วันหนึ่งมีเด็กชายและเด็กหญิงคนหนึ่งได้มาเจอกันแล้วได้ทำความรู้จักกันจนสนิทกันเด็กชายได้รู้สึกดีกับเด็กผู้หญิงคนนั้นแล้วได้จีบผู้หญิงคนนั้นเธอคนนั้นไม่ยอมรับการจีบของเด็กชายเพราะว่าเธอเป็นอิสลามแต่เด็กชายไม่ยอมที่จะถอดจากการจีบผู้หญิงคนนี้เพราะเด็กชายคนนี้เป็นคนที่รักผู้หญิงคนนี้มากเด็กชายใช่เวลาในการจีบทั้งหมดเป็นเวลา 2 ปี แล้วในที่สุดเด็กชายคนนี้ก็ได้เธอมาอยู่ในใจแต่มีปัญหาบ้างอย่างทำให้พวกเค้าทั้ง 2 ไม่อาจรักกันได้ก็คือ พ่อ แม่ ของเด็กผู้หญิงเด็กชายไม่ยอมที่จะทิ้งเด็กผู้หญิงคนนี้ไปไหนเลยสักครั้งเดียวแต่เด็กผู้หญิงอยากให้เด็กชายไปเจอคนที่ดีกว่าเลยคิดที่จะ"บอกเลิก"เด็กชายแต่เด็กชายไม่ยอมที่จะทิ้งเด็กคนนี้ไปไหนเพราะแค่คำว่ารักจนเด็กผู้หญิงไม่คิดจะบอกเลิกในครั้งนั้นและทั้ง 2 คนก็ได้แอบคนกันจนเวลาผ่านไปทั้ง 4 ปี
มีเรื่องหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย เช่น พ่อ และ แม่ ของเด็กหญิง จับได้ว่ายังพูดคุยกับอยู่และแอบคบกันอยู่ เด็กหญิงทำได้แค่นั่งร้องไห้ทุกวันทุกคืนไม่มีคืนไหนที่ไม่ร้อง แต่ เด็กหญิงคนนี้ไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นรวมถึง พ่อ และ แม่ ของเธอ เด็กชายคนนั้นก็ไม่รู้เช่นกัน แต่เด็กชายรู้เสมอว่าเด็กหญิงคนนี้ร้องไห้ทุกวันทุกคืน เด็กชายทำได้แค่อยู่ห้างๆค่อยให้กำลังใจ จิตใจของเด็กชายไม่เคยคิดจะ"บอกเลิก"เด็กหญิงเลยสักนิดจนถึงขนาดว่ายอมที่จะเปลี่ยนศาสนาเผื่อผู้หญิงคยนี้ เด็กชายต้องรอเวลาที่ พ่อ และ แม่ ของเด็กผู้หญิงยอมให้เธอกับเด็กชายคุยกันได้เด็กชายไม่เคยลดความพยายามที่จะทำให้ได้อยู่กับเด็กหญิงคนนี้ตอนนี้เด็กชายได้แอบพูดคุยและคบกับเด็กหญิงมานานมาจนมาถึงวันหนึ่งวันที่ พ่อ และ แม่ จับได้อีกครั้งว่า 2 คนนี้แอบคุยกัน อีปครั้ง ครั้งนี้ทำให้เด็กหญิงลบทุกอย่างที่ติดต่อกับเด็กชายเผื่อป้องกันเด็กชายไม่ให้ทักไปหาหรือโทรไปหาแต่เด็กชายรู้ได้ทันทีเมื่อเธอส่งข้อความมาว่า"พ่อของเธอรู้แล้ว เธอจะ ขอหยุดทุกอย่างเผื่อไม่ให้ใครต้องเจ็บตัว"เด็กชายคนนั้ยตัดสินใจที่จะรอเวลาที่เธอพร้อมที่จะคุยกับเธออีกครั้งเด็กชายคนนั้นเลยแต่งนิทานเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะว่าแค่คำว่า"รัก"ถ้ามันไม่ใช่รักจริงเด็กชายคนนั้นจะไม่ยอมทำขนาดนี้เด็กชายยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเผื่อให้ พ่อ และ แม่ ของเด็กหญิงเห็นสิ่งดีๆของเด็กชายเผื่อให้ พ่อ และ แม่ ของเธอยอมรับและไว้ใจและนี้คือสิ่งที่ทำให้เด็กชายไม่ยอมถอดออกจากชีวิตของเด็กหญิง เพราะ รัก เพราะ ห่วง เพราะ คิดถึง เพราะ ต้องดูแลให้ดีที่สุด เพราะ มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เด็กหญิงคนนั้นยิ้มโดยไม่ต้องฝืน จบ.
ถ้าท้านได้อ่านนิทานเรื่องนี้ผมอยากจะบอกว่าสิ่งที่ท่านทำมันไม่ผิดหรอกคร้บแต่การเข้าใจวัยรุ่นและการเข้าถึงจิตใจในตัวลูกๆของท่านมันจะดีที่สุดถ้าท่านทำความเข้าใจกับวัยรุ่นและลูกของท่าน. ท่านห้ามไม่ให้ลูกๆของท่านมีแฟนยังไงลูกๆของท่านก็จะแอบมีแฟนโดยที่ท่านไม่รู้ลูกของท่านไม่ผิดหรอกครับท่านเองก็ไม่ผิดแต่สิ่งที่นิทานเรื่องนี้ต้องการบอกก็คืออยากจะให้ท่านผู้ปกครองเข้าใจในสิ่งที่ลูกๆคิดและอยากให้ลูกเข้าใจในสิ่งที่พ่อและแม่คิด. จบ.
พ่อแม่ของฝั่งหญิงไม่ให้รักกันแต่งเป็นนิทานจะเข้าใจง่ายกว่า
มีเรื่องหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย เช่น พ่อ และ แม่ ของเด็กหญิง จับได้ว่ายังพูดคุยกับอยู่และแอบคบกันอยู่ เด็กหญิงทำได้แค่นั่งร้องไห้ทุกวันทุกคืนไม่มีคืนไหนที่ไม่ร้อง แต่ เด็กหญิงคนนี้ไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นรวมถึง พ่อ และ แม่ ของเธอ เด็กชายคนนั้นก็ไม่รู้เช่นกัน แต่เด็กชายรู้เสมอว่าเด็กหญิงคนนี้ร้องไห้ทุกวันทุกคืน เด็กชายทำได้แค่อยู่ห้างๆค่อยให้กำลังใจ จิตใจของเด็กชายไม่เคยคิดจะ"บอกเลิก"เด็กหญิงเลยสักนิดจนถึงขนาดว่ายอมที่จะเปลี่ยนศาสนาเผื่อผู้หญิงคยนี้ เด็กชายต้องรอเวลาที่ พ่อ และ แม่ ของเด็กผู้หญิงยอมให้เธอกับเด็กชายคุยกันได้เด็กชายไม่เคยลดความพยายามที่จะทำให้ได้อยู่กับเด็กหญิงคนนี้ตอนนี้เด็กชายได้แอบพูดคุยและคบกับเด็กหญิงมานานมาจนมาถึงวันหนึ่งวันที่ พ่อ และ แม่ จับได้อีกครั้งว่า 2 คนนี้แอบคุยกัน อีปครั้ง ครั้งนี้ทำให้เด็กหญิงลบทุกอย่างที่ติดต่อกับเด็กชายเผื่อป้องกันเด็กชายไม่ให้ทักไปหาหรือโทรไปหาแต่เด็กชายรู้ได้ทันทีเมื่อเธอส่งข้อความมาว่า"พ่อของเธอรู้แล้ว เธอจะ ขอหยุดทุกอย่างเผื่อไม่ให้ใครต้องเจ็บตัว"เด็กชายคนนั้ยตัดสินใจที่จะรอเวลาที่เธอพร้อมที่จะคุยกับเธออีกครั้งเด็กชายคนนั้นเลยแต่งนิทานเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะว่าแค่คำว่า"รัก"ถ้ามันไม่ใช่รักจริงเด็กชายคนนั้นจะไม่ยอมทำขนาดนี้เด็กชายยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเผื่อให้ พ่อ และ แม่ ของเด็กหญิงเห็นสิ่งดีๆของเด็กชายเผื่อให้ พ่อ และ แม่ ของเธอยอมรับและไว้ใจและนี้คือสิ่งที่ทำให้เด็กชายไม่ยอมถอดออกจากชีวิตของเด็กหญิง เพราะ รัก เพราะ ห่วง เพราะ คิดถึง เพราะ ต้องดูแลให้ดีที่สุด เพราะ มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เด็กหญิงคนนั้นยิ้มโดยไม่ต้องฝืน จบ.
ถ้าท้านได้อ่านนิทานเรื่องนี้ผมอยากจะบอกว่าสิ่งที่ท่านทำมันไม่ผิดหรอกคร้บแต่การเข้าใจวัยรุ่นและการเข้าถึงจิตใจในตัวลูกๆของท่านมันจะดีที่สุดถ้าท่านทำความเข้าใจกับวัยรุ่นและลูกของท่าน. ท่านห้ามไม่ให้ลูกๆของท่านมีแฟนยังไงลูกๆของท่านก็จะแอบมีแฟนโดยที่ท่านไม่รู้ลูกของท่านไม่ผิดหรอกครับท่านเองก็ไม่ผิดแต่สิ่งที่นิทานเรื่องนี้ต้องการบอกก็คืออยากจะให้ท่านผู้ปกครองเข้าใจในสิ่งที่ลูกๆคิดและอยากให้ลูกเข้าใจในสิ่งที่พ่อและแม่คิด. จบ.