Chapter5
Udaipur เมืองสีขาวสุดโรแมนติกของอินเดีย
“Udaipur เมืองที่มีฉายามากมายไม่ว่าจะ Venice of the East, Kashmir of Rajasthan, Most romantic city of India ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐราชาสถาน ลักษณะภูมิประเทศของที่นี่ค่อนข้างต่างจากเมืองอื่นๆในแคว้นนี้ที่เป็นทะเลทรายซะส่วนใหญ่ จุดเด่นของเมืองนี้คือพระราชวัง City Palace ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Pichola สร้างโดย มหาราชา Udai Singh II เมื่อ 400 ปีที่แล้ว และ Lake Palace พระราชวังกลางทะเลสาบ ที่เชื่อว่าหลายคนอาจเคยเห็นผ่านตามมาบ้างจากเว็บจัดอันดับโรงแรมที่โรแมนติกที่สุดในโลกนั่นเอง”
เรามาถึงเมืองนี้ตอนดึกมากแล้วหลังจากนั่งรถอย่างทรมานมากว่า 6 ชั่วโมง ไงล่ะ VIP 23 ที่นั่ง ลงจากรถคือสะบักสะบอมมาก
แพลนของเราสำหรับ Udaipur มีแค่นั่งเรือดูพระอาทิตย์ตกในทะเลสาบ Pichola และไปตามหาห้องสีฟ้าที่เคยเห็นผ่านตามาจาก Pinterest มานานแล้วแค่นั้นแหละ แต่จะว่าไปนี่เป็นสองอย่างที่อยากทำที่สุดในทริปนี้เลยนะ
![](https://f.ptcdn.info/122/054/000/oxpbtc3b39rV759zwhH-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/122/054/000/oxpbukablw5QJKK0r80-o.jpg)
รักแรกที่ได้เห็น Udaipurในยามเช้า เรียกว่าตั้งนาฬิกาปลุก คว้ากล้องมาถ่ายทั้งที่ขี้ตากรังๆนี่แหละ
![](https://f.ptcdn.info/122/054/000/oxpbv3cau3syW9mmIo0-o.jpg)
สะพานข้ามระหว่าง Lal Ghat และ Hanuman Ghat
![](https://f.ptcdn.info/123/054/000/oxpehl1e85DZdJtnxGT-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/123/054/000/oxpehy5cbbnzBOGRcbO-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/123/054/000/oxpekomuig3oZdKJWYj-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/123/054/000/oxpemzj90Xxus3DVl77-o.jpg)
บรรยากาศของบริเวณริมทะเลสาบแถวพระราชวัง
![](https://f.ptcdn.info/122/054/000/oxpbx35jxHRZHpZ7NPM-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/122/054/000/oxpbxhikerUt1ygnPX7-o.jpg)
มาดูที่พักที่ชอบที่สุดในทริปนี้ของเราดีกว่า สำหรับที่นี่เราจอง AirBNB เอาไว้ เป็นที่พักน่ารักๆ ที่มีเจ้าของเป็นคนฝรั่งเศส
เราจะอยู่เมืองนี้กัน 3 คืน นานสุดในทริปเลย เพราะตั้งใจว่าเราควรพักขา พักกายกันบ้างก่อนจะตายเพราะร่างแหลกเต็มทีกับ 4 เมืองที่ผ่านมา และทั้งเราและเพื่อนยังมีงานที่แบกมาทำกันอีก เลยขอใช้ชีวิตกันแบบ Slow life สักหน่อยนะ
![](https://f.ptcdn.info/122/054/000/oxpbyc4b4rGqp78X00G-o.jpg)
เพื่อนเราจัดทั้งโยคะ ทั้ง Ayurvedic massage เลย
จากภาพคือตื่นมาเจอนางเรียนโยคะกับครูอินเดียแบบจริงจัง
จริงๆเมืองนี้มีกิจกรรมให้ทำค่อนข้างเยอะนะ ทั้งโยคะ คลาสสอนทำอาหาร การนวดแบบ Ayurvedic massage เรียนโยคะ มีทั้งการเข้าคลาสเรียนสำหรับนักท่องเที่ยวและการเข้าคลาสรวมกับคนอินเดียแล้ว Donate เอา
อาจเพราะว่าเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมากัน เราเจอชาวต่างชาติยุโรปที่นี่เยอะกว่าทุกเมือง แต่สำหรับคนไทยเหมือนที่นี่จะไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก จริงๆจะบอกว่าทั้งทริปครึ่งเดือนของเรา เราไม่เจอคนไทยเลยสักคนก็ยังได้
เวนิชแห่งอินเดีย
![](https://f.ptcdn.info/122/054/000/oxpc1t7c5xSFnrg46Xy-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/122/054/000/oxpc0t2suhUo98bR4ki-o.jpg)
สิ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับ Udaipur แน่นอนว่าเราต้องนั่งเรือดูพระอาทิตย์ตกใน Pichola Lake มันคงเป็นสิ่งที่ทุกคนที่มาที่นี่จดลงในลิสต์ที่ต้องทำรวมถึงเราด้วย
![](https://f.ptcdn.info/122/054/000/oxpc48931TkCnZGXMCp-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/122/054/000/oxpc8in4wYRRDePQjG0-o.jpg)
เราเลือกนั่งเรือจากท่าเรือด้านนอกของพระราชวังเพราะว่าราคาถูกกว่า เพียงแค่คนละ 250 รูปี โดยเรือจะพาเราวนรอบๆ Lake Palace และ Jagmandir Island ซึ่งเป็นสวนกลางน้ำ ก่อนพากลับไปส่งที่ท่าเรือในเวลา 20 นาที
แต่เป็น 20 นาทีทองจริงๆ เพราะตอนเราขึ้นเรือก็เป็นเวลา 1 ทุ่มแล้ว ซึ่งในฤดูร้อนพระอาทิตย์จะตกเวลาประมาณ 1ทุ่มครึ่ง
บอกได้เลยว่าขนาดฟ้าไม่แจ่มเท่าไหร่เพราะเมฆเยอะแต่มันก็สวยมากกกกกกกก เรียกได้ว่าไม่ผิดหวังเลยจริงๆ
![](https://f.ptcdn.info/122/054/000/oxpco6byp7cy7PSRGJx-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/122/054/000/oxpck3ca5iTPDNlq27z-o.jpg)
Taj Lake Palace พระราชวังกลางน้ำที่ถูกดัดแปลงเป็นโรงแรมหรู ถูกจัดอันดับให้เป็นโรงแรมที่โรแมนติกที่สุดในโลก มันถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1746 โดย มหาราชา Jagat Singh II
นั่งกระเช้าลอยฟ้าดูวังลอยน้ำ
![](https://f.ptcdn.info/123/054/000/oxpcx8h07otqKN40FV3-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/123/054/000/oxpczukzbaHrzRONFmm-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/123/054/000/oxpcyt1644lUnZWe7R9-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/123/054/000/oxpd1iitaj8cXI5MxJn-o.jpg)
วิวจากด้านบน Karni Mata Temple
นอกจากนั่งเรือดูพระอาทิตย์ตกในทะเลสาบแล้วยังมีอีกที่ ที่สวยไม่แพ้กันถ้าอยากดูพระอาทิตย์ตกมุมกว้างคือ Karni Mata Temple วัดฮินดูบนเขา ที่เดินทางโดยรถกระเช้าขึ้นไป(Mansapurna Karni Mata Ropeway ) น่าเสียดายที่วัดข้างบนอยู่ในระหว่างรีโนเวทใหม่เลยไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ชม แต่วิวข้างบนสวยมาก สามารถมองเห็นเมือง Udaipur ได้ทั้งเมือง และยังเป็นจุดชมวิวที่สวยมากสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกใน Pichola Lake
![](https://f.ptcdn.info/123/054/000/oxpcu1idcBq8px4XUzX-o.jpg)
ค่านั่งกระเช้าขึ้น-ลง เพียงแค่คนละ 105 รูปี หรือประมาณ 55 บาทเท่านั้นเอง
อีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดสำหรับ Udaipur คือการเดินชมวัง เพราะวังที่นี่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ เพราะยังมีเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ของจริงให้ชมอยู่ โดยโซนที่เปิดให้เข้าชม เป็นบริเวณที่อยู่จริงของมหาราชาก่อนจะย้ายออกไปอยู่อีกฝั่งของพระราชวัง บริเวณปากทะเลสาบในพื้นที่เดียวกัน ไฮไลท์ของที่นี่คือมีการจัดแสดงห้องต่างๆ เหมือนเมื่ออดีตให้ชมกัน
[SR] หลงเสน่ห์ส่าหรี ล่องเมืองทะเลสาบ นอนกลางทะเลทราย กับ CANON EOSM6
หลงเสน่ห์ส่าหรีท่อง 6 เมือง siXnature แห่งดินแดนภารตะ กับ CANON EOS M6
https://ppantip.com/topic/36962976
และ
หลงเสน่ห์ส่าหรี ตะลุยเมืองสีฟ้าในนิทาน กับ CANON EOSM6
https://ppantip.com/topic/36969503
Chapter5
Udaipur เมืองสีขาวสุดโรแมนติกของอินเดีย
“Udaipur เมืองที่มีฉายามากมายไม่ว่าจะ Venice of the East, Kashmir of Rajasthan, Most romantic city of India ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐราชาสถาน ลักษณะภูมิประเทศของที่นี่ค่อนข้างต่างจากเมืองอื่นๆในแคว้นนี้ที่เป็นทะเลทรายซะส่วนใหญ่ จุดเด่นของเมืองนี้คือพระราชวัง City Palace ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Pichola สร้างโดย มหาราชา Udai Singh II เมื่อ 400 ปีที่แล้ว และ Lake Palace พระราชวังกลางทะเลสาบ ที่เชื่อว่าหลายคนอาจเคยเห็นผ่านตามมาบ้างจากเว็บจัดอันดับโรงแรมที่โรแมนติกที่สุดในโลกนั่นเอง”
เรามาถึงเมืองนี้ตอนดึกมากแล้วหลังจากนั่งรถอย่างทรมานมากว่า 6 ชั่วโมง ไงล่ะ VIP 23 ที่นั่ง ลงจากรถคือสะบักสะบอมมาก
แพลนของเราสำหรับ Udaipur มีแค่นั่งเรือดูพระอาทิตย์ตกในทะเลสาบ Pichola และไปตามหาห้องสีฟ้าที่เคยเห็นผ่านตามาจาก Pinterest มานานแล้วแค่นั้นแหละ แต่จะว่าไปนี่เป็นสองอย่างที่อยากทำที่สุดในทริปนี้เลยนะ
เราจะอยู่เมืองนี้กัน 3 คืน นานสุดในทริปเลย เพราะตั้งใจว่าเราควรพักขา พักกายกันบ้างก่อนจะตายเพราะร่างแหลกเต็มทีกับ 4 เมืองที่ผ่านมา และทั้งเราและเพื่อนยังมีงานที่แบกมาทำกันอีก เลยขอใช้ชีวิตกันแบบ Slow life สักหน่อยนะ
จากภาพคือตื่นมาเจอนางเรียนโยคะกับครูอินเดียแบบจริงจัง
จริงๆเมืองนี้มีกิจกรรมให้ทำค่อนข้างเยอะนะ ทั้งโยคะ คลาสสอนทำอาหาร การนวดแบบ Ayurvedic massage เรียนโยคะ มีทั้งการเข้าคลาสเรียนสำหรับนักท่องเที่ยวและการเข้าคลาสรวมกับคนอินเดียแล้ว Donate เอา
อาจเพราะว่าเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมากัน เราเจอชาวต่างชาติยุโรปที่นี่เยอะกว่าทุกเมือง แต่สำหรับคนไทยเหมือนที่นี่จะไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก จริงๆจะบอกว่าทั้งทริปครึ่งเดือนของเรา เราไม่เจอคนไทยเลยสักคนก็ยังได้
เวนิชแห่งอินเดีย
สิ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับ Udaipur แน่นอนว่าเราต้องนั่งเรือดูพระอาทิตย์ตกใน Pichola Lake มันคงเป็นสิ่งที่ทุกคนที่มาที่นี่จดลงในลิสต์ที่ต้องทำรวมถึงเราด้วย
เราเลือกนั่งเรือจากท่าเรือด้านนอกของพระราชวังเพราะว่าราคาถูกกว่า เพียงแค่คนละ 250 รูปี โดยเรือจะพาเราวนรอบๆ Lake Palace และ Jagmandir Island ซึ่งเป็นสวนกลางน้ำ ก่อนพากลับไปส่งที่ท่าเรือในเวลา 20 นาที
แต่เป็น 20 นาทีทองจริงๆ เพราะตอนเราขึ้นเรือก็เป็นเวลา 1 ทุ่มแล้ว ซึ่งในฤดูร้อนพระอาทิตย์จะตกเวลาประมาณ 1ทุ่มครึ่ง
บอกได้เลยว่าขนาดฟ้าไม่แจ่มเท่าไหร่เพราะเมฆเยอะแต่มันก็สวยมากกกกกกกก เรียกได้ว่าไม่ผิดหวังเลยจริงๆ
Taj Lake Palace พระราชวังกลางน้ำที่ถูกดัดแปลงเป็นโรงแรมหรู ถูกจัดอันดับให้เป็นโรงแรมที่โรแมนติกที่สุดในโลก มันถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1746 โดย มหาราชา Jagat Singh II
นั่งกระเช้าลอยฟ้าดูวังลอยน้ำ
นอกจากนั่งเรือดูพระอาทิตย์ตกในทะเลสาบแล้วยังมีอีกที่ ที่สวยไม่แพ้กันถ้าอยากดูพระอาทิตย์ตกมุมกว้างคือ Karni Mata Temple วัดฮินดูบนเขา ที่เดินทางโดยรถกระเช้าขึ้นไป(Mansapurna Karni Mata Ropeway ) น่าเสียดายที่วัดข้างบนอยู่ในระหว่างรีโนเวทใหม่เลยไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ชม แต่วิวข้างบนสวยมาก สามารถมองเห็นเมือง Udaipur ได้ทั้งเมือง และยังเป็นจุดชมวิวที่สวยมากสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกใน Pichola Lake
อีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดสำหรับ Udaipur คือการเดินชมวัง เพราะวังที่นี่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ เพราะยังมีเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ของจริงให้ชมอยู่ โดยโซนที่เปิดให้เข้าชม เป็นบริเวณที่อยู่จริงของมหาราชาก่อนจะย้ายออกไปอยู่อีกฝั่งของพระราชวัง บริเวณปากทะเลสาบในพื้นที่เดียวกัน ไฮไลท์ของที่นี่คือมีการจัดแสดงห้องต่างๆ เหมือนเมื่ออดีตให้ชมกัน