บาปสวาทสามสาว





บาปสวาทสามสาว



โดย ล. วิลิศมาหรา



บาปสวาทของคนมาทีหลัง

ฉันมองตามหลังผู้ชายคนนั้นด้วยความรู้สึกวาบหวาม เผลอยกมือขึ้นลูบแก้มข้างที่เขาเพิ่งไล้หลังมือแผ่วเบา ก่อนชักมือกลับไป เหลือแต่รอยยิ้มปรานีบางๆ บนใบหน้า เขาทำแบบนี้หลังซักถามถึงความทุกข์ที่ทำให้ฉันเศร้า ปลอบโยนให้กำลังใจด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พร้อมวางดอกกุหลาบสีแดงดอกสวยไว้ให้บนโต๊ะทำงาน...เสร็จแล้วเขาก็หันหลังเดินจากไป

โอ...ฉันซึ้งใจ อุ่นใจทุกครั้งที่ร่างหนาใหญ่ตามวัยอาวุโสของผู้ชายคนนี้เข้ามาอยู่ใกล้ๆ ใช่...ท่านผู้จัดการฝ่ายกฎหมายของบริษัทคนนี้อายุมากกว่าฉันถึงสามสิบปี อาจมากกว่าพ่อที่ฉันไม่เคยพบหน้าเลยตั้งแต่เกิดด้วยซ้ำ แต่นั่นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นยามใกล้ชิดพูดคุย หรือเมื่อมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง

ฉันจึงไม่คิดขัดขืนเมื่อเขาโอบไหล่เข้าไปแนบชิด มือข้างหนึ่งลูบศีรษะ ตาจ้องตา เขาชมว่าตาฉันสวย จมูกปากแก้มคิ้วคางน่ารักไปหมด เขาแค่ชม ไม่เคยสักครั้งจะแตะต้องมัน จนวันนี้ที่เขาแตะแก้มนวลของฉันเบาๆ...พร้อมเอ่ยคำว่าสุขสันต์วันวาเลนไทน์

นอกจากไม่คิดขัดขืน บางครั้งยังอยากซุกตัวกับอ้อมอกกว้างนั้นด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดสายตาเพื่อนร่วมงานรอบข้างที่มักเหลือบแลมาอย่างสนใจใคร่รู้ ฉันไม่ค่อยแคร์คนพวกนั้นเท่าไหร่ มีเพียงคนเดียวที่ฉันควรแคร์...นั่นก็คือผู้หญิงที่บ้านของเขา

แม้ไม่เคยเอ่ยถึง แต่แววตาอิดโรยเหนื่อยหน่ายหลังรับสายจากภรรยาซึ่งฉันเป็นคนต่อสายให้ มันบอกหมดทุกสิ่งทุกอย่างว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตคู่ ผู้หญิงในบ้านของเขาเคยมาปรากฏตัวที่นี่ด้วยท่าทางเย่อหยิ่งยโส ใบหน้าโกรธขึ้งฉุนเฉียว ต่อว่าด่าทอเมื่อเขาไม่ยอมรับโทรศัพท์ และเอะอะเอากับฉันที่ไม่ยอมต่อสายให้ สาเหตุเป็นเพราะเขานั่นแหละที่ย้ำนักหนาว่า จะไม่รับสายใครขณะกำลังมีประชุม แล้วเลขานุการิณีอย่างฉันควรฟังใครดี ระหว่างเจ้านายกับหลังบ้านของเขา!

หลังภรรยากลับไป วันนั้นเขานั่งหลับตา เอนหลังเอาศีรษะเงยพักอยู่กับพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ ฉันเดินเข้าไปใกล้ นึกห่วงใยในท่าทีอ่อนล้าเหนื่อยหน่าย แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยถาม ได้แต่ยืนมองเขาเงียบๆ อย่างนั้นอยู่เป็นนาน ต่อเมื่อเขาลืมตาขึ้นมองเราจึงสบตากัน เขายิ้มให้ ถามว่าเป็นห่วงเขาหรือ...วินาทีนั้นฉันก็แพ้ใจตัวเอง โพล่งสารภาพออกมาว่าห่วงใย ใส่ใจในความทุกข์ของเขา อยากดูแล อยากใกล้ชิดให้มากกว่านี้ ภรรยาของเขาช่างร้ายกาจ ไม่สมกับที่เขารักเธอเลยสักนิด ช่างไม่รู้ตัวว่าน่าอิจฉา เธอได้ครอบครองผู้ชายแสนดี ได้เป็นผู้หญิงของเขา

ทำไมนะ สวรรค์ท่านช่างกลั่นแกล้ง ฉันเองอยากเป็นผู้หญิงของเขาใจจะขาดแต่ไม่มีสิทธิ์ ฉันพร่ำเพ้อรำพันพร้อมร่ำไห้ ฉันรู้ดีว่าสิ่งนี้มันผิด
โอ้ พระเจ้า ทั้งที่รู้ดีว่ามันผิดแต่ฉันห้ามใจตัวเองไม่ได้

หลายวันผ่านไป...อย่างไม่นึกฝัน เมื่อสักครู่นี้เองที่เขาเดินเข้ามาหาพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม ย้ำถามว่าแน่ใจแล้วหรือ ส่วนตัวเขาแน่ใจ

รู้สึกถึงร่างกายที่เบาหวิวคล้ายกำลังล่องลอยอยู่ในความฝัน ขณะเดียวกันก็เต็มตื้นไปหมดทุกห้องของหัวใจ โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพูสดใส เขาสัญญาว่าจะรับเลี้ยงดูฉันตลอดไปในฐานะภรรยาอีกคน

ให้ถึงพรุ่งนี้ก่อนเถอะ ผู้หญิงกับโทรศัพท์ ฉันจะบอกเลิกขาประจำทุกคน  เพราะตอนนี้ฉันกำลังจะมีสามีเป็นตัวเป็นตน แม้ต้องมีร่วมกับผู้หญิงคนอื่นก็ตาม

ฉันตัดสินใจจะหยุดทำอาชีพเสริม เลิกเป็นสาวไซด์ไลน์ให้เด็ดขาดเสียที!



บาปสวาทของเมียหลวง

ฉันมองตามหลังผู้ชายคนนั้นด้วยอาการสะอึกอึ้ง ยืนงงอยู่กับที่ จนแม้เมื่อเขาเดินจากไปฉันก็ยังยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ก่อนรู้สึกหัวเข่าอ่อนแรงจนพยุงร่างต่อไปไม่ไหว ต้องค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งคาขั้นบันใดบ้าน

ทุกถ้อยคำที่ออกจากปากของคนเคยรักราวมีดโกนกรีดเฉือนบาดลึก ปาดเอาก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายให้เกิดเป็นแผล มันเจ็บปวดทรมานจากพิษบาดแผลแต่ไม่ให้ถึงตาย เพราะหัวใจยังคงเต้นต่อไปได้ แม้จะเริ่มผิดจังหวะและอ่อนแรงลงราวจะขาดใจ

เขามาขอหย่าด้วยเหตุผลทัศนคติไม่ตรงกัน

โอ สามีที่รัก ก่อนแต่งงานกันไหนคุณเคยบอกว่าฟ้าสร้างเรามาให้เป็นคู่แท้ ใจเราจึงตรงกัน คุณสัญญาว่าจะรักฉันไม่มีเสื่อมคลาย แต่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างกลับต่างไปเมื่อเวลาออกเดินทาง แม้แต่ใจคน

ขอบตาสองข้างร้อนผ่าว น้ำอุ่นๆ รื้นชื้นหัวตา มันมากเสียจนคลอเบ้าแล้วจึงเอ่อล้นหลั่งริน ฉันปล่อยให้มันร่วงลงมาอย่างสุดกลั้น แต่ถึงร่ำไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด เขาก็จะไม่ยอมหันกลับมา

อยากตะโกนเรียกให้เขาหยุดเดินแล้วหันมามองอีกครั้ง เพื่อฉันจะได้วิงวอน...ได้โปรดอย่าทิ้งฉันไป

แต่ฉันพูดไม่ออก คำพูดทุกคำติดขัดอยู่แค่ในลำคอ ริมฝีปากหนักอึ้งยากที่จะเผยอเปล่งเสียง มีเพียงเสียงสะอื้นดังเบาๆ ให้ได้ยิน และมีเพียงฉันที่ได้ยิน

เขาจะไม่กลับมา...ท่าทีก่อนหน้าเขาส่งสัญญาณให้สำนึกนานแล้วว่าเขาเบื่อหน่าย...ว่าเขาเย็นชา รสรักมันจืดจางเพราะใจเขาไร้เสน่หา หลังผ่านการแต่งงานมายาวนาน ลูกหญิงชายพากันเติบใหญ่ เราช่วยกันปลดเปลื้องภาระหนี้สินจนหมด การต่อสู้ดิ้นรนเพื่อชีวิตที่สมบูรณ์แบบก็ได้จบลง พร้อมกับฐานะความเป็นอยู่ที่สุขสบาย แต่แล้วเขาก็มาเปลี่ยนไป

บ้านเงียบลงทุกวันเพราะเจ้าของบ้านอยู่คนละมุม เราเจรจากันน้อยลงเรื่อยๆ เขาไม่คุยกับฉันแต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่คุยกับใคร ห้องนอนกลายเป็นที่ทำงาน ต่อมาเขาก็ย้ายไปนอนอีกห้องเพื่อไม่ให้ฉันรำคาญ เหตุผลมีแบบนั้น

เขามีคนรู้ใจคนใหม่...ฉันได้ยินเต็มสองหูได้เห็นเต็มสองตา ผู้หญิงคนใหม่เข้าใจเขามากกว่า อยู่ใกล้คนฉลาดน่ารักอย่างเธอมันทำให้เขาหายเบื่อ เขาว่าอย่างนั้น

และแล้วเขาก็ออกปากบอกให้ฉันปล่อยเขาไปเสียที บอกว่าคนเราเมื่อหมดใจแล้วย่อมไม่เหมือนเดิม และเราควรจากกันตรงนี้ก่อนที่จะเกลียดกันดีกว่า บอกด้วยว่าฉันควรยอมรับความจริงข้อนี้ เขาตอกย้ำอีกครั้งเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา

ฉันเห็นด้วยว่าเขาหมดรักฉันแล้ว แต่ที่ยังเป็นปัญหาก็เพราะฉันยังรักเขาเหลือเกิน รักเหมือนเดิม เหมือนเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ฉันจะปล่อยเขาไปได้ยังไง มันไม่ง่ายสำหรับหัวอกลูกผู้หญิง แต่ที่ยากยิ่งกว่าก็คือ แล้วฉันจะรั้งเขาไว้ยังไง...

ให้ถึงคืนพรุ่งนี้ก่อนเถอะ ค่ำคืน...ผู้หญิงกับใบมีดโกนคมกริบ ชวนเขาค้างคืนอีกสักคืน ขอร้องอีกครั้ง ให้มันเป็นคืนสุดท้ายของเราเพื่อรำลึกถึงความหลัง...แล้วฉันจะปล่อยเขาไป



บาปสวาทของผู้หญิงอกหัก

ฉันมองตามหลังผู้ชายคนนั้นไปด้วยอารมณ์ขื่นๆ มันบอกไม่ถูกระหว่างอาลัยอาวรณ์หรือแค่กลัวความเหงา กลัว...ที่จะต้องกลับมาโดดเดี่ยวอีกครั้ง หรือกลัวว่าจะถูกเขาเทกันแน่ หรือทั้งสองอย่างนั่นแหละ ต้องยอมรับว่าความสัมพันธ์ชั่วแล่นมันมักจะไม่ยืดยาว เราพบกันบนเส้นทางสายเปลี่ยว ฉันเหงา เขาก็เหงา

และแล้วเขาก็กำลังจะไป แต่ก่อนไปเขายังอุตส่าห์หันมาโบกมือให้เพื่อแทนคำลา เช่นกัน...ลาก่อนพ่อยอดขมองอิ่ม มีเสียดายติดปลายอารมณ์นิดหน่อย เขาก็เข้าทีดีอยู่หรอก รูปร่างหน้าตาพอใช้ได้ ฐานะไม่ถึงขั้นร่ำรวยแต่ก็มีกินมีใช้ ปรากฎตัวขึ้นช่วยเหลือฉันยามลำบากอย่างผู้ใหญ่ใจดี คุยสนุกตามสเปคที่อยากได้ แต่เสียอย่างเดียว เขาเจ้าชู้!

เราจากกันง่ายดายเหมือนเมื่อแรกเจอ ลืมไปเลยว่าตอนนั้นเราต่างตะลึงจ้อง มองหน้ากันราวระลึกชาติได้ ต่อมาก็เกาะเกี่ยวกอดตระหวัดแนบชิด สัมผัสกันราวมีแรงดึงดูดมหาศาล ผูกพันเหมือนชาตินี้จะไม่มีวันพรากจากกันไปไหน และแล้วทุกฉากรักก็ถูกปิดลงคาตา เพราะว่าฉันเห็นเขามีผู้หญิงคนอื่นอีก ฉันเบื่อผู้ชายหลายรักที่ไม่รู้จักพอ!

ยามนี้นัยน์ตาเขามีคำถามแต่ว่าฉันไม่มีคำตอบจะให้ เหตุผลเพียงข้อเดียวที่ยืนกรานอยู่ในใจ...ฉันเบื่อไล่ตามหึงเขา

แน่ใจหรือว่าเพราะเธอเบื่อเขา แต่ฉันว่าไม่ใช่...เสียงหนึ่งจากซอกหลืบหัวใจคัดค้าน

ฉันรู้จักเธอดี เธอชิงทิ้งเขาเพราะกลัวโดนทิ้งก่อนต่างหาก อย่าปฏิเสธ เพราะฉันก็คือเธอ

ช่างปะไร ในที่สุดฉันก็สรุป!

ผู้ชายคนที่กำลังจากไปเป็นคนที่เท่าไหร่ในชีวิต ฉันกางมือออก หกหรือเจ็ด อาจมีตกหล่นที่ฉันลืมจดจำ บางทีนิ้วมือฉันอาจไม่พอนับทีเดียว ก็แล้วจะสนทำไมไม่ได้อยากเอาไปบันทึกลงกินเนสบุคนี่ อาจมีผู้ชายที่มีรักแท้รออยู่ หาเอาใหม่สิ

พรุ่งนี้ฉันก็มีคนใหม่ สะบัดหน้าไปเสียจากข้างหลังของเขาแล้วยกขวดเหล้าดีกรีแรงขึ้นดื่ม แต่ว่า...วันนี้ฉันเหงาจริงๆ โค-ตะ-ระ เกลียดอกหักบ้านี่เลย ฉันกระดกเหล้าเข้าปากอีกอึกใหญ่ เจ้าน้ำสีอำพันนี่มันซื่อสัตย์เสมอ ดื่มมันเมื่อไหร่เป็นเมาเมื่อนั้น เสียใจใช่ไหม...ไม่ แค่เหงา

ผู้หญิงอย่างฉันหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนได้ไม่ยากหรอก คนเดี๋ยวนี้ขี้เหงาจะตาย ถึงมีคู่แล้วก็ยังเหงา ไม่ได้ปลอบใจตัวเองแต่ฉันมั่นใจ

ให้ถึงคืนพรุ่งนี้ก่อนเถอะ...

ค่ำคืน ผู้หญิงนั่งลำพังกับแก้วน้ำส้ม ก้มลงดูดโดยไม่จับหลอด แก้วต่อไปถึงค่อยสั่งเบียร์ สักพักเมื่อเก้าอี้ข้างกายฉันว่างอยู่นาน ใครบางคนก็จะเข้ามาทัก ถามคำถามเดิมๆ ว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า

ฉันจะตอบเขาว่า...เรารู้จักกันมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว

จบ.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่