว่าให้นั่งฝั่งซ้าย เพราะจะได้เห็นวิวทะเล กับเกาะมากมายข้างทาง
เสริมอีกนิด ทะเลที่เห็นเรียกว่า Seto Inland Sea เป็นทะเลที่อยู่ระหว่างเกาะฮอนชู กับเกาะชิโกะกุ ทะเลส่วนนี้จึงแยกจากมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้มีลักษณะคล้ายๆทะเลสาบ หรือเขื่อนขนาดใหญ่ที่ภูเขาล้อม และมีเกาะเล็ก เกาะน้อยอยู่ตลอดทาง
สถานีทาดะโนะอุมิเป็นสถานีบ้านนอก ขนาดเล็ก ประตูอัตโนมัตไม่มี มีแค่ทางผ่านห้องพนักงานกับเครื่องอ่านบัตร ICOCA (IC Card ของทางคันไซ)
ออกจากสถานีทาดะโนะอุมิต้องเลี้ยวซ้าย (เลี้ยวขวาจะเจอแฟมิลี่มาร์ท สำหรับใครที่ยังมีเสบียงไม่พอแถมยังมีอาหารกระต่ายขายด้วย) ต้องข้ามทางรถไฟ จะเจอห้องขายตั๋วเรือเฟอร์รี่ ผมก็ซื้อตั๋วราคา 620 สำหรับไปกลับ โดยจะได้ตั๋ว 310 เยน/เที่ยว จำนวน 2 ใบ และซื้ออาหารกระต่ายเม็ดอีก 1 ถุง 100 เยน ใครที่กังวลเรื่องภาษาญี่ปุ่นไม่แข็ง มาที่นี่ไม่ต้องห่วง เพราะป้ายส่วนใหญ่มีภาษาอังกฤษอธิบายชัดเจน
เรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะโอคุโนะชิม่ามีให้บริการประมาณชั่วโมงละ 2 เที่ยว ใช้เวลาเดินทาง 12 นาที เที่ยวเรือที่ผมได้คือเที่ยว 9.30น. โดยเราต้องต่อแถวรอเรือที่ท่าเทียบเรือ ก่อนเข้าต้องยื่นตั๋ว 310 เยนให้เจ้าหน้าที่ใบเดียว
ย้ำว่าใบเดียว!เพราะต้องมีอีกใบสำหรับเที่ยวกลับ แล้วบนเกาะไม่มีตั๋วขายนะ
ทุกๆครั้งที่มีเรือเข้ามาจะมีรถบัสฟรีของโรงแรมมาคอยรับแขกของโรงแรม เราก็เนียนเข้าฟรีได้ ผมก็ขึ้นรถบัสไป ระหว่างทางก็เริ่มเห็นน้องกระต่ายเต็มไปหมด เด็กๆในรถก็ตื่นเต้นไปด้วย รถบัสจะพาไปส่งที่หน้าโรงแรม Kyukamura OHKUNOSHIMA ซึ่งเป็นโรงแรมที่ให้พักอาศัยแห่งเดียวบนเกาะนี้ เพราะประชากรคนบนเกาะนี้คือ 0 แล้วที่มีมากสุดก็แน่นอน.....กระต่ายนั้นเอง
กระต่ายที่นี่ดูแต่ละตัวค่อนข้างคุ้นชินกับคนดี ถ้าใครอยากสัมผัสใกล้ๆ ต้องมีอาหารมาล่อนะ เทคนิคที่ผมใช้ล่อกระต่ายคือ เอาอาหารใส่ในถุงพลาสติด เขย่าให้เกิดเสียง กระต่ายที่ได้ยินก็จะวิ่งเข้ามาล้อมเราเอง กระต่ายบางตัวก็ซ่าใช่ย่อย ผมมีแครอทแค่ 5 ชิ้นที่ไม่ได้หั่นแบ่งด้วย กะว่าชิ้นนึงกินหลายๆตัว แรกๆก็ได้ผลถ้าเราจับแครอทอยู่ พอปล่อยมือเท่านั้นแหละ.....กระต่ายผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้ครอบครองแครอทชิ้นนี้ แล้วคาบแครอทวิ่งเข้าพุ่มไม้เลย
การได้เดินสำรวจรอบเกาะเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าทำมาก โดยเราสามารถเช่าจักรยานได้ แต่ผมเลือกเดินเรื่อยๆ เผื่อเจออะไรดีๆจะได้หยุดดู
เส้นทางเดินรอบเกาะค่อนข้างสะดวก เป็นถนนราดยางอย่างดี มีบางส่วนนอกเส้นทางที่ต้องเดินลุยเข้าไปในป่า
การเดินรอบเกาะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าเดินๆหยุดๆแบบผม 2 ชั่วโมงอย่างต่ำ ผมเดินตอนเที่ยง อากาศร้อนพอๆกับเมืองไทย ทะเลก็เป็นทะเลปิด ไม่ค่อยมีลมพัด ยิ่งเดินลึกเข้าไปในเกาะ จะเจอเศษซากสิ่งก่อสร้างมากขึ้น การที่เป็นพื้นที่ทหารเลยต้องสร้างเพื่อหลบการถ่ายภาพทางอากาศจากข้าศึก ทำให้สิ่งก่อสร้างต่างๆต้องซ่อนในป่าลึก
ใครที่เดินๆอยู่กลัวเหงา บรรยากาศวังเวง ไม่ต้องห่วง.....เหงาแน่ 5555
เพราะส่วนป่าลึกจะไม่ค่อยมีใครเข้ามา คนส่วนใหญ่ถูกกระต่ายหน้าโรงแรมดูดไปหมดแล้ว
ผมถือว่าการเดินรอบเกาะนี้ให้ความรู้สึก "แปลกแต่สมดุล" หมายความว่าเกาะนี้เป็นสถานที่สร้างอาวุธไว้สำหรับฆ่าคน อาจดูหดหู่ แต่ระหว่างที่อารมณ์เราอยู่ในความโศกเศร้า มันจะมีน้องกระต่ายน่ารักๆ โผล่ออกมาให้เราเห็นตลอด บวกกับวิวทิวทัศน์รอบๆที่สวยเลยทีเดียว จึงเกิดความรู้สึก 2 แบบในเวลาเดียวกัน
ไฮไลท์อีกจุดของที่นี่คือโกดังร้างขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ เป็นตึกที่หลอนที่สุดในบรรดาสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดบนเกาะนี้
นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์แก๊สพิษ ค่าเข้า 100 เยน
สรุปการเดินรอบเกาะ ผมไปได้ไม่ทั่วจริงๆ เพราะหมดแรง, อากาศร้อน และเวลาไม่พอด้วย ทำให้มีหลายจุดที่ไม่ได้ไปดู โดยเฉพาะจุดชมวิวสวยๆบนยอดเขา ซึ่งผมขึ้นไม่ไหวจริงๆ (โง่ไปขึ้นฝั่งที่ชัน) ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับมาอีก
วิดีโอรีวิว (เกาะกระต่ายอยู่แค่ช่วงครึ่งแรก)
______________________________________________________________________________________
กระทู้อื่นๆ - รายละเอียดของ Japan Rail Pass ที่ควรรู้สำหรับมือใหม่
https://ppantip.com/topic/33875840
______________________________________________________________________________________
เนื้อหานี้คัดลอกจาก Blog ของผมเอง อ่านเนื้อหาเต็มได้ที่
http://cappast.blogspot.com
สอบถาม/ขอคำปรึกษาเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองได้ที่เฟซบุ๊ค
https://www.facebook.com/pg/cappastblog
[CR] เที่ยวเกาะกระต่ายอันลึกลับ (Okunoshima)
เกาะโอคุโนะชิม่า (Okunoshima) หรือเกาะกระต่าย จังหวัดฮิโรชิม่า เป็นเกาะที่บางคนอาจเคยเห็นคลิปที่มีฝูงกระต่ายนับสิบๆตัววิ่งตามผู้หญิงคนหนึ่ง เพราะเกาะนี้เต็มไปด้วยกระต่าย แล้วมีวิวทะเลที่สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อนแบบครอบครัว
ที่มาของกระต่ายบนเกาะที่มีมากมายหลายร้อยตัวนั้น มีตำนานเล่าอยู่ 2 เรื่องคือ
1. มีกลุ่มเด็กประถมมาปล่อยกระต่ายชุดหนึ่งไว้บนเกาะนี้ เมื่อประมาณราวๆยุค 70 และเนื่องจากเกาะนี้ไม่มีผู้ล่าตามธรรมชาติ ทำให้กระต่ายขยายรวดพันธุ์เร็ว จนปัจจุบันมีกระต่ายลูกหลานมากมายเต็มเกาะ
2. ย้อนไปสมัยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เกาะโอคุโนะชิม่าเป็นโรงงานผลิตแก็สพิษให้กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นไว้ใช้ทำสงครามแถวภูมิภาคจีนกับแมนจูเรีย จึงเชื่อว่ากระต่ายเหล่านี้คือกระต่ายที่ไว้ใช้ในการทดลอง พอโรงงานปิดตัวลง กระต่ายก็หลุดออกมา
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้แน่ว่าที่มาของกระต่ายเหล่านี้มาจากไหน แต่กระต่ายก็เป็นตัวดึงดูดสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามอย่างไม่ขาดสาย จากที่กล่าวมาว่าเกาะโอคุโนะชิม่าเคยเป็นโรงงานผลิตแก็สพิษ ทำให้ปัจจุบันยังมีซากหลงเหลือของสิ่งก่อสร้างสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้เห็นอยู่ทั่วเกาะ เช่น บังเกอร์, แท่นวางปืนใหญ่, ห้องเก็บถังแก็สพิษ เป็นต้น
แผนการเดินทาง
สิ่งของที่ได้เตรียมไปนอกจากอุปกรณ์ถ่ายภาพกับเสบียงตัวเองแล้ว ต้องมีเสบียงให้น้องกระต่ายด้วย ไม่ใช่อะไรอย่างอื่นนอกจากแครอท พอดีผมซื้อมาจากร้านขายผักใกล้ๆโรงแรม เพราะว่าบนเกาะไม่มีขายอาหารกระต่ายนะ
ผมพักที่โอซาก้าเลยต้องออกจากโรงแรมประมาณ 5.20 น. เพื่อไปยังสถานีชินโอซาก้า (Shin-Osaka) การเดินทางเริ่มด้วยการขึ้นรถไฟชินคันเซ็น Hikari 441 ออกจากสถานีชินโอซาก้าเวลา 6.03 น. ไปลงที่สถานีมิฮาระ (Mihara) เวลา 7.33 น. ซึ่งเป็นการเดินทางที่เร็วสุดจากชินโอซาก้าไปมิฮาระ เพราะสถานีมิฮาระเป็นสถานีเล็ก ทำให้ชินคันเซ็นที่จอดส่วนใหญ่เป็น Kodama (รถธรรมดา) ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม.ครึ่งเมื่อมาถึงสถานีมิฮาระ ต้องย้ายจากชานชาลาชินคันเซ็นไปที่ชานชาลารถไฟธรรมดา เพราะเราต้องรอขบวนรถท้องถิ่นสาย JR Kure เที่ยว 8.25 น. ซึ่งมีชั่วโมงละขบวน พลาดทีรอกันนานเลยจากสถานีมิฮาระ เราต้องนั่งรถไฟอีก 25 นาทีเพื่อไปลงที่สถานีทาดะโนะอุมิ (Tadanoumi) แนะนำว่าให้นั่งฝั่งซ้าย เพราะจะได้เห็นวิวทะเล กับเกาะมากมายข้างทาง
เสริมอีกนิด ทะเลที่เห็นเรียกว่า Seto Inland Sea เป็นทะเลที่อยู่ระหว่างเกาะฮอนชู กับเกาะชิโกะกุ ทะเลส่วนนี้จึงแยกจากมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้มีลักษณะคล้ายๆทะเลสาบ หรือเขื่อนขนาดใหญ่ที่ภูเขาล้อม และมีเกาะเล็ก เกาะน้อยอยู่ตลอดทาง
สถานีทาดะโนะอุมิเป็นสถานีบ้านนอก ขนาดเล็ก ประตูอัตโนมัตไม่มี มีแค่ทางผ่านห้องพนักงานกับเครื่องอ่านบัตร ICOCA (IC Card ของทางคันไซ)ออกจากสถานีทาดะโนะอุมิต้องเลี้ยวซ้าย (เลี้ยวขวาจะเจอแฟมิลี่มาร์ท สำหรับใครที่ยังมีเสบียงไม่พอแถมยังมีอาหารกระต่ายขายด้วย) ต้องข้ามทางรถไฟ จะเจอห้องขายตั๋วเรือเฟอร์รี่ ผมก็ซื้อตั๋วราคา 620 สำหรับไปกลับ โดยจะได้ตั๋ว 310 เยน/เที่ยว จำนวน 2 ใบ และซื้ออาหารกระต่ายเม็ดอีก 1 ถุง 100 เยน ใครที่กังวลเรื่องภาษาญี่ปุ่นไม่แข็ง มาที่นี่ไม่ต้องห่วง เพราะป้ายส่วนใหญ่มีภาษาอังกฤษอธิบายชัดเจนเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะโอคุโนะชิม่ามีให้บริการประมาณชั่วโมงละ 2 เที่ยว ใช้เวลาเดินทาง 12 นาที เที่ยวเรือที่ผมได้คือเที่ยว 9.30น. โดยเราต้องต่อแถวรอเรือที่ท่าเทียบเรือ ก่อนเข้าต้องยื่นตั๋ว 310 เยนให้เจ้าหน้าที่ใบเดียว
ย้ำว่าใบเดียว!เพราะต้องมีอีกใบสำหรับเที่ยวกลับ แล้วบนเกาะไม่มีตั๋วขายนะ
ทุกๆครั้งที่มีเรือเข้ามาจะมีรถบัสฟรีของโรงแรมมาคอยรับแขกของโรงแรม เราก็เนียนเข้าฟรีได้ ผมก็ขึ้นรถบัสไป ระหว่างทางก็เริ่มเห็นน้องกระต่ายเต็มไปหมด เด็กๆในรถก็ตื่นเต้นไปด้วย รถบัสจะพาไปส่งที่หน้าโรงแรม Kyukamura OHKUNOSHIMA ซึ่งเป็นโรงแรมที่ให้พักอาศัยแห่งเดียวบนเกาะนี้ เพราะประชากรคนบนเกาะนี้คือ 0 แล้วที่มีมากสุดก็แน่นอน.....กระต่ายนั้นเองกระต่ายที่นี่ดูแต่ละตัวค่อนข้างคุ้นชินกับคนดี ถ้าใครอยากสัมผัสใกล้ๆ ต้องมีอาหารมาล่อนะ เทคนิคที่ผมใช้ล่อกระต่ายคือ เอาอาหารใส่ในถุงพลาสติด เขย่าให้เกิดเสียง กระต่ายที่ได้ยินก็จะวิ่งเข้ามาล้อมเราเอง กระต่ายบางตัวก็ซ่าใช่ย่อย ผมมีแครอทแค่ 5 ชิ้นที่ไม่ได้หั่นแบ่งด้วย กะว่าชิ้นนึงกินหลายๆตัว แรกๆก็ได้ผลถ้าเราจับแครอทอยู่ พอปล่อยมือเท่านั้นแหละ.....กระต่ายผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้ครอบครองแครอทชิ้นนี้ แล้วคาบแครอทวิ่งเข้าพุ่มไม้เลย
เส้นทางเดินรอบเกาะค่อนข้างสะดวก เป็นถนนราดยางอย่างดี มีบางส่วนนอกเส้นทางที่ต้องเดินลุยเข้าไปในป่า
การเดินรอบเกาะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าเดินๆหยุดๆแบบผม 2 ชั่วโมงอย่างต่ำ ผมเดินตอนเที่ยง อากาศร้อนพอๆกับเมืองไทย ทะเลก็เป็นทะเลปิด ไม่ค่อยมีลมพัด ยิ่งเดินลึกเข้าไปในเกาะ จะเจอเศษซากสิ่งก่อสร้างมากขึ้น การที่เป็นพื้นที่ทหารเลยต้องสร้างเพื่อหลบการถ่ายภาพทางอากาศจากข้าศึก ทำให้สิ่งก่อสร้างต่างๆต้องซ่อนในป่าลึก ใครที่เดินๆอยู่กลัวเหงา บรรยากาศวังเวง ไม่ต้องห่วง.....เหงาแน่ 5555
เพราะส่วนป่าลึกจะไม่ค่อยมีใครเข้ามา คนส่วนใหญ่ถูกกระต่ายหน้าโรงแรมดูดไปหมดแล้ว
ผมถือว่าการเดินรอบเกาะนี้ให้ความรู้สึก "แปลกแต่สมดุล" หมายความว่าเกาะนี้เป็นสถานที่สร้างอาวุธไว้สำหรับฆ่าคน อาจดูหดหู่ แต่ระหว่างที่อารมณ์เราอยู่ในความโศกเศร้า มันจะมีน้องกระต่ายน่ารักๆ โผล่ออกมาให้เราเห็นตลอด บวกกับวิวทิวทัศน์รอบๆที่สวยเลยทีเดียว จึงเกิดความรู้สึก 2 แบบในเวลาเดียวกัน
ไฮไลท์อีกจุดของที่นี่คือโกดังร้างขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ เป็นตึกที่หลอนที่สุดในบรรดาสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดบนเกาะนี้
นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์แก๊สพิษ ค่าเข้า 100 เยน
สรุปการเดินรอบเกาะ ผมไปได้ไม่ทั่วจริงๆ เพราะหมดแรง, อากาศร้อน และเวลาไม่พอด้วย ทำให้มีหลายจุดที่ไม่ได้ไปดู โดยเฉพาะจุดชมวิวสวยๆบนยอดเขา ซึ่งผมขึ้นไม่ไหวจริงๆ (โง่ไปขึ้นฝั่งที่ชัน) ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับมาอีก
กระทู้อื่นๆ - รายละเอียดของ Japan Rail Pass ที่ควรรู้สำหรับมือใหม่ https://ppantip.com/topic/33875840
เนื้อหานี้คัดลอกจาก Blog ของผมเอง อ่านเนื้อหาเต็มได้ที่ http://cappast.blogspot.com
สอบถาม/ขอคำปรึกษาเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองได้ที่เฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/pg/cappastblog