"บิ๊กป๊อก" ลั่นชาวบ้านอย่าแตกตื่น "ลพบุรี"ไม่จมบาดาล เหตุคันกั้นน้ำมหาลัยฯชำรุด ความจุไม่มากอย่ากังวล เชื่อไม่กระทบเขตเศรษฐกิจ จนท.แก้ปัญหาแล้ว
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์อ่างเก็บน้ำหนองโสน อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี แตกจนทำให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทราบว่าเป็นอ่างเก็บน้ำของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีความจุไม่มาก จึงไม่น่าจะต้องกังวล เพราะไม่ใช่พนังกั้นน้ำใหญ่ของแม่น้ำ ตนเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไร และไม่กระทบต่อเขตเศรษฐกิจในพื้นที่ เพราะปริมาณน้ำไม่มาก อย่างไรก็ตามทราบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ไปดูแลปัญหาดังกล่าวแล้ว ส่วนกรณีที่น้ำได้ไหลท่วมพื้นที่ไร่นาของชาวบ้าน ก็มีกฎเกณฑ์การช่วยเหลือระบุไว้อยู่แล้ว โดยต้องผ่านคณะกรรมการอำเภอ และจังหวัดก่อน
ส่วนในเรื่องของการถวายดอกไม้จันทน์ของประชาชน ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย รมว.มหาดไทยระบุว่า การสัญจรมีเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลให้ประชาชนสามารถเดินทางไปถวายดอกไม้จันทน์ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยได้ เบื้องต้นตนยังไม่ได้รับรายงานว่ามีพื้นที่ที่จัดงานพระราชพิธีมีน้ำท่วม แต่มีบางพื้นที่ในจ.ขอนแก่น ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นสัญจรไม่ได้ ซึ่งการเดินทางอาจต้องใช้รถยกสูง เชื่อว่าภายในพื้นที่คงบริหารจัดการได้
ด้าน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลกับกรมชลประทานพบว่า เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำยมบริเวณ อ.วังชิ้น จ.แพร่ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากลงสู่แม่น้ำยม โดยคาดว่าปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ อ.วังชิ้น จะสูงสุดในวันที่ 18 ต.ค. เวลา 00.00 น.– 02.00 น. ปริมาณน้ำ 325 – 640 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดว่าน้ำจะเดินทางถึงสถานีวัดน้ำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ในวันเดียวกัน เวลา 08.00 น. – 10.00 น. ปริมาณน้ำ 825 – 855 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้เตรียมบริหารจัดการน้ำ โดยบริหารจัดการน้ำสู่คลองหกบาทในอัตรา 200 – 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และควบคุมน้ำผ่านตัวเมืองสุโขทัยไม่เกิน 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสาน จ.สุโขทัย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดแล้ว
อ่านต่อที่ :
https://www.dailynews.co.th/politics/605043
โล่ง!อุดรอยแตกสระเก็บน้ำ โคกสำโรงได้แล้ว !
กรมชลฯ ชี้ปริมาณน้ำที่ไหลจากสระเก็บน้ำ อ.โคกสำโรง ลพบุรี จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในเขตเมือง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำ Big bag ปิดทำนบดินที่ชำรุด
จากกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับอ่างเก็บน้ำโคกสำโรงแตก จังหวัดลพบุรี ประกาศประชาชนรีบเก็บของหนีน้ำ ซึ่งเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์นั้น นายสมเกียรติ ประจำวงษ์อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กรมชลประทานลงพื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ ขอเรียนว่า อ่างเก็บน้ำที่ระบุในข่าวคือ สระเก็บน้ำภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตลพบุรี เป็นงานจัดหาแหล่งน้ำสนับสนุนพื้นที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ความจุ 700,000 ลูกบาศก์เมตร ลักษณะโครงการเป็นสระเก็บน้ำ ไม่ใช่อ่างเก็บน้ำตามที่ปรากฏในข่าว
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 04.00 น. ของเช้าวันที่ 18 ตุลาคม 2560 ขณะเกิดเหตุมีน้ำอยู่ประมาณ 600,000 ลูกบาศก์เมตร คาดการณ์ว่าจะมีน้ำไหลออกจากสระ ประมาณ 320,000 ลูกบาศก์เมตร คงเหลือค้างสระประมาณ 280,000 ลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำดังกล่าวจะไหลหลากผ่านทุ่งนา ประมาณ 200 ไร่ ความลึก เฉลี่ยประมาณ 25 เซนติเมตรลงคลองห้วยปลาหมอ ผ่านหมู่บ้านหนองบัว เกาะแก้ว วังกระทุ่ม ลำละเลง และ ลงสู่ฝายหนองชนะชัยต่อไป
ปัจจุบัน ฝายหนองชนะชัยมีระดับน้ำต่ำกว่าสันฝายประมาณ 1 เมตร ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำส่วนนี้ไว้ได้ทั้งหมด ซึ่งปริมาณน้ำทั้งหมดจะคงอยู่ในลำน้ำ ไม่ล้นตลิ่ง หรือ ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน และพื้นที่ตอนล่างในเขตพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ แต่อย่างใด ล่าสุด สำนักงานชลประทานที่ 10 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดลพบุรี หน่วยทหารในพื้นที่ องค์การบริหารส่วนตำบลเพนียด และกรมทางหลวง ได้ร่วมกันดำเนินการนำเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าปิดทำนบที่ชำรุดดังกล่าว ด้วยเสาเข็มไม้ และถุงBig bag
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาวาอากาศเอก ประภาส เอี่ยมโมฬี ผู้บังคับการกองบิน 2 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบิน 2 ได้จัดเจ้าหน้าที่และกำลังพล จำนวน 35 คน ร่วมให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย โดยทำการบรรจุกระสอบทราย (Big bag) จำนวน 300 ถุง และตอกเสาเข็มไม้ จำนวน 200 ต้น เพื่อเสริมความแข็งแรงให้ทำนบดินที่แตก ซึ่งดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
http://www.banmuang.co.th/news/region/93673
วันนี้มองเห็นท้องฟ้าสดใสกันแล้วใช่ไหมคะ...?
รัฐบาลลุงตู่ทำงานทันอกทันใจ ไม่มีใครสู้ค่ะ...
ฟ้าฝนยังยอมให้ลุงตู่..
~มาลาริน~** สวัสดีค่ะ ฝนซาฟ้าก็ใส..อย่าตกใจ ยืนยัน"ลพบุรี"ไม่จมบาดาล ชี้แค่อ่างเก็บน้ำมหา'ลัยแตก โล่ง!อุดรอยแตกได้แล้ว
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์อ่างเก็บน้ำหนองโสน อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี แตกจนทำให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทราบว่าเป็นอ่างเก็บน้ำของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีความจุไม่มาก จึงไม่น่าจะต้องกังวล เพราะไม่ใช่พนังกั้นน้ำใหญ่ของแม่น้ำ ตนเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไร และไม่กระทบต่อเขตเศรษฐกิจในพื้นที่ เพราะปริมาณน้ำไม่มาก อย่างไรก็ตามทราบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ไปดูแลปัญหาดังกล่าวแล้ว ส่วนกรณีที่น้ำได้ไหลท่วมพื้นที่ไร่นาของชาวบ้าน ก็มีกฎเกณฑ์การช่วยเหลือระบุไว้อยู่แล้ว โดยต้องผ่านคณะกรรมการอำเภอ และจังหวัดก่อน
ส่วนในเรื่องของการถวายดอกไม้จันทน์ของประชาชน ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย รมว.มหาดไทยระบุว่า การสัญจรมีเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลให้ประชาชนสามารถเดินทางไปถวายดอกไม้จันทน์ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยได้ เบื้องต้นตนยังไม่ได้รับรายงานว่ามีพื้นที่ที่จัดงานพระราชพิธีมีน้ำท่วม แต่มีบางพื้นที่ในจ.ขอนแก่น ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นสัญจรไม่ได้ ซึ่งการเดินทางอาจต้องใช้รถยกสูง เชื่อว่าภายในพื้นที่คงบริหารจัดการได้
ด้าน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลกับกรมชลประทานพบว่า เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำยมบริเวณ อ.วังชิ้น จ.แพร่ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากลงสู่แม่น้ำยม โดยคาดว่าปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ อ.วังชิ้น จะสูงสุดในวันที่ 18 ต.ค. เวลา 00.00 น.– 02.00 น. ปริมาณน้ำ 325 – 640 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดว่าน้ำจะเดินทางถึงสถานีวัดน้ำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ในวันเดียวกัน เวลา 08.00 น. – 10.00 น. ปริมาณน้ำ 825 – 855 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้เตรียมบริหารจัดการน้ำ โดยบริหารจัดการน้ำสู่คลองหกบาทในอัตรา 200 – 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และควบคุมน้ำผ่านตัวเมืองสุโขทัยไม่เกิน 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสาน จ.สุโขทัย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดแล้ว
อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/politics/605043
โล่ง!อุดรอยแตกสระเก็บน้ำ โคกสำโรงได้แล้ว !
กรมชลฯ ชี้ปริมาณน้ำที่ไหลจากสระเก็บน้ำ อ.โคกสำโรง ลพบุรี จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในเขตเมือง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำ Big bag ปิดทำนบดินที่ชำรุด
จากกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับอ่างเก็บน้ำโคกสำโรงแตก จังหวัดลพบุรี ประกาศประชาชนรีบเก็บของหนีน้ำ ซึ่งเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์นั้น นายสมเกียรติ ประจำวงษ์อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กรมชลประทานลงพื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ ขอเรียนว่า อ่างเก็บน้ำที่ระบุในข่าวคือ สระเก็บน้ำภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตลพบุรี เป็นงานจัดหาแหล่งน้ำสนับสนุนพื้นที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ความจุ 700,000 ลูกบาศก์เมตร ลักษณะโครงการเป็นสระเก็บน้ำ ไม่ใช่อ่างเก็บน้ำตามที่ปรากฏในข่าว
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 04.00 น. ของเช้าวันที่ 18 ตุลาคม 2560 ขณะเกิดเหตุมีน้ำอยู่ประมาณ 600,000 ลูกบาศก์เมตร คาดการณ์ว่าจะมีน้ำไหลออกจากสระ ประมาณ 320,000 ลูกบาศก์เมตร คงเหลือค้างสระประมาณ 280,000 ลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำดังกล่าวจะไหลหลากผ่านทุ่งนา ประมาณ 200 ไร่ ความลึก เฉลี่ยประมาณ 25 เซนติเมตรลงคลองห้วยปลาหมอ ผ่านหมู่บ้านหนองบัว เกาะแก้ว วังกระทุ่ม ลำละเลง และ ลงสู่ฝายหนองชนะชัยต่อไป
ปัจจุบัน ฝายหนองชนะชัยมีระดับน้ำต่ำกว่าสันฝายประมาณ 1 เมตร ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำส่วนนี้ไว้ได้ทั้งหมด ซึ่งปริมาณน้ำทั้งหมดจะคงอยู่ในลำน้ำ ไม่ล้นตลิ่ง หรือ ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน และพื้นที่ตอนล่างในเขตพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ แต่อย่างใด ล่าสุด สำนักงานชลประทานที่ 10 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดลพบุรี หน่วยทหารในพื้นที่ องค์การบริหารส่วนตำบลเพนียด และกรมทางหลวง ได้ร่วมกันดำเนินการนำเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าปิดทำนบที่ชำรุดดังกล่าว ด้วยเสาเข็มไม้ และถุงBig bag
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาวาอากาศเอก ประภาส เอี่ยมโมฬี ผู้บังคับการกองบิน 2 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบิน 2 ได้จัดเจ้าหน้าที่และกำลังพล จำนวน 35 คน ร่วมให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย โดยทำการบรรจุกระสอบทราย (Big bag) จำนวน 300 ถุง และตอกเสาเข็มไม้ จำนวน 200 ต้น เพื่อเสริมความแข็งแรงให้ทำนบดินที่แตก ซึ่งดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
http://www.banmuang.co.th/news/region/93673
วันนี้มองเห็นท้องฟ้าสดใสกันแล้วใช่ไหมคะ...?
รัฐบาลลุงตู่ทำงานทันอกทันใจ ไม่มีใครสู้ค่ะ...
ฟ้าฝนยังยอมให้ลุงตู่..