รีวิวหนังสือ “The Miracle of Dunkirk ปาฏิหาริย์แห่งดังเคิร์ก"
Walter Lord เขียน / นพดล เวชสวัสดิ์ แปล
สนพ.เลเจนด์ บุ๊คส์, 350.-
.
เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ถ่ายทอดในรูปแบบ
วรรณกรรมในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2
ตอนที่ฝ่ายสัมพันธมิตรอยู่ในช่วงเพลี่ยงพล้ำ
โดนต้อนจากฝ่ายทหารเยอรมันรอบด้าน
จนทั้งทหารฝ่ายสัมพันธมิตรทั้งอังกฤษ,
ฝรั่งเศส, โปแลนด์,เบลเยียม มารวมกัน
400,000 นาย มาอยู่ที่เมืองดังเคิร์ก
ก่อนตัดสินใจอพยพ...
.
ช่วง 10 วันแห่งการอพยพทหารทั้งหมด
338,226 นาย (อังกฤษ 198,229 นาย)
ข้ามฝั่งจากดังเคิร์กผ่านช่องแคบกลับไปยังโดเวอร์
ประเทศอังกฤษ ด้วยระยะทางราว 100 ไมล์
ที่มีทั้งระเบิด ปืนใหญ่ ปืนกลกระหน่ำยิง
ทั้งทางทะเล ทางบก ทางอากาศ
ของทหารเยอรมันตลอดเวลา
ยิ่งอ่าน ยิ่งทำให้จมเข้าไปในความรู้สึก
ของเหล่าทหารกล้าที่รอดมาได้ยังกับปาฏิหาริย์
.
ผู้เขียนรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับดังเคิร์กทั้งหมด
จากหลากหลายทาง รวมถึงจากจดหมาย
สมุดบันทึกส่วนตัวจากทหารที่รอดชีวิต
สัมภาษณ์ทหารผ่านศึกที่ยังมีชีวิตอยู่
ไปจนถึงได้รับความร่วมมือจาก ญาติ
ครอบครัวของทหารกล้าเหล่านั้นโดยตรง
ทหารผ่านศึกเยอรมันที่อยู่ในเหตุการณ์
พิพิภัณฑ์ และสถานที่ที่รวบรวม
ประวัติศาสตร์ดังเคิร์กไว้แทบทุกที่
แล้วนำมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราว
จึงทำให้ได้เห็นภาพในแต่ละมุม ความรู้สึก
ความคิด ณ เวลานั้นๆ ของทหาร, ผู้บังคับบัญชา
ผู้นำแต่ละประเทศ รวมถึงพลเรือนทั่วไป
มันเลยไม่เหมือนอ่านหนังสือประวัติศาสตร์
เมื่ออ่านเล่มนี้ เหมือนกับว่าตัวเรา
ได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์และสัมผัสเรื่องราว
ของดังเคิร์กด้วยตัวเองเลย
.
ที่น่าประทับใจสุดๆ ของดังเคิร์กเลย คือ
ความร่วมมือร่วมใจกันแบบไม่กลัวตาย
ของพลเรือนเมื่อถึงคราวต้องระดมเรือ
ให้ได้มากที่สุด และทหารผุ้เชี่ยวชาญไม่พอ
ประชาชนจากทั่วอังกฤษ หลากหลายอาชีพ
ที่มีความสามารถทางการเดินเรือ
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของเรือประมง แพ เรือท่องเที่ยว
เรือแจว เรือยอช เรือทุกชนิดเข้าร่วมภารกิจ
ไปรับทหารจากดังเคิร์กทั้งหมด หลายคน
ไม่เคยเดินเรือบนทะเลไกลๆ ด้วยซ้ำ
แต่ใจเต็มร้อย อ่านไปก็ขนลุกกับพลังรักชาติไป
.
ที่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ดังเคิร์กอีกอย่างก็คือ
วินัย และหัวใจของทหารอังกฤษที่ถูกฝึกมาอย่างดี
ถ้าขาดวินัยและใจสู้แล้ว การอพยพอาจจะไม่
ประสบความสำเร็จแบบนี้
ทหารเกือบทุกนายไม่ได้นอนติดต่อกัน
อย่างต่ำ 5 วัน จนถึงขนาดผู้บังคับบัญชา
ต้องสั่งให้เดินทัพด้วยการเอาแขนคล้องกันไว้
เป็นแถวหน้ากระดานเรียงเป็นชุด
เพื่อให้สลับกับงีบหลับได้ระหว่างเดิน (โหดมาก)
.
เมื่อทุกคนเหนื่อยล้า หิว หวาดกลัว เอาตัวรอด
ก็ทำให้มีปัญหาระหว่างทางบ้าง เช่น ทหารบางคน
อยากหนี หรืออยากหยุดไม่สู้ต่อ หรือ
ระหว่างอพยพเมื่อเห็นเรือมารับ บางคนพยายาม
เข้ามารุมเรือจนล่มเพื่อที่จะได้กลับบ้านก่อน
ผู้นำจำเป็นต้องยิงทิ้ง เพื่อรักษากฏระเบียบกองทัพไว้
.
และการได้ขึ้นเรือแล้วก็ไม่ได้การันตีการมีชีวิตรอด
เพราะเรือหลายลำโดนระเบิดทางอากาศล่มทันที
ทหารหลายนายต้องว่ายน้ำ ลอยน้ำในระยะหลายไมล์
กว่าจะมีเรือผ่านมาช่วยเหลือ และหลายนาย
รวมทั้งผู้บังคับบัญชาที่เก่งคนนึง ลอยคอจนทนไม่ไหว
จมลงไปต่อหน้าต่อตาทหารผู้รอดชีวิต T__T
.
อุปสรรคสำคัญอีกอย่างที่กดดันตลอดเวลา
นอกจากข้าศึก ก็คือ ความล่าช้าในการตัดสินใจ และ
ความไม่เข้าใจสถานการณ์จริงของผู้นำประเทศ
ซึ่งเป็น เชอร์ชิลในขณะนั้น
ยิ่งทำให้เราได้เรียนรู้ ยกย่อง นับถือ
ในการเผชิญหน้า, การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
และยืนหยัดต่อสู้กับเหล่าทหารของตน
ของเหล่านายพล ผู้นำกองทัพและทหารกล้า
ในยามที่ถูกตัดขาดจากการติดต่อสื่อสาร
….
นายพลลอร์ดกอร์ตของอังกฤษ ยืนหยัดอยู่กับ
ทหารของตนเองไม่ยอมกลับไม่ว่าจะมีคำสั่งหลายครั้ง
จนกระทั่งต้องมีคำสั่งตรง จากเชอร์ชิลถึงกลับ
เหตุผลของเชอร์ชิลคือ กลัวเยอรมันได้ตัว
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดไปเป็นเชลยศึก
….
เมื่อลอร์ดกอร์ตต้องกลับ ในวันนั้นจึงชวน
นายพลฝรั่งเศสกลับไปอังกฤษด้วย
แต่นายพลเดอ ลา โลค็องซี กล่าวว่า
“ธงของฉันจะปักบนสันทราย
จนกว่าทหารคนสุดท้ายของฉันลงเรือ"
.
ปาฎิหาริย์แห่งดังเคิร์ก ปาฏิหาริย์จากความรักชาติ
ความเสียสละ ความสามัคดี ความหวัง
ความกล้าหาญ จากทั้งทหารและพลเรือน
ที่จับใจคนอ่านที่สุด มีทั้งเหตุการณ์กดดันสุดๆ
สู้และอดทนสุดๆเสียใจ และซึ้งใจสุดๆ ในคราวเดียว
หนังสือน้อยเล่มนักที่จะทำให้เราได้พบอารมณ์
ที่หลากหลายและเสียน้ำตา...
.
สิ่งที่ได้จากหนังสือเล่มนี้นอกจากประวัติศาสตร์
สงครามแล้ว ยังได้รู้เรื่องการใช้ชีวิตของทหาร
ในยามสงคราม วินัย หัวใจกล้าหาญ สติปัญญา
การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า น้ำใจของมนุษย์
แม้จะอยู่คนละฝ่ายในยามทุกข์ยาก
เป็นหนังสือแนะนำอีกเล่มนึงเลยค่ะ...
.
.
เรารวบรวมรีวิวหนังสือที่อ่านทั้งหมดไว้ที่
Facebook : โลกของนักอ่าน
#โลกของนักอ่าน #รีวิวหนังสือ #จากอินเนอร์ล้วนๆ #ห้องสมุดส่วนตัว #bookreview  
#TheMiracleOfDunkirk #ปาฏิหาริย์แห่งดังเคิร์ก #Dunkirk #วรรณกรรม #ประวัติศาสตร์ #สงครามโลกครั้งที่2